เส้นสติในใจของเหนียนอีหลานขาดวิ่้นเสียแล้ว ยิ่งมีแรงกดดันบีบคั้นอันน่าเกรงขามเพิ่มเข้ามา ไหนเลยเหนียนอีหลานจะต้านทานไหว?
ทุกสิ่งอย่างโพล่งออกมาจากปาก แม้แต่ฮองเฮาอวี่เหวินยังแปลกใจ นางคาดไม่ถึงเลยว่าเื่ราวจะเปิดเผยออกมารวดเร็วเยี่ยงนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบสายตามองเหนียนยวี่ ในใจเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เกรงแค่เพียง เื่ที่เหนียนยวี่เตรียมการมามากมาย รวมถึงร่างไร้ิญญาที่นอนอยู่บนพื้น...
ฮองเฮาอวี่เหวินเบือนหน้า กวาดสายตามองร่างไร้ิญญาบนพื้นอย่างราบเรียบ "ฟางเหอหรือ์ช? ใช่นางหรือไม่?"
เหนียนอีหลานชะงักใ และพยักหน้าอย่างเร่งรีบ “"ใช่ เป็นาง... นางเป็คนปิดประตูเพคะ”
"นางใช่สาวใช้ข้างกายของเ้าหรือไม่?"
“"เพคะ นางเป็สาวใช้ข้างกายของหม่อมฉันเพคะ” เหนียนอีหลานมิกล้าปิดบังแม้แต่น้อย
ทว่าทันทีที่นางเอ่ยจบ สีหน้าของฮองเฮาอวี่เหวินพลันเปลี่ยนสี เอ่ยตวาดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “เหนียนอีหลาน เ้าคิดว่าเปิ่นกงหลอกง่ายมากเลยใช่หรือไม่?”
เหนียนอีหลานถูกขู่ขวัญจนตื่นตระหนกใ นางทำอะไรไม่ถูก “ไม่เพคะ ฮองเฮา หม่อมฉันมิบังอาจหลอกลวงฮองเฮาเป็แน่เพคะ หม่อมฉันมิบังอาจ...”
“มิบังอาจงั้นหรือ?” ฮองเฮาพ่นลมหายใจเ็า “เปิ่นกงดูแล้ว เ้าจะมิเพียงหาญกล้าบังอาจหลอกลวงเปิ่นกง ทว่ายังกล้าลอบทำร้ายเปิ่นกง นางคือสาวใช้ของเ้า อย่าบอกเปิ่นกงนะว่าที่นางปิดประตูไม่ใช่คำสั่งของเ้าที่เป็เ้านายนาง”
“ไม่ใช่...” ในใจเหนียนอีหลานสะอึกไปเล็กน้อย ‘ลอบทำร้ายฮองเฮา’ ห้าคำนี้ดังก้องอยู่ในหัว แทนที่ทุกความคิดของนาง
การลอบทำร้ายฮองเฮา เป็ความผิดร้ายแรงเพียงพอที่จะลงโทษปะานาง นางจะรับไหวได้อย่างไร?
นางมิได้้าลอบทำร้ายฮองเฮา นางเพียงแค่คิดอยากจะขังเหนียนเหนียนยวี่ไว้ในสวนร้อยสัตว์...
ใช่แล้ว นางแค่้าขังเหนียนยวี่ไว้ในสวนร้อยสัตว์!
“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันยังมิได้ลอบทำร้ายฮองเฮาเลยนะเพคะ หม่อมฉันแค่้าขังเหนียนยวี่ไว้ในสวนร้อยสัตว์ ใช่ เป็เหนียนยวี่เพคะ มิใช่ฮองเฮา...” ดวงตาเหนียนอีหลานลุกวาวเป็ประกาย คำพูดนี้ เหมือนนางบอกตัวเองและกำลังบอกฮองเฮาอวี่เหวิน และยังดูเหมือนว่านางกำลังบอกองค์หญิงจี้เยวี่ยราวกับว่าองค์หญิงลอยวนเวียนอยู่ข้างนาง
ทันทีที่เหนียนอีหลานเอ่ยออกมา สีหน้าของทุกคนในเหตุการณ์เริ่ม เปลี่ยนไปเล็กน้อย
สวนร้อยสัตว์งั้นหรือ?
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้ว ั้แ่เหนียนยวี่และฮองเฮาอวี่เหวินออกมาจากสวนร้อยสัตว์ เื่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสวนร้อยสัตว์ ฮองเฮาอวี่เหวินไม่เคยตรัสถึงเลย และนางเองก็ยังมิได้สอบถามอะไรจากเหนียนยวี่ มีหลายสิ่งหลายอย่างในวังหลวงที่นางไม่เต็มใจให้สืบรู้
ตอนนี้นางได้ยินสิ่งที่เหนียนอีหลานพูด นางจึงได้รู้ว่า เื่ที่เหนียนยวี่เข้าไปอยู่ในสวนร้อยสัตว์ในวันเทศกาลฉีเฉี่ยวตอนนั้น เป็เหนียนอีหลานเป็คนนี้ทำงั้นหรือ?
องค์หญิงใหญ่ชิงเหออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองคุณหนูใหญ่สกุลเหนียนผู้นี้ ก่อนหน้านี้นางเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่สกุลเหนียนผู้นี้ ทุกคนต่างเล่าลือกันว่านางเป็คนงดงามน่ารัก ใจดีมีเมตตา ที่แท้กลับกลายเป็ว่านางเป็สตรีใจโเี้เฉกเช่นแมงป่องที่มีพิษร้ายงั้นหรือ?
ไม่ใช่แค่นาง จ้าวอิ้งเสวี่ย จิ้นหวางเฟย แม้กระทั่งแต่ฮองเฮาอวี่เหวินต่างอดไม่ได้ที่จะดูถูกเหนียนอีหลานผู้นี้
สตรีเช่นนี้ ยังคิด้าจะจะแต่งงานกับมู่อ๋อง ฮองเฮาอวี่เหวินไหนเลยจะยอมให้มู่อ๋องแต่งงานกับสตรีหน้าตาดูใจดี ทว่าจิตใจมีพิษร้ายดั่งแมงป่องได้เยี่ยงนี้ไร?
จ้าวอิ้งเสวี่ยรู้ได้ทันทีว่า เส้นทางที่จะได้เป็มู่หวางเฟยของเหนียนอีหลานต้องจบลงตรงนี้แล้ว
และเื่สวนร้อยสัตว์...
จ้าวอิ้งเสวี่ยเป็คนฉลาด เพียงแค่ได้ยินคำพูดบางส่วนเมื่อครู่นี้ นางก็รู้เงื่อนงำอะไรบางอย่างแล้ว เดิมที เหนียนยวี่และฮองเฮาอวี่เหวินเข้าไปในสวนร้อยสัตว์ ในสวนร้อยสัตว์นั่นพวกนางพบเจออะไร? แล้วเหตุการณ์เพลิงไหม้ในวังหลวงในตอนบ่ายวันที่แปดเดือนเจ็ด เกี่ยวข้องอะไรกับสวนร้อยสัตว์กันแน่?
จ้าวอิ้งเสวี่ยขมวดคิ้ว นางไม่รู้คำตอบ ทว่ามีบางส่วนที่นางรู้ นั่นคือคุณหนูสกุลเหนียนกับฮองเฮาอวี่เหวิน
“ท่านพี่ เป็ท่าน...” เหนียนยวี่เอ่ยปากขึ้นทันที รู้สึกเย้ยหยันในใจ ทว่าใบหน้ากลับมีสีหน้าใ “เป็ไปได้อย่างไร? ท่านดีกับข้ามาตลอด จะเป็ไปได้อย่างไร? สวนร้อยสัตว์... ท่านไม่รู้หรือว่าเป็สถานที่ที่เซี่ยวหนิงไทเฮาสร้างไว้เลี้ยงสัตว์ป่ามาก่อน”
“"รู้ ข้ารู้แน่นอน” เหนียนอีหลานดวงตาลุกวาว เพราะนางรู้ จึงคิดอยากให้เหนียนยวี่เข้าไป แต่...
เหนียนอีหลานในยามนี้ ดวงตายิ่งพร่ามัวมากขึ้น นางจ้องเหนียนยวี่เขม็ง น้ำเสียงพลันแปรเปลี่ยนดุร้าย "ทำไมเ้าไม่ตายในนั้น เ้ายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!"
ขณะที่เหนียนอีหลานพูด นางลุกขึ้นพุ่งไปหาเหนียนยวี่ เรี่ยวแรงอันโเี้ร้ายกาจนั้น ประหนึ่งว่า้าจะฆ่าเหนียนยวี่ก็มิปาน เหนียนยวี่มองนางที่เข้ามาใกล้ ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาทางประตู เหนียนยวี่จึงยืนนิ่งไม่ไหวติงดั่งขุนเขา
พวกเขาทุกคนควรจะมาได้แล้ว
บรรดาเหล่าฮูหยิน อนุภรรยา ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง รวมถึงฉางไทเฮา...
ณ เวลานี้ เหนียนอีหลานจิตใจยังคงฟั่นเฟือน นาง้าให้เหนียนอีหลานอยู่ต่อหน้าทุกคนและแสดงใบหน้าที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ของนางให้เผยออกมาต่อหน้าฝูงชน
เหนียนยวี่ที่กำลังครุ่นคิดถูกมือของเหนียนอีหลานจับไว้ นางคำนวณเวลา นางปล่อยให้เหนียนอีหลานพุ่งเข้ามาทำร้ายนางตามที่วางแผนมาทั้งหมดไว้
ทว่าในขณะที่เหนียนอีหลานเข้ามาใกล้นาง เงาสีขาวสว่างวาบร่างหนึ่งพลันปรากฏฎตัวเข้ามา มือที่เหนียนอีหลานคิดว่าจะคว้าตัวเหนียนยวี่ได้นั้น กลับมีท่อนแขนยาวยื่นเข้ามาโอบนางไว้ เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ได้ยินเสียงฮัมกระซิบแ่เบาของชายหนุ่มดังขึ้นตามมา
กลิ่นหอมของกล้วยไม้อ่อนๆ อันคุ้นเคยทำให้ในใจของเหนียนยวี่ชะงักงัน เพียงชั่ววินาทีนางรู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้เป็ใคร
หลีอ๋องจ้าวเยี่ยน!
ััได้ถึงแขนยาวที่โอบรอบเอวนาง รวมทั้งอุณหภูมิจากหน้าอกที่แนบชิดตัวนาง ในชาติก่อน พวกเขาใกล้ชิดสนิทสนม นางหลงใหลในอ้อมกอดของเขามาก ทว่าในยามนี้ การััที่ใกล้ชิดเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเท่าใดนัก
นางผลักคนตรงข้ามออกโดยไม่รู้ตัว ประหนึ่งว่าเพียงััแค่เสี้ยววินาที นางก็มิอาจทนได้แล้ว
จ้าวเยี่ยนดูสง่างามไร้อันตราย แต่เหนียนยวี่ รู้ว่าฝีมือของเขาไม่ได้อ่อนแอ และความแข็งแกร่งนั้นเทียบไม่ได้กับร่างกายที่ยังไม่สุกงอมโตเต็มที่ของนางในตอนนี้ เหนียนยวี่ผลักจ้าวเยี่ยนออก นางต้องใช้แรงอย่างมากในการผลัก ทำให้ตัวเองถอยห่างออกมาไม่กี่ก้าว
่เวลานั้นเกิดขึ้นเร็วมากจน จ้าวเยี่ยนมองเหนียนยวี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว สายตาต่อต้านและรังเกียจของนางทำให้เขาขมวดคิ้ว ฝ่ามือที่ว่างเปล่านั้น ทำให้เขามึนงงท้อแท้ไปชั่วขณะ
เหนียนยวี่...นางเกลียดชังเขาอย่างแท้จริง!
แม้แต่ััเมื่อครู่นี้ นางยังหลบเลี่ยง ทว่า...
เมื่อนึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมของจ้าวอี้กับนาง มิรู้เพราะเหตุใด ในใจจ้าวเยี่ยนถึงได้รู้สึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมาเช่นนี้
"เหนียนยวี่...เหนียนยวี่ เ้าสมควรตาย ไปตายเสีย"
ความไม่ยินยอมที่ไม่ได้จับใบหน้าเหนียนยวี่ ทำให้เหนียนอีหลาน้าพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ทว่าครานี้ ทันทีที่นางเคลื่อนไหว จ้าวเยี่ยนที่ยืนอยู่ข้างนาง คว้าข้อมือของนางด้วยสายตาเฉียบแหลมและฝ่ามืออันฉับไว
"เ้าปล่อยข้า..." เหนียนอีหลานะโอย่างโกรธจัด ใบหน้านางฉายแววโหดร้ายงลางเลือน ทว่าแรงที่คว้าข้อมือนางนั้น กลับรัดไว้อย่างแ่า
ใบหน้าของจ้าวเยี่ยนมืดมน มิรู้ว่าเพราะสถานการณ์ยามนี้ หรือเป็เพราะในใจรู้สึกโกรธเกรี้ยวท่าทีห่างเหินของเหนียนยวี่ แรงของมือที่คว้าข้อมือของเหนียนอีหลานไร้ซึ่งความเมตตา ความเ็ปในใจแผ่ลามมาถึงต้นคอ ยิ่งทำให้คิ้วทั้งสองข้างของจ้าวเยี่ยนมิอาจคลายออก
เมื่อครู่นี้ ณ ตอนเวลาที่เขาเห็นเหนียนอีหลานพุ่งใส่เหนียนยวี่ เขาสามารถเข้าไปคว้ามืออันโหดร้ายของนางเหนียนอีหลานได้อย่างแน่นอน ทว่าในสถานการณ์คับขัน เขากลับเปลี่ยนความคิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน...