เพียงแต่ ‘ผงสือฮุย’ ของฉินหลางมีประสิทธิภาพสูงมาก ฟู่หยิงเสี่ยวและพวกสูดดมเข้าไปแล้ว ไอเพียงสองสามครั้ง ก็สลบล้มลงไปกองกับพื้นตามๆ กัน ราวกับคนหน้ามืดจนเป็ลม
“ฉินหลาง คนพวกนี้เป็อะไร?” เถารั่วเซียงถามด้วยความใ
“สูดดม ‘ยาเมิ๋งฮั่น’ เข้าไป จึงหมดสติไปชั่วคราวเท่านั้นเอง”
“ยาเมิ๋งฮั่น? ใช่สิ่งที่มีในนวนิยายกำลังภายในรึเปล่า”
“ผมเป็แพทย์แผนจีนที่เก่งมากๆ คุณก็รู้” ฉินหลางต้องใช้เหตุผลนี้มากลบเกลื่อนเรื่อยๆ แล้วรีบเร่งเข้าหัวข้อสนทนาใหม่ “ไหนๆ ตอนนี้พวกเขาต่างก็สลบกันหมดแล้ว เราจะได้มีโอกาสค้นร้าน ผมมั่นใจว่าเราต้องพบเบาะแสแน่นอน”
พูดจบ ฉินหลางะโจากระเบียงชั้นลงมายังเคาน์เตอร์ ฉินหลางมีความคุ้นเคยกับกลิ่นของยาชนิดต่างๆ มาก เพียงไม่นานเขาก็เจอกับวัตถุน่าสงสัยสองชนิดอยู่ในลิ้นชักตู้เก็บของที่ถูกล็อกเอาไว้ ชนิดแรกเป็ยาอีที่หลินเสี่ยวชวนนำมาเป็ส่วนผสมของน้ำฟองเจ็ดสี ซึ่งมีมากกว่าร้อยเม็ด แค่ยาชนิดนี้ก็ส่งหลินเสี่ยวชวนเข้าไปนั่งเล่นในคุกได้สบายๆ แล้วส่วนสารอีกหนึ่งชนิด เป็น้ำใสๆ ที่ถูกเก็บไว้ในขวดแก้วเล็กๆ ดูไปแล้วคล้ายๆ น้ำหอม ทว่า ฉินหลางลองดมแล้วกลับหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันที
เ้าสิ่งนี้ เป็ยาพิษชนิดใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!
เพียงแต่ยาชนิดนี้ไม่ได้มีพิษถึงตาย คุณสมบัติหลักของมันกระตุ้นอารมณ์ ปลุกเซ็กส์ และยังออกฤทธิ์รุนแรงมากๆ! นอกจากนี้ ยาตัวนี้ยังมีกลิ่นหอม และยังสามารถระเหยได้เหมือนกับน้ำหอม มันจึงง่ายต่อการใช้งานและยากที่เหยื่อจะสังเกต ฉินหลางสูดดมเข้าไปแค่ครั้งเดียว ยังรู้สึกหัวใจไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย ทว่าฉินหลางเป็ถึงลูกศิษย์ตาเฒ่าพิษ จะโดนพิษง่ายๆ ได้ยังไง เพียงครู่เดียวเขาก็กลับสู่สภาวะปกติแล้ว
เขารู้จักคนๆ หนึ่งได้จาก ข้าวของเครื่องใช้ของเขา เมื่อก่อนฉินหลางคิดว่าอันเต๋อเซิ่งเป็เพียงตัวละครเล็กที่ไม่มีบทบาท และสามารถกำจัดได้ง่ายๆ ทว่ายากระตุ้นอารมณ์ปลุกเซ็กส์ขวดเล็กๆ นี้ ทำให้ฉินหลางต้องประเมิน และวางแผนจัดการกับอันเต๋อเซิ่งใหม่ เพราะคนที่คิดค้นยาพิษแบบนี้ออกมาได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!
“หาเจอแล้วครับ เรารีบไปจากที่นี่กัน!” ฉินหลางหันไปบอกเถารั่วเซียง แล้วพูดกับเ้าผมยาวสั้นๆ และรวดเร็วปานสายฟ้า “ขับรถตู้มารอหลังร้านชวนชวนน้ำปั่น! เร็วๆ!”
“เราไปกันเถอะ!” เถารั่วเซียงได้ยินว่าฉินหลางได้หลักฐานมาแล้ว ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น มีหลักฐานพวกนี้แล้วไม่เพียงสามารถลบล้างข้อกล่าวหาของฉินหลางได้เท่านั้น ยังสามารถทำให้พวกคนเลวที่ทำร้ายหลิงหลิง ต้องรับโทษได้อีกด้วย!
“ครับ!” ฉินหลางตอบรับเถารั่วเซียง ออกแรงที่มือใช้สองข้าง หยิบตัวหลินเสี่ยวชวนกับฟู่หยิงเสี่ยวราวกับหยิบลูกไก่ตัวเล็กๆ ขึ้นมาแบกไม้บนบ่า เดินไปทางหลังร้าน ภายใต้ความประหลาดใจของเถารั่วเซียงละเจียงเซี่ยวฉิง ฉินหลางแบกคนทั้งสองไปถึงประตูหลังร้าน จากนั้นโยนทั้งคู่เขาไปในรถตู้ที่จอดรออยู่
เห็นดังนั้น เ้าผมยาวพูดในใจ พี่ฉินนี่เก่งจริงๆ เลย เวลาแค่นี้ก็ฉุดผู้หญิงออกมาได้ตั้งสองคน
เมื่อออกรถแล้ว เ้าผมยาวถามฉินหลาง “ไปไหนครับพี่?”
“วังัทอง!” ฉินหลางพูดขึ้น
“สถานีตำรวจ!” เถารั่วเซียงพูดขึ้นในเวลาเดียวกัน
“ครับพี่ ไปวังัทอง” เ้าผมยาวไม่อยากคบค้าสมาคมอะไรกับตำรวจอยู่แล้ว และเขาก็ต้องฟังคำสั่งของฉินหลางอยู่แล้ว ขับรถไปทางวังัทอง อีกอย่าง ฮานซานฉางให้คนทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ที่วังัทอง ที่นั่นก็น่าจะปลอดภัยที่สุด
“ฉินหลาง นายทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?” ตอนแรกเธอคิดว่า ฉินหลางกับเธอมีวัตถุประสงค์เดียวกัน แต่ตอนนี้ฉินหลางกลับแสดงออกตรงกันข้ามกับเธอ ร้านคาราโอเกะวังัทองมันเป็สถานที่อะไร เถารั่วเซียงก็รู้อยู่ เพียงแต่เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมฉินหลางถึงได้เชื่อถือนักเลง อันธพาลในวงการพวกนี้ แต่กลับไม่เชื่อถือตำรวจที่ทำงานเพื่อประชาชน
เถารั่วเซียงจะรู้ได้ยังไง ฉินหลางไม่เพียงจะจัดการอันเต๋อเซิ่งเท่านั้น ยัง้ารับ่กิจการทั้งหมดของเขาด้วย ดังนั้นฉินหลางจำเป็จะต้องยืมมือของฮานซานฉางมาจัดการเื่นี้ เพราะถ้าเอาหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจไป ฉินหลางก็ทำเป้าหมายของตนไม่สำเร็จน่ะสิ
“อาจารย์เถา ผมคิดว่าเราเอาหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจตอนนี้ มันไม่ค่อยเหมาะ” ฉินหลางอธิบาย “คุณลองคิดดูนะ อันเต๋อเซิ่งกับพวกไม่ได้เพิ่งทำเื่แบบนี้ซะหน่อย เป็ไปได้เหรอที่ตำรวจจะไม่รู้เื่เลย? แล้วถ้าพวกเขารู้เื่แล้ว ทำไมถึงไม่ทำอะไรเลย?”
เถารั่วเซียงพูดไม่ออก ผ่านไปสักพัก เธอถึงพูดขึ้น “ฉินหลาง ใช่ว่าสิ่งที่เธอห่วงนั้นจะไม่มีเหตุผล เพียงแต่—ฉันเป็แค่ครูคนหนึ่ง เธอก็เป็แค่นักเรียนคนหนึ่งเหมือนกัน เื่การสืบคดีและจัดการกับคนผิดมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา ในเมื่อตอนนี้เรามีหลักฐานแล้ว สามารถลบล้างข้อกล่าวหาให้เธอได้แล้ว แล้วยังสามารถทำให้คนผิดต้องรับโทษแล้ว ทำไมเราถึงไม่ให้ตำรวจเป็คนจัดการเื่ที่เหลือต่อล่ะ?”
ฉินหลางครุ่นคิด เขาจ้องหน้าเถารั่วเซียง ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ “อาจารย์เถา คุณอยากเป็นักสืบมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มีโอกาสวางอยู่ตรงหน้าคุณ คุณสามารถพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นักสืบที่ดีได้ แต่คุณจะทิ้งโอกาสนี้ไปเนี่ยนะ?”
เหมือนว่าเถารั่วเซียงเริ่มจะลังเลแล้ว แต่ก็กลับนิ่งเรียบเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้ ฉันเป็เพียงอาจารย์คนหนึ่ง และอยากจะเป็อาจารย์ที่ดีเท่านั้น ดังนั้นฉันจะต้องคิดเผื่อพวกเธอ ฉินหลางถ้าเธอยังมองฉันเป็อาจารย์ของเธออยู่ ก็เอาหลักฐานให้ฉัน ฉันมีเพื่อนสมัยเรียนที่เป็ตำรวจอยู่ พวกเขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้แน่นอน!”
“อาจารย์เถา ให้ผมคิดดูก่อนนะครับ” ฉินหลางแกล้งทำเหมือนตนกำลังหนักใจ ก่อนจะพูดกับเ้าผมยาว “ส่งอาจารย์เถากับเพื่อนนักเรียนคนนี้กลับไปที่โรงเรียน”
“ฉินหลาง—”
“อาจารย์เถา คุณอย่าบังคับผม” ฉินหลางพูดอย่างเป็ทุกข์ “เ้าพวกนี้ใส่ร้าย ทำให้ผมต้องอนาถแค่ไหน คุณก็น่าจะรู้อยู่ ผมต้องกลายเป็ผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ถูกส่งเข้าสถานกักกัน ตอนอยู่ในสถานกักกัน ก็ยังโดนผู้ต้องหาในคดีทะเลาะวิวาทรุมทำร้าย ที่สำคัญที่สุดคือ อาจารย์เถาเข้าใจผิด ว่าผมเป็ ‘เดรัจฉาน’ ดังนั้นผมจะต้องสืบหาความผิดทั้งหมดของพวกมัน อีกอย่าง ครั้งก่อนที่ผมอยู่ในสถานกักกันแล้วมีคนมาทำร้าย เห็นได้ชัดว่ามีผู้คุม และตำรวจร่วมมืออยู่กับพวกมันด้วย—เอาเป็ว่า คุณให้เวลาผมคิดทบทวนดูก่อนนะครับ พรุ่งนี้เช้า ผมจะให้คำตอบ”
“ฉินหลาง ฉันแค่ไม่อยากให้เธอต้องไปเสี่ยงอันตราย” เถารั่วเซียงกล่าว “ถ้าเื่นี้มันร้ายแรงอย่างที่เธอพูดจริงๆ การที่เธอยังสืบต่อไปแบบนี้ จะต้องอันตรายมากๆ แน่!”
“ผมจะลองทบทวนดูนะครับ อาจารย์เถา” ฉินหลางแสร้งถอนหายใจ “ช้าที่สุด พรุ่งนี้เช้าผมจะให้คำตอบ”
“ก็ได้” เถารั่วเซียงพยักหน้า “ผู้ต้องสงสัยสองคนนี้อยู่ในมือนาย นายห้ามทำอะไรที่มันเกินเลยมากล่ะ ไม่อย่างนั้น นายเองก็จะเป็นักโทษ เข้าใจใช่ไหม?”
เถารั่วเซียงหมายถึงฟู่หยิงเสี่ยวกับหลินเสี่ยวชวน
ฉินหลางไม่มีทางสนใจผู้หญิงสองคนนี้แน่ ก็คงไม่ทำอะไรที่เกินเลยกับพวกเธอมาก แต่ฉินหลางจะต้องหาวิธีเอาหลักฐานจากปากพวกเธอแน่นอน
เมื่อส่งเถารั่วเซียงกับเจียงเสี่ยวฉิงกลับไปถึงโรงเรียนแล้ว ฉินหลางก็ไปที่ร้านคาราโอเกะวังัทองเลย ฮานซานฉางคิดว่าวันนี้จะได้บวกกับพวกของซางคุนแล้ว วันนี้จึงปิดร้านคาราโอเกะวังัทอง เป็แบบนี้ก็ดี อย่างน้อยฉินหลางจะได้สอบฟู่หยิงเสี่ยวกับหลินเสี่ยวชวนได้สะดวกมากขึ้น
หากว่ากันตามกฎหมาย แม้ว่าฟู่หยิงเสี่ยวกับหลินเสี่ยวชวนจะเป็ผู้ต้องสงสัย ฉินหลางก็ไม่มีอำนาจกักตัวพวกเธอไว้สอบสวนอยู่ดี ยิ่งไม่มีสิทธิ์สอบสวนด้วยวิธีการรุนแรงเลย ดังนั้นเมื่อผู้หญิงสองคนนี้ฟื้นขึ้นมา พบว่าตนอยู่ในห้องพิเศษของร้านคาราโอเกะวังัทอง ก็ด่าฉินหลางและฮานซานฉางสาดเสียเทเสียทันที
“พี่ฉิน นังแพศยาสองคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ จะให้ผมหาลูกน้องสองสามคนมาขืนใจไหมครับ” ฮานซานฉางสบถด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
“นายไม่ขืนใจผู้หญิงมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ” ฉินหลางถามพร้อมรอยยิ้มจางๆ
“สองคนนี้เป็โสเภณีแล้วนะครับ จะเรียกว่าขืนใจได้ยังไงครับ?” ฮานซานฉางกล่าว
“แม่ม! แกสิโสเภณี พวกแกเป็โสเภณีหมดทั้งบ้าน!” หลินเสี่ยวชวนพูดอย่างเหิมเกริม “ฉันเป็เพื่อนกับลูกพี่ซางคุน และฉันก็รู้จักท่านอันด้วย พวกแกกล้ามาหาเื่ฉันเหรอ—”
หลินเสี่ยวชวนยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ ก็เงียบลง เงียบลงเพราะความหวาดกลัว
เพราะเวลานี้ ในห้องพิเศษมีงูอยู่หลายสิบตัว เหมือนว่างูพวกนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของฉินหลาง ล้อมหลินเสี่ยวชวนกับฟู่หยิงเสี่ยวเอาไว้ และงูพวกนี้ล้วนชูคอขึ้น ยกหัวขึ้นสูงไม่หยุดแลบลิ้นสีแดงๆ ราวกับพวกมันรอฉินหลางสั่งเพียงคำเดียวเท่านั้น ก็พร้อมจะฉกกัดพวกเธอทั้งคู่ทันที
“พี่ชวนใช่ไหม?” ฉินหลางถามด้วยความนิ่งเรียบ “เธอรู้จักซางคุนกับอันเต๋อเซิ่ง แล้วเธอรู้จักกับงูพวกนี้ด้วยรึเปล่า? ฉันรู้จักกับพวกมันพอดีเลย จะให้ฉันแนะนำให้พวกเธอรู้จักพวกมันบ้างรึเปล่า!”
“กรี๊ด—” ฟู่หยิงเสี่ยวร้องกรี๊ดด้วยความใ