ถังเหล่ยรู้จักสมบัติชิ้นนี้ดี เพราะในชาติที่แล้ว เขาใช้สมบัติชิ้นนี้ทำให้ิญญายุทธ์ของตัวเองทะลวงระดับนภาได้
และเ้าของตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาชิ้นนั้นก็คือราชันตง
ราชันตงรับถังเหล่ยเป็บุตรธรรม เพื่อเอาใจถังเหล่ยจึงใช้ตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาช่วยเพิ่มระดับิญญายุทธ์
แต่ตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาที่แม้แต่ราชันตงยังเห็นเป็สมบัติล้ำค่า กลับปรากฏในห้องลับของตระกูลถังที่เล็กจ้อยในดินแดนอันห่างไกลนี้ได้เช่นไร
ถังเหล่ยไม่เชื่อว่าตระกูลถังจะสามารถชิงสมบัติมาจากราชันตงได้ เช่นนั้นมีความเป็ไปได้เพียงอย่างเดียว ตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญานี้ไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียว
“ิญญายุทธ์ของข้ากับจวินหาวล้วนทะลวงระดับปฐีได้สำเร็จ เพราะการช่วยเหลือของสมบัติชิ้นนี้!”
ถังจงเวยถือสมบัติชิ้นนั้นออกมาอย่างระมัดระวัง กระจกแก้วสีทองเปล่งแสงงดงามสะท้อนความตื่นเต้นในดวงตาของถังเหล่ย
“ท่านปู่ สมบัติชิ้นนี้มีประโยชน์อะไรหรือ!?”
ถังเหล่ยแกล้งทำเป็ไม่รู้จัก และถามด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆ นี่เป็ถึงสมบัติอัศจรรย์ที่สามารถเพิ่มระดับิญญายุทธ์ได้ ในกระจกนี้จะควบรวมเป็ของเหลวสีทองออกมาเอง ขอเพียงดื่มมันอย่างต่อเนื่องจะทำให้ิญญายุทธ์ทะลวงระดับได้!”
ถังจงเวยแนะนำสมบัติชิ้นนี้และวิธีใช้มันด้วยความภาคภูมิใจ
เมื่อถังเหล่ยได้ยินว่าถังจงเวยดื่มของเหลวในนั้นโดยตรงก็ตะลึงอ้าปากค้างทันใด เขามองถังเหล่ยด้วยสายตาเหลือเชื่อ
‘นี่มันสิ้นเปลืองเกินไปแล้วกระมัง ถ้าราชันตงรู้เข้าคงเจ็บใจน่าดู’
ต้องให้ิญญายุทธ์ดูดซับของเหลวในตะเกียงแก้วโดยตรง จึงจะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุด แต่หากผู้ฝึกตนดื่มเข้าไปตรงๆ ผลลัพธ์ที่ได้จะเหลือไม่ถึงหนึ่งในหมื่น!
แต่ต่อให้เป็เช่นนี้ ิญญายุทธ์ของถังจงเวยกับถังจวินหาวก็ยังเพิ่มระดับถึงระดับปฐีได้
ช่างเสียดายสมบัติชิ้นนี้จริงๆ!
วิธีของถังจงเวยไม่ต่างกับการเอาเงินไปเผาแทนฟืนชัดๆ ถึงแม้จะทำให้อบอุ่นได้ แต่ก็ฟุ่มเฟือยจนเ็ปใจเช่นกัน
ถ้าถังจงเวยรู้วิธีใช้สมบัติที่ถูกต้อง เกรงว่าตระกูลถังคงไม่มาอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้หรอก คงกลายเป็ขั้วอำนาจอันดับหนึ่งในจักรวรรดิเทียนอวี่ไปแล้ว
“ว้าว ในโลกนี้มีสมบัติมหัศจรรย์เช่นนี้ด้วย? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันสามารถเพิ่มระดับของิญญายุทธ์ได้จริงหรือ”
ถังเหล่ยปวดใจมาก แต่เขายังแกล้งทำเป็ไม่รู้ประสา
“ฮ่าๆ ในโลกกว้างใหญ่ใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็ไปไม่ได้ การควบรวมของเหลวในตะเกียงแก้วนี้เชื่องช้ามาก สิบปีถึงจะควบรวมออกมาได้แก้วเล็กๆ แก้วหนึ่ง ของเหลวที่ควบรวมได้เมื่อสิบปีที่แล้วถูกจวินหาวดื่มไปแล้ว ครั้งนี้เพิ่งควบรวมได้สามปี ข้าตัดสินใจเก็บมันไว้ให้เ้าใช้!”
แค่ก...
ถังเหล่ยเกือบสำลักน้ำลายออกมา ‘สิบปีเลยหรือ?’
ในชาติที่แล้วของเหลวเลี้ยงิญญาที่ราชันตงมอบให้ถังเหล่ยอย่างมากที่สุดก็มีอายุเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ถังจวินหาวถึงกับกินของเหลวเลี้ยงิญญาที่ควบรวมมาเป็สิบปี ต่อให้เป็ราชันตงก็ไม่ฟุ่มเฟือยขนาดนี้กระมัง?
“ขอบคุณท่านปู่!”
ถังเหล่ยสะกดความตื่นเต้นไว้ในใจ ของเหลวเลี้ยงิญญาสามปีนี้คือสิ่งที่ราชันยุทธ์และจ้าวยุทธ์ทั้งหลายได้แต่ใฝ่ฝันถึง ตอนนี้กลับตกมาอยู่ในมือของถังเหล่ยแล้ว
“อีกไม่นานก็จะถึงงานแข่งขันหวู่เต้า หากตระกูลถังของเราคิดจะเรียกคืนศักดิ์ศรีกลับมาอีกครั้งก็ต้องใช้งานประชุมครั้งนี้ช่วย ตระกูลอื่นเองก็คงจะใช้งานนี้จัดการกับพวกเราแน่ เหล่ยเอ๋อร์่นี้พลังของเ้าเพิ่มขึ้นมาก ถ้าใช้ของเหลวในแก้วนี้จะต้องสามารถคว้าชัยชนะมาได้แน่!”
ถังจงเวยกล่าวอย่างมั่นใจ
“ถังเหล่ยจะไม่ทำให้ท่านปู่ผิดหวัง!”
ถังเหล่ยไม่ละสายตาจากตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาเลย ถ้าดูดซับของเหลวเลี้ยงิญญาในนั้นจนหมด เขาคงจะทำให้ผู้ฝึกตนรุ่นเดียวกันทั้งหมดในเมืองนี้ ไม่สิ! ผู้ฝึกตนทุกคนที่ระดับต่ำกว่าผู้ทรงทรงยุทธ์ในเมืองนี้ถูกตบจนฟันร่วงหมดปากแน่
จากนั้นถังจงเวยก็สั่งถังเหล่ยอีกไม่กี่คำ แล้วทิ้งถังเหล่ยเอาไว้ในห้องคนเดียว
ไข่มุกราตรีส่องแสงกระจ่างออกมา เมื่อรวมกับแสงจากตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญา ก็ส่องให้เห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของถังเหล่ย
ถังเหล่ยนั่งลงบนฟูก จ้องสมบัติด้านหน้าและจมจ่อในความคิดอีกครั้ง
ตอนนี้ระดับของเขายังต่ำเกินไป ถ้าดูดซับของเหลวเลี้ยงิญญาสามปีนี้เข้าไป อย่างมากก็ดูดซับพลังงานได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น พลังงานที่เหลือล้วนเสียเปล่า
ถังเหล่ยลังเลเล็กน้อย เขาอยากเก็บพลังงานด้านในเอาไว้ใช้ทีหลัง
บนร่างของเขามีแก่นอสูรสามเม็ดเป็แก่นอสูรระดับสามหนึ่งเม็ด แก่นอสูรระดับสองอีกสองเม็ด
ถ้าหลอมกลั่นแก่นอสูรจนบริสุทธิ์ก็น่าจะเก็บพลังงานในตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญานี้ได้ นี่ถ้าไม่ได้เขา สมบัติชิ้นนี้คงเสียของไปอีก
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ถังเหล่ยก็เอาแก่นอสูรออกมาและเริ่มหลอมกลั่นมัน
หนึ่งชั่วยามผ่านไป สองชั่วยามผ่านไป เมื่อท้องฟ้าทางทิศตะวันออกกำลังทอแสงสีแดง อัญมณีโปร่งใสสามก้อนก็ปรากฏต่อหน้าถังเหล่ย
เขาเอาพลังงานของเหลวในตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาใส่เข้าไปในอัญมณี ถึงถังเหล่ยไม่เคยทำเื่เช่นนี้มาก่อน แต่ตามหลักแล้ว เมื่อแก่นอสูรกลายเป็อัญมณีพลังิญญาฟ้าดินที่บริสุทธิ์ ก็น่าจะสามารถเก็บพลังงานของเหลวในตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาได้
การเก็บพลังงานของเหลวราบรื่นกว่าที่ถังเหล่ยคิดเอาไว้มาก ไม่นานอัญมณีสีทองสามก้อนก็ปรากฏในมือของเขา อัญมณีนี้เปล่งประกายราวกับเพชร ทั้งยังมองเห็นของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้มีของเหลวที่เหลืออยู่ในตะเกียงแก้วเลี้ยงิญญาไม่ถึงหนึ่งในห้าส่วน
ถังเหล่ยไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะการเพิ่มพลังไม่ใช่สิ่งที่อยากทำก็ทำได้ทันที หากระดับพลังของเขาสูงขึ้น ของเหลวเลี้ยงิญญาก็จะแสดงประสิทธิภาพได้มากขึ้น
เขาโคจรปราณแท้ในร่างกาย พลังสีทองตรงจุดตันเถียนเริ่มหมุนวนอย่างต่อเนื่อง
ถ้าถังเหล่ยทะลวงระดับผู้ทรงยุทธ์แล้ว ก็สามารถใช้ปราณแท้เชื่อมต่อกับของเหลวเลี้ยงิญญาได้ แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงเอานิ้วจิ้มไปในตะเกียงแล้วใช้พลังสีทองควบรวมไว้ในนิ้วมือเพื่อดูดซับของเหลวเลี้ยงิญญา
ถึงแม้ท่าทางจะแปลกประหลาดไปบ้าง แต่ประสิทธิภาพดีกว่ากินลงไปโดยตรงหลายร้อยเท่า
ภายใต้การชี้นำของพลังสีทอง ของเหลวเลี้ยงิญญาก็ซึมซับเข้าไปในร่างกายของถังเหล่ย ปริมาณของเหลวในตะเกียงค่อยๆ ลดลง
ในร่างของถังเหล่ย ของเหลวเลี้ยงิญญากลุ่มหนึ่งไหลตามพลังสีทองอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดก็เข้าไปในตันเถียนของถังเหล่ย
ตูม!
ผิวกายของถังเหล่ยปรากฏแสงทองชั้นหนึ่งในเสี้ยววินาที ัคชสารสีทองที่อยู่ในตันเถียนของถังเหล่ยดูดซับของเหลวเลี้ยงิญญาเข้าไปโดยตรง
จากนั้นร่างกายของัคชสารก็ใหญ่ขึ้นระดับหนึ่ง เกล็ดสีทองบนร่างเข้มขึ้นอย่างชัดเจน ในเวลาเดียวกันเขาัคู่นั้นก็ยาวขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
หลังจากที่ิญญายุทธ์เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว ปราณแท้ในร่างของถังเหล่ยก็ได้รับพลังงาน ทำให้ระดับพลังของเขาไปถึงจุดสูงสุด
“ทะลวงระดับแล้วหรือ?”
ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งอย่างง่ายดาย ทำให้ระดับของถังเหล่ยเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
แต่ถังเหล่ยยังคงอยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์ พลังสีทองในร่างกลับมาในจุดตันเถียนอีกครั้ง แสดงว่าถังเหล่ยยังไม่ได้ทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์
“นี่มันระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สิบสอง ระดับผู้ฝึกยุทธ์ปกติล้วนมีแค่สิบขั้น ข้าไม่เคยได้ยินว่าใครมีสิบสองขั้นมาก่อน หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับิญญายุทธ์สีทองกับเคล็ดวิชาัคชสารกันหรือนี่?”
ถังเหล่ยคิดว่าเมื่อมีของเหลวเลี้ยงิญญานี้ การทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์น่าจะเป็เื่ง่าย แต่คิดไม่ถึงว่าจะทะลวงระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบสองแทน ใช่ว่าเขาจะท้อแท้ ในดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ
ระดับผู้ฝึกยุทธ์คือระดับแรกของผู้ฝึกตน ยิ่งรากฐานมั่นคง ความสำเร็จในอนาคตก็ยิ่งสูงขึ้น ระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบสอง นี่อาจทำให้ถังเหล่ยนำหน้าคนอื่นในระดับผู้ฝึกยุทธ์ไปไกล บวกกับิญญายุทธ์สีทองและวิชาท้าทาย์อย่าง ‘เคล็ดวิชาัคชสาร’ จินตนาการได้เลยว่าความสำเร็จของถังเหล่ยในชาตินี้จะต้องเหนือกว่าชาติก่อนเป็แน่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้