สีหน้าของถังจงเวยเปลี่ยนไปทันใด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเหล่ยถึงพูดเช่นนี้
แต่ยังไม่ทันที่ถังจงเวยจะถาม ก็มีเสียงเกราะเหล็กดังขึ้นมาไม่ไกล
เยว่มู่จือพาองครักษ์จวนเ้าเมืองเดินเข้ามา
เมื่อเย่ว่มู่จื่อได้ข่าวว่าถังเหล่ยมาปรากฏตัวที่ตระกูลถัง เขาจึงนำองครักษ์จวนเ้าเมืองเร่งเดินทางมา
เพราะเยว่มู่จือคิดว่าในเมื่อถังเหล่ยกลับมาได้อย่างปลอดภัย เช่นนั้นตระกูลตงฟางกับตระกูลซินจะต้องพ่ายแพ้แน่
ถังเหล่ยไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่ง แต่ยังมีผู้ช่วยที่ทรงพลังยิ่งกว่า คนคนนั้นคือเด็กสาวยอดฝีมือที่สามารถรับมือกับเยียนหลิงซานได้
ความจริงดูจะไม่ต่างไปจากที่เยว่มู่จือคาดการณ์ไว้มากนัก การต่อสู้ในตระกูลถังจบลงแล้ว ศิษย์ตระกูลตงฟางกับตระกูลซินถูกสังหารจนสิ้น แล้วเยว่มู่จือก็หันไปเห็นศพของตงฟางป้าเทียนที่ขาดครึ่งท่อน
“เ้าเมืองเยว่มาถูกจังหวะจริงๆ นะ”
ถังจงเวยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความไม่เป็มิตร
“ผู้นำถังโปรดเข้าใจด้วย ถึงอย่างไรผู้แซ่เยว่ก็ต้องแบกรับหน้าที่เอาไว้ จึงไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลได้ แต่ยามนี้การต่อสู้จบลง ข้าเลยนำองครักษ์มาช่วยผู้นำถังเก็บกวาดสนามรบ”
เยว่มู่จือรีบกล่าวอธิบาย ที่เขามาในครั้งนี้เพราะ้ามาช่วย ไม่ได้มาหาเื่แต่อย่างใด
ถังจงเวยสงบอารมณ์ลง สีหน้าก็โอนอ่อนลงเล็กน้อย
ในใจของเขาเข้าใจดี ว่าเยว่มู่จือไม่อาจช่วยอะไรได้ อย่างน้อยเขาก็ไม่อาจสั่งการให้องครักษ์จวนเ้าเมืองเข้าจัดการกับตระกูลตงฟาง เพราะหน้าที่ของจวนเ้าเมืองก็คือการรักษาความสงบภายในเมือง
แต่ที่หลังจากจบการต่อสู้ แล้วเยว่มู่จือนำองครักษ์มาเช่นนี้ ความจริงก็แค่คิดจะช่วยตระกูลถัง เพราะเขากังวลว่าตระกูลซินกับตระกูลหวังอาจฉวยโอกาสลงมือ
แต่ในเมื่อตระกูลถังมีองครักษ์จวนเ้าเมืองอยู่เช่นนี้แล้ว ตระกูลซินกับตระกูลหวังคงไม่กล้าลงมือ
ถังจงเวยกวาดมองคนตระกูลถังที่รอดชีวิตมาได้ ครั้งนี้ตระกูลถังได้รับความเสียหายอย่างหนัก ผู้ฝึกตนในตระกูลตายไปเกือบครึ่ง
“เช่นนี้ข้าก็ขอบคุณท่านเ้าเมืองอย่างยิ่ง”
หลังถังจงเวยพูดจบ เขาก็สั่งถังจงชิงไปเก็บกวาดการต่อสู้ในตระกูลถังกับเยว่มู่จือ ภายในจวนมีศพมากมายที่ต้องจัดการ ยิ่งมีบ้านเรือนหนึ่งในสามส่วนของตระกูลถังที่ถูกเผาอีก หากคิดจะสร้างขึ้นใหม่ คงต้องใช้เวลาอีกนาน
“พี่ถังเหล่ย!”
คนตระกูลถังเริ่มขยับเท้า ในกลุ่มคนเ่าั้มีร่างสาวน้อยที่โผเข้ามากอดพี่ชายของเธอเอาไว้
“เฟยเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว เื่มันจบแล้ว”
ถังเหล่ยปลอบโยนถังเฟย และหลินเนี่ยนก็เดินเข้าไปข้างๆ ถังเหล่ยอย่างเงียบๆ
เยว่มู่จือสั่งองครักษ์ให้ไปทำงานร่วมกับถังจงชิง ส่วนตัวเองก็รีบปรี่เข้าหาถังเหล่ยเช่นกัน
“ถังเหล่ย พวกเ้าหนีมาได้เยี่ยงไร? เยียนหลิงซานเล่า เขาเป็อย่างไรบ้าง?”
นี่น่าจะเป็ปัญหาที่เยว่มู่จือสนใจมากที่สุด เยียนหลิงซานไล่ตามทั้งสองคนออกไป แต่ถังเหล่ยกับหลินเนี่ยนกลับมาอย่างปลอดภัยเช่นนี้ เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?
ถังเหล่ยให้ถังเฟยไปหาถังจงเวย ก่อนจะกลับมามองเยว่มู่จือแล้วกล่าวขึ้นว่า
“เยียนหลิงซานถูกข้าฆ่าตายไปแล้ว ข้าจึงกลับมาได้!”
“อะไรนะ!?”
เยว่มู่จือผงะถอยไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ นอกจากในแววตาของเขาจะฉายแววไม่เชื่อแล้ว ยังมีความหวาดกลัวระคนอยู่ด้วย
“เป็ไปได้อย่างไร เป็ไปได้อย่างไร!?”
เยว่มู่จือทำใจเชื่อไม่ลง ทว่าการที่ถังเหล่ยกับหลินเนี่ยนกลับมาได้อย่างปลอดภัยนั้น ก็เป็หลักฐานที่ดีที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเยียนหลิงซานจะปล่อยพวกเขาไปเฉยๆ หรือ? ชัดเจนว่าเป็ไปไม่ได้!
“ไม่มีอะไรเป็ไปไม่ได้ ท่านเ้าเมืองเยว่ไม่ต้องใขนาดนั้น ข้ารู้ว่าท่านกังวลเื่อะไรอยู่ เยียนหลิงซานคือทูตของจักรวรรดิ เขามาตายในเมืองของท่าน จักรวรรดิจะต้องส่งคนมาตรวจสอบแน่ ถึงเวลานั้นเ้าเมืองเยว่ก็แค่อธิบายตามความจริงไปก็พอแล้ว หรือจะเอาความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ข้าก็ได้”
ทูตคนหนึ่งถูกสังหาร อีกทั้งเื้ัของเยียนหลิงซานยิ่งใหญ่ขนาดนั้น จักรวรรดิเทียนอวี่ไม่ส่งคนมาคงแปลก
ถึงเวลานั้นหากเยว่มู่จือเอาเื่ที่เยียนหลิงซานทำ กล่าวออกไปตามความจริง บางทีจักรวรรดิอาจไม่เอาความตระกูลถัง แต่อวิ๋นเมิ่งกับหลินเนี่ยนก็เกี่ยวข้องกับเื่นี้ด้วย ทั้งสองคนอาจจะต้องถูกจักรวรรดิเรียกไปสอบปากคำ
แต่ต่อให้จักรวรรดิพบว่าการกระทำของเยียนหลิงซานนั้นไม่ถูกต้อง และไม่เอาเื่กับตระกูลถัง ทว่าพี่ชายสองคนของเยียนหลิงซานไม่มีทางปล่อยถังเหล่ยไปแน่
“คุณชายถังล้อเล่นแล้ว ข้าเยว่มู่จือไม่ใช่คนรักตัวกลัวตาย สิ่งที่เยียนหลิงซานทำในเมืองอวิ๋นหลิวมีผู้คนเห็นมากมาย สังหารองครักษ์จวนเ้าเมืองไปก็ไม่น้อย หากจักรวรรดิตรวจสอบขึ้นมา ผู้แซ่เยว่ต้องรายงานตามจริงอยู่แล้ว เมื่อเป็เช่นนั้นจักรวรรดิคงไม่สร้างความลำบากใจให้คุณชายถังหรอก”
เยว่มู่จือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เยว่มู่จือคิดว่า หากจักรวรรดิไม่สร้างความลำบากใจให้ถังเหล่ย ก็อาจจะพาตัวถังเหล่ยไปด้วยก็ได้ อย่างไรพร์ของเขาก็สูงส่งเอาการ จะให้เขาอยู่ในเมืองเล็กๆ เช่นนี้คงน่าเสียดายเกินไป
ถังเหล่ยยิ้มพร้อมส่ายหัว เยว่มู่จือคิดง่ายเกินไป
ถ้าเยียนหลิงซานเป็ทูตธรรมดาของจักรวรรดิคนหนึ่ง เช่นนั้นต่อให้ถังเหล่ยสังหารเยียนหลิงซานไป ก็มีหลินเนี่ยน อวิ๋นเมิ่ง และพวกเยว่มู่จือเป็พยานให้ เช่นนั้นจักรวรรดิคงไม่ถามหาความรับผิดชอบจากถังเหล่ย
แต่เื้ัของเยียนหลิงซานทรงพลังอยู่มาก ถึงจักรวรรดิไม่จัดการถังเหล่ย เยียนหลิงเทียนกับเยียนหลิงชวนย่อมลงมือเองแน่ ยังไงถังเหล่ยก็ต้องจากไป
เมื่อถังจงเวยที่อยู่ด้านข้างได้ยินว่าถังเหล่ยสังหารเยียนหลิงซานไปแล้ว
ในใจของเขากลับไม่ได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย ต่อให้ทั้งจักรวรรดิเทียนอวี่้าจัดการถังเหล่ย เขาก็พร้อมยืนอยู่ข้างหลานตัวเองเสมอ
“เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณท่านเ้าเมือง”
ถังเหล่ยกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้เขาจะออกจากเมืองอวิ๋นหลิวไป แต่หากเยว่มู่จือกล่าวตามความจริง ก็มีส่วนช่วยตระกูลถังได้มาก
เยว่มู่จือยังอยากถามสถานการณ์ให้ละเอียด แต่เมื่อคิดอีกทีก็ไม่ได้เอ่ยออกไป
การเก็บกวาดศพในตระกูลถังนั้นยุ่งยากนัก ยังดีที่เยว่มู่จือพาองครักษ์จวนเ้าเมืองมาช่วย ศพคนตระกูลตงฟางกับตระกูลซินที่อยู่ในจวนตระกูลถังล้วนถูกขนออกไปหมด
ส่วนศพของคนตระกูลถังจะถูกฝังไว้ในสุสานตระกูลร่วมกัน
ข่าวตระกูลตงฟางกับตระกูลซินปราชัยกระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว
ตระกูลซินที่ส่งผู้ฝึกตนไปหลายร้อยคน รวมถึงผู้าุโใหญ่อีกคนหนึ่ง ล้วนตายในจวนตระกูลถังจนหมด ผู้นำตระกูลซินก็โมโหมาก แต่หลังจากที่พวกเขาทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์การต่อสู้โดยละเอียด ทุกคนล้วนตกตะลึง
ใน่ท้ายๆ ของการต่อสู้ ถังเหล่ยพุ่งลงมาจากฟ้าพร้อมกับเด็กสาวคนหนึ่ง แค่เวลาหนึ่งก้านธูปพวกเขาก็สังหารคนไปหลายร้อย รวมทั้งตงฟางป้าเทียนด้วย
ด้วยความหวาดกลัวต่อยอดฝีมือลึกลับในตระกูลถัง ตระกูลซินจึงไม่ได้ลงมือแก้แค้นใดๆ กลับกันพวกเขาก็จัดการกับกิจการของตัวเอง และไม่อนุญาตให้ใครไปขัดแย้งกับตระกูลถัง
ตระกูลซินในเมืองอวิ๋นหลิวเป็เพียงสาขาแห่งหนึ่งเท่านั้น ในตระกูลซินที่เป็ตระกูลใหญ่ยังมียอดฝีมือระดับยอดยุทธ์อยู่ เช่นนั้นผู้นำตระกูลซินจึงคิดว่าตระกูลถังคงไม่ลงมือกับตระกูลตัวเองแน่
แม้ตระกูลซินจะทำเป็เหมือนเื่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ผู้ฝึกตนตายไปหลายร้อยคนเช่นนั้น ผู้นำตระกูลซินก็ต้องได้รับโทษจากตระกูลใหญ่
ลำพังตระกูลซินยังสามารถเก็บความเสียหายไว้เงียบๆ ได้ แต่ตระกูลตงฟางนั้นเรียกได้ว่าััได้ถึงหายนะ