ใช่ว่าเย่เฟิงไม่ชอบสาวสวย แต่เขารู้ว่าไม่ว่าอยู่ในโลกไหน ความแข็งแกร่งคือสิ่งสำคัญที่สุด หากยังไม่มีพลังมากพอ เขาจะไม่หาเื่ใส่ตัว ตัวอย่างเช่นชายหนุ่มผิวดำ เขาไม่ตายดีแน่
“ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจจากฉันด้วยวิธีนี้” ขณะหลงหว่านเอ๋อร์เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย มุมปากของเธอก็โค้งขึ้นเล็กน้อย "ฉันหลงหว่านเอ๋อร์ไม่ชอบผู้ชายที่อ่อนแอกว่าฉัน"
เมื่อชายผิวดำได้ยินคำพูดของเธอ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป อันที่จริงเขาตั้งใจดึงดูดความสนใจของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอมองออกง่ายขนาดนี้
“ในเมื่อคุณพูดจายั่วยุแบบนี้ ไม่ทำให้ยอมแพ้ไม่ได้เสียเเล้ว” หลงหว่านเอ๋อร์ยิ้มบาง “ได้ยินมาว่าทักษะมวยของสำนักหมัดเทวาหาที่เปรียบได้ยาก ต้องขอลองเรียนรู้สักหน่อย”
เมื่อเธอพูดจบก็หมุนตัวครั้งหนึ่ง เรียวขาของเธอกวาดใส่ชายผิวดำอย่างรวดเร็ว! เมื่อเห็นเช่นนี้ชายคนนั้นก็ตกตะลึงและไม่มีเวลาพูด เขารีบจัดท่าทางทันที รวบรวมพลังภายในไว้ที่หมัด ชายหนุ่ม้าใช้หมัดเพื่อจัดการขาของอีกฝ่าย แต่ก่อนจะได้ปล่อยหมัดออกไป ลูกเตะอันรุนแรงของเธอปะทะใบหน้าของเขาขณะเดียวกันก็ไขว้ขาอีกข้างถีบฝ่ายตรงข้ามออกไปด้วยเท้าทั้งสองข้าง ส่งผลให้ร่างของชายผิวดำเสียการทรงตัวแล้วล้มลง
เย่เฟิงดูเหตุการณ์จากด้านหนึ่ง หน้าอกของเขาเจ็บแปลบเมื่อนึกถึงตัวเองถูกเธอเตะใส่ที่โรงแรม
หญิงสาวกลับมายืนท่าเดิมอย่างสง่างาม กระโปรงยาวของเธอเปิดขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนซึ่งทำให้ผู้ชายหลายคนโดยรอบจ้องตาไม่กะพริบ
วรยุทธ์ระดับแปดปี
ตอนนี้เขาลังเลเล็กน้อย จุดประสงค์อย่างหนึ่งที่มางานแสดงสินค้านี้คือเพื่อสอบถามเกี่ยวกับยุทธจักรซึ่งเขาพอรู้คร่าวๆ เเล้ว อีกประการหนึ่งคือการค้นหาสิ่งที่สามารถเพิ่มพลังของเขาได้ แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่พบจนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มยังจำเป็ต้องขายยาผสมอีกหรือไม่ ถ้าหลงหว่านเอ๋อร์ไม่อยู่ที่นั่น เย่เฟิงก็ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ตอนนี้ถ้าเขาวิ่งออกไป มันคงแย่แน่ถ้าอีกฝ่ายจำเขาได้ หลังจากคิดสักพักเขาก็ปัดความคิดนั้นทิ้ง สิ่งที่เขา้าไม่ใช่เงินแต่คือความปลอดภัย
“เอาล่ะ ตระกูลหลงเป็เ้าภาพจัดงานแสดงสินค้านี้ขึ้น เพราะงั้นขอให้ทุกคนช่วยปฏิบัติตามกฎหน่อย” หลงหว่านเอ๋อร์พูดพลางยิ้มหวานแล้วมองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็พบชายสวมหน้ากากแปลกตาคนหนึ่ง เธอหยุดคิดเล็กน้อย บางทีเขาอาจไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริงก็เป็ได้
เย่เฟิงถอนหายใจโล่งอก
หลงหว่านเอ๋อร์และศิษย์ตระกูลหลงเริ่มเดินตรวจความเรียบร้อยภายในงาน ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาอีก ในเวลาเดียวกัน ชายร่างผอมและคู่หูเจียงไหวก็ออกจากงาน แต่ก่อนไป พวกมันจ้องเย่เฟิงด้วยแววตามุ่งร้าย
เย่เฟิงแอบนึกในใจ คิดดักเก็บเขาหรือ? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก จากนั้นแกล้งทำเป็เดินเล่นไปรอบๆ
ภายในงานแสดงสินค้า สิ่งของส่วนใหญ่มักเป็พวกหยกคุณภาพดี ตลอดจนยาผสมต่างๆ นอกจากใบมีดสีดำที่แตกหักของตาเฒ่าหวงแล้ว ของส่วนใหญ่จะขายในราคาประมาณหนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสน อาจมีสมุนไพรชั้นเยี่ยมบางชนิดที่ใช้รักษาอาการาเ็ แต่กลับมีราคาสูงถึงสามล้าน
ในบรรดาผู้ฝึกวรยุทธ์าุโ มีเพียงตาเฒ่าหวงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้านี้ ส่วนที่เหลือเป็คนหนุ่มสาวที่เริ่มฝึกวรยุทธ์ไม่นานนักกับคนในวงการธุรกิจ
เย่เฟิงเห็นชายชราเดินพลางสนทนากับหลงหว่านเอ๋อร์ เขาอดส่ายหัวไม่ได้ ตอนแรกชายหนุ่มตั้งใจใช้ยาผสมของเขาดึงดูดความสนใจและทำความรู้จักกับตาเฒ่าหวง หวังจะใช้อิทธิพลของเขาจัดการกับคู่หูเจียงไหว แต่ตอนนี้ไม่จำเป็แล้ว แม้จะไม่มีชายชราแต่เขาก็มั่นใจว่าตนสามารถกำจัดการแก้แค้นของคู่หูเจียงไหวได้ เพราะเมื่อเดินไปรอบๆ ก็พบอย่างชัดเจนว่าคู่หูเจียงไหวมีพลังเพียงห้าปี เขาสามารถจัดการพวกมันได้ไม่ยาก
สองคนนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ผู้คนทั้งหลายล้วนแสดงความตื่นกลัวเมื่อได้ยินชื่อของพวกมัน พวกมันปล้นชิงทุกอย่างของเหยื่อและไม่มีใครรู้ว่าพวกมันขืนใจเด็กสาวไปมากเท่าไรแล้ว หากมาแก้แค้นเย่เฟิง เขาก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะลบเ้าพวกนี้ออกจากยุทธจักร
ขณะที่เขาเดินไปรอบห้อง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์และเห็นว่าซูเมิ่งหานโทรมา จึงรับสายโดยไม่คิดมาก "ว่าไง"
“เย่เฟิง! เย่เฟิง นายอยู่ที่ไหน รีบมาโรงพยาบาลรัฐเร็วเข้า…” เสียงแจ่มชัดของซูเมิ่งหานดังขึ้นราวกับว่ามีเื่เร่งด่วน
ไม่ดีแล้ว!
เย่เฟิงวางสายโดยไม่ลังเลแล้วรีบเดินไปทางเข้างานโดยไม่หันกลับมามอง เขาไม่กังวลสถานการณ์ของซูเมิ่งหาน แต่เพราะเธอเรียกชื่อเขาทางโทรศัพท์ ซ้ำยังเรียกเสียงดังด้วย
หลงหว่านเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยกับตาเฒ่าหวง เมื่อได้ยินคำว่า ‘เย่เฟิง’ จึงรีบหันไปมอง
“หยุดเดี๋ยวนี้!” สีหน้าของหลงหว่านเอ๋อร์เปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้ยินชื่อนี้ เธอรีบวิ่งตามเย่เฟิง
จากรายงานของผู้บังคับการหลิว เธอรู้ว่าชายที่ขโมยหญ้าจินเย่ไปจากเธอชื่อว่า ‘เย่เฟิง’ ถึงเธอสัญญากับชายแก่คนนั้นว่าจะไม่ไล่ตามเขาอีก แต่ก็มีเงื่อนไขของมันอยู่! ตอนนี้เย่เฟิงเป็คนมาหาเธอเอง แล้วเธอจะยอมปล่อยไปง่ายๆ หรือ
“หว่านเอ๋อร์!” ชายรูปงามคนก่อนหน้านี้ที่อยู่กับเธอรีบตามไปเช่นกัน แต่เพราะมีวรยุทธ์ไม่สูงและทักษะความเร็วไม่มากพอ ไม่เพียงไล่ตามหญิงสาวไม่ทัน ยังสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม มีเพียงลูกศิษย์ตระกูลหลงเพียงไม่กี่คนที่มีพื้นฐานการบ่มเพาะสูงกว่าเท่านั้นที่ไล่ตามพวกเขาทัน
คนหลายร้อยในที่นั้นต่างประหลาดใจพลางคาดเดาว่าบุคคลที่สวมหน้ากากเป็ใคร ทำไมถึงทำให้หลงหว่านเอ๋อร์ร้อนรนขนาดนี้?
ตาเฒ่าหวงขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็นั่งลงแล้วหลับตาพักผ่อนต่อ อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มท่าทางฉลาดเฉลียวซึ่งเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดรู้สึกดีใจที่ไม่ยอมให้ชายสวมหน้ากากใช้แผงของเขาเพื่อขายยาผสม ไม่อย่างนั้นมันอาจเป็การล่วงเกินคนตระกูลหลงก็เป็ได้ ทุกคนล้วนรู้ว่าตระกูลหลงมีอำนาจมากขนาดไหนในยุทธจักร
………...
เย่เฟิงวิ่งออกจากห้องโถงไปตามทางเดินด้วยความระแวดระวังในใจ เพราะเขารู้ว่าคู่หูเจียงไหวรออยู่ด้านนอกและยังมีคนตามมาจากข้างหลังอีก ชายหนุ่มกำมือเเน่นเตรียมพร้อมใช้เเหวนกระบี่ัโบราณ อีกมือหยิบยาฟื้นฟูพลังชี่หลายเม็ดเข้าปาก หากมีการต่อสู้ขึ้นมานี่แหละพลังของเขา
ทันทีที่เขาวิ่งออกจากห้องโถงก็เห็นร่างคนสองคนยืนอยู่ข้างหน้า คนหนึ่งถือขวานคู่ด้วยมือสองข้าง ส่วนอีกคนถือดาบเล่มหนึ่ง ทั้งคู่ไม่เกรงกลัวเย่เฟิงสักนิด
“ไอ้หนุ่ม ส่งเงินของแกมาและตัดแขนทิ้งไว้ข้างหนึ่ง แกถึงจะไปได้!” เซวี่ยนเฟิงฝูยิ้มเ็าพลางพยายามขู่ให้เย่เฟิงมอบเงิน ขณะเดียวกันก็บอกให้ชายหนุ่มรู้ว่าชะตากรรมของการทำให้พวกเขาโกรธจะเป็อย่างไร
เย่เฟิงไม่ได้ตั้งใจฟัง เพียงเห็นทั้งสองขวางถนนอยู่ และรู้สึกได้ว่าหลงหว่านเอ๋อร์กำลังไล่ตามมา
ไม่รอดเเล้ว…
‘ถ้าไม่อยากให้ตามทันคงต้อง...’ ชั่วพริบตา เย่เฟิงตัดสินใจควบแน่นพลังชี่ไว้ที่เท้าและแหวนกระบี่ัโบราณ เขาใช้ย่างก้าวไร้เงาเพื่อทิ้งภาพติดตาไว้ด้านหลัง ในเวลาเดียวกัน ประกายกระบี่โบราณสีแดงก็ฉายวาบออกมาจากแหวนที่นิ้ว
เซวี่ยนเฟิงฝูหวาดกลัวเมื่อเห็นเเสงจากกระบี่ เขารีบมองเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านข้าง เห็นหัวของทานหลางเจี้ยนที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีถูกตัดออกไป เืสดๆ พุ่งกระฉูด
มันคือการจู่โจมอันรวดเร็วและรุนแรงของเย่เฟิง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้