พลังภายในแล่นไปทั่วร่างกาย และความเย็นที่เขาััได้ก็หายไปในทันที
“ไม่รู้ว่าทางหอเซียวเหยาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง”
“ก่อนที่พวกเขาจะมา ไปสำรวจคุกกลืนอสูรก่อนดีกว่า”
หลัวเลี่ยมองเข้าไปภายในคุกกลืนอสูร
ในความทรงจำของเขา ไม่มีใครสามารถเข้าไปถึงชั้นในสุดของคุกกลืนอสูรนี้ได้ เคยมีคนที่มีวรยุทธ์ระดับแก่น์คนหนึ่งพยายามเข้าไปสำรวจ แต่สุดท้ายอวัยวะภายใน หรือแม้แต่จุดตันเถียนของเขาก็ถูกความเย็นเข้าปกคลุม หลังจากที่เขาหนีออกไปจากที่นี่ได้ เขาเกือบเข้ารักษาไม่ทัน ผู้มีวรยุทธ์ระดับแก่น์คนนั้นกล่าวว่า เขาอาจยังไปไม่ถึงชั้นกลางของคุกด้วยซ้ำ แม้แต่ผู้มีวรยุทธ์ระดับทลายยุทธ์ก็ยังถือว่าเป็เื่ยากที่จะเข้าถึงชั้นในสุด และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเป่ยสุ่ยมีเพียงระดับวังชะตาเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าชั้นในสุดของคุกกลืนอสูรเป็อย่างไร ที่แห่งนี้จึงถูกใช้เพื่อคุมขังนักโทษเท่านั้น
“ข้าจะลองดูว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน”
หากหลัวเลี่ยไปต่อสู้กับผู้มีวรยุทธ์ระดับแก่น์ เขาอาจถูกโจมตีจนตายได้ด้วยนิ้วเดียว
แต่เขามีความมั่นใจที่จะสำรวจที่แห่งนี้
ความมั่นใจอยู่ที่สมรรถภาพทางร่างกายของเขา เขามั่นใจว่าผู้ที่มีวรยุทธ์ระดับแก่น์ผู้นั้นที่มาจากแคว้นเป่ยสุ่ยอาจไม่ได้ฝึกฝนการใช้พลังกายขั้นสูง ดังนั้นพลังแรงกายของเขาจึงอยู่ในระดับทั่วไป และความสามารถในการเดินไปได้ไกลเท่าไรล้วนขึ้นอยู่กับความแข็งแรงทางร่างกาย
เป็ความจริงที่พลังวรยุทธ์ของเขาไม่ได้มีมากเท่ากับบุคคลระดับแก่น์ผู้นั้น แต่สมรรถภาพทางร่างกายของเขานั้นอยู่ในขั้นดีมาก
ความแข็งแกร่งในลักษณะนี้ สะท้อนให้เห็นผลลัพธ์แล้วในครั้งที่เผชิญหน้ากับหลงนู่ที่ใช้วิชามนุษย์ัร่วมใจ มันเทียบเท่ากับพลังของัในระดับหยินหยาง หลังจากนั้นเขายังใช้เืัมาชำระล้างร่างกายอีก ทำให้อวัยวะภายในได้รับการปกป้อง และสมรรถภาพทางกายก็ได้พัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงต้องลองพิสูจน์พลังทางกายนี้สักครั้ง
หลัวเลี่ยก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเขาเดินไปข้างหน้าสิบกว่าก้าว ก็ััได้ถึงความเย็นที่เพิ่มขึ้นสามถึงสี่เท่า
หนึ่งในสิบส่วนของพลังงานในร่างกายของเขาถูกใช้เพื่อกระตุ้นร่างกายให้อุ่นขึ้น จากนั้นก็ราวกับว่าเซลล์ทั้งหมดในร่างกายของเขาได้รับการฟื้นฟู ปลดปล่อยความร้อนน่าอัศจรรย์ที่สามารถต้านทานความเย็นนี้ได้
เขาทำต่อไป
อาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา และอาศัยเพียงพลังวรยุทธ์ผู้ฝึกตนระดับที่ห้า หลัวเลี่ยเดินต่อไปจนถึงระยะที่ลึกเกือบห้าสิบเมตร
ตลอดทางที่เขาเดินมามีทางเลี้ยวทุกๆ สิบเมตร ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมา
และทุกๆ ทางเลี้ยวนั้นมีโซ่ที่ใช้คุมขังนักโทษปรากฏอยู่ด้วย
หลัวเลี่ยหยุดอยู่ในระยะความลึกห้าสิบเมตร เขามาถึงขีดจำกัดทางร่างกายของตนเองแล้ว
ด้วยพลังภายในร่างกายที่ไหลเวียนถึงขีดสุด และด้วยการสนับสนุนของพลังกายที่แข็งแกร่ง การที่เขามาถึงในจุดนี้ได้ก็นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว
เพียงเจ็ดหรือแปดเมตรข้างหน้าเขามีร่องรอยบางอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็จุดที่ลึกที่สุดที่มีคนเคยสำรวจมา
“สุดท้ายก็ยังไปได้น้อยกว่า”
“ระดับผู้ฝึกตนเดินมาจนใกล้ถึงในระยะที่ระดับแก่น์มาถึง ข้าพูดไปก็คงจะไม่มีใครเชื่อ”
อย่างไรก็ตาม หลัวเลี่ยลืมคิดสิ่งหนึ่ง คนที่มาสำรวจได้เตรียมอุปกรณ์มาอย่างดี เช่นอุปกรณ์ที่สามารถปล่อยอุณหภูมิสูงได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจไม่สามารถเข้ามาได้ลึกถึงขนาดนี้
เขายังไม่ยอมแพ้ หันมองไปรอบๆ
มีทางแยกอยู่ข้างหน้า และมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในสุด
หลัวเลี่ยย่อตัวลง ตรวจสอบโซ่ที่ถูกแช่แข็งบนพื้น
ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไร ก็ยิ่งเย็นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นสิ่งของต่างๆ จึงถูกแช่แข็งได้ง่ายขึ้น แม้แต่อุปกรณ์ที่ให้ความร้อนก็ยังไม่สามารถทนต่อความเย็นในระยะยาวนี้ได้ และถูกแช่แข็งในที่สุด
ความแตกต่างคือ แม้ว่าโซ่อื่นๆ ที่หลัวเลี่ยเคยเจอมาก่อนหน้าจะถูกแช่แข็งด้วยชั้นน้ำแข็งหนาๆ แต่มีเพียงโซ่ที่อยู่ด้านหน้าหลัวเลี่ยเท่านั้นที่บางส่วนไม่ได้ถูกน้ำแข็งปกคลุม และอีกด้านของโซ่อยู่ในกำแพงน้ำแข็ง
หลัวเลี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ต่อยไปที่กำแพงน้ำแข็งนั้น
ตูม!
กำแพงน้ำแข็งแตกออก และเศษซากปลิวว่อน
เขาหันกลับมา และต่อยกำแพงน้ำแข็งฝั่งตรงข้ามด้วยแรงเดียวกัน
กำแพงนี้แตกออก และปรากฏเป็รูเช่นกัน
ความแตกต่างคือ แม้ว่าสถานที่ทั้งสองแห่งนี้จะอยู่ห่างจากด้านในเป็ระยะทางเท่ากัน ััได้ถึงความเย็นเหมือนกัน ใช้แรงต่อยเท่ากัน แต่ขนาดของรูที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาต่อยกลับไม่เท่ากัน
รูบนกำแพงน้ำแข็งที่หลัวเลี่ยสร้างขึ้นตอนแรกนั้นมีความกว้างราวสิบห้าชุ่น ส่วนอีกรูหนึ่งกว้างเพียงสามชุ่นเท่านั้น ช่างแตกต่างกันหลายเท่านัก
เขาก้มหัวลงเพื่อมองดูสายโซ่ที่อยู่ลึกเข้าไปในกำแพงน้ำแข็ง
“คงไม่ใช่ว่ามีคนทำลายโซ่ และเปิดทางหนีออกไปหรอกนะ”
“เห็นได้ชัดว่าคนที่ถูกขังอยู่ในสถานที่แห่งนี้มีความแข็งแกร่งมาก ซ้ำยังหาทางหลบหนีได้ คงไม่ใช่คนที่ธรรมดาเลยจริงๆ”
“เข้าก็เข้า มาดูกันว่าคนคนนี้หนีไปหรือยัง”
หลัวเลี่ยระดมหมัดต่อยเข้าไป
ในที่แห่งนี้ไม่มีสายตาของผู้อื่นค่อยจับจ้อง ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็ต้องซ่อนพลังของ ‘มีัอยู่ในเป้า’
หมัดพญาัประจัญบาน!
เคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินด้านูเา!
เขาใช้พลังทั้งหมดโจมตีอย่างรุนแรง
กำแพงถูกเจาะโดยใครบางคนมาก่อนแล้ว แม้ว่าในภายหลังมันจะถูกความเย็นเข้าปกคลุม แต่กำแพงน้ำแข็งตรงจุดนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่อื่น
หลัวเลี่ยชกมากกว่าหนึ่งร้อยหมัดติดต่อกัน และแล้วชั้นน้ำแข็งก็เปิดออกเป็รูกว้างถึงหนึ่งจั้งครึ่ง
ภายในกำแพงนี้ต่างจากข้างนอกตรงที่อากาศเย็นไม่ผ่านเข้ามาง่ายๆ ยิ่งต่อยเข้าไปลึกขึ้น ยิ่งทำให้เปิดทางได้ง่ายขึ้น
เมื่อเปิดทางเข้าไปได้ยาวกว่าสิบจั้งแล้ว สถานที่ภายในนั้นก็ไม่มืดมนและหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อย
และยังไม่มีชั้นน้ำแข็งอีกด้วย
มีคนเปิดช่องทางหนีจริงๆ
“การตัดสินใจของข้าถูกต้อง”
“คนคนนี้แข็งแกร่งมาก ถ้ากำแพงน้ำแข็งนี้ไม่ได้ถูกชายผู้นี้เจาะทะลุ และได้รับความเสียหายอย่างหนักมาแล้ว ด้วยพลังของข้า ข้าคงไม่สามารถทำลายมันได้ถึงขนาดนี้”
หลัวเลี่ยเข้าไปในทางเดินนั้นซึ่งแคบมาก เขาจึงต้องตะแคงตัวและเดินก้มศีรษะเข้าไป
ข้างในนั้นมืดมาก เขาจึงหยิบไข่มุกราตรีออกมาเพื่อให้แสงสว่าง
ทางเดินนี้ลึกมาก เขาเดินไปเกือบหนึ่งลี้แล้วก็ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด แต่หากเขาเดินไปข้างหน้าต่อไป อาจหมายถึงการหลบหนี
แต่เมื่อเดินมาเข้ามาอีกราวครึ่งจั้ง ก็เกิดจุดหักเลี้ยวกะทันหัน
จุดเลี้ยวนี้เมื่อพิจารณาจากทิศทางแล้ว กลับกลายเป็ว่าภายในนั้นคือทิศทางที่ลึกที่สุดของคุกกลืนอสูร
“หืม?”
“ทำไมคนคนนั้นไม่หนี แต่กลับเข้าไปข้างในแทน”
“หรือว่าความตั้งใจเดิมของเขาคือการสำรวจความลับในส่วนที่ลึกที่สุดของคุกกลืนอสูร ไม่ใช่สิ หากเป็เช่นนั้น ทำไมต้องเจาะเข้าไปลึกกว่าหนึ่งลี้ถึงจะเลี้ยวเข้ามา แค่ครึ่งลี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่นา”
“หรือบางทีเขาอาจค้นพบอะไรบางอย่าง”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลัวเลี่ยก็หันมองไปตามทางเดิน
คราวนี้ยังคงเป็ทางตรง
ขณะที่เดิน เขาก็คิดถึงทิศทางในคุกกลืนอสูรไปด้วย และพบว่าในไม่ช้าเขาก็เข้ามาที่ความลึกสิบห้าจั้งของคุกกลืนอสูรแล้ว
เขาก้าวไปตามทางเดินข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินได้อีกประมาณสี่สิบจั้ง ในที่สุดก็ถึงจุดสิ้นสุด
เขารู้สึกถึงความหนาวเหน็บถึงกระดูกอีกครั้ง
ในที่แห่งนี้เขาไม่พบศพใดๆ เห็นเพียงตัวอักษรที่เลือนรางอยู่บนกำแพง
ใช้ไข่มุกราตรีส่องให้แสงสว่างเพื่อตรวจสอบ
เนื้อหาที่เขียนไว้นั้นง่ายมาก
เป็ข้อความที่ผู้เปิดช่องทางนี้ทิ้งเอาไว้ว่า ข้าคืุ์ที่โดยธรรมชาติแล้วจะต้องตาย ข้าไขว่คว้าหาเส้นทางแห่งชีวิต ท่ามกลางการเสาะหาและการหลบหนี ใจของข้าทราบดี ณ คุกกลืนอสูรแห่งนี้ มีความลับอันยิ่งใหญ่ที่สามารถมอบชีวิตใหม่ให้ข้าได้ คนที่มองหาโอกาสเช่นเดียวกับข้า คนที่ไม่อยากถูกหักหลังด้วยยาพิษจนถอนตัวไม่ขึ้น หากมีคนเช่นนี้ ข้าขอฝากข้อความพิเศษถึงผู้ที่ถูกลิขิต ข้าเปิดช่องทางเดินด้วยทักษะลับพิเศษ ไม่ว่าจะไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของคุกกลืนอสูรได้หรือไม่ ข้าจะพยายามจนถึงที่สุด หากไม่สามารถไปถึงได้ การเปิดสถานที่อันลึกลับที่สุดในแคว้นเป่ยสุ่ยนี้ ขอฝากไว้กับเ้าแล้ว
อักษรบางตัวหลังจากนั้นเลือนรางเกินกว่าจะอ่านได้ อักษรบางคำแทบจะไม่สามารถถอดรหัสได้ ดูเหมือนเขาหวังว่าจะมีใครบางคนที่มีโชคชะตามาแก้แค้นและสานต่อสิ่งที่เขาทำ แต่อักษรก็ถูกทำลายไปแล้วบางส่วน จากผลกระทบของพลังที่เกิดขึ้นเมื่อเขาใช้ทักษะลับของเขา ทำให้ไม่สามารถอ่านได้เลย
หลัวเลี่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนคนนี้ช่างน่าสงสาร
เดิมทีเขาสามารถรอดจากความตายได้ และโอกาสนั้นก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่กลับต้องตายด้วยยาพิษ
ในทางกลับกัน หลัวเลี่ยอยู่เพียงระดับผู้ฝึกตน เดิมทีแล้วเขาไม่มีแม้ความหวังที่จะสำรวจความลับของคุกกลืนันี้ได้เลย แต่เขากลับได้รับโอกาสจากช่องทางนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้