“เป็ไปไม่ได้ ดิฉันเพิ่งจะนำผ้าคลุมมาให้พระชายาอยู่เลยนี่คะ” นีร่าทำหน้าตาตื่น เมื่อองค์รัชทายาทเดินมายังปราสาทของชายา ร่างสูงยืนกอดอกมีวิลเลี่ยมยืนอยู่ข้าง ๆ เขา้าที่จะมาเจรจาตกลงถึงการอยู่ในฐานะชายาของเขา แต่ไม่คิดว่านาเซียจะหายตัวไป
“หาทั่วแล้วรึยัง” ลาฟาซตะคอกเสียงดังลั่น มหาดเล็กวิ่งซอยเท้าถี่เข้ามาอย่างระวัง สายตาคมดุปราดมองไปที่ชายชราร่างผอมสูงดูเก้กัง ชายชราก้มหน้างุดลงเพราะไม่กล้าสบตาลาฟาซ วิลเลี่ยมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้แต่จ้องมองนีร่าด้วยสายตาคาดคั้น
“กะ..กระหม่อมตรวจสอบดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเ้าอยู่กันอย่างไร ชายาเราจึงหายไปได้”
“พระชายากล่าวแค่้าเดินเล่นเพียงครู่เพคะ” นีร่าตอบเสียงสั่น นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ได้ ตลอดที่ผ่านมานาเซียมักเฝ้ารอวันนี้มาโดยตลอด นางติดตามท่านหญิงของตระกูลดาร์เรลมาั้แ่อายุสิบสอง เป็ไปไม่ได้ที่นาเซียจะหนีไป วิลเลี่ยมวิ่งออกไปทันทีที่นีร่ากล่าว สวนของปราสาทพระชายาถูกเขาสั่งให้ตรวจสอบโดยเร็ว
“ตามลอร์ดอานิชโตมาพบข้า” ลาฟาซหมุนตัวเดินกลับพร้อมสั่งให้อัศวิน อีกคน ที่มาด้วยเพื่อส่งข่าวไปยังคฤหาสน์ดาร์เรลอย่างเร่งด่วน
อานิชโตรู้สึกไม่สบายใจ เขาเดินไปมาในห้องทำงานหลังถูกสั่งให้อยู่แต่ในคฤหาสน์ตน รวมถึงอารอนเองที่ถูกสั่งระงับการเดินทางกลับ อคาเดมี่หลังจากที่ข่าวว่าบิดาของพวกเขานั้นคิดร่วมมือกับดยุกนิโกลา แม้ทางองค์ราชินีกล่าวว่าจะช่วยเหลือตระกูลดาร์เรลที่เห็นแก่ความจงรักภักดี แต่การส่งหนังสือหย่าให้กับนาเซีย และมอบพิธีอภิเษกกับองค์รัชทายาททำให้ชื่อเสียงของดาร์เรลค่อนข้างดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ถึงกระนั้นประชาชนก็ยังคงสนับสนุนราชวงศ์ต่อไป อานิชโตรอการติดต่อจากนาเซียน้องสาวของเขาเพื่อฟังคำอธิบายเื่นี้ ร่างผอมสูงยืนมองออกไปนอกระเบียงหน้าต่าง อารอนกำลังฝึกซ้อมฟันดาบ เขามีฝีมือที่โดดเด่นหากได้เข้าเป็กำลังกองอัศวินหลวงอนาคตของอารอนต้องดีมาก ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก อานิชโตหมุนตัวมองไปทางประตูพร้อมเปิดออก มีสลาร่าหัวหน้าแม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมกับใครบางคนที่ดูสีหน้าไม่พึงพอใจนัก
“ถวายพระพรอาทิตย์ดวงน้อยแห่งแคลบอร์น” อานิชโตยกฝ่ามือทาบอกซ้ายและโน้มศีรษะลงเล็กน้อย
“นาเซียอยู่ที่ใด” ลาฟาซกระแทกเสียงใส่อานิชโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงาน อานิชโตขมวดคิ้วมุนด้วยความสงสัยก่อนเอ่ยถาม
“นางก็อภิเษกกับฝ่าาแล้ว เหตุใดองค์รัชทายาทจึงมาถามหาที่คฤหาสน์กระหม่อม”
“ไม่ใช่เพราะลอร์ดหรอกหรือที่เอานางไปซ่อน ตระกูลดาร์เรลกำลังถูกสงสัยเื่ที่มอบสิทธิ์การดูแลเหมืองแร่เหล็กให้กับนิโกลา พวกท่านกล้าทำเื่เช่นนี้ได้หรือ”
“ทำไมฝ่าาทรงตรัสเช่นนั้น กระหม่อมไม่ได้ไปร่วมงานอภิเษกพระองค์แท้ ๆ แต่กลับใส่ร้ายว่ากระหม่อมลักพาน้องสาวกระหม่อมไปเช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” แม้อานิชโตกำลังใช้ความคิดความสงสัยในการหายตัวไป ของนาเซีย แต่เขาก็ยังคงกล่าวออกมาอย่างสงบนิ่ง
“ข้าจะให้เวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ดาร์เรลจะต้องนำตัวนางมาให้ได้” ลาฟาซหงุดหงิดจนโมโหเขาสะบัดเสื้อคลุมแรงก่อนจะหันหลังกลับอย่างไม่พอใจนัก อารอนหลบออกก่อนจะวิ่งตรงเข้ามาด้านในห้องทำงานอานิชโตต่อ
“ท่านพี่ หมายความว่าอย่างไรครับ ท่านพี่เซียหายไปอย่างงั้นหรือครับ” อารอนจับแขนอานิชโตแค้นถาม อานิชโตไม่กล้าตอบใด ๆ ออกไปอย่างคาดการ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาเซียในตอนนี้ ไม่รู้ว่านางตั้งใจหายไปหรือถูกลักพาตัวไปกันแน่
~พระราชวังแคลบอร์น~
“องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพบจุดที่คิดว่าพระชายาหายตัวไปแล้ว” วิลเลี่ยมรีบกลับมารายงานเมื่อเขาพบสิ่งหนึ่งที่ด้านหลังสวนของปราสาทพระชายา หินเคลื่อนย้ายที่ตกอยู่เขาคิดว่านาเซียคงใช้สิ่งนี้หลบออกไป
“หินเวทเคลื่อนย้าย มิกาเอลยังงั้นเหรอ” ลาฟาซหยิบหินขึ้นมามองดู แสงของหินเวทถูกใช้ไป
“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ หากดยุกกาบริเอลไม่ใช่ผู้ที่ลักพาตัวพระชายาไป กระหม่อมเกรงอาจเกิดเื่วุ่นวายได้” วิลเลี่ยมรีบปราม เกรงจะเกิดข้อกังขาขึ้น หากอยู่ ๆ ต้องรายงานเื่ที่นาเซียหายตัวไป และบุกไปตามหานาเซียถึงกาบริเอลซึ่งหากนางไม่ได้อยู่ที่นั่นก็เท่ากับว่าราชวงศ์กำลังสงสัยดยุกกาบริเอลนั่นเอง
“งั้นเร่งให้เลดี้เซลีนไปดู นางมีข้อสัญญากับนาเซียย่อมต้องสามารถตรวจตราดูได้” ลาฟาซกล่าวถึงข้อสัญญาระหว่างเซลีน และนาเซียที่ทำขึ้นก่อนเข้าพิธีอภิเษก
-อาณาเขตเวย์มง-
“ไม่...ฉันไม่ได้คิดจะเบี้ยวค่าเดินเรือของพวกคุณนะคะ”
“เหอะ...เ้าคิดว่าพวกเราโง่หรือยังไง ไม่จ่ายก็ต้องไปทำงานชดใช้” ชายร่างใหญ่สองสามคนกำลังยืนล้อมหญิงสาวบอกบาง ท่าทางของนางดูแตกต่างจากผู้คนที่นี่ ทั้งผิวพรรณและหน้าตา นาเซียยืนมองเพียงครู่ก่อนจะย้ำฝีเท้าเข้าไปใกล้กลุ่มชายเ่าั้
“ท่านหญิง..ท่านอยู่นี่เองฉันหาแทบแย่ ท่านไวเคาน์กำลังเป็ห่วงอยู่นะคะ” นาเซียโพล่งออกไปก่อนที่ชายคนหนึ่งหันมามองที่เธอ โชคดีที่เธอสวมชุดเป็สาวชาวบ้านดูกลมกลืนกับชาวเมืองที่นี่แล้ว
“เมื่อกี้นางว่าอะไรนะ ไวเคาน์ งั้นนี่ก็คือท่านหญิงคาทาลินา แห่งไวเคาน์เวย์มง งั้นเหรอ” ชายคนหนึ่งโพล่งขึ้น และเป็อย่างที่เธอ้า
นาเซียเพียงข่มขู่โดยอ้างฐานะของไวเคาน์แห่งเวย์มง เพราะเธอรู้ดีว่าผู้คนชาวเวย์มงต้องไม่คุ้นเคยหน้าตาของท่านหญิงของเวย์มงเป็อย่างแน่นอน เพราะในเนื้อหากล่าวเพียงว่าไวเคาน์เวย์มง มีบุตรทั้งหมดสี่คน โดยบุตรคนเล็กของตระกูลเป็สตรีที่อ่อนแอ และเจ็บป่วยบ่อยทำให้นางไม่สามารถออกมาจากปราสาทได้เลย ทำให้ชาวเมืองเวย์มงส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่เคยเห็นนาง หรือจดจำหน้าตานางได้เลย
“ข้าว่าเราอย่าได้ไปยุ่งเลย หากเกิดอะไรขึ้นไวเคาน์ไม่เอาพวกเราไว้แน่” ชายอีกคนในกลุ่มรีบบอก ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าให้กัน และต่างก็แยกย้ายออกไป
“ขอบคุณนะคะ” เด็กสาวหันมาตอบก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าผ้าเล็ก ๆ ที่ติดตัวมาตกอยู่ด้านข้าง
“ไม่เป็อะไรก็ดีแล้วค่ะ” นาเซียยิ้มตอบก่อนจะหันหลังกำลังที่จะกลับ
“เดี๋ยวก่อนซิคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่อ”
“โซเฟียค่ะ” นาเซียยิ้มตอบอีกครั้ง เธอเปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้ใครจดจำได้ ดูเหมือนเธอจะหลุดออกจากเนื้อหาหลักได้สำเร็จ และดูจากหนังสือพิมพ์ที่ส่งทุก ๆ วันเธอก็ยังคงเห็นว่าเมืองหลวงแคลบอร์น และกาบริเอลก็ยังคงปกติดี มีเพียงข่าวที่ดยุกนิโกลาถูกจับขังไว้ที่คุกใต้ดินของพระราชวังโทษฐานคิดการฏต่อแคลบอร์น และอีเนสลูซี่ก็ได้กลับมาเป็เลดี้อีเนสอีกครั้ง
“ฉันชื่อเอเลนาค่ะ ฉันเพิ่งเคยมาที่อาณาเขตนี้เป็ครั้งแรก”
“งั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้เอเลนาอยู่ที่ไหนคะ”
“กาบริเอลค่ะ” นาเซียเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย
“แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ละคะ”
“ก็หลังจากที่ดัชเชสกาบริเอลได้หนีไปอภิเษกกับองค์รัชทายาทแคลบอร์น ท่านดยุกของเราก็แทบไม่ออกไปไหนจากปราสาทนั่นเลย สัตว์ปีศาจก็เพิ่มมากขึ้น พวกชาวบ้านต่างทนไม่ไหวต้องหลบออกจากอาณาเขตเพื่อไปหาอาศัยที่อาณาเขตอื่น” เอเลนาอธิบาย นาเซียใจเต้นแรง มือเรียวชุ่มช่ำไปด้วยเม็ดเหงื่อหลังจากได้ยินข่าวของมิกาเอล เธอไม่ควรที่จะกลับไปยุ่งกับพวกเขานักหากไม่อยากทำให้เนื้อหาต้องเปลี่ยนไปจากเดิม หรืออาจเกิดแบดเอ็น
“หากเอเลนายังไม่มีที่พัก พักกับฉันก่อนก็ได้ค่ะ” นาเซียรีบเชื้อเชิญ อย่างน้อยนางก็มาจากที่เดียวกัน หากตอนนี้เธอไม่ได้หลบออกมาที่นี่ เอเลนาก็เป็ชาวเมืองของเธอ นาเซียคว้ากระเป๋ามาช่วยถือก่อนจะเดินนำหน้าไป
“ขอบคุณนะคะ” เอเลนากล่าวขอบคุณ