บทที่ 1 : ความตายในห้องสี่เหลี่ยมและปฏิทินปี 38
เสียงเครื่องช่วยหายใจดังเป็จังหวะสม่ำเสมอ ฟู่... ครืด... ฟู่... ครืด... มันเป็เสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
‘รินรดา’ นอนนิ่งอยู่บนเตียง สายระโยงระยางพันธนาการร่างกายที่ผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก วัย 46 ปี... นั่นคืออายุขัยของเธอ แต่วิศวกรสาวผู้เก่งกาจเ้าของฉายา ‘หญิงเหล็กแห่งวงการอุตสาหกรรม’ กลับดูแก่ชราเหมือนคนอายุหกสิบ
ดวงตาที่เคยฉายแววมุ่งมั่นเหม่อมองเพดานสีขาวโพลนด้วยความว่างเปล่า
“คุณรินครับ ญาติ... ยังมาไม่ถึงนะครับ”
เสียงทนายความประจำตัวกระซิบแ่เบาที่ข้างหู รินรดาทำได้เพียงกะพริบตาช้าๆ แทนคำตอบ เธอไม่แปลกใจเลย...
สามีที่เธอทุ่มเททำงานหาเงินเลี้ยงดูเขาและครอบครัวของเขามาตลอด 20 ปี ตอนนี้คงกำลังยุ่งอยู่กับการเซ็นเอกสารโอนมรดก หรือไม่ก็คงกำลังจัดงานฉลองอยู่กับเมียน้อยสักคนที่เขาแอบซุกซ่อนไว้โดยใช้เงินที่เธอหามาด้วยหยาดเหงื่อ
‘โง่... ฉันมันโง่จริงๆ’
น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินออกจากหางตา ไม่ใช่เพราะความกลัวตาย แต่เป็ความเจ็บใจและความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
ภาพความทรงจำสุดท้ายที่เธอนึกถึงไม่ใช่ใบหน้าสามี แต่เป็ภาพงานศพที่เงียบเหงาของ ‘พ่อกับแม่’ ที่เชียงใหม่เมื่อสิบปีก่อน พ่อที่ตรอมใจตายเพราะโรงงานล้มละลาย และแม่ที่ป่วยหนักเพราะไม่มีเงินรักษา ส่วนตัวเธอในตอนนั้น... มัวแต่วุ่นวายกับการแก้ปัญหาหนี้สินให้ครอบครัวสามี จนไม่มีเวลาแม้แต่จะกลับไปดูใจท่านเป็ครั้งสุดท้าย
“ขอโทษนะพ่อ... แม่... รินขอโทษ”
เสียงในลำคอแ่เบาจนแทบไม่ได้ยิน อาการเจ็บแปลบที่หน้าอกแล่นพล่านขึ้นมาฉับพลันเหมือนมีคีมเหล็กขนาดใหญ่บีบหัวใจให้แหลกสลาย
‘ถ้าฉันเลือกได้... ฉันจะไม่เป็วิศวกรที่ซ่อมได้แต่เครื่องจักรแบบนี้’
‘ฉันอยากกลับไปซ่อมชีวิต... ซ่อมหัวใจของพ่อกับแม่...’
‘ขอแค่... โอกาสอีกสักครั้ง’
สัญญาณชีพบนจอมอนิเตอร์ส่งเสียงเตือนยาวเหยียด ร่างกายที่แบกรับภาระมาอย่างยาวนานกระตุกเกร็งเป็ครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงสู่ความมืดมิด
...
...
“กริ๊งงงงงงงงงงง!”
เสียงนาฬิกาปลุกแบบไขลานแผดเสียงดังลั่นจนแก้วหูแทบแตก
รินรดาสะดุ้งเฮือก ลุกพรวดขึ้นนั่งด้วยความใ หัวใจที่ควรจะหยุดเต้นไปแล้วกลับมาเต้นรัวเร็วอีกครั้ง เหงื่อเม็ดโตผุดพรายเต็มหน้าผาก
“แฮ่ก... แฮ่ก...”
เธอหอบหายใจอย่างหนัก มือควานสะเปะสะปะไปที่หัวเตียงเพื่อหากระดิ่งเรียกพยาบาล แต่สิ่งที่มือของเธอััได้กลับไม่ใช่พลาสติกแข็งๆ ของปุ่มกด แต่เป็... ไม้อัด?
กลิ่น... กลิ่นนี้มันไม่ใช่กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แต่เป็กลิ่นแป้งเย็นตรางู กลิ่นไม้เก่าๆ และกลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดที่ลอยจางๆ มาในอากาศ
รินรดาค่อยๆ ลืมตาขึ้นปรับโฟกัส ภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่ไม่ใช่ห้อง ICU
แต่เป็ห้องนอนขนาดเล็กที่มีผนังไม้ทาสีฟ้าลอกๆ หน้าต่างบานเกล็ดเปิดแง้มไว้รับลมยามเช้า บนเพดานมีพัดลมโคจรสีเทากำลังหมุนเอื่อยๆ ส่งเสียง ครืด... ครืด... ที่แสนคุ้นหู
สายตาของเธอเหลือบไปเห็นโปสเตอร์ที่ติดอยู่บนผนัง... รูป ‘เต๋า สมชาย’ ในลุคผมแสกกลาง ใส่เสื้อลายสก๊อต พร้อมลายเซ็นที่เธอเคยบ้าคลั่งสมัยวัยรุ่น ข้างๆ กันคือตู้เสื้อผ้าไม้อัดที่มีสติกเกอร์การ์ตูนติดอยู่เต็มไปหมด
“นี่มัน... ห้องนอนฉันที่เชียงใหม่?”
รินรดาพึมพำกับตัวเอง เสียงของเธอ... ทำไมมันดูเล็กและใสขนาดนี้?
เธอรีบก้มลงมองมือตัวเอง มือที่ควรจะเหี่ยวย่นและเต็มไปด้วยรอยเจาะสายน้ำเกลือ บัดนี้กลับกลายเป็มือเล็กๆ ขาวผ่อง นิ้วเรียวยาวไร้ริ้วรอย แม้แต่แหวนแต่งงานราคาแพงที่นิ้วนางข้างซ้ายก็หายไป
ความตื่นตระหนกแล่นพล่าน เธอตลบมุ้งสายบัวสีชมพูออกแล้วกระโจนลงจากเตียง วิ่งไปที่โต๊ะเครื่องแป้งไม้สักเก่าๆ ตรงมุมห้อง
ภาพในกระจกเงาสะท้อนร่างของเด็กสาวคนหนึ่ง
ผมสั้นเสมอติ่งหูตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอาง ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนก แก้มยังมีสีเืฝาดของวัยสาว ผิวพรรณเต่งตึงเปี่ยมด้วยพลังชีวิต
“ไม่จริงน่า...”
มือเล็กๆ ลูบไล้ใบหน้าตัวเอง ยิกแก้มแรงๆ หนึ่งที “โอ๊ย! เจ็บ... เจ็บจริงๆ ด้วย”
สายตาของเธอเหลือบไปเห็นปฏิทินแบบฉีกรายวันที่แขวนอยู่ข้างกระจก กระดาษใบบางปลิวไหวตามแรงลม ตัวเลขสีแดงตัวใหญ่บนนั้นกระแทกตาเข้าอย่างจัง
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม
พ.ศ. 2538
พ.ศ. 2538... ปี ค.ศ. 1995!
รินรดาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นไม้กระดาน ขาแข้งอ่อนแรง แต่หัวใจกลับพองโตคับอก น้ำตาแห่งความปิติไหลพรากอาบสองแก้ม
เธอย้อนเวลากลับมาแล้ว... กลับมาใน่เวลาที่เธอกำลังจะขึ้นชั้น ม.3
กลับมาใน่เวลาที่พ่อกับแม่ยังอยู่
และที่สำคัญ... กลับมาใน่เวลาก่อนที่วิกฤตครั้งใหญ่ของโรงงานจะเกิดขึ้น!
เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินขึ้นบันไดบ้านไม้ดัง เอี๊ยด... อ๊าด... ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูและเสียงทุ้มที่เธอโหยหามาตลอดสิบปี
“ยัยหนูริน! ตื่นหรือยังลูก วันนี้เปิดเทอมวันแรกนะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก”
น้ำตาของรินรดาไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นยืน สูดหายใจเข้าปอดลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสูดดมกลิ่นอายของ ‘บ้าน’ ที่แท้จริง
“ตื่น... ตื่นแล้วจ้ะพ่อ!” เธอะโตอบเสียงสั่นเครือ
รินรดาคนเก่าที่เป็วิศวกรขี้แพ้ ตายไปแล้วในห้อง ICU ห้องนั้น
นับั้แ่วินาทีนี้เป็ต้นไป... จะมีแต่ ‘รินรดา’ คนใหม่
คนที่จะใช้สมองของวิศวกรระดับท็อป และสองมือคู่นี้... Re-Engineer ชีวิตตัวเอง และปกป้องทุกคนที่เธอรัก ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกต่อไป!
(จบตอน)
คุยกับไรท์
สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน! ߎ頠袠贠虠蔠赠蕠鉠譠虠裠豠蚠誠蹠鈠邠蛠裠造舠聠蕠錠郠諠衠鈠襠鈠負誠踠蔠"Re-Engineer" นะคะ
เปิดเื่มาอาจจะหน่วงๆ นิดหน่อย แต่สัญญาว่าหลังจากนี้จะมีแต่ความมันส์ ความฟิน และความเทพของน้องรินแน่นอน!
ใครชอบแนวสาวย้อนเวลามาโชว์สกิลเทพๆ + บรรยากาศยุค 90 ที่คิดถึง อย่าลืมกด หัวใจ ❤️ และ เก็บเข้าชั้น ߓꠠ造螠跠鈠譠造蛠釠虠聠賠襠豠臠郠舠郠諠鉠鄠裠藠錠蔠鉠觠袠虠谠脠谼/p>
ตอนหน้า... น้องรินจะเจอกับ "ระบบ" คู่ใจแล้ว มารอลุ้นกันว่าระบบจะหน้าตาเป็ยังไง! เจอกันตอนหน้าค่ะ! ߑ뼯p>
