สิ้นคำพูด ลั่วเสี่ยวซีก็เตรียมหันหลังกลับ
“เสี่ยวซี!” ฉินเว่ยรั้งมือเธอไว้ “เธอกับซูอี้เฉิงไม่เหมาะสมกันสักนิดไม่รู้หรือไง? นิสัยของเธอกับเขาต่างกันเกินไป อย่าว่าแต่งงานเลย แค่เป็แฟนก็คงคบกันได้ไม่นาน เธอนึกว่าตอนนี้พวกเธอเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง อนาคตก็จะเป็อย่างที่คิดงั้นเหรอ เธอคิดผิดแล้ว!”
ลั่วเสี่ยวซีรู้ตัวดีว่าเธอผิดเอง ผิดหมดทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันสายเกินจะกลับไปแก้ไข
เธอสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของฉินเว่ยอย่างแรง
“ปล่อยฉัน! ต่อให้ฉันกับซูอี้เฉิงเป็ไปไม่ได้ ฉันก็ไม่มีทางแต่งงานกับนาย! ฉันยอมเป็โสดตลอดชีวิต ดีกว่าต้องมาเป็ภรรยาให้กับคนน่าสมเพชแบบนายเข้าใจไหม!”
“...” แววตาของฉินเว่ยดูหมองลง
“เสี่ยวซี...” ถ้าเธอไม่ยอมรับคำขอโทษจากเขา เขาก็คงทำอะไรไม่ได้
“นี่เ้าหน้าที่ตำรวจ! วางอาวุธซะ!”
ทันใดนั้นเสียงตำรวจก็ดังขึ้นจากหน้าห้อง ตำรวจสองนายบุกเข้ามาพลางจ่อกระบอกปืนไปทางลั่วเสี่ยวซี
“พวกเราได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนพกอาวุธบุกเข้ามาจะทำร้ายเ้าของห้อง คุณผู้หญิงใจเย็นก่อนนะครับ วางมีดลง ก่อนที่จะไปทำร้ายใครเข้า” ตำรวจทั้งสองนายเห็นว่าลั่วเสี่ยวซีอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ปกติ จึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอใจเย็นลงก่อน
ลั่วเสี่ยวซีมองปลายกระบอกปืนสีดำสนิทก่อนจะยิ้มออกมา ฉินเว่ยได้ยินเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ประชดประชันและโศกเศร้าของเธอ
“เสี่ยวซี วางมีดลงก่อนนะ เธอจะตีจะต่อยฉันยังไงก็ได้ แต่ขอให้วางมีดลงก่อน โอเคไหม?”
ลั่วเสี่ยวซีปล่อยมีดตกลงบนพื้น ตำรวจพุ่งเข้ามาจับกุมตัวเธอทันที ฉินเว่ยรีบอธิบายกับพวกเขา
“คุณตำรวจครับ เธอเป็เพื่อนของผม พวกเราแค่กำลังเคลียร์เื่ส่วนตัวบางอย่างเท่านั้น”
“เธอพกอาวุธบุกเข้ามาที่นี่ แถมยังจ่อมีดต่อหน้าคุณแบบนี้ ถือว่าผิดกฎหมายครับ” นายตำรวจอธิบาย “พวกเราจำเป็ต้องนำพวกคุณทั้งสองคนไปสอบสวนไปที่โรงพัก”
ูเี่อันกำลังนั่งดูละครอยู่ที่บ้าน เมื่อได้รับสายจากลั่วเสี่ยวซีถึงกับตั้งตัวไม่ทัน
“เจี่ยนอัน พ่อกับแม่จะมาเห็นฉันสภาพนี้ไม่ได้” เสียงของลั่วเสี่ยวซีเบากว่าปกติ “ตอนนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่ช่วยฉันได้”
ูเี่อันรีบลุกขึ้นพรวด “เสี่ยวซี ไม่ต้องกลัวไปนะ รออีกครึ่งชั่วโมงฉันจะรีบไปหา!”
หลังวางสาย ูเี่อันก็รีบวิ่งไปหาลู่เป๋าเหยียนทันที
ลู่เป๋าเหยียนอยู่ที่ห้องหนังสือ เธอวิ่งเข้าห้องไปทั้งๆ ที่ไม่ได้เคาะประตู
“ลู่เป๋าเหยียน!”
นอกจากคืนนั้นทีู่เี่อันนอนฝันร้ายตอนอยู่เมือง G ลู่เป๋าเหยียนไม่เคยเห็นูเี่อันทำท่าอับจนหนทางแบบนี้มาก่อน เขาจึงรีบถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เสี่ยวซีโดนตำรวจจับ” ูเี่อันทำอะไรไม่ถูก “เธอพกมีดไปหาฉินเว่ย เพื่อนบ้านของเขาโทรไปแจ้งตำรวจ ตอนนี้เสี่ยวซีกำลังจะโดนตำรวจจับขังคุก”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว “เธอใจเย็นๆ ก่อน ลั่วเสี่ยวซีไม่ได้ทำร้ายใคร เพราะฉะนั้นคดีคงไม่ได้หนักหนาอะไร”
“ฉันคงต้องไปที่สถานีตำรวจ” ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างหาความช่วยเหลือ “นายจะช่วย...”
“ฉันจะไปเป็เพื่อนเธอ” ไม่รอใหู้เี่อันพูดจบลู่เป๋าเหยียนก็ลุกขึ้นยืนและจูงมือเธอลงไปที่ชั้นล่าง
ถึงูเี่อันจะทำงานที่สถานีตำรวจ แต่นี่เป็ครั้งแรกที่คนใกล้ชิดของเธอถูกตำรวจจับกุมแบบนี้ แถมคนคนนั้นยังเป็ลั่วเสี่ยวซีอีก เธอใจเย็นได้ก็คงแปลก แต่เพราะลู่เป๋าเหยียนยอมไปเป็เพื่อนเธอ สภาพจิตใจเธอจึงค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ
ลู่เป๋าเหยียนขับรถพาูเี่อันไปด้วยตัวเอง รถยนต์สีดำมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงสี่สิบนาทีทั้งสองคนก็ถึงจุดหมาย
เมื่อได้พบหน้าลั่วเสี่ยวซี หัวใจของูเี่อันก็ถึงกับเจ็บแปลบขึ้นมา
เธอไม่เคยเห็นเพื่อนเป็แบบนี้มาก่อน ดวงตาคู่งามของลั่วเสี่ยวซีบวมแดงหลังผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ปกติลั่วเสี่ยวซีรักผมยาวสลวยของตัวเองยิ่งกว่าอะไร แต่เวลานี้ผมของเธอกลับยุ่งเหยิงไม่เป็ทรง
“เสี่ยวซี” ูเี่อันเข้าไปจับมือเพื่อนเอาไว้ “เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าฉินเว่ยทำอะไรเธอ?”
คำถามนี้เหมือนไปสะกิดแผลของลั่วเสี่ยวซี หยดน้ำตาของเธอค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
“เสี่ยวซี” ูเี่อันกอดลั่วเสี่ยวซีไว้แน่น “เธอบอกฉันมา ฉันจะช่วยเธอเอง ถ้าฉินเว่ยรังแกเธอ ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่!” เื่นี้คงหนักหนาสาหัสมาก ไม่อย่างนั้นลั่วเสี่ยวซีคงไม่กลายเป็แบบนี้
“มันแก้ไขไม่ได้แล้ว” ลั่วเสี่ยวซีกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไป “เจี่ยนอัน ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ...”
ูเี่อันรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจของเพื่อน ดูท่าคงจะไม่ได้เกิดเื่อย่างที่เธอคิดไว้
“เสี่ยวซี ตกลงเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่” เธอถามอีกครั้ง “หรือว่า...เกี่ยวกับพี่ชายฉัน?”
นอกจากซูอี้เฉิง ูเี่อันนึกไม่ออกว่าจะมีใครทำให้ลั่วเสี่ยวซีกลายเป็แบบนี้ได้อีก
ลั่วเสี่ยวซีค่อยๆ อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา หลังได้ยินเื่ราวทั้งหมดูเี่อันก็ถึงกับช็อก นานทีเดียวกว่าเธอจะตั้งสติได้
มิน่าลั่วเสี่ยวซีถึงได้เสียใจขนาดนี้ เธอทำผิดร้ายแรงต่อซูอี้เฉิง แถมฉินเว่ยยังมาทรยศตัวเองแบบนี้ ที่ผ่านมาลั่วเสี่ยวซีไว้ใจคนผิดมาโดยตลอด...
ลั่วเสี่ยวซีคงไม่เคยนึกฝันว่าฉินเว่ยจะทำแบบนี้ได้ลง ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันจนเธอรับมันไม่ไหว
“เจี่ยนอัน” ลั่วเสี่ยวซีร้องไห้จนเสียงแหบพร่า “ฉันทำร้ายพี่ชายเธอ ฉันทำร้ายเครือเฉิงอัน เธอจะโกรธฉัน ด่าฉัน จะทำอะไรฉันก็ทำเลย ฉันขอร้อง” เธอยกมือแนบหน้าอกตัวเองก่อนเอ่ย “ตอนนี้ฉันเ็ปเหลือเกิน...”
ูเี่อันรู้ดีว่าเพื่อกำลังทุกข์ทรมานใจมากแค่ไหน จึงเข้าไปกอดเธอเอาไว้แน่น
ถ้าเป็คนอื่น เธออาจจะโกรธ แต่นี่คือลั่วเสี่ยวซี แค่เห็นเพื่อนเป็แบบนี้ เธอยิ่งรู้สึกสงสารและเ็ปแทน แล้วจะไปกล่าวโทษเธอได้อย่างไร
“ซูอี้เฉิงบอกว่าเขาไม่โกรธฉัน” น้ำตาของลั่วเสี่ยวซีซึมลงไปบนเสื้อของูเี่อัน “แต่เขาคงไม่สนใจฉันอีกแล้ว เจี่ยนอัน เขาไม่เอาฉันแล้ว พวกเรายังไม่ทันได้คบกันเลย เขาไม่แคร์ฉันอีกแล้ว...” เธอร้องไห้ราวกับเด็กน้อยที่ต้องแยกจากพ่อแม่เป็ครั้งแรก
ูเี่อันเข้าใจดีว่าในตอนนี้ลั่วเสี่ยวซีเสียใจมากแค่ไหน เธอเองก็เริ่มน้ำตาคลอ แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรจึงได้แต่ตบหลังเพื่อนเบาๆ อย่างปลอบใจ
หลังร้องไห้จนสุด ลั่วเสี่ยวซีก็ซบศีรษะลงบนไหล่ของูเี่อันอยู่อย่างนั้นอย่างหมดแรง
ทางด้านลู่เป๋าเหยียนหลังมาถึงที่นี่ก็ตรงเข้าห้องผู้กำกับในทันที เมื่อออกมาเขาก็เห็นูเี่อันกับลั่วเสี่ยวซีกำลังกอดกัน จึงเดินเข้าไปหา
“เจี่ยนอัน พวกเราพาเสี่ยวซีกลับได้แล้วล่ะ”
ถ้าว่ากันตามจริงวันนี้ลั่วเสี่ยวซีจะต้องถูกคุมขัง ูเี่อันไม่รู้เหมือนกันว่าลู่เป๋าเหยียนใช้วิธีไหนถึงช่วยไว้ได้ เธอค่อยๆ ประคองลั่วเสี่ยวซีให้ยืนขึ้น
“เสี่ยวซี เดี๋ยวฉันไปส่งนะ”
ตอนนั้นเองฉินเว่ยก็เดินตรงมา เขากำลังจะเอ่ยปากพูดกับลั่วเสี่ยวซี แต่โดนูเี่อันขัดไว้
“เสี่ยวซีไม่อยากฟังอะไรจากนายทั้งนั้น”
“เจี่ยนอัน คืนนี้เธอจะช่วยดูแลเสี่ยวซีแทนฉันได้หรือเปล่า” ฉินเว่ยถาม
“ดูแลแทนนาย?” ูเี่อันยิ้มเย็น “เหอะ เสี่ยวซีเป็เพื่อนฉัน ฉันต้องดูแลอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ทำแทนนาย ตอนนี้เธอกับนายไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป”
ฉินเว่ยยิ้มเศร้าก่อนจะเดินออกจากสถานีตำรวจไป
“เจี่ยนอัน” ลั่วเสี่ยวซีเรียกเสียงแหบ “ฉันอยากกลับบ้าน”
ูเี่อันยกมือเช็ดน้ำตาให้เพื่อน “อยากกลับบ้าน หรือกลับอพาร์ตเมนต์?”
“อพาร์ตเมนต์ ฉันไม่อยากให้พ่อแม่มาเห็นสภาพนี้” ลั่วเสี่ยวซีฝืนยิ้ม “พวกเขาคงใ”
ลู่เป๋าเหยียนจอดรถไว้หน้าประตูทางเข้า หลังขึ้นมาบนรถ ูเี่อันก็บอกที่อยู่ของลั่วเสี่ยวซีกับลู่เป๋าเหยียน รถจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามท้องถนน
ูเี่อันให้ลั่วเสี่ยวซีซบลงที่ไหล่พลางกอดเธอไว้
“เสี่ยวซี อย่าร้องไห้อีกเลย พี่ฉันคงจัดการเื่ที่เกิดขึ้นได้”
ความจริงเธอพอจะรู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วนั้นยากที่จะนำกลับคืนมา ซูอี้เฉิงคงทำได้แต่ปล่อยให้เื่นี้ผ่านไป
“อืม” ลั่วเสี่ยวซีตอบรับก่อนจะหลับตาลง ูเี่อันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับจริงๆ คงแค่้าพักผ่อนจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อถึงอพาร์ตเมนต์ของลั่วเสี่ยวซี ูเี่อันก็พาเธอเข้าไปนอนที่ห้องก่อนจะเดินออกมา ลู่เป๋าเหยียนกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก
เธอรินน้ำให้กับลู่เป๋าเหยียนก่อนเอ่ย “ฉันอยากจะอยู่เป็เพื่อนเสี่ยวซีที่นี่ ได้หรือเปล่า?”
“อืม” ลู่เป๋าเหยียนตอบรับ “มีอะไรก็โทรหาฉัน”
“โอเค” ูเี่อันพยักหน้า “นายเองก็รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนเดินไปจนเกือบถึงหน้าประตู แต่จู่ๆ ูเี่อันก็เรียกชื่อเขา เมื่อหันกลับไป เธอก็โถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเขา
“เจี่ยนอัน” ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอเบาๆ “ไม่เป็ไรแล้ว นอนพักผ่อนเถอะนะ”
ูเี่อันกอดเขาไว้แน่นอยู่หลายวินาทีก่อนจะผละออกมา
“อืม”
เธอส่งลู่เป๋าเหยียนที่หน้าประตู เขาเดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว แต่เธอยังคงเปิดประตูทิ้งไว้อย่างนั้น ลู่เป๋าเหยียนกดปุ่มเปิดลิฟต์พลางมองหน้าเธอ
“ปิดประตูได้แล้ว เธอเป็แบบนี้แล้วฉันจะกลับได้ยังไง”
ูเี่อันเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูลง แต่วินาทีต่อมาเธอก็ค่อยๆ แอบเปิดประตูอีกครั้ง
อ้ะ ข้างนอกยังมีคนอยู่!
ลู่เป๋าเหยียนดึงตัวคนที่แอบอยู่หลังประตูให้ออกมา ก่อนจะโน้มตัวลงจูบริมฝีปากคู่นั้น
“อื้อ...” ถึงูเี่อันจะไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน
ยังดีที่ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ทำอะไรเลยเถิด ไม่นานเขาก็ปล่อยเธอให้เป็อิสระ
“เข้าไปได้แล้ว อย่าเปิดประตูมาอีกล่ะ” ถ้าเปิดมาอีกรอบ เขาคงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ
ูเี่อันก้มหน้าอย่างเขินอาย “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะเปิดประตู”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปาก “ฉันรู้หมดแหละว่าเธอคิดอะไรอยู่”
ูเี่อันเงยหน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจ ดวงตาของเธอทอประกาย
‘งั้นที่ฉันชอบนาย นายรู้หรือเปล่า?’
สุดท้ายเธอก็ไม่กล้าพูดมันออกไป จึงได้แต่หน้าแดงและปิดประตูห้องให้มิดชิด ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนของลั่วเสี่ยวซี
คนที่ยืนอยู่ด้านนอกอย่างลู่เป๋าเหยียนได้ยินเสียงฝีเท้าของูเี่อันก็มั่นใจว่าเธอคงไม่เปิดประตูมาอีก ว่าแล้วเขาจึงลงไปที่ชั้นล่าง แต่เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านที่อยู่ชานเมือง คืนนี้ลู่เป๋าเหยียนตัดสินใจไปพักที่อพาร์ตเมนต์ในระแวกนั้นแทน
ด้านในห้อง ูเี่อันมองลั่วเสี่ยวซีที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ความอ่อนหวานในหัวใจที่ได้รับเมื่อครู่มลายไปกับตา เธอเดินเข้าไปนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนเอ่ย
“เสี่ยวซี เดี๋ยวฉันไปเตรียมน้ำอุ่นให้ เธออาบน้ำก่อนแล้วค่อยนอนดีไหม”
ผ่านไปสักพัก ลั่วเสี่ยวซีจึงพยักหน้า
เมื่อจัดการเตรียมน้ำสำหรับแช่ตัวแล้วเรียบร้อย เธอก็พาลั่วเสี่ยวซีเดินไปที่ห้องน้ำ และห้ามไม่ให้ล็อกประตูเด็ดขาด ก่อนจะนั่งรออยู่ที่ด้านนอก
ลั่วเสี่ยวซีไม่มีแรงจะต่อต้าน เธอถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะลงไปแช่น้ำในอ่างตามที่เพื่อนสั่งราวกับหุ่นยนต์ที่ไร้จิติญญา
ูเี่อันรู้สึกสงสารเพื่อนจับใจ เธอเดินไปที่ระเบียงตรงห้องรับแขกเพื่อโทรศัพท์หาซูอี้เฉิง แต่โทรไปสองรอบก็ไม่มีคนรับสาย
นั่นสินะ เกิดเื่ใหญ่ขนาดนี้ตอนนี้พี่คงยุ่งหัวหมุน จะว่างมารับโทรศัพท์เธอได้อย่างไรล่ะ
สิบกว่านาทีต่อมา ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ลั่วเสี่ยวซีสวมชุดนอนอย่างไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ูเี่อันช่วยจัดเสื้อผ้าให้เพื่อนก่อนจะบอกให้เธอนั่งลงที่โซฟา
“เธอรอฉันแป๊บเดียวนะ”
เธอเดินไปอุ่นนมร้อนๆ ให้ลั่วเสี่ยวซี “ดื่มเสร็จแล้วค่อยไปนอน”
ลั่วเสี่ยวซีรับแก้วนมมา “พี่ชายเธอรับสายเธอหรือเปล่า?” เธอเดาว่าูเี่อันคงโทรหาซูอี้เฉิงแล้วแน่ๆ
“...เปล่า” ูเี่อันส่ายหน้า “เขาอาจจะหลับแล้ว เสี่ยวซี เธอดื่มนมเสร็จแล้วไปนอนนะดีไหม”
ลั่วเสี่ยวซีรู้ดีว่าซูอี้เฉิงคงไม่มีทางหลับไปแล้วหรอก เกิดเื่ใหญ่ขนาดนี้เขาจะข่มตาลงได้อย่างไร? เขาจะมีเวลานอนหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
สุดท้ายเธอก็ดื่มนมจนหมดก่อนจะเอนตัวลงนอนบนเตียง พลางมองฝ้าเพดานนิ่งอยู่อย่างนั้น
ูเี่อันเห็นดังนั้นจึงเอนตัวลงนอนกอดเพื่อนเอาไว้
“เสี่ยวซี นอนพักเถอะ เดี๋ยวตื่นขึ้นมา พรุ่งนี้อะไรๆ ก็คงดีขึ้น”
งั้นเหรอ? พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นงั้นเหรอ?
ลั่วเสี่ยวซีพลิกตัวหันมามองูเี่อัน ก่อนจะหลับตาลง
ูเี่อันตบหลังลั่วเสี่ยวซีเบาๆ อย่างปลอบโยน
