คำด่าที่หยาบคายที่สุดของสวี่รั่วโหรวกลายเป็การตั้งคำถามซะงั้นใบหน้าของฉินเฟิงหม่นหมองทันที
ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนมันก็ไม่ได้ผล ถ้าเป็แบบนี้ต่อไป ต่อให้หนึ่งปีผ่านไป เขาก็เปลี่ยนเธอไม่ได้แน่
จู่ๆฉินเฟิงก็ฉุดสวี่รั่วโหรวออกมาและมองอย่างชั่วร้ายขณะที่พูดกับเธอ “สวี่รั่วโหรวฉันอยากให้เธอไปเตะหน้าอ้วนๆ ของไอ้หมูนี่ มันจำเป็ต้องชดใช้ที่พูดจาลามกกับเธอ”
สวี่รั่วโหรวกลัวจนเริ่มสั่นเธอไม่แม้แต่จะรู้วิธีด่าคน แล้วเธอจะกล้าตีคนได้อย่างไร? “ฉินเฟิง ดะ...ได้โปรดละเว้นฉันด้วย ฉะ...ฉันกลัว ฉันไม่รู้วิธีตีคน”เธอพูดตะกุกตะกักขณะส่ายหัว
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงไม่ปล่อยไป เขารู้ว่าเขาต้องบังคับเธอให้ถึงขีดจำกัดเพียงแค่นั้นถึงจะมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเธอเป็ผู้หญิงเข้มแข็ง
“สวี่รั่วโหรว ถ้าเธอไม่เตะหน้ามัน ฉันจะแก้ผ้าเธอและผลักเธอไปหามัน และให้มันข่มเหงเธอ”
สายตาของฉินเฟิงดุดันขึ้นเหมือนกับว่าเขาเป็สัตว์ป่าอันตราย ในตอนนี้สวี่รั่วโหรวกลัวอย่างสิ้นเชิงเธอจึงทำได้แค่ส่ายหัวไปมา
ฉินเฟิงเริ่มรำคาญและเริ่มหมดหวังเขาลากสวี่รั่วโหรวมาที่มุมและเริ่มดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอออก
หลังจากนั้นสักครู่เขาก็ปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตของเธอออกและหน้าอกที่อ่อนนุ่มก็เด้งออกมา
“ฉินเฟิง ปะ...ปล่อยฉันไปเถอะ ฉะ...ฉันไม่ชอบแบบนี้”สวี่รั่วโหรวกลัวจนแข็งทื่อและเริ่มใช้มือปกปิดตัวเองทว่าฉินเฟิงก็เมินเธอและเริ่มใช้มือของเขากดมือของเธอเข้ากับกำแพง
“สวี่รั่วโหรว ขัดขืนสิ ถ้าเธออยากให้ฉันหยุด งั้นก็ตีฉัน เตะฉันหรือด่าฉัน ถ้าเธอไม่ขัดขืน ฉันจะคิดว่าเธอชอบแบบนี้และฉันจะฉวยโอกาสเธอนะ”
ในขณะที่ฉินเฟิงพูดเขาฟุบหน้าลงไปที่หน้าอกของเธอ และน้ำตาของสวี่รั่วโหรวก็เริ่มไหลออกมา “ฉินเฟิงฉะ...ฉันอยากกลับแล้ว ดะ...ดะ...ได้โปรดปล่อยฉันกลับเถอะ” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น
ฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นและเห็นน้ำตานองหน้าของสวี่รั่วโหรวเธอดูเหมือนเด็กน่าสงสารและทันใดนั้นฉินเฟิงก็ใจอ่อนลงและเสียใจกับการกระทำของเขาทันทีเขารู้สึกเหมือนกับเป็คนเห็นแก่ตัว เพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จเขากดดันสวี่รั่วโหรวจนร้องไห้ นี่มันไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับเธอ
ฉินเฟิงรีบปล่อยเธอและพบว่าเขาอยากจะทำภารกิจให้สำเร็จมากเกินไปเขาไม่ตระหนักว่าเขากำลังกดข้อมือของเธออยู่ ทำให้มันมีรอยแดงเขารีบช่วยเธอติดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วดึงเธอเข้ามากอดขณะที่ลูบหลังพร้อมกับพูดว่า“รั่วโหรว อย่าร้องเลย ฉันจะพาเธอกลับเดี๋ยวนี้แหละ เมื่อกี้ฉันคึกคะนองเกินไปอย่าโกรธเลยนะ”
สวี่รั่วโหรวใจเย็นและเช็ดน้ำตาเธอผลักฉินเฟิงเบาๆ ไม่ยากที่จะบอกว่าเธอยังกลัวฉินเฟิงอยู่
ในระหว่างนั้นประธานสวีที่กำลังแกล้งตายอยู่ก็รีบลุกและวิ่งไปที่ประตู เขาขวางทางด้วยร่างอ้วนๆของเขาขณะจ้องไปที่ฉินเฟิง
ตอนที่ฉินเฟิงพยายามจะให้สวี่รั่วโหรวระบายความโกรธใส่ประธานสวีเขาฉวยโอกาสโทรหากลุ่มนักเลงของเขา พวกมันเป็ผู้ชาย 3 คนที่มาจากแก๊งหมาป่าทางตะวันตกเฉียงเหนือและเป็ส่วนหนึ่งของโลกใต้ดินก่อนหน้านี้ก็เป็พวกมันที่เป็คนกระทืบหวังเชา
ชาย 3 คนส่งข้อความว่าจะมาถึงภายใน 10 นาทีประธานสวีจึงดูนาฬิกาตลอดเวลาและรู้ว่าพวกมันจะมาถึงในไม่ช้าด้วยเหตุนี้เขาจึงขวางประตูเพราะกลัวว่าฉินเฟิงจะหนีไป
“เฮ้ย ไอ้ล้าน อยากโดนอีกดอกเหรอ?” ฉินเฟิงถามอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นประธานสวีทำตัวแปลกๆ
ความกลัวของประธานสวีที่มีต่อฉินเฟิงหายไปนานแล้วหลังจากได้ยินข้อความจากชาย3คน เขายิ้มอย่างหยิ่งยโสและตอบกลับ “ฮ่าๆๆ แกยังอยากจะตีพ่ออีกเหรอ?รอจนกว่าคนของพ่อจะมาหักแขนขาแกก่อนเถอะ”
เมื่อพูดจบก็ได้มีเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งขึ้นบันไดดังขึ้นประธานสวียิ้มและรีบเปิดประตู ชายรอยสัก 3 คนก็เดินเข้ามา
“พี่ผมยาว พี่โล้น พี่หมาป่า ในที่สุดก็มาถึงกันแล้วถ้าพวกพี่มาสายอีกนิดเดียว ผมคงโดนไอ้เบื๊อกนี่อัดจนตายไอ้เด็กนี่แหละที่กล้ามาทวงเงิน มันรนหาที่ตาย”
เมื่อชายรอยสักทั้ง3มาถึง ประธานสวีก็กลับมาวางท่าอวดดี เขาเชิดหน้าขึ้นจนทำให้ฉินเฟิงเกือบจะเห็นรูจมูก“และก็ไอ้นี่แหละที่ไอ้โง่หวังเชามันส่งมาไอ้โง่นั่นมันกลัวพวกพี่จนมันส่งไอ้โง่นี่มาอีกที”
ชายรอยสักทั้งสามหันไปมองและรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อก
ฉินเฟิงจ้องกลับไปหาพวกมันและใบหน้าก็ฉายความบันเทิง
เขาคิดว่าเขาคงจะได้อุ่นเครื่องสักหน่อยแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่จำเป็แล้ว
“พี่ผมยาว พี่โล้น พี่หมาป่า มะ...มีอะไรหรือเปล่า?” เมื่อเห็นทั้ง3 คนแข็งทื่อ ประธานสวีก็สะกิดพวกเขาและเริ่มะโ“ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ผมจ่ายเยอะ ตราบใดที่คุณหักข...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคชายผมยาวก็ตบเขาอย่างรุนแรง
ประธานสวีร้องออกมาด้วยความเ็ปก่อนจะด่าชายผมยาวว่าตบผิดคนและเมื่อชายหัวโล้นมาต่อยซ้ำเข้าที่ท้องเขาก็เจ็บจนพูดไม่ออกและทำได้แค่มองพวกเขาขณะที่อ้อนวอนอย่างเงียบๆเพื่อให้ทำร้ายฉินเฟิง ไม่ใช่เขา
สุดท้ายชายที่โกรธเกรี้ยวพร้อมกับรอยสักหมาป่าก็เตะที่ขาของประธานสวีทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น
การโจมตีของทั้งสามเป็แค่การอุ่นเครื่องเท่านั้นเมื่อพวกมันรู้ว่าคนที่ประธานสวีอยากจะให้จัดการคือฉินเฟิงพวกมันก็รู้สึกอยากจะฆ่าเขา
เพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดีพวกมันล้อมประธานสวีและรุมทำร้ายอย่างเกรี้ยวกราดทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของประธานสวี สวี่รั่วโหรวกลัวมากจนเธอถอยไปที่มุมและนั่งยองๆขณะปิดหู
หลังจากเตะและต่อยเกินกว่านาทีประธานสวีก็ทนไม่ไหวจนสลบไปและแล้วชายทั้งสามก็หยุดและรีบมาที่ด้านข้างของฉินเฟิงด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
“นายน้อยฉินครับ จริงๆ แล้วมันเป็เื่เข้าใจผิด”
เมื่อเห็นชายรอยสักทั้งสามขอโทษฉินเฟิงก็โบกมือ บอกให้รู้ว่ายกโทษให้ อย่างไรซะก็ตำหนิพวกมันไม่ได้อยู่แล้ว
“งานที่ฉันให้พวกนายจัดการเมื่อคืนไปถึงไหนแล้ว?” ฉินเฟิงถามเื่ของเหลียงเจิ้นเวย
“นายน้อยฉินครับ เราพามันไปฝังไว้บนเขาทรายแถบชานเมืองมันต้องไม่โดนพบแน่นอนครับ” ชายผมยาวกระซิบที่หูของฉินเฟิง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้