บทที่ 87 ความหวังสุดท้าย
“โฮก--!”
แรดเกราะทองฝูงหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและส่งเสียงคำราม เขาของพวกมันสง่างามและเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง พวกมันวิ่งอย่างดุเดือดท่ามกลางสัตว์ปีศาจ ส่งฝุ่นทรายลอยฟุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า สั่นะเืไปทั่วบริเวณ ทั้งยังบดขยี้หัวนักรบที่กำลังสู้กันไปด้วย
“ชึบ!”
คนไม่กี่คนเ่าั้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะกรีดร้อง พวกเขากลายเป็เนื้อแหลกละเอียด หมอกเืฟุ้งกระจาย หลังจากนั้น สัตว์ปีศาจจำนวนมากต่างกลุ้มรุมเข้ามาอย่างหิวกระหายในทันที กัดกินเืเนื้อบนพื้น บดเคี้ยวอาหารเสียงดังจนน่ากลัว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
ทันใดนั้น นักรบที่ประมาทอีกหลายคนก็ถูกทับตาย เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง พวกเขาทำได้เพียงกรีดร้อง “อ๊าก” สุดปอดก่อนจะสิ้นลม จากนั้นก็ถูกสัตว์ปีศาจฉีกเป็ชิ้นๆ
“เยอะ... เยอะมาก... สัตว์ปีศาจเยอะมากเลย!!”
“์! สัตว์ปีศาจระดับเก้าหมาป่าปีศาจไฟทมิฬ สัตว์ปีศาจระดับต่ำคชสารัดิน? ทำไมพวกมันถึง...มาอยู่ที่นี่ได้!”
ทุกคนตกตะลึงและใกลัวฝูงสัตว์ปีศาจที่มากมาย ความตั้งใจที่จะต่อสู้หายไปในพริบตา การต่อสู้เมื่อครู่ทำให้พวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปแล้ว ตอนนี้หากต้องมาเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ปีศาจจำนวนมากเช่นนี้อีก ก็คงไม่ต่างอะไรจากลูกแกะรอเชือด
นี่คือกระแสสัตว์ปีศาจ กระแสสัตว์ปีศาจไม่ผิดแน่! เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมันเพิ่งจบลงไปและตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง!
“ฮือ...ไม่...ไม่!”
ในระหว่างการโจมตีของสัตว์ปีศาจ คนที่ไม่สามารถหลบหนีได้ก็ถูกบดขยี้ใต้เท้าของคชสารัดิน ด้วยเสียงดังกร๊อบ ร่างของเขาก็กลายเป็เนื้อบด มีเืกระเซ็นไปทั่วพื้นดิน ส่งกลิ่นคาวคลุ้งให้สถานที่ยิ่งเหมือนนรกเข้าไปอีก
นักรบที่มองเห็นมันอย่างใกล้ชิดอดก้มหน้าลงไม่ได้ นี่มันน่าเศร้าเกินไป การฆ่าคนเมื่อครู่นี้เทียบไม่ติดเลย!
ทว่าเหล่านักรบต่างพากันอาเจียนอยู่ ในขณะที่ไม่ทันระวัง ค้างคาวผีหกปีกจำนวนนับไม่ถ้วนก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้า เงาสีดำกระพือปีก เผยให้เห็นเขี้ยวอันใหญ่โต พวกมันอ้าปากดูดเืผ่านเข้าไปในลำคอ ก่อนจะบินจากไป
“อ๊ะ! อย่ามานะ! อ๊าก!!”
ชายคนนั้นค่อยๆ กลายเป็ซากศพพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ก่อนที่เนื้อหนังจะค่อยๆ เหือดแห้ง เหลือเพียงโครงกระดูก โดนสูบเนื้อและเืทั้งหมดออกไป
“จิ๊ดจิ๊ด! จิ๊ดจิ๊ด!-”
ฝูงค้างคาวผีหกปีกกรีดร้องและบดขยี้เขี้ยวของมันอย่างไม่พอใจ จากนั้นพวกมันก็กางปีกให้กว้างขึ้นและปล้นเืมนุษย์ต่อ!
“หืม...นี่...นี่...หนี หนี!”
“ถ้า...ไม่หนี เราตายแบบไม่สมบูรณ์แน่! อ๊าก!!”
ดวงตาของทุกคนเบิกโพลง รูม่านตาหดลง ใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อเย็นๆ ก่อนจะหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันที บางคนใมากจนทิ้งอาวุธแล้วะโลงไปในแม่น้ำสายโลหิตที่กว้างประมาณสามสิบหมี่เพื่อหลบหนีข้ามฝั่ง
พวกเขาเร็วมาก สามารถข้ามแม่น้ำสายโลหิตที่ไหลเอื่อยๆ มาอีกฝั่งได้ในพริบตา
ทว่าตามร่างกายของใครหลายคนกลับมีกลิ่นคาวเื ทันทีที่ขึ้นฝั่ง พวกเขาก็ถูกเสือครามทองฉีกทึ้ง กลายเป็ร่างไร้ิญญาภายใต้กรงเล็บของพวกมัน ถูกฉีกเป็ส่วนๆ และตายอย่างน่าสังเวช
“มันจบแล้ว มันจบแล้ว...”
อีกด้านหนึ่งใกล้ค่าย มีคนหวาดกลัวจนขาสั่น ทรุดตัวล้มลงกับพื้นจนเสียงดังสนั่น หว่างขาเปียกชื้นไปด้วยปัสสาวะ
แต่การไม่ต่อต้านคือการทำลายตน ครู่ต่อมา หมาป่าปีศาจกลุ่มใหญ่ก็พุ่งเข้ามาหาชายคนนั้นและกลืนกินเขาทันที
“โฮก โฮก โฮก!”
“จิ๊ด! จิ๊ด!”
ฝูงสัตว์ปีศาจพุ่งเข้าโจมตีทีละคน ทำใหู้เาและแม่น้ำนองไปด้วยเืมนุษย์ ทั่วทั้งลานเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เสียงคำรามสั่นสะท้านก้องฟ้าและยุ่งเหยิงอย่างยิ่ง มีเศษเนื้อและซากศพที่ไม่สมบูรณ์กระจัดกระจายอยู่ทุกหนแห่ง กลิ่นอายสังหารแทรกซึมอยู่ในทุกอณูอากาศ
ตอนนี้ ในค่ายที่อยู่ติดกับแม่น้ำโลหิต นักรบจากทั้งกลุ่มัเหล็กและกลุ่มหมาป่าล้วนถูกสัตว์ปีศาจสังหารไปทีละคน เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว
ในสายตาของสัตว์ปีศาจเหล่านี้ ทุกคนต่างก็เหมือนกัน พวกเขาเป็เพียงอาหารอันโอชะและเป้าหมายในการไล่ล่า!
“นี่คือ... นี่คือกระแสสัตว์ปีศาจหรือ?” ดวงตาของฉู่อวิ๋นเบิกกว้าง สะท้อนแสงวูบวาบ หัวใจเต้นแรง
ที่แท้กระแสสัตว์ปีศาจนั้นนองเืและน่ากลัวเช่นนี้นี่เอง ชีวิตมนุษย์ราคาถูกพอๆ กับสุนัข สามารถถูกตัดขาดฉีกทึ้งเป็ชิ้นๆ ได้ในทันที เช่นเดียวกับมดไร้ค่า ไม่มีแม้แต่โอกาสจะต้านทาน
ทันใดนั้น จิตใจของฉู่อวิ๋นก็สั่นไหว เขาจำได้ว่าตอนนั้นคนของเขาเองก็ต้องต่อสู้กับกระแสสัตว์ปีศาจ
ตอนนี้ โดนสัตว์ปีศาจโจมตียังน่าอนาถใจเช่นนี้ เพียงคิดก็รับรู้ได้ทันทีว่าการต่อสู้ของตระกูลเขากับราชสีห์เขี้ยวโลหิตนั้นจะน่าเศร้าเพียงใด!
สัตว์พวกนั้นล้วนเป็สัตว์ปีศาจ ทั้งยังเป็สัตว์ปีศาจที่รวบรวมพลังิญญาและก่อตัวเป็สัตว์อสูร!
“นี่! มีสติหน่อย!” มู่หรงซินที่อยู่ข้างๆ สะกิดไหล่ของฉู่อวิ๋นแล้วพูด “มี... แรดฝูงหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามา!”
“โฮก โฮก!”
ทันทีที่มู่หรงซินพูดจบ ก็มีเสียงคำรามของสัตว์ต่างๆ ดังอยู่ข้างหน้านาง เสียงนั้นทุ้มลึกและทรงพลังจนทำให้แก้วหูของนางเจ็บแปลบ! แรดเขาทองระดับเก้าหลายตัวพุ่งมาหาเขาด้วยแรงกดดันอันยิ่งใหญ่!
“ควั่บ!”
ฉู่อวิ๋นได้สติทันที เหวี่ยงกระบี่ฟันในแนวนอน แสงเย็นๆ พุ่งออกมา ลากคลื่นอากาศกว้างสิบหมี่ หวดกระบี่ไปข้างหน้า ก่อนจะกระแทกกับเขาที่แข็งมากของแรดจนหยุดยั้งฝีเท้าของมันได้
“เร็วเข้า! ไปปลุกพ่านพ่านแล้วพาเสี่ยวหวงหนีไป เราจะไปสมทบกับพวกเฟิงเยี่ยน! พวกเราขวางไว้ได้เพียงชั่วคราว ถ้าไม่หนีก็ต้องตาย!”
ด้วยเสียงะโอันดุดัน ฉู่อวิ๋นยังคงยืนนิ่ง แสงกระบี่ของเขาเดือดพล่าน พยายามป้องกันไม่ให้ฝูงสัตว์ปีศาจที่น่ากลัวเข้ามาใกล้
นี่มันเสี่ยงเกินไป ถ้าพลังปราณไม่ได้รับการฟื้นฟูเร็วพอ ฉู่อวิ๋นคงถูกเหยียบจนตายไปแล้ว
แต่การป้องกันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว เพราะมีสัตว์ปีศาจมากเกินไป และเป็ไปไม่ได้ที่จะฆ่าพวกมันทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสัตว์ปีศาจที่ค่อนข้างอ่อนแอในฝูงสัตว์ปีศาจ และพวกมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้
“ได้!” มู่หรงซินไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ และจากไปทันที นางเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของฉู่อวิ๋น เขาสามารถยึดสถานที่แห่งนี้ไว้ได้แน่นอน
“โฮก!”
ในเวลานี้ แรดหลายตัวพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง พลังของพวกมันล้นหลาม เขาสีทองของพวกมันที่ทำลายไม่ได้ยังคงส่องแสงอยู่
“ตายซะ!” ดวงตาของฉู่อวิ๋นสะท้อนแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาเช็ดเืบนใบหน้าด้วยมือข้างเดียวและต่อสู้อย่างหนักอีกครั้ง ด้วยเสียงกระทบ กระบี่ชื่อยวนก็บินข้ามอากาศ ร่างของเขาเปล่งประกายพร้อมกับกระบี่ดาราเพลิงที่เรืองแสง เริ่มสังหารแรดในทันที
เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว สัตว์ปีศาจนั้นจัดการได้ง่ายกว่า พวกมันทำได้เพียงวิ่งอาละวาดและกลายเป็ศพของสัตว์ปีศาจภายใต้คมกระบี่ชื่อยวน
“ฆ่าให้หมด!”
“รอให้หัวหน้ามา พวกเราก็รอดแล้ว!”
ในอีกด้านหนึ่ง เสียงดังกึกก้องของการต่อสู้สั่นะเืไปถึงท้องฟ้า ทุกคนต่อสู้กันอย่างโกลาหล หยาดเืสาดกระเซ็น สมาชิกของกลุ่มนักรบรับจ้างทั้งสองหันหลังชนกันและช่วยกันต้านทานฝูงสัตว์ปีศาจที่พุ่งเข้ามาแทน
เกือบทุกคนฝากความหวังทั้งหมดไว้กับซ่งอี้และหลางซื่อ เพราะมีเพียงผู้ที่ไปถึงระดับห้าของขั้นมหาสมุทรเท่านั้นที่สามารถขับไล่กระแสสัตว์ปีศาจที่น่าพรั่นพรึงเช่นนี้ได้
ทุกคนคิดเช่นนั้นและตัดสินใจว่าฟางเส้นสุดท้ายคือซ่งอี้และหลางซื่อ ตราบใดที่พวกเขารอให้ทั้งสองกลับมาได้ พวกเขาก็จะรอด!
“แซ่ก แซ่ก--”
ทันใดนั้น เถาวัลย์นับสิบเส้นที่เปล่งประกายด้วยแสงเย็นเยียบก็ลอยไปทั่วท้องฟ้าราวกับัมีเขา พุ่งเข้าโจมตีอย่างดุเดือด พวกมันไม่เพียงแต่เก็บเกี่ยวหัวของนักรบจำนวนนับไม่ถ้วนเท่านั้น แต่ยังสังหารฝูงสัตว์ปีศาจที่บ้าคลั่งกระหายเืไปไม่น้อยด้วย
นั่นคือเถาวัลย์ที่มีใบค่อนข้างสั้น ลำต้นสีดำ ใบและกิ่งที่ตายแล้วจะขึ้นไปอยู่้า มีสีแดงเข้มและกลิ่นคาว บนยอดไม้มีลวดลายคล้ายใบหน้ามนุษย์ที่ดูน่าขนลุกและน่าสะพรึงกลัว
“ชึบ--”
เถาวัลย์หลายเส้นพุ่งออกไปและพันนักรบขั้นมหาสมุทรแน่น ทำให้เขากรีดร้องและดิ้นรนไม่หยุด จากนั้น ใบมีดที่เติบโตบนเถาวัลย์ก็ฉายแสงวาววับ และเข้าพันกันด้วยความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง!
ในชั่วพริบตา คนที่มีชีวิตก็กลายเป็ศพเล็กๆ และล้มลง โดยมีเืกระเซ็นไปทั่วพื้น
“เถา...เถาวัลย์ใบมีด?!”
“บ้าไปแล้ว! สัตว์ปีศาจชนิดนี้อย่างน้อยก็ระดับห้าของขั้นมหาสมุทร! มันจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?!”
“หัว...หัวหน้าเล่า!? พี่ใหญ่เริ่นอวี่สิงอยู่ไหน? แล้ว...ซ่งอี้ของกลุ่มัเหล็กอยู่ที่ไหน?!”
ในขณะนี้ทุกคนหวาดกลัวมาก ดวงตาของพวกเขาสั่นไหว กลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับ เหงื่อแตกพลั่กไปทั้งตัว
เถาวัลย์ใบมีดเทียบเท่ากับนักรบระดับห้าขั้นมหาสมุทร ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ สัตว์ปีศาจตัวนี้สามารถตัดคนได้เป็พันๆ ชิ้นในทีเดียว น่าเศร้ายิ่งกว่าการโจมตีของสัตว์ปีศาจที่โหดร้ายเสียอีก
“โฮก โฮก! พี่ใหญ่ซ่งอยู่ไหน?!” กล้ามเนื้อของสือเหล่ยพองปูด เขาที่สูงเกือบสามหมี่นั้นไม่ต่างจากสัตว์ปีศาจตัวเล็กๆ เขาะโอย่างบ้าคลั่ง รู้สึกโกรธและเป็ห่วงความปลอดภัยของซ่งอี้
ทันใดนั้น เขาก็รีบวิ่งออกไปอาละวาดท่ามกลางสัตว์ปีศาจ พยายามบุกเข้าไปในป่าทึบเพื่อตามหาซ่งอี้
ิญญายุทธ์ของสือเหล่ยคือเกราะคู่วัวสีเงิน ตราบใดที่ใช้งาน การป้องกันทางกายภาพของเขาจะเพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับความแข็งแกร่งอันทรงพลังของเขา เขาก็สามารถเปิดเส้นทางฆ่าที่นองเืได้ในทันที
แต่ข้างหน้านั้นมีฝูงสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังอยู่ หากรีบร้อนบุกเข้าไป ก็เท่ากับรีบไปตาย
“เ้าก้อนหิน! อย่าผลีผลาม!” เมื่อเห็นสือเหล่ยรีบวิ่งออกไป เฟิงเยี่ยนก็ะโหยุดเขาไว้ เขากำลังต่อสู้กับสัตว์ปีศาจอย่างค้างคาวผีหกปีกและปกป้องสมาชิกของกลุ่มัเหล็ก แต่เห็นได้ชัดว่าชายร่างใหญ่คนนั้นหยุดไม่อยู่แล้ว...
“ฮึ! เ้าคือสัตว์ปีศาจที่ฆ่าพี่ชายของข้าหรือ?”
สือเหล่ยร้องไห้คร่ำครวญ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ เขาวิ่งไปที่เถาวัลย์ใบมีด พัดพาลมกระโชกแรงและบดขยี้สัตว์ปีศาจไปพร้อมๆ กัน ทำให้เืกระเซ็นไปทุกที่
เขาโกรธมากจนคิดจะต่อสู้กับสัตว์ปีศาจด้วยมือเปล่า!
“ไม่! อย่าไป!!” เมิ่งซานะโเสียงดังทั้งน้ำตา คืนนี้เขาสูญเสียสหายไปมากมายแล้ว ไม่อยากสูญเสียสือเหล่ยไปอีก
ก่อนหน้านี้ ทุกคนต่อสู้กับกลุ่มหมาป่าเพื่อความยุติธรรม ตายอย่างมีค่า ตายอย่างมีเกียรติ แต่การตายด้วยปากของสัตว์ปีศาจนั้นไม่คุ้มค่าเลยสักนิด!
เดิมที ฝีมือที่โดดเด่นของฉู่อวิ๋นทำให้กลุ่มัเหล็กเป็ผู้ชนะอย่างแน่นอน แต่ใครเลยจะคิดว่ากระแสสัตว์ปีศาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ เป็เื่ที่คาดไม่ถึงจริงๆ!
ตอนนี้สถานการณ์คับขัน สัตว์ปีศาจก็บุกเข้ามาระลอกและระลอกเล่า แม้แต่คนที่ทรงพลังอย่างซ่งอี้ก็ยังไม่อาจรู้ว่าเป็หรือตาย ทำให้ทุกคนค่อยๆ รู้สึกสิ้นหวัง
เพราะอย่างไรเสีย พลังปราณนั้นมีจำกัด และหากพลังปราณหมดไป นักรบก็ไม่อาจต่อสู้ได้อีก
“กลับมา!”
เมิ่งซานมองไปที่แผ่นหลังของสือเหล่ยและะโจนสุดเสียง ดวงตาของเขาช้ำเืและนองไปด้วยน้ำตา
เขาอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงจนทำได้เพียงยกแขนที่เหนื่อยล้าขึ้นมายิงธนูสายฟ้าออกไปสองสามดอก โจมตีเถาวัลย์ใบมีดจากระยะไกล โดยหวังว่าจะทำให้พวกมันล่าถอย
ลูกศรพุ่งข้ามท้องฟ้าด้วยเสียงฟิ้ว แต่ก่อนที่จะพุ่งโดนตัวต้นไม้ มันก็ถูกเถาวัลย์สับเป็ชิ้นๆ อย่างง่ายดาย
“โฮะ โฮะ!”
ใบหน้ามนุษย์ที่น่าเกลียดบนลำต้นของเถาวัลย์ใบมีดส่งเสียงแปลกๆ ราวกับกำลังเยาะเย้ย มนุษย์เหล่านี้ประเมินความสามารถของตนสูงเกินไปจริงๆ
“ข้าจะบดขยี้เ้า!”
สือเหล่ยคำรามด้วยความโกรธ และกำลังจะวิ่งไปที่เถาวัลย์ใบมีด มันส่งเสียงกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำอีกราวกับว่าตื่นเต้นมาก ใบไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งประกายด้วยแสงเย็นเฉียบ ปลดปล่อยพลังคล้ายเืไหล พวกมันหิวโหยสุดจะทน มนุษย์เหล่านี้มีจำนวนมาก เืเนื้อของมนุษย์เป็ยาชูกำลังชั้นยอดให้กับต้นของเถาวัลย์
“ควั่บ!”
เถาวัลย์ใบมีดหลายเส้นพุ่งไปในอากาศ ราวกับโซ่เหล็กที่จ้วงแทงอย่างรวดเร็ว ปรากฏเืที่พุ่งกระจายออกมาจนเลอะเทอะ พยายามจะฟันสือเหล่ยเป็พันชิ้น!
“อย่าใจร้อน สือเหล่ย!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงะโอันคมชัดดังขึ้น มองเห็นแสงกระบี่หมุนวนอยู่ในความว่างเปล่า สังหารสัตว์ปีศาจ ตัดขาดทะเลเื ฉู่อวิ๋นใช้ก้าวเงินบินรีบวิ่งไปราวกับภูตผี
เขาคว้าตัวสือเหล่ยไว้ด้วยมือเดียวแล้วกระทืบพื้นอย่างแรง ทั้งสองคนกลายเป็ก้อนภาพติดตาที่กลับไปหากลุ่มคน ทำให้เถาวัลย์ใบมีดที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าหดกิ่งก้านกลับ มันโกรธมากจนส่งเสียงหึ่งๆ ทำให้ใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวไสว