ครั้นได้ยินหานรุ่ยพูดถึงเื่วิกฤตที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ท่านเ้าเมืองตอนนี้ เซ่าเจี้ยนหลิ่นและหยุนจิ่นก็ระมัดระวังตัวมากขึ้นทันที พวกเขาไม่รู้ว่า หานรุ่ยได้ยินเื่ราวของตระกูลเซ่ามาจากที่ใด และจุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาที่นี่คืออะไร เพราะมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เื่ของเซ่าหานอี้ และเื่นี้ก็ไม่น่าแพร่ไปไกลจนถึงเมืองอวี้หวาได้
หานรุ่ยเห็นทั้งสองคนดูมีท่าทีระมัดระวังตัวมากขึ้น ก็พลันเอ่ยขึ้นว่า “ท่านเ้าเมืองเซ่าและท่านลุงหยุน พวกท่านไม่ต้องตื่นใไป เราไม่ได้มีเจตนาร้าย พวกท่านโปรดฟังเราพูดให้จบก่อน”
หานรุ่ยกล่าวต่อ “ท่านลุงหยุนทราบใช่ไหมว่า ตอนที่ข้าาเ็หนัก จนไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้นั้น ท่านปู่ได้เชิญทั้งเย้าซือ [1] หลายคน และเย้าตาน [2] มา เพื่อให้พวกเขามาตรวจอาการาเ็ของข้า ทุกคนต่างบอกเป็เสียงเดียวกันว่า อาการาเ็ของข้าไม่อาจรักษาให้หายได้ แต่พวกท่านดูข้าในตอนนี้สิ ไม่เพียงแค่ฟื้นตัวได้แล้วเท่านั้น แต่ข้ายังสามารถกลับมาบำเพ็ญเพียรได้เหมือนเดิมด้วย”
หานรุ่ยหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เพื่อสังเกตความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา และกล่าวต่อไปว่า “นั่นเป็เพราะตอนที่ข้าออกมา ข้าได้เผอิญพบกับเย้าซือที่เก่งกาจผู้หนึ่ง เขาให้ยาิญญากับข้า พอข้าได้ดื่มยานั้น ข้าก็ฟื้นตัวในทันที อีกทั้งเขายังให้ยาิญญากับข้ามาอีกหลายชนิด ทุกชนิดล้วนเป็ยาที่เขาปรุงขึ้นมาใหม่เองทั้งนั้น เขาบอกว่า ที่เขามอบยาให้ข้า ก็เพื่อตอบแทนที่ข้าทดลองยาให้เขา โดยหนึ่งในยาิญญาเ่าั้ มียาที่สามารถรักษาโรคเรื้อรังของท่านเ้าเมืองเซ่าและช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้” หานรุ่ยเหลือบมองสีหน้าประหลาดใจของคนทั้งสองที่กำลังตั้งใจฟัง เขากล่าวต่อไปว่า “ข้าไม่ได้มาที่นี่ เพื่อให้ท่านเ้าเมืองเซ่าทดลองยาหรอกนะ เพราะข้าทดลองมาพอแล้ว เรามีสหายอยู่คนหนึ่งที่มีปัญหาด้านนี้เช่นกัน พอได้ดื่มยานั้น เขาก็ดีขึ้นทันที” หานรุ่ยจ้องมองเซ่าเจี้ยนหลิ่นและหยุนจิ่นด้วยจิตใจที่มาดมั่นและแข็งขัน เขารอคอยคำตอบจากเซ่าเจี้ยนหลิ่นและหยุนจิ่น เขาเชื่อว่า เซ่าเจี้ยนหลิ่นเป็คนฉลาดและรู้วิธีในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
“ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับยาิญญาชนิดนี้มาก่อนเลยล่ะ?” หยุนจิ่นเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจังพลางคิดไตร่ตรองไปด้วย เขาเชื่อคำพูดของหานรุ่ย เพราะอาการาเ็สาหัสของหานรุ่ยสามารถรักษาให้หาย จนกลับมาฟื้นตัวได้ แสดงว่า ยาิญญาของเย้าซือที่หานรุ่ยเอ่ยถึง จะต้องมีสรรพคุณที่ดีเยี่ยมเป็แน่ อาจเป็ไปได้ว่า ยาิญญานี้จะพัฒนาออกมาใหม่ดังที่หานรุ่ยกล่าว อย่างไรก็ตามตัวเขาเองก็อยากจะลองใช้ยานี้ดูสักครั้ง
“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ว่า ยานี้เป็ยาใหม่ เย้าซือท่านนั้น เป็คนลึกลับมาก เขาไม่เคยค้าขายยามาก่อน ข้าพบกับเขาโดยบังเอิญ เขาบอกว่า เขามียาที่รักษาข้าให้หายขาดได้ เพียงแต่เขาไม่เคยทดลองยากับคนจริง ๆ เขาถามข้าว่า ข้ากล้าดื่มไหม ครานั้นข้าพยักหน้าตกลง เขาจึงให้ยาิญญากับข้ามาหลายขวด และบอกอีกว่า ยาชนิดอื่นที่เหลือ ถือว่าให้ข้าเป็ของตอบแทน พอข้าพบยาที่เขาบอกว่า จะรักษาอาการาเ็ของข้าได้ ข้าก็ดื่มอย่างไม่ลังเล ข้าไม่คิดเลยว่า พอข้าได้ดูดซับพลังจากยาของเขา อาการาเ็ของข้าก็ดีขึ้นทันตา ทั้งยังสามารถกลับมาบำเพ็ญเพียรได้อีกครั้งด้วย” หานรุ่ยพูดขึ้น เขารู้ดีว่า ข้ออ้างที่เขาโกหกไปนั้น อาจจะหลอกลวงหยุนจิ่นและเซ่าเจี้ยนหลิ่นไม่ได้ แต่หานรุ่ยเชื่อว่า พวกเขาจะไม่ตามสืบความจริงหรอก เพราะพวกเขาสนใจแค่ประสิทธิภาพของยาเท่านั้น
หลังจากที่เซ่าเจี้ยนหลิ่นได้ฟังหานรุ่ยพูดถึงเื่โรคเรื้อรังของเขา ใบหน้าของเขาก็ดำทมิฬราวกับก้นหม้อที่ไหม้ ทว่าเขาก็ยังรับฟังอย่างอดทน หลังจากที่ได้ฟังจนจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “แล้วเงื่อนไขล่ะ ถ้าเ้าให้ยาิญญากับข้า เราจะต้องจ่ายเท่าไหร่”
จุนห่าวทำหน้าที่เป็กองหนุนที่แข็งขัน เมื่อเห็นว่า ทุกอย่างเป็ไปตามที่หานรุ่ยวางแผนไว้ อีกทั้งเมื่อเห็นหานรุ่ยกล้าขอพบกับเซ่าเจี้ยนหลิ่นตรง ๆ เช่นนี้ เขาจึงกล่าวตรง ๆ เช่นเดียวกันว่า “พวกเรา้าตัวจางหนิง... แบบที่ยังมีชีวิตอยู่”
“พวกเ้าไม่กลัวว่า ข้าจะแย่งยาจากพวกเ้ามาเลยรึ พวกเ้าเล่นแห่กันมาในที่ของข้าเช่นนี้” เซ่าเจี้ยนหลิ่นกล่าวพลางมองจุนตงและจุนหนานไปด้วย
“ข้าเชื่อในตัวท่าน ท่านเ้าเมืองเซ่า ตระกูลหานของเราก็ไม่ใช่ว่า จะแตะต้องไม่ได้สักหน่อย” หานรุ่ยพูดอย่างถ่อมตน ในสายตาของตระกูลหาน ตระกูลเซ่าไม่ได้มีอะไรเลย เขาแค่ไม่้าใช้อำนาจของตระกูลเท่านั้นเอง อีกทั้งเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลหยุนอยู่แล้วระดับหนึ่ง
“ตกลง” เซ่าเจี้ยนหลิ่นเอ่ยขึ้น เพื่อให้มีทายาท แม้ว่าเงื่อนไขจะโหดร้ายเพียงใด เขาก็ยอมรับ ไม่ต้องพูดถึงเงื่อนไขอื่นที่ไม่โหดร้ายเลย หากเขาให้กำเนิดบุตรด้วยตัวเองได้ เซ่าหานอี้ก็จะไร้ประโยชน์ แต่เดิมเขาไม่ได้มีความผูกพันกับหลานชายคนนี้เท่าไหร่นักอยู่แล้ว เพราะเซ่าหานอี้เป็เพียงสวะในการบำเพ็ญเพียรเท่านั้นเอง มิหนำซ้ำเขายังต้องมาคอยเป็ห่วงไอสวะนี้อีก ถ้าตัดทิ้งไปได้ก็ดี จะได้หมดเื่หมดราวไป เพราะไม่รู้ว่า วันไหนเซ่าหานอี้จะไปก่อเื่กับใครขึ้นมาอีก ส่วนกับหานรุ่ยคนนี้ เขาก็ไม่ได้อยากจะมีเื่ด้วย แต่เขาก็อยากรู้ว่า หานรุ่ยกับจางหนิงมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
“เสี่ยวรุ่ย จางหนิงกับเ้ามีความสัมพันธ์กันอย่างไรรึ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ตระกูลหานจะมีญาติแซ่จางด้วย!” หยุนจิ่นเอ่ยถาม เท่าที่หยุนจิ่นทราบ หานรุ่ยเป็คนเ็า ดูเฉยชากับทุกสิ่ง ทำไมถึงได้ใส่ใจเื่ของจางหนิงถึงเพียงนี้
“จางหนิง เป็ภรรยาชายในอนาคตของพี่สามของจุนห่าว ด้วยเหตุนี้ข้าจึงจำเป็ต้องช่วยเขาน่ะ” หายรุ่ยกล่าว
“เป็เช่นนี้นี่เอง พวกเราต้องขอโทษด้วยที่ดูแลหานอี้ได้ไม่ดี บัดนี้หานอี้ได้รับผลกรรมนั้นแล้ว ข้าหวังว่า หลานชายผู้นั้นจะไม่ตามคน เพื่อมาเอาเื่ถึงที่คฤหาสน์เ้าเมืองของเราหรอกนะ” หยุนจิ่นเอ่ยขึ้น เขาไม่อยากให้เป็เพราะเซ่าหานอี้ ที่ทำให้ตระกูลหานต้องมาจดจำคฤหาสน์เ้าเมืองอย่างไม่ลืมเลือน แม้ว่าเขาจะเป็คนของตระกูลหยุนก็ตาม ทว่าเขาก็ไม่กล้ารับรอง เพราะคนในตระกูลหยุนอาจจะถูกจับคู่ให้ไปแต่งงานกับคนในตระกูลหานเข้าสักวัน
“แน่นอนอยู่แล้ว หากข้าอยากจะเอาเื่จริง ข้าคงเชิญท่านปู่มาด้วยแล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่า ท่านปู่รักข้ายิ่งนัก” หานรุ่ยกล่าว เขาจัดการเื่นี้ด้วยตัวเองดีที่สุดแล้ว เขาเองก็ไม่กล้าให้ตระกูลหานเข้ามายุ่งเื่นี้ อันที่จริงจางหนิงก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหานอยู่แล้วด้วย
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ท่านเ้าเมืองได้ส่งคนไปเชิญจางหนิงมาแล้ว พวกเ้ารออยู่ที่นี่สักครู่แล้วกัน” หยุนจิ่นพูดขึ้น เขาคิดในใจ ‘หวังว่าจางหนิงจะไม่เป็อะไรไปเสียก่อน’
[1] เย้าซือ คือ นักจ่ายยาหรือครูแห่งยารักษาโรค ผู้รอบรู้เื่ยาและสามารถปรุงยาิญญาได้
[2] ตานซือ คือ นักปรุงยาหรือแพทย์ ผู้รอบรู้เื่การรักษาโรค สามารถปรุงยาิญญาและยาวิเศษได้
