หากเิหยูเยียนคิดว่าการที่ิอวี่สามารถสู้กับซูอี้หรานได้หลายนาทีนั้นถือว่าสุดยอดมากแล้ว ถ้าอย่างนั้น ตอนที่นางรู้ว่าิอวี่อาจจะเอาชนะพวกของซูอี้หรานได้ ก็ทำให้ความคิดของนางนั้นกลับตาลปัตรไปหมด! นางไม่กล้าเชื่อเลยว่าิอวี่จะทำทุกอย่างนี้จริง มันอาจจะเป็แค่ภาพลวงตา ไม่ก็ซูอี้หรานไม่ได้แพ้ สรุปแล้วทุกอย่างนาง้าคำอธิบายอย่างละเอียด!
ในเวลานี้ ิอวี่กำลังปลดโซ่บนตัวของเิหยูเยียนไปด้วย ยิ้มแล้วพูดไปด้วยว่า “อือ ชนะแล้ว”
คำตอบแบบนี้ ถึงแม้จะฟังดูขอไปที แต่มันเป็คำไม่กี่คำที่ทำให้ในใจของเิหยูเยียนโลดเต้นมาก!
ไม่มีคำอธิบายที่มากกว่านั้น ไม่มีการอวดตัว แต่เิหยูเยียนกลับฟังแล้วเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกเยอะแยะมากกมาย
ในเวลานี้ คำแค่ไม่กี่คำ แต่มันดีกว่าคำพูดอื่นๆ มากมาย ...
เิหยูเยียนอึ้งไป ในนาทีนี้นางรู้สึกว่าโลกทั้งใบนั้นเหลือแค่ิอวี่คนเดียวเท่านั้น!
ิอวี่กลายเป็วีรบุรุษที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้ในใจของนาง
ิอวี่ไม่ได้เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของเิหยูเยียนเลย เขาปลดโซ่ชั้นสุดท้ายบนตัวของนางออกแล้วโยนไปข้างๆ จากนั้นก็เตรียมลุกขึ้น “ไปกันเถอะ ต่อไปก็อย่าเอาแต่ใจ ... ”
พูดยังไม่ทันจบ เิหยูเยียนก็โผเข้ากอดิอวี่ นางกอดเขาแน่นมาก แน่นมากๆ
“เอ่อ นี่เ้า ... ”
ิอวี่กำลังจะลุกขึ้น แต่เิหยูเยียนกลับเข้ามากอดเขาแบบนี้ ทำให้เขาจำเป็ต้องคุกเข่าลง ร่างกายก็เอนไปด้านหน้า
เิหยูเยียนกลับไม่พูดอะไรเลย นางซุกหัวไปที่หัวไหล่ของิอวี่ น้ำตาไหลลงมาเปื้อนเสื้อผ้าของิอวี่ “ฮือฮือ” นางร้องไห้โฮ ร่างกายแนบชิดกับตัวิอวี่มาก ิอวี่ััได้เลยว่าร่างกายของนางสั่นแรงเพราะอารมณ์ที่รุนแรง
ในเวลานี้คนที่ตื่นเต้นนั้นไม่ได้มีแค่เิหยูเยียน แต่ยังมีอีกสองคน
อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงที่เืไหลนองเต็มพื้นที่ข้างๆ มองมาที่ิอวี่กับเิหยูเยียนจนตาแทบหลุด พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์มันจะกลับกลายเป็แบบนี้ไปได้!
ถึงแม้พวกเขาจะไม่อยากจะเชื่อว่าิอวี่นั้นจะสู้ซูอี้หรานกับหลินเฮ่าได้ แต่ว่า ความจริงที่โหดร้ายก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว
จนถึงตอนนี้ ภาพจินตนาการในหัวของพวกเขามันสลายจนไม่เหลือเลย ตอนนี้พวกเขาถึงได้เข้าใจว่า พวกเขาต่างหากที่เป็มดตัวเล็กในสายตาของิอวี่!
หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นว่า เิหยูเยียนที่มีผ้าพันหน้าอกและถูกพวกเขาหยาบโลนใส่หลายต่อหลายครั้ง กลับโผเข้าสู่อ้อมกอดของิอวี่ด้วยตัวเอง ไม่นานนัก เหมือนว่าฤทธิ์ยาจะทำให้เิหยูเยียนนั้นหมดเรี่ยวแรง ิอวี่อุ้มนางขึ้นมา นางเองก็เอาหัวซุกไปที่อ้อมกอดของิอวี่ สลบไปทั้งๆ ที่น้ำตายังไหลอยู่
พวกอวี่ชงรู้สึกเหมือนเืมันพุ่งขึ้น แล้วก็กระอักเืออกมา!
ความจริงที่อยู่ตรงหน้ามันเหมือนมีดกรีดลงกลางใจ จนสุดท้าย ภาพทุกอย่างเหมือนหยุดเวลาไว้แค่นั้น แล้วพวกเขาก็ตายอย่างตาไม่หลับ
ิอวี่ไม่ได้ไปสนใจดูศพพวกของอวี่ชงเลย เขาอุ้มเิหยูเยียนที่อ่อนล้าสลบอยู่ะโขึ้นมาจากถ้ำใต้ดิน จากนั้นก็ขึ้นไปขี่เ้าวิหคัปีกมืด และกอดเิหยูเยียนไว้ด้านหน้า จากนั้นก็พาเ้ากระเรียนขาวของนางบินออกจากที่นี่ไปพร้อมกัน
ครั้งนี้ จากการกระทำของพวกซูอี้หราน ิอวี่ไม่เพียงสำนึกได้ว่าความสามารถของตัวเขานั้นยังไม่พอ แต่มันยังยืนยันสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
เมื่อดูจากการที่ซูอี้หราน้าข่มขืนแล้วฆ่าเิหยูเยียน เป้าหมายของเขาย่อมไม่ธรรมดาแน่ ฆ่าเิหยูเยียนเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญนั้นก็คือ ทำไมเขาถึงกล้าฆ่าศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน
หากบอกว่าเพราะเิหยูเยียนสวย ซูอี้หรานเลยเกิดความ้าและจิตสังหาร ถ้าอย่างนั้น หากเื่นี้ถูกเปิดเผย ตามกฎของสำนักเขาก็จะต้องตายอย่างไร้ที่ฝังแน่ ซูอี้หรานก็เป็คนที่โดดเด่นมากอยู่แล้ว ข้างกายเขาไม่เคยขาดผู้หญิงมาก่อน เขาไม่มีทางหลงผู้หญิงจนขาดสติแบบนี้ ดังนั้น เขาไม่มีทางทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้เพื่อผู้หญิงคนเดียวแน่
นั่นก็หมายความว่า แรงจูงใจนี้มันไม่ถูกต้อง
ถ้าอย่างนั้นลองคิดถึงความเป็ไปได้อย่างอื่นอีก นั่นก็คือเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวใดๆ เพราะเขามีคนปกป้อง!
เมื่อเอามารวมกับท่าทีของผู้าุโสายจั่วเหยียนกับสายหรงเหยียนตอนที่อยู่ที่ปากทางเขาูเาไฟ ก็อาจจะเป็ไปได้ว่าผู้าุโพวกนั้นอาจจะถือหางเขาอยู่ หากแค่เป็การปล่อยพวกซูอี้หรานทำตามอำเภอใจแล้วล่ะก็ ิอวี่อาจจะรู้สึกว่ามันไม่ได้อันตรายอะไร
แต่ิอวี่ก็กลัวแค่ มันอาจจะไม่ใช่แค่การปล่อยให้ทำตามอำเภอใจ แต่เป็ ... คำสั่ง!
หากผู้บริหารระดับสูงของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนสั่งให้ซูอี้หรานมาฆ่าคน เป้าหมายก็น่าจะเป็การทำลายกำลังของสายเลี่ยนเหยียน ถ้าอย่างนั้นปัญหาเื่นี้ก็ถือว่าเป็ปัญหาใหญ่!
มันจะไม่ใช่แค่ปัญหาระหว่างศิษย์ แต่มันจะเป็ปัญหาของสายเลี่ยนเหยียนกับสายหรงเหยียนและสายจั่วเหยียน มันคือการแข่งขันของกลุ่มอำนาจสองกลุ่ม!
“หรือว่ามันจะเป็ ... แผนชั่วของพวกเขากันนะ”
ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก เขาเหมือนััได้ถึงอันตรายที่เขาไม่เคยััมาก่อน
หากเป็ไปตามที่คาด ิอวี่สามารถบีบหยกให้แตกแล้วออกจากสนามรบร้างโบราณไปได้เลย แต่เขาจะอธิบายให้ซ่งหยวนหยวนเข้าใจอย่างไรล่ะ?
เขาไม่มีหลักฐาน มันไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย
ต่อให้ซ่งหยวนหยวนเชื่อแล้วอย่างไร สายเลี่ยนเหยียนทั้งหมดนั้นเชื่อแล้วอย่างไร?
ถ้าไม่มีความสามารถมากพอ ก็จะต้องยอมให้ถูกเชือดอย่างเดียว!
หากเป้าหมายของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนในสนามรบร้างโบราณคือการฆ่าศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนเพื่อลดกำลังรวมของสายเลี่ยนเหยียน แล้วทำไมิอวี่จะทำในสิ่งที่เหมือนกันไม่ได้ ฟันต่อฟันไปเลย ฆ่าพวกเขาไม่ให้เหลือเลย
พอิอวี่คิดได้แบบนี้ อารมณ์ตื่นเต้นมันก็ผุดขึ้นมาในหัว!
ถูกต้อง ิอวี่เอาชนะพวกผู้าุโใหญ่ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนไม่ได้ แต่ว่า เขาสามารถเลือกฆ่าเืใหม่ที่เป็รากฐานของพวกเขาได้!
“ครั้งนี้ข้าก็แค่ตามพวกของซูอี้หราน ถ้าแน่ใจว่าเขามีแรงจูงใจมากพอที่จะฆ่าศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน ถ้าอย่างนั้นข้าจะฆ่าไม่ให้เหลือเลย!”
ถึงแม้ิอวี่จะฆ่าซูอี้หรานไม่ได้ แต่เขาก็สามารถฆ่าคนอื่นได้
ขอแค่เจอเบาะแสของัทะเลทรายในซากปรักหักพัง ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายในการเดินทาง ิอวี่ก็จะต้องเจอคนของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียน
ถึงเวลานั้น ขอแค่หลบผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามที่รับมือได้ยากอย่างพวกซูอี้หราน เขาก็สามารถทำแผนการของเขาได้เป็ผลสำเร็จแน่!
“แต่หากมองการณ์ไกล หากออกจากสนามรบร้างโบราณไปแล้ว พวกซูอี้หรานจะต้องแก้แค้นข้าแน่ แล้วข้าจะเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองมารักษาชีวิตอย่างไรดีนะ?”
ิอวี่นั่งอยู่บนหลังวิหคัปีกมืดแล้วบ่นไป
สิ่งที่ิอวี่กังวลใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ระวังเอาไว้ก่อนก็ไม่ได้เสียหาย เพราะถ้าเจออันตรายจริงๆ ขึ้นมา มันอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้
ทันใดนั้นเอง หยกโบราณที่อยู่บริเวณหน้าอกก็เปล่งแสงออกมา แสงสีดำสว่างจ้าส่องขึ้น เงาๆ หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นยืนอยู่บนหัวของเ้าวิหคัปีกมืด มือกอดอก และมองมาที่ิอวี่เหมือนมีเลศนัย
“เฮยจี ทำไมมีอารมณ์ออกมาสูดอากาศข้างนอกแบบนี้ล่ะ หรือว่า ... อยากจะสอนอะไรข้า ให้ข้าเพิ่มกำลังรบ เอาชนะซูอี้หรานใช่ไหม?” ิอวี่ถาม
“เหอะๆ เดิมทีข้าก็คิดอยากจะบอกอะไรบ้างอย่างกับเ้า แต่คิดไปคิดมา ไม่บอกดีกว่า”
ผมของเฮยจีปลิวไสวไปตามลมแรง ใบหน้าของนางเชิดขึ้น แล้วมองมาที่ิอวี่ด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนอย่างมาก
“เพราะอะไรกัน?”
ิอวี่ถึงกับหมดคำพูด ในเมื่อไม่อยากบอกเขา แล้วจะพูดเพื่ออะไร?
เฮยจีไม่ได้พูดดีด้วย “เพราะหลังจากที่ข้าสังเกตมาหลายวัน ข้าก็พบว่าเ้ามันเป็พวกบ้ากาม แล้วก็พวกลามกน่ะสิ ข้าไม่บอกอะไรกับพวกบ้ากามทั้งนั้น”
“ข้าหรือ?”
ิอวี่ขมวดคิ้ว เขางงมาก
“เสแสร้ง ยังจะเสแสร้งอีก” เฮยจีชี้ไปที่ร่างกายอันบอบบางที่ิอวี่กอดอยู่ด้านหน้าอย่างเิหยูเยียน แล้วพูดว่า “เ้าแต๊ะอั๋งนางสบายใจเลยนะ ฮึ ยังแสดงสีหน้าไร้เดียงสาได้เป็ธรรมชาติสุดๆ ข้าให้เ้าร้อยคะแนนเต็มเลย”
ิอวี่รู้สึกเสียวไปหมด เฮยจีมาไม้ไหนเนี่ยทำไมถึงได้หาเื่แบบนี้นะ แต่ว่า ... ทำไมนางถึงได้จับผิดไปซะทุกเื่แบบนี้ล่ะ?
เขาเลยอธิบายไปว่า “จะให้ข้าเอานางไปมัดไว้ที่เท้าของวิหคัไม่ได้หรอกใช่ไหม? หรือถ้าเอาทิ้งไว้บนตัวกระเรียนขาวที่อยู่ด้านหลัง เกิดหล่นลงไปจะทำอย่างไรล่ะ?”
“อ๋อ เป็ห่วงนางซะด้วย” เฮยจียื่นมือขวาออกไป แล้วก็ทำท่า “เชิญเ้าต่อได้เลย” ออกไป
“ข้า ... ช่างเถอะไม่อยากอธิบายกับเ้าแล้ว เดี๋ยวเ้าก็หาว่าข้าแกล้งกลบเกลื่อนอีก ถ้าเ้าคิดว่าข้าทำไม่ถูก เ้าก็ไปนั่งบนหลังเ้ากระเรียนขาว แล้วดูแลนางเองสิ” ิอวี่พูดอย่างจนใจ
“ได้สิ”
เฮยจีรับปากอย่างรวดเร็ว ิอวี่รู้สึกว่าเฮยจีเหมือนอยากพูดแบบนี้นานแล้ว เพียงแต่รอให้เขาพูดออกมาก่อนเท่านั้น
สรุปแล้วก็คือ มันเป็ความรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้พูด...
ิอวี่ยังไม่ทันตั้งตัว เฮยจีก็พุ่งเข้ามารับตัวเิหยูเยียนมาจากอ้อมกอดของิอวี่ แล้วดีดตัวไปอยู่บนกระเรียนขาวที่อยู่ด้านหลังทันที และพูดว่า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เด็กคนนี้ยังบริสุทธิ์อยู่ ข้าจะช่วยนางจับตาดูเ้าเอง เ้าจะได้ไม่ไปทำอะไรไม่ดีกับนาง ชิ”
ระหว่างที่พูดนางก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ััได้เลยว่า อารมณ์ของนางตอนนี้เหมือนจะดีกว่าก่อนหน้านี้มาก
“ ... ”
ิอวี่เองก็ี้เีจะไปเถียงอีก เลยพูดว่า “ตอนนี้บอกข้าได้แล้วหรือยัง พี่สาวสุดสวยผู้น่ารักของข้า”
“อือ ท่าทางสำนึกผิดนั่นก็ไม่เลว บอกเ้าก็ได้”
เฮยจียิ้มแล้วพูดว่า “ที่จริงตอนนี้จะอาศัยกำลังจะภายนอกมันไม่ใช่เื่ง่ายเลย ข้าขอเตือนเ้าไว้ก่อนเลยนะ สิ่งที่เ้าต้องเรียนรู้มันมีอีกเยอะมาก”
ิอวี่คิดแล้วพูดว่า “เ้าหมายถึง ... โลหิตัคชสารกระบวนท่าที่ต่อจากหมัดคชสารัใหญ่น่ะหรือ?”
ที่จริงก่อนหน้านี้ิอวี่เองก็มีความคิดนี้เหมือนกัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฮยจีจะมีความคิดไม่ต่างกับเขาแบบนี้
เขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดในสิ่งที่กังวลออกมา “จะว่าอย่างไรดีล่ะ โลหิตัคชสารถึงแม้จะเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้นระดับสูงสุด หากข้าอยากจะฝึก คิดว่าจะต้องเสียพลังกับเสียเวลามากแน่ วินาทีที่ข้าออกจากสนามรบร้างโบราณนี่ไป ซูอี้หรานก็จะต้องหาเื่ข้าทันทีแน่ ข้ากลัวว่ามันจะไม่ทัน”
“ที่จริง ข้ารู้สึกว่าหากเ้าจะฝึกอาจจะไม่ได้ต้องใช้เวลามากขนาดนั้นก็ได้ คิดอยากจะฝึกโลหิตัคชสาร เ้าสามารถใช้วิธีการอื่นมาเร่งการฝึกของเ้าให้เร็วขึ้นได้” เฮยจีอธิบาย
“หือ?”
“ใช่” เฮยจีพยักหน้า แล้วพูดว่า “โลหิตัคชสารมันเป็การจำลองทักษะของอสูร ต้องเรียนรู้จิติญญาของอสูรให้ได้ เ้าถึงจะสามารถปล่อยกระบวนท่าที่ดุดันออกมาได้ ซึ่งกระบวนการนี้ปกติแล้วมันใช้เวลานานมาก แต่ว่า มันก็ยังมีวิธีการที่สั้นกว่านั้น เช่น ดูดซับเืบริสุทธิ์ของอสูรที่แข็งแกร่งมาก ก็จะสามารถเข้าถึงจิติญญาของพวกมันได้เร็วยิ่งขึ้น”
ิอวี่คิดแล้วพูดว่า “แล้วเ้าว่า อสูรแบบไหนกันล่ะถึงจะถือว่าแข็งแกร่ง”
“ในเมื่อโลหิตัคชสารเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้นสูงสุด ถ้าอย่างนั้นอย่างน้อยก็จะต้องหาอสูราาขั้นที่สามระดับสูงสุดน่ะสิ”
“แต่ข้ารู้สึกว่า มันยังไม่ใช่ระดับที่ข้าจะแตะต้องได้ ... ”
ิอวี่เหมือนหมดคำพูด รับมือซูอี้หรานผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามก็ยากที่จะเอาชนะได้แล้ว แล้วจะเอาอะไรไปชนะอสูราาขั้นที่สามระดับสูงสุดที่มีระดับเทียบเท่าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามระดับสูงสุดได้
“อือ ... เ้าต้องรู้ก่อนนะ เืบริสุทธิ์น่ะ มันไม่ได้มาจากในร่างกายของอสูรเพียงอย่างเดียวนะ ... ของัทะเลทรายตัวนั้น” เฮยจี้ชี้นำิอวี่
“ัทะเลทราย ... เ้าล้อข้าเล่นหรือเปล่า?”
ิอวี่ส่ายหน้าอย่างพูดไม่ออก แต่หลังจากนั้นเขาก็เหมือนคิดได้ เขาพูดอย่างตะลึงว่า “ ... เ้าหมายถึง ไข่ัของัทะเลทรายหรือ!”
ถึงแม้ิอวี่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเดานั้นถูกต้องไหม แต่ในเมื่อเฮยจีพูดไปทางนั้น มันก็ไม่น่าผิด เพราะถึงแม้เฮยจีจะมีนิสัยแปลกๆ แต่นางมีความทรงจำเกี่ยวกับความรู้มากว่าเขาไม่รู้กี่หมื่นเท่า
ในเวลานี้ิอวี่ก็เหมือนศิษย์ที่เลื่อมใสในตัวนางมาก เขาหันไปมองเฮยจีที่อยู่บนตัวกระเรียนขาว แล้วตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบของนาง
“ถือว่าเ้าฉลาดมาก”
เฮยจียิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “ถึงแม้เ้าจะหาวิธีได้เืบริสุทธิ์ของัทะเลทรายไม่ได้ แต่ว่าในไข่ัมันก็มีของแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ ตัวอ่อนทารกของัถึงแม้มันจะยังไม่ได้เป็ตัวเป็ตน แต่ในไข่ัมันก็มีลมปราณตัวอ่อนที่หนาแน่นมาก เ้าสามารถเรียกมันว่า ลมปราณบริสุทธิ์ตัวอ่อนั!”
“หากเ้าได้ลมปราณบริสุทธิ์ตัวอ่อนัมา ไม่เพียงสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจิติญญา แต่ยังเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงโลหิตัคชสาร และยังสามารถฝึกร่างกายของเ้า ทำให้พลังฝีมือของเ้านั้นก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งได้”
“มีเื่แบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?”
ิอวี่ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “แต่หากพวกผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีรู้ว่าในไข่ัมันไม่มีลมปราณลูกอ่อนัแล้ว เขาน่าจะคาดโทษข้านะ”
แต่เฮยจีกลับสายหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่หรอก ข้าจะใช้ลายเส้นอักขระพิเศษช่วยเ้าดึงลมปราณบริสุทธิ์ตัวอ่อนัออกมาเจ็ดส่วน แล้วเหลือสักประมาณสามส่วนเอาไว้ คนของสำนักเทพอัคคีก็จะคิดว่าในไข่ัยังอยู่ใน่ฟักตัว ไม่มีทางสงสัยเ้าหรอก”
ิอวี่พยักหน้าตามแบบงงๆ
หากเป็คนอื่นพูดแบบนี้ิอวี่อาจจะไม่เชื่อ แต่เฮยจีมีความลึกลับในตัว หากนางบอกว่าการร่ายลายเส้นอักขระปกปิดผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีได้ เขาก็เชื่อจริงๆ ...
เดิมทีิอวี่นั้นไม่ได้สนใจอะไรในไข่ัมากนัก แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว เขาจำเป็ต้องหาไข่ัใบนั้นให้เจอ!
ฆ่าคนของทั้งสองสาย ... ขโมยไข่ั ...
เหอะๆ ดูท่าการค้นหาัทะเลทรายในคราวนี้ เหมือนจะมีอะไรทำแล้ว
ิอวี่ใช้มือขวาลูบคางแล้วคิด ฆ่าคนของทั้งสองสายมันไม่ใช่เื่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไข่ัใบนั้น ... จะขโมยได้อย่างไร?
