เกินกว่าความคาดหมายของซูเซวียนที่ตระกูลซูเคยมีจักรพรรดิในหมู่บรรพบุรุษ
เดิมทีเขาคาดว่าตระกูลซูอาจมีนักบุญเป็อย่างมากซึ่งก็นับว่าไม่เลวแล้วแต่ไม่คาดว่าจะเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
“ตระกูลที่ให้กำเนิดจักรพรรดิแต่ทายาทกลับย่ำแย่ถึงเพียงนี้ดูเหมือนกาลเวลาจะเป็สิ่งที่โหดร้ายที่สุดจริงๆ…”
ซูเซวียนพึมพำกับตัวเอง
หลังจากสังเกตการณ์ครู่หนึ่งเขาก้าวออกและย่างเข้าสู่ประวัติศาสตร์โบราณนี้โดยตรง
ไม่ต้องสงสัยในขณะนี้พลังปฏิกิริยาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลาพุ่งถึงจุดสูงสุด
การแอบมองอดีตที่ผ่านมาถือเป็การกระทำที่ท้าทาย์แล้วและการบุกเข้าไปในอดีตโบราณนั้นด้วยร่างจริงยิ่งเป็สิ่งที่ฟ้าดินไม่อาจยอมรับได้
แต่โชคร้ายที่ต่อหน้าซูเซวียนมันยังห่างไกลจากคำว่าเพียงพอไม่อาจแม้แต่ทำลายการป้องกันของเขาได้เรียกได้ว่าเพียงแค่ข่วนเขาเท่านั้น
ท่านกาลเวลาหยุดข่วนได้แล้วหยุดข่วนเสียที
ในที่สุดซูเซวียนเริ่มรำคาญการถูกข่วนและใช้กฎราชันะโดยตรง
ในทันใดนั้นพลังตอบโต้ก็คุกเข่าลงราวกับขอทานที่เห็นจักรพรรดิผู้สูงศักดิ์
จากนั้นทุกอย่างก็สงบลง
ความหมายชัดเจน:ท่านผู้ยิ่งใหญ่โปรดทำตามใจปรารถนาแต่ขอให้เบามือด้วย
ซูเซวียนไม่สนใจแม่น้ำแห่งกาลเวลาอีกต่อไปในขณะนี้เขาได้ลงมาสู่ตระกูลซูในห้วงเวลาอดีตแล้ว
การได้มาััด้วยตนเองนั้นย่อมมีผลกระทบมากกว่าการมองจากภายนอก
ในเวลานี้ตระกูลซูรุ่งเรืองอย่างยิ่งดินแดนกว้างใหญ่ที่อุดมด้วยพลังปราณิญญาและััเต๋าพร้อมด้วยพระราชวังอันงดงามตระการตาและยอดฝีมือมากมาย…
สำนักปี้เซวียนหมื่นแห่งก็ไม่อาจเทียบได้แม้เพียงเสี้ยวเดียว (สำนักปี้เซวียน:พอแล้วข้าล่มสลายไปแล้วเ้ายังจะเปรียบเทียบอยู่อีกหรือ?!)
ซูเซวียนราวกับผู้สังเกตการณ์ด้วยตนเองเดินผ่านทุกตารางนิ้วทุกมุมของตระกูลซูรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดเขาเป็ส่วนหนึ่งของตระกูลซูและการเห็นความรุ่งโรจน์ในอดีตของตระกูลย่อมทำให้เขาซาบซึ้งใจ
สุดท้ายเขาไปถึงสถานที่ปิดด่านของจักรพรรดิตระกูลซู
เขาเป็ชายร่างสูงใหญ่สง่างามแม้เพียงนั่งอยู่นั้นก็แผ่ออกมาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ราวกับปราบปรามสี่ทะเลแปดดินแดนร้างและครองนภานับหมื่น
แต่น่าเสียดายที่พลังที่เขาปล่อยออกมานั้นราวกับพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าวีรบุรุษในยามสนธยา
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิตระกูลซูนี้ใกล้ถึงจุดจบของชีวิต
ซูเซวียนไม่ประหลาดใจกับสิ่งนี้ท้ายที่สุดเขาเคลื่อนย้ายทวนอดีตสิ่งแรกที่เขาเห็นย่อมเป็่ปีสุดท้ายของจักรพรรดิตระกูลซู
อายุขัยของจักรพรรดิในโลกนี้โดยทั่วไปอยู่ที่หลายแสนปีหากกินโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับจักรพรรดิก็สามารถยืดอายุออกไปได้อีกยุคหนึ่งมีชีวิตนับล้านปีโดยไม่มีปัญหา
ทว่าจากสายตาราชันะของซูเซวียนจักรพรรดิตระกูลซูนี้ยังห่างไกลจากขีดจำกัดอายุขัยของเขาเขาไม่ได้ผ่านแม้แต่ครึ่งหนึ่งของชีวิตแรก
เห็นได้ชัดว่าเขาเผชิญกับเหตุการณ์ใหญ่บางอย่างที่ทำให้แก่นจักรพรรดิของเขาเสียหายอย่างหนัก
สิ่งนี้ทำให้ซูเซวียนอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่งและสายตาของเขาโดยไม่รู้ตัวหันไปมองอดีตที่ยาวนานยิ่งกว่านั้น
เขาพบว่าส่วนสำคัญของอดีตก่อนหน้านี้ถูกตัดขาดหายไปหลายส่วน
เห็นได้ชัดว่ามีผู้ยิ่งใหญ่บางคนลงมือตัดขาดอดีตโบราณบางส่วนเพื่อให้ทำเช่นนี้ได้ต้องมีอย่างน้อยระดับะที่แท้จริง
ท้ายที่สุดการตัดขาดอดีตจะก่อให้เกิดการตอบโต้ที่ต่อให้จักรพรรดิมามากเพียงใดก็ไม่อาจต้านทานได้ต้องมีผู้อยู่ในระดับะอย่างน้อยจึงจะต้านได้
“น่าสนใจข้าเดิมทีเพียงวางแผนจะดูอดีตของตระกูลซูแต่ไม่คาดว่าจะพบสิ่งใหม่…”
ซูเซวียนถอนสายตากลับแล้วค่อยๆเดินไปหาจักรพรรดิตระกูลซูนี้
เมื่อประวัติศาสตร์ในอดีตมองไม่เห็นเขาจะถามจาก ‘ผู้เกี่ยวข้อง’ โดยตรง
ซูเซวียนไม่พยายามปกปิดตัวเองดังนั้นจักรพรรดิตระกูลซูจึงรับรู้ถึงเขาในทันที
หากพูดให้แม่นยำเขาััได้ผ่านสายเื
ท้ายที่สุดสายเืที่ไหลในตัวซูเซวียนคือสายเืตระกูลซูแต่บัดนี้ที่เขาก้าวสู่ขอบเขตราชันะสายเืของเขาย่อมผ่านการเปลี่ยนแปลง
มันแข็งแกร่งกว่าสายเืจักรพรรดิอย่างไม่อาจวัดได้
ดังนั้นเมื่อซูเซวียนเข้าใกล้เืในร่างของจักรพรรดิตระกูลซูนี้ก็คำรามและเดือดพล่านทันที
หืม?
จักรพรรดิตระกูลซูที่กำลังฝึกฝนลืมตาขึ้นทันทีและแสงที่พุงทะลุผ่าน์และโลกออกจากดวงตา
จากนั้นเขาเห็นร่างเลือนรางอันทรงพลังน่าสะพรึงกลัวย่างก้าวบนเศษเสี้ยวของกาลเวลาเดินมาอย่างสบายๆ
“สายเืตระกูลซูที่แข็งแกร่งกว่าสายเืจักรพรรดิบรรพบุรุษของตระกูลซูจากอดีตหรือไม่ไม่ใช่กลิ่นอายนี้อาจมาจากอนาคต!”
จักรพรรดิตระกูลซูลุกขึ้นด้วยความใราวกับผู้ป่วยใกล้ตายฟื้นคืนพลังกะทันหัน
“ถูกต้องข้าคือประมุขตระกูลซูในยุคหลังอาจจะห่างจากยุคของบรรพบุรุษไปหลายล้านปี”
เสียงของซูเซวียนดังขึ้นและด้วยประวัติศาสตร์นับล้านปีที่กั้นขวางการสนทนาระหว่างประมุขตระกูลซูสองยุคนี้เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดีดีดี! ข้าไม่คาดว่าตระกูลซูของข้าจะให้กำเนิดยอดฝีมือไร้เทียมทานเช่นนี้ในอนาคต์มิได้ทำลายตระกูลซูของข้า!”
จักรพรรดิตระกูลซูหัวเราะอย่างยินดีรู้สึกว่าความมืดมิดในใจถูกกวาดออกไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อเห็นอีกฝ่ายดีใจซูเซวียนฉวยโอกาสสอบถามถึงสาเหตุของาแและประวัติศาสตร์โบราณที่หายไป…
จักรพรรดิตระกูลซูถอนหายใจ “อันที่จริงข้าเองก็ไม่ชัดเจนนักใน่ประวัติศาสตร์นั้นข้ายังไม่ได้เกิดด้วยซ้ำ”
“ส่วนาแของข้าข้าถูกซุ่มโจมตีเมื่อบรรลุเต๋าและกลายเป็จักรพรรดิข้ามองไม่ชัดว่าคู่ต่อสู้เป็ใครแต่ข้าสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกับบางเหตุการณ์จากนานมาแล้ว…”
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิตระกูลซูก็รู้เพียงครึ่งเดียว
ทว่าซูเซวียนได้เรียนรู้จากเขาว่าตระกูลซูในยุคที่ยาวนานกว่านี้แข็งแกร่งกว่าตระกูลซูในยุคนี้อย่างไม่อาจวัดได้
ซูเซวียนอุทานในใจ ‘ช่างน่าทึ่ง!’ ใครจะคิดว่าตระกูลเล็กๆที่ไม่เป็ที่รู้จักในยุคหลังเคยรุ่งโรจน์ถึงเพียงนี้ในอดีต
สุดท้ายซูเซวียนก็จากไป
ท้ายที่สุดเป้าหมายแรกเริ่มของเขาสำเร็จแล้วและสำหรับการค้นพบเพิ่มเติมในตอนนี้ไม่มีเบาะแสจึงไม่จำเป็ต้องรีบร้อน
เขาจะรอจนกว่าทุกอย่างจะกระจ่าง
ภายในห้องลับ
จักรพรรดิตระกูลซูมองร่างของซูเซวียนที่หายไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลาด้วยสีหน้าโล่งใจและเปี่ยมด้วยความยินดี
การได้เห็นการกำเนิดของยอดฝีมือที่โดดเด่นและสั่นะเืโลกในยุคหลังของตระกูลซูทำให้เขาไร้ซึ่งความเสียใจ
…
“เมื่อข้าความสามารถในการย้อนกลับชีวิตและความตายข้าจะดูว่าสามารถชุบชีวิตสมาชิกตระกูลซูจากทุกยุครวมถึงจักรพรรดิเ่าั้ได้หรือไม่”
ซูเซวียนที่กลับมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลาสู่ปัจจุบันคิดในใจอย่างลับๆ
นี่เป็การกระทำที่ท้าทาย์อย่างน่าใตลอดประวัติศาสตร์คาดว่าไม่มีใครเคยทำสิ่งนี้ได้
ไม่ต้องพูดถึงการความสามารถในการย้อนกลับชีวิตและความตายต่อให้มีก็ต้องพิจารณาว่าสามารถต้านทานผลสะท้อนกลับอันน่าสะพรึงกลัวและกรรมอันมหาศาลได้หรือไม่
เพราะแม่น้ำแห่งกาลเวลานี้เป็เพียงสาขาเล็กๆซูเซวียนจึงต้านทานพลังสะท้อนและกรรมได้
ทว่าเขายังไม่เชี่ยวชาญความสามารถในการย้อนกลับชีวิตและความตายเขาจะต้องรอจนกว่าก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นหรือเพียงแค่จับสลากได้สมบัติที่เกี่ยวข้อง
“ยังคงเป็คำกล่าวเก่า:ไม่ต้องรีบในตอนนี้เพียงวาดฝันไว้ก่อน”
ทันทีนั้นซูเซวียนที่ถือหินและทองจักรพรรดิของสำนักปี้เซวียนหายไปจากจุดเดิม