หมาป่านภาเหล่านี้ล้วนเป็สัตว์อสูรระดับสอง แต่ที่น่ากังวลกว่าคือจำนวนของพวกมัน
ภายใต้การปิดล้อมของหมาป่าหลายสิบตัว ถังเหล่ยมีเพียงความสามารถในการปกป้องตัวเองเท่านั้น
“ท่านจอมยุทธ์ ดูท่าชีวิตของพวกเราคงจบลงที่นี่ ขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านลำบาก…”
เซี่ยลี่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น พวกเขาถูกหมาป่านภาล้อมเอาไว้เบ็ดเสร็จ นี่ไม่เหลือโอกาสรอดอีกแล้ว
ถังเหล่ยไม่ได้ตอบโต้อะไรมาก เขาเพียงแค่ขมวดคิ้ว และเฝ้าระวังฝูงหมาป่ารอบด้านที่อาจโจมตีได้ตลอด ยังไงในใจถังเหล่ยก็คิดว่าพวกเขาถ่วงแขนถ่วงขาจริงๆ
แต่เื่มาถึงขั้นนี้แล้ว หากพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา อาจจะทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายเกินไป
คนที่เหลือล้อมวงเข้าด้วยกัน พวกเขากำอาวุธไว้แน่น และจ้องหมาป่านภาอย่างระแวดระวัง แต่สถานการณ์เช่นนี้คงอยู่ได้ไม่นาน พวกมันเตรียมจะโจมตีแล้ว
“ท่านจอมยุทธ์ ข้ายินดีนำทุกคนโจมตีเปิดทางให้ท่าน ขอเพียงพาบุตรสาวของข้าไปด้วยก็พอ!”
เซี่ยลี่รู้ว่าตัวเองต้องตายเป็แน่ จึงหวังให้บุตรสาวของเขามีชีวิตรอดไปได้ก็พอ ดูจากพลังของถังเหล่ย เขาพร้อมสละชีวิตของตัวเองและคนอื่น เพื่อเปิดทางให้ถังเหล่ยพาบุตรสาวของตนหนีไป
ถังเหล่ยไม่ได้ตอบโต้เช่นเคย เขาเพียงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วมองเด็กสาวที่อยู่ด้านหลังผู้ชำนาญยุทธ์ผู้นั้น
ไม่ใช่ว่าถังเหล่ยใจดำ แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะพาเด็กสาวออกไปได้ เขาจะไม่ตอบรับเื่ที่ไม่มั่นใจเด็ดขาด เพราะตอนจบของมันอาจจะไปทำร้ายใครสักคน
ถังเหล่ยรู้สึกไม่เข้าใจ ในเมื่อรู้ว่าเส้นทางนี้อันตรายเป็อย่างมาก เหตุใดเซี่ยลี่ถึงเสี่ยงพาบุตรสาวมาด้วย
“ท่านจอมยุทธ์!” ั์ตาของเซี่ยลี่แฝงเร้นไปด้วยความอ้อนวอน
“ข้าจะพยายามสุดความสามารถ!”
ถังเหล่ยใจอ่อน พร้อมกล่าวเสียงต่ำออกมา หากคนเหล่านี้ทุ่มสุดชีวิต เขาอาจจะพาเด็กสาวจากไปได้ แต่ถ้าทุกคนตายอยู่ที่นี่กันหมด แล้วจะให้เขาจัดการกับเด็กสาวคนนี้ต่ออย่างไร?
เขาเองก็กำลังหนีตายเช่นกัน คงไม่อาจพาเด็กสาวคนหนึ่งไปด้วยกระมัง
เมื่อเซี่ยลี่ได้ยินคำตอบของถังเหล่ย เขาก็เบือนหน้าอันเศร้าโศกไป แล้วกระตุ้นปราณแท้พลังยุทธ์ในร่าง เขาเตรียมตัวพุ่งออกไปเพื่อเปิดเส้นทางให้ถังเหล่ย
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ...
ในขณะที่กลุ่มของถังเหล่ยยังไม่ทันลงมือ ก็มีเสียงยิงธนูหลายเสียงดังขึ้นมาจากในป่า และลูกธนูเหล่านี้ก็รวดเร็วราวกับไม่ใช่ลูกธนูธรรมดา
ฝูงหมาป่ายังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกมันสิบกว่าตัวพลันตายในทันใด
หมาป่าทั้งฝูงตกอยู่ในสถานการณ์อลหม่าน แต่ลูกศรหาได้หยุดลงไม่ แล้วพวกมันสิบกว่าตัวก็ถูกสังหารอีกครั้ง
เมื่อถังเหล่ยเห็นลูกธนูที่ยิงทะลุศีรษะหมาป่าไป เขาก็รีบเก็บกริชสีเงินขาวในมือทันที ลูกธนูเหล่านี้สร้างมาจากวัสดุเดียวกัน หรือก็คือกลุ่มคนเหล่านี้น่าจะเป็กองทัพของจักรวรรดิเทียนอวี่!
ฝูงหมาป่าถูกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจ พวกมันก็เหลือเพียงสิบกว่าตัว
ตอนที่ฝูงหมาป่าจะคิดหนี ในป่าพลันปรากฏเงาคนที่ออกมาร่วมมือกันสังหารฝูงหมาป่าอย่างง่ายดาย จ่าฝูงตัวสุดท้ายคิดตอบโต้ แต่กลับถูกหอกเล่มหนึ่งแทงทะลุร่าง และปักไว้บนต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว หมาป่านภาระดับสองหลายสิบตัวถูกเก็บกวาดโดยสมบูรณ์ ร่างเงาเ่าั้ต้องเป็กลุ่มที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วแน่
และแล้วผู้ฝึกตนที่สวมชุดสีดำเทากลุ่มหนึ่งก็เข้ามาล้อมกลุ่มของถังเหล่ยเอาไว้ คนกลุ่มนี้ล้วนแต่งตัวเหมือนๆ กัน ที่เอวพกดาบยาว บนหลังมีธนูคันหนึ่ง พวกเขากำลังมองพวกถังเหล่ยด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์
ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งดึงหอกบนร่างหมาป่าออกมา ก่อนจะเช็ดจนสะอาด แล้วก็ยื่นให้ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากในป่า
แม้ชายหนุ่มผู้นี้จะสวมชุดเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้พาดธนูไว้บนหลัง ทั้งยังขี่ม้าอัสนีตัวหนึ่งด้วย
ม้าอัสนีคือสัตว์อสูรระดับหนึ่ง จุดเด่นก็คือความเร็วที่วิ่งในป่าได้ราวกับวิ่งบนพื้นราบ
มีบางจักรวรรดิที่เลี้ยงสัตว์อสูรบางชนิดเพื่อเป็พาหนะของกองทัพ ราคาของม้าอัสนีตัวหนึ่งนั้นไม่ธรรมดาเลย ดูท่าชายหนุ่มคนนี้จะมีสถานะไม่น้อย
“ทุกท่านไม่ต้องใไป ข้าคือหัวหน้าหน่วยของกองทัพผู้คุมกฎแห่งจักรวรรดิเทียนอวี่ มีนามว่าฉินเฮ่า ข้ากำลังไล่ตามคนร้ายของจักรวรรดิ เป็ชายหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกปีซึ่งมีนามว่าถังเหล่ย ระดับผู้ชำนาญยุทธ์ ไม่ทราบว่าพวกท่านพบเห็นบ้างหรือไม่?”
ชายหนุ่มที่มีนามว่าฉินเฮ่ามองใบหน้าทุกคน สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่ถังเหล่ย
ถังเหล่ยคือคนที่อายุเข้าเกณฑ์เพียงคนเดียวในกลุ่มคนเหล่านี้
ถังเหล่ยััได้ถึงสายตาที่มองมาของฉินเฮ่า เขาก็อดกำหมัดไม่ได้ ทหารกลุ่มนี้จัดการยาก ทหารด้านข้างล้วนเป็ผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นสิบสูงสุด และฉินเฮ่าผู้นี้ก็เป็ถึงระดับผู้ทรงยุทธ์ เมื่อครู่ตอนสังหารหมาป่านภาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายน่ากลัวเกินไป
แม้ทหารกลุ่มนี้จะมีเพียงยี่สิบกว่าคน แต่พลังต่อสู้ต้องมากกว่าคนปกติหลายสิบเท่า
ถังเหล่ยไม่มีความมั่นใจเลย หากลงมือจริงๆ คงต้องจัดการฉินเฮ่าก่อน ไม่เช่นนั้นเขาแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลย
“ชายหนุ่มคนนี้ดูแล้วเข้าเกณฑ์ที่สุด เ้าชื่ออะไร?”
ฉินเฮ่าที่กำลังจ้องถังเหล่ยเอ่ยถามขึ้น
ถังเหล่ยลอบรวบรวมปราณแท้พลังยุทธ์ในร่างให้พร้อมโจมตีตลอดเวลา เขาต้องสังหารฉินเฮ่าทันที ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีโอกาสหนีแล้ว
“เขาคือพี่ชายของข้าเอง เขาชื่อเซี่ยชิง!”
ทันใดนั้นเสียงของเด็กสาวก็ดังขึ้น ถังเหล่ยััได้ว่ามีมือเล็กๆ คู่หนึ่งจับมือของเขาอยู่
‘หืม?’
ถังเหล่ยไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ปราณแท้พลังยุทธ์ในร่างก็สลายไป เพราะการกระทำของเด็กสาว
“มิผิด ใต้เท้า คนคนนี้คือบุตรชายของข้าเอง พวกเรากำลังขนสินค้าไปที่เมืองเฮยเหยียน แต่เจอฝูงหมาป่าโจมตีเข้าเสียก่อน โชคดีที่ได้ใต้เท้าช่วยเอาไว้!”
เซี่ยลี่ก้าวออกมา และกล่าวกับชายหนุ่มด้วยความซาบซึ้งใจ
“โอ้? เช่นนั้นก็ช่างเถอะ อุตส่าห์คิดว่าพวกเ้าจะให้ข้อมูลที่เป็ประโยชน์ได้เสียอีก”
ชายหนุ่มโบกมือ ทหารรอบด้านล้วนถอยกลับ และมุ่งหน้ากลับเข้าไปในป่าต่อ
“เ้าต้องระวังตัวด้วย ตลอดทางนี้มีสัตว์อสูรเยอะมาก ถ้าเจอกับสัตว์อสูรระดับสามก็ยุ่งยากแล้ว!”
ฉินเฮ่ามองไปที่ศพสัตว์อสูรระดับสามด้านข้าง พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองไปยังเซี่ยลี่กับถังเหล่ยอีกครั้ง แล้วโบกมือจากไป
“ขอบคุณใต้เท้าที่ช่วยเหลือ!”
เซี่ยลี่กล่าวกับฉินเฮ่าที่หันหลังจากไป
เมื่อกลุ่มทหารจากไปแล้ว พวกเซี่ยลี่ถึงผ่อนลมหายใจได้ คนธรรมดาอีกหลายคนก็ล้มลงไปกองกับพื้น
น่าใจริงๆ จนตอนนี้พวกเขาก็ยังคิดว่าฝันไป ทว่าศพหมาป่านภาหลายสิบตัวที่นอนตายอยู่ด้านข้าง ส่งกลิ่นเืคละคลุ้งในอากาศ เตือนพวกเขาว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
“พี่ใหญ่ พวกเรารวยแล้ว ของพวกนี้มีค่าเท่าไรกัน!?”
ผู้ชำนาญยุทธ์คนหนึ่งมองศพรอบๆ ด้วยดวงตาที่ส่องประกายแวววาว
ศพหมาป่านภาระดับสองหลายสิบตัว สำหรับหน่วยผู้คุมกฎแล้วไม่มีค่าให้พูดถึง แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือเงินก้อนใหญ่
“จัดการให้เร็วหน่อย เอาของที่เอาไปได้ก็พอ อย่ามัวเสียเวลา!”
ดวงตาของเซี่ยลี่แดงก่ำ นี่เป็เงินจำนวนมากจริงๆ
สีหน้าของถังเหล่ยด้านข้างยังคงดูเ็า เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีทหารออกตามล่าเร็วขนาดนั้น ถ้าเมื่อครู่เขาเดินทางในป่าต่อ อาจถูกไล่ตามเป็แน่
“ไม่ทราบว่าท่านจอมยุทธ์จะไปที่ไหน หากไม่รังเกียจ สามารถไปที่บ้านข้าได้ ข้างหน้าก็คือเมืองเฮยเหยียนแล้ว”
เซี่ยลี่ไม่ได้ถามถึงชื่อของถังเหล่ย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถังเหล่ยคือคนร้ายที่ทหารกลุ่มเมื่อครู่ตามล่าอยู่ แต่หากคนผู้นี้คือถังเหล่ยที่ช่วยพวกเขาเอาไว้ ก็ถือว่าเป็ผู้มีพระคุณ
ถังเหล่ยลังเลเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่าจักรวรรดิคงจะไม่ส่งทหารออกมาไล่ล่าเขาเร็วขนาดนี้ เขาอาจจะออกจากจักรวรรดิเทียนอวี่ได้โดยไม่มีใครรู้ตัว แต่เหมือนเขาจะประเมินจักรวรรดิต่ำเกินไป
ในเมื่อทหารไล่ล่าล้วนตามมาถึงที่นี่แล้ว ที่ด่านซิวหลัวคงจะมีกับดักวางไว้แน่ๆ
หาก้าจะออกจากจักรวรรดิเทียนอวี่ ดูท่าจะต้องวางแผนให้รอบคอบกว่านี้