ดวงตาคมเหลือบมองรถ แล้วหันมาถามลุงเบิ้มด้วยความสงสัย จากนั้นนิโกรวัยลุงรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อสูทสีเทาก้าวลงมาจากรถ
“อ๋อ… นั่นแหละนายของผม ว่าแต่มาทำไม”
ลุงเบิ้มไขข้อสงสัยของชบาแล้วหัวคิ้วของตัวเองก็ต้องขมวดชิดเข้าหากัน สงสัยว่าผู้เป็นายแวะมาทำไม
“นาย… หมายความว่าผู้ชายคนนี้เป็เ้านายของลุงเบิ้มหรือจ๊ะ… ”
ชบาถามต่อให้สิ้นสงสัย…
พอดีกับนิโกรตัวใหญ่เดินเข้ามาถึงบริเวณที่สองคนกำลังยืนคุยกัน
“สวัสดีครับไมเคิล… ”
ลุงเบิ้มเอ่ยทักนิโกรตัวใหญ่สะดุดตา เรียกชื่อสั้นๆ ว่า ‘ไมค์’ จนติดปาก ชื่อจริงของชาวต่างชาติคนนี้คือ ‘ไมเคิล’
“สวัสดีครับลุงเบิ้ม… พอดีผมผ่านมาก็เลยแวะมารับลุงติดรถไปด้วย… ”
ไมเคิลรู้ว่าลุงเบิ้มกำลังจะเดินทางไปเข้ากะ เพราะทุกวันนี้แกทำหน้าที่ยามอยู่หน้าตึกแถวที่เช่าเป็ออฟฟิศของตน ไมเคิลจึงแวะมารับเพราะวันนี้บังเอิญขับรถผ่านมาทางนี้พอดี
“ขอบคุณครับนาย… ”
ลุงเบิ้มยกมือไหว้ไมเคิล…
แกเรียกเ้าของออฟฟิศในตึกแถวที่รับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยว่านนายทุกคน ซึ่งเ้าของโครงการคือคนที่จ้างลุงเบิ้มมาเป็ยาม
“แต่ผมยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยครับ… นายรอสักครู่ได้ไหม… ”
ลุงเบิ้มรู้สึกเกรงใจ
“ได้… ตามสบายผมไม่รีบ”
ไมเคิลกล่าวกับลุงเบิ้ม…
แต่ทว่าสายตาจับจ้องมองชบาด้วยความสนใจ ลุงเบิ้มเห็นท่าทางของผู้เป็นายก็รู้ว่ากำลังตะลึงในความงามของชบาเข้าแล้ว ซึ่งก็เป็เื่ธรรมดาเมื่อใครได้เจอชบารับรองต้องมองเป็ตาเดียวกัน
“นายครับนี่ชบา… เป็เพื่อนข้างห้องของผม”
ลุงเบิ้มแนะนำแม่ลูกอ่อนคนงาม
“สวัสดีครับชบา… ”
ไมเคิลรีบทัก…
รีบฉวยนาทีทองเพื่อสานสัมพันธ์กับหล่อน เขาพูดภาษาไทยได้คล่องเพราะว่าอยู่เมืองไทยมานาน
นับจากวันแรกที่เข้ามาทำธุรกิจรับซื้อขายพลอยที่จันทบุรีมาถึงตอนนี้ก็ห้าปีกว่า จึงไม่แปลกที่ไมเคิลสามารถพูดภาษาไทยเก่งมาก
“สวัสดีค่ะ… ชบาค่ะ”
หล่อนกล่าวยิ้มๆ…
“ครับ… ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ไมเคิลยื่นมือมาขอจับมือ…
ชบายื่นมือออกมาจับ เขาบีบกุมมือหล่อนเบาๆ…
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดชบาจึงรู้สึกสะท้านวาบเข้าไปถึงหัวใจ ตาจ้องมองท่อนแขนกำยำที่มีเส้นเืกระจายเป็สายเหมือนรากไม้ปูดโปนเป็ริ้ว
ชายคนนี้เป็นิโกรที่หล่อมาก…
อายุน่าจะไม่เกินห้าสิบปี หนวดเคราเหนือริมฝีปากและที่ปลายคางยิ่งทำให้ใบหน้าคมคร้าม เขามีรอยยิ้มที่อบอุ่น แม้ประกายในแววตาจะแฝงความร้อนแรงบางอย่างที่ชบารู้สึกได้
และในระหว่างที่กำลังรอลุงเบิ้มเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็เครื่องแบบยาม ไมเคิลก็ถือโอกาสทำความรู้จักกับชบาไปพลาง
“ลูกคุณอายุกี่ขวบแล้วครับ… ”
ไมเคิลถามเมื่อรู้ว่าชบาเป็แม่ลูกอ่อน
“หนึ่งขวบแล้วค่ะ… ”
ชบาตอบ…
จากนั้นไมเคิลถามถึงครอบครัวหล่อน ซึ่งชบาก็เล่าให้ฟังอย่างไม่คิดจะปิดบังว่าตอนนี้หล่อนเลี้ยงลูกลำพังเพราะสามีติดคุก
“ผมเสียใจด้วยนะครับเื่สามีคุณ… ”
น้ำเสียงของไมเคิลอ่อนโยน…
เขารู้สึกสงสารหล่อนจากใจจริง เมื่อรู้ว่าชบาเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวลำพัง
มีจังหวะหนึ่งลูกชายของชบาตื่นขึ้นมาร้องอ้อน เขามองดูหล่อนอุ้มลูกด้วยความรัก นึกชื่นชมในความเป็แม่ของชบา
และจังหวะหนึ่งเขาเห็นหล่อนควักนมออกมาป้อนให้ลูกชายดูด
“อู้ววว… ”
ไมเคิลถึงกับเผลอร้องอุทานออกมา เต้านมของชบาอวบคัดและใหญ่มหึมามาก แม้เขาพยายามจะไม่มองเพราะรู้ว่าเสียมารยาท แต่ด้วยความใหญ่ของเต้านมก็ทำให้มันล้นออกมาจากเสื้อตอนที่หล่อนเอี้ยวตัวประคองศีรษะของลูก
ไม่น่าเชื่อว่าภาพของแม่ที่กำลังป้อนนมลูกด้วยความอ่อนโยนละเมียดละไม จะปลุกสัญชาตญาณอันมืดดำในใจของไมเคิล มันทำให้แก่นกายใหญ่ยาวพองขยายเป็ลำแน่นอยู่ในกางเกงเพราะรู้สึกมีอารมณ์
“ผมเสียใจอีกครั้งนะครับเื่สามีของคุณ”
“ไม่เป็ไรค่ะ… ขอบคุณค่ะ”
ชบาตอบ…
ถ้าเป็เมื่อก่อนชบาคงเศร้า แต่ถึงตอนนี้ความทุกข์ก็ช่วยสอนให้หล่อนเข้มแข็ง กัดฟันยืนหยัดขึ้นมาสู้ด้วยลำแข้งของตัวเองจนถึงวันนี้
“คุณสนใจจะทำงานกับผมไหมครับ… ”
ไมเคิลรู้ว่าชบาต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพียงลำพัง แม้จะมีผัวแต่ก็เหมือนเป็หม้าย
เพราะว่าสามีหล่อนโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต โอกาสที่จะได้ออกมาใช้ชีวิตแบบผัวเมียร่วมกันอีกคงยาก
“งาน… เอ่อ… งานอะไรคะ… ”
ชบาแสดงทีท่าว่าสนใจ
“ตอนนี้ผม้าแม่บ้านครับ… ”
“ค่ะ… ต้องทำอะไรบ้างคะ… ”
“ทำงานแม่บ้านครับ ช่วยงานที่ออฟฟิศผมครับและบางวันอาจจะต้องช่วยงานที่บ้านผมด้วย… ”
ไมเคิลมีบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ซื้อไว้ย่านบางนา ตอนนี้เขาอาศัยอยู่คนเดียว
“สนใจค่ะ… ”
ชบาดีใจ…
สาเหตุที่หล่อนรีบตอบเหมือนกลัวว่าถ้าขืนตอบช้าไมเคิลอาจเปลี่ยนใจ เพราะว่าตอนนี้หล่อนกำลังเดือดร้อน้าเงินเพื่อมาเลี้ยงดูลูกที่ยังเล็กนัก
ชบาคิดว่างานแม่บ้านก็ดีนักหนาแล้ว…
สำหรับคนที่เรียนจบแค่การศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างหล่อน
“ผมจะให้เงินเดือนคุณสองหมื่น… ”
“อะไรนะคะ… ”
ชบานึกว่าตัวเองหูฝาด…
เงินสองหมื่นนั้นเยอะมากสำหรับหล่อน
“แต่คุณคงต้องเข้าไปดูที่ทำงานก่อน… ตอนนั้นผมจะได้คุยรายละเอียดกับคุณ… ”
ไมเคิลนัดแนะ…
“ได้ค่ะ… ได้… งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปนะคะ”
ชบาไม่ลังเลที่จะรับปาก…
จากนั้นไมเคิลก็ให้นามบัตรที่มีเบอร์โทรศัพท์ และไม่ลืมที่จะแลกเฟสฯ แลกไลน์เอาไว้ติดต่อกัน
ตอนค่ำของวันเดียวกันนั้น
หลังจากชบาให้นมลูกจนหลับคาอก หล่อนเปลี่ยนเสื้อผ้ามาอยู่ในชุดผ้าถุงลายดอกกระโจมอก เพราะคิดว่าอีกประเดี๋ยวจะอาบน้ำ
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
เสียงหลังมือที่เต็มไปด้วยเส้นเืปูดโปนกระทบกับแผ่นไม้บานไม้ประตูห้องพัก เรียกให้ชบาก้าวเดินมาเปิดประตู