เมื่อเดินมาได้ไม่ไกลไอหมอกก็จางลงเพราะมีกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากและยังมีคลื่นน้ำขนาดใหญ่ถาโถมบนผิวน้ำจนเกิดละอองน้ำลอยขึ้นสูงว่าสิบเมตรโดยสายน้ำขนาดใหญ่ได้ไหลซัดตัดขาดถนนที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่ไปแล้วและเมื่อข้ามองไปอีกฝั่งก็เห็นว่าหินาาสรรพสัตว์ตั้งอยู่ตรงนั้นพอดี!
จักรภพธาราตั้งตามชื่อของแม่น้ำที่มีขนาดกว้างกว่าสามกิโลเมตร แถมมันยังไหลเชี่ยวกรากเหมือนกับเสียงของสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างไม่ขาดสายแม้แต่สัตว์จำพวกปลายังไม่อาจเอาชีวิตรอดจากแม่น้ำที่เชี่ยวขนาดนี้ได้และนับประสาอะไรกับคนธรรมดา
เมื่อมองไปยังริมแม่น้ำที่ไกลออกไปกว่าสองลี้ก็เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยยืนอยู่ตรงนั้นและหนึ่งในนั้นก็คือถังเชวียหรานที่โบกไม้โบกมือบอกให้ข้าเดินเข้าไปหา
และเมื่อข้าเดินเข้าไปใกล้ก็พบว่าถงจั๋วเองก็มาถึงแล้วนอกจากนั้นยังมีฟางชิงยวน มู้เซวี่ยน หยู่เหวินชิงและคนอื่นๆที่เข้ามาในชั้นจักรภพธารานี้ด้วยซึ่งแต่ละคนที่มาก็เหมือนจะมีพลังอยู่ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์กันทั้งนั้นแม้แต่ซูเหยียนเองก็ยังทะลวงจุดที่พี่เสวียนยินเคยสกัดไว้จนเข้าสู่ระดับสมบูรณ์ของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์แล้วเหมือนกันคงจะเหลือก็เพียงข้าที่ยังอยู่ในขั้นเทวิญญาเหมือนเดิมใช่ว่าข้าไม่อยากบรรลุขั้นนี้ แต่สิ่งที่พี่เสวียนยินใช้สกัดจุดให้ซูเหยียนและถังเชวียหรานจะเป็เพียงกุญแจหินที่เปราะบางแต่สำหรับข้ากลับใช้กุญแจเหล็กไหลที่แ่ามาสกัดจุดของข้าแทนจึงเป็เหตุที่ข้าพยายามอยู่หลายครั้งก็ยังทะลวงจุดนี้ไม่ได้สักที
...
ผ่านไปไม่นานก็มีคนมาอีกซึ่งต่างก็เป็คนของสำนักหมื่นิญญาอย่างซือคงอี้ เชวียนหยวนจิ้น ไอลาและคนอื่นๆดูเหมือนว่าคนที่เข้ามาในชั้นที่สี่ทั้งยี่สิบกว่าคนจะมากันเกือบครบแล้วเหลือก็แต่ซูเหยียนที่ไม่รู้หลงไปอยู่ไหน
ซือคงอี้กระแอมขึ้นมาสองสามทีก่อนจะถาม“มีคนผ่านไปหรือยัง?”
มู้เซวี่ยนยิ้มบางๆก่อนจะตอบ “ตอนนี้ยังไม่มีเพราะพวกเรากำลังรอดูผู้ที่ท้าทายจักรภพธาราคนแรกกันทั้งนั้นแหละ!”
“สนามเซินยวนในชั้นนี้คือการทดสอบวิชาตัวเบาซึ่งจะมีแต่คนที่มีวิชาตัวเบาล้ำเลิศและสามารถอาศัยแรงน้ำเพื่อเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนลมหายใจในการใช้พลังได้ดีเท่านั้นจึงจะสามารถใช้แรงของละอองน้ำที่ปลิวว่อนนี้ข้ามไปยังอีกฝั่งของเหวแห่ง์นี้ได้”
ฟางชิงยวนว่าแล้วก็หันมาพูดด้วยรอยยิ้มแต่สายตากลับเรียบเฉย“แม่นางถังเชวียหรานวิชาเบญจสลาตันของตระกูลถังได้ชื่อว่าเป็วิชาตัวเบาอันล้ำเลิศอันดับหนึ่งในแผ่นดินใหญ่แห่งนี้เลยไม่ใช่เหรอทำไมเ้าถึงไม่ลองแสดงให้พวกข้าดูสักหน่อยล่ะ?”
นางกำลังจะเอ่ยปากพูดแต่ข้าก็ยกแขนขึ้นห้ามแล้วพูดด้วยรอยยิ้มแทน“ข้าว่าชั้นจักรภพธาราคงไม่ได้เป็การทดสอบวิชาตัวเบาอย่างเดียวละมั้ง? เพราะการอาศัยพลังน้ำในการเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนลมหายใจขณะใช้พลังเป็สิ่งที่ผู้ฝึกฝนิญญาขั้นกลางต่างก็ทำได้ทั้งนั้นทว่าจักรภพธารานี้กลับไม่ใช่แค่นั้นเพราะข้างใต้จักรภพธาราสายนี้ยังมีพลังที่รุนแรงแฝงอยู่ดังนั้นเมื่อก้าวข้ามไปจะต้องถูกสัตว์ิญญาเบื้องล่างพุ่งขึ้นมาโจมตีอย่างแน่นอน”
ถังเชวียหรานหันมามองข้าก่อนจะพูดพลางยิ้ม“ขอบใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ข้าบอกไปเสียงต่ำพลางครุ่นคิดอยู่ในหัวว่าต้องทำยังไงถึงจะสามารถข้ามผ่านแม่น้ำสายนี้ไปได้และถ้าใช้วิธีธรรมดาๆ ก็คงจะข้ามไปไม่ได้แน่ดังนั้นถ้าอยากจะข้ามไปให้สำเร็จก็ต้องมีการลงทุนลงแรงบางอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่้า...
ขณะนั้นศิษย์ของสำนักอะไรสักแห่งก็เดินออกมาจากกลุ่มคนเขามีรูปร่างบึกบึนและพลังอันรุนแรงในขั้นการบำเพ็ญระดับสมบูรณ์ของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์อีกทั้งใบหน้ายังแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์“นึกไม่ถึงว่าคนของสำนักใหญ่ทั้งสี่จะไม่มีใครกล้าเข้าไปสักคนหรือคงจะมีแต่คนของสำนักวิหคสายฟ้าอย่างข้ากระมัง เหอะๆแล้วอย่าหาว่าข้ามาแย่งซีนก็แล้วกัน!”
มู้เซวี่ยนยิ้มบางๆก่อนจะพูด “ฮึ ก็เอาสิ!”
ฟางชิงยวนได้แต่ยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ดูเหมือนว่าเ้าร่างั์จะมีขั้นการบำเพ็ญที่ไม่เลวเหมือนกันถึงได้มีพลังที่รุนแรงขนาดนี้เขากระทืบเท้าลงบนดินโคลนที่เปียกแฉะและะโออกไปไกลถึงสิบเมตรพร้อมกับพลังลมที่แผ่ซ่านออกมาทั่วร่างกายและวิชาตัวเบาที่ฝึกฝนจนเข้าขั้นสูงเลยทีเดียว
แปะ!แปะ! แปะ!
ปลายเท้าของเขาแตะลงบนละอองน้ำแล้วปล่อยพลังออกมาจนเกิดแสงจ้าไปทั่วบริเวณเพียงแค่เ้าร่างั์คนนั้นแตะเท้าลงบนละอองน้ำครั้งเดียวก็เหาะไปได้ไกลถึงร้อยเมตรวิชาตัวเบาถือว่าล้ำเลิศไม่น้อยเหมือนกัน
“วิชาเหาะร้อยก้าวของสำนักวิหคสายฟ้าช่างร้ายกาจจริงๆนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถเหาะไปได้ไกลอย่างง่ายดาย!”
“นั่นน่ะสิ ดูจากวิชาตัวเบาในครั้งนี้ เขาน่าจะฝึกมานานเลยล่ะสำนักวิหคสายฟ้าช่างเป็เสือซ่อนเล็บจริงๆ!”
“นึกไม่ถึงว่านอกจากสี่สำนักใหญ่แล้วเมืองเขตตะวันตกจะมียอดฝีมืออย่างเขาอยู่ข้าว่าเขาคงจะเป็คนแรกที่เข้าไปในสนามเซินยวนชั้นที่หกแล้วแย่งการได้หน้าจากสำนักอื่นไปแน่ๆ”
ขณะที่คนอื่นๆกำลังคุยกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีพลังไสยศาสตร์ที่รุนแรงกระโจนขึ้นมาจากผิวน้ำพร้อมกับเสียงคำรามดังสนั่นก่อนจะเผยให้เห็นสัตว์ิญญาขนาดั์ที่มีกระดองสีแดงเพลิงพุ่งขึ้นจากผืนน้ำด้วยร่างกายที่สูงกว่าสิบเมตรแข้งขาสามคู่ที่เหมือนกับคีมเหล็กกำลังกวัดแกว่งสะเปะสะปะไปในอากาศราวกับดาบาที่ฟันออกไปจนเกิดคลื่นพลังสีขาวพุ่งเข้าหาศิษย์ของสำนักวิหคสายฟ้าคนนั้น
วิชาตัวเบาของศิษย์คนนั้นค่อนข้างแกร่งจึงเรียกอาวุธิญญาซึ่งเป็กระบี่ของตัวเองออกมาและฟันเข้าที่กระดองแข็งๆ ของสัตว์ิญญาตัวนั้นอย่างแรง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำลายกระดองของมันได้แต่ก็สามารถใช้แรงกระทบครั้งนี้ส่งตัวเองให้เหาะไปได้ไกลถึงยี่สิบเมตรเพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปยืนบนฝั่งได้
ตูม!
ขณะที่พวกเราต่างก็คิดว่าเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากการข้ามแม่น้ำสายนี้ไปได้แต่แล้วก็มีสัตว์ิญญาร่างั์บินเข้าใส่พร้อมกับอ้าปากที่กว้างห้าเมตรทั้งยังมีฟันอันแหลมคมด้านในก่อนจะงับศิษย์ของสำนักวิหคสายฟ้าคนนั้นจนเืสาดกระเด็นแล้วกินเขาเข้าไปอย่างน่าสยดสยอง
ฮะ!
ทุกคนที่ยืนอยู่บนฝั่งต่างก็ร้องด้วยความใเพราะไม่คิดว่าคนที่อยู่ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์จะมาตายง่ายๆ แบบนี้
“นั่นคือสัตว์ร้ายใต้สมุทรซึ่งเป็สัตว์ิญญาระดับเจ็ดและอาศัยอยู่ในทะเลลึกมาอย่างยาวนาน”
มู้เชวียนขมวดคิ้วเข้มก่อนจะพูดขึ้น“นึกไม่ถึงว่าในนั้นจะไม่ได้มีแค่สัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวเดียวอาศัยอยู่แบบนี้พวกเราคงเจอปัญหาใหญ่แล้วล่ะ”
ซือคงอี้ถามบ้าง“แล้วจะทำยังไงต่อไป หรือพวกเราจะต้องยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?”
แต่ละคนต่างก็มองไปยังฟางชิงยวนที่แข็งแกร่งที่สุดในนี้เพื่อรอดูว่าเขาจะพูดอย่างไรต่อไปจึงจะทำตามซึ่งเขาก็มองไปยังแม่น้ำที่เชี่ยวกรากสายนั้นก่อนจะพูดขึ้น“มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น!”
คนอื่นๆต่างถามอย่างพร้อมเพรียงด้วยความสงสัย “ว่ามาสิ”
“พวกเราจะต้องข้ามแม่น้ำสายนี้ไปพร้อมกันถึงจะสำเร็จ”
ฟางชิงยวนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะพูดต่อ“มีเพียงแค่พวกเราร่วมมือกันถึงจะสามารถใช้พลังข่มขู่สัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนั้นให้ล่าถอยและพากันขึ้นไปอีกฝั่งหนึ่งได้”
มู้เซวี่ยนพูดเสริม“วิธีนี้อาจจะได้ผลจากที่ข้าดูแล้วเ้าสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไรดังนั้นขอแค่พวกเราใจเย็นๆ ก็จะสามารถจัดการกับมันและข้ามฝั่งไปได้แน่”
ซือคงอี้พยักหน้าเห็นด้วยแล้วพูดขึ้น“คงจะมีแค่ทางนี้ทางเดียวแล้วสินะ”
แต่ละคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยจะมีก็แต่ข้าที่ขมวดคิ้วเข้มจนถังเชวียหรานหันมาถามด้วยความสงสัย “ทำไมเหรอ?”
ถงจั๋วเองก็หันมาเช่นกัน
ข้ามองไปยังอีกฝั่งที่ไกลสุดสายตาก่อนจะพูดขึ้น“จริงๆ วิธีนี้จะทำให้ผู้ที่แข็งแกร่งสามารถข้ามไปได้อย่างสบายๆแต่สำหรับผู้ที่อ่อนแออาจจะตกเป็อาหารของสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่อยู่เบื้องล่างนั้นแน่นอนอีกอย่างใครจะกล้ารับประกันบ้างล่ะว่าฟางชิงยวนกับมู้เซวี่ยนจะไม่ทิ้งคนพวกนั้นแล้วเอาตัวรอดคนเดียว?”
ถังเชวียหรานก็เริ่มเป็กังวลจึงพูดขึ้น“และตอนนี้เสี่ยวเหยียนก็ยังไม่มาด้วย ถ้าพวกเราข้ามไปแล้วนางจะทำยังไง?”
ข้าได้ยินแล้วก็พูดขึ้น“ซูเหยียนนางมีพลังเมฆาเพลิงัซึ่งเป็พลังธาตุไฟขั้นสุดยอด และสามารถข่มขู่เ้าพวกสัตว์ร้ายใต้สมุทรให้หลบไปได้อยู่แล้วข้าก็เลยไม่เป็ห่วงแต่ข้ากลับกังวลว่า...ช่างเถอะข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังกังวลอะไรอยู่”
“แล้วพวกเราจะไปเลยหรือเปล่า?”
“ข้าว่าถือโอกาสข้ามไปตอนคนเยอะๆ น่าจะดีที่สุดแล้วล่ะ”
“อืม”
...
พวกเรานัดกันเพื่อแผ่ซ่านพลังออกมาพร้อมๆกันเพียงชั่วครู่บนฝั่งแม่น้ำก็สว่างจ้าด้วยพลังของผู้เข้าร่วมการประลองกว่ายี่สิบคนในนี้โดยคนของสำนักหมื่นิญญาอย่างพวกเราต่างก็ปล่อยพลังของวิชาลมหายใจัออกมาอย่างกล้าแกร่งและขณะที่ข้าปล่อยพลังของมหาัั์ออกมา ฟางชิงยวนก็มองมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจทว่ากลับมีสายตาของความเกลียดชังอยู่ด้วยแต่ถ้าเทียบกันแล้วก็ดูเหมือนว่าสายตาของหยู่เหวินชิงจะรุนแรงมากกว่าเพราะตอนนี้น้องชายอย่างหยู่เหวินฉีได้รับาเ็จนต้องออกจากการประลองส่วนมู้หยิงหยิงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉะนั้นตอนนี้เขาจึงดูกระวนกระวายมากที่สุด
“ลุย!”
ฟางชิงยวนว่าแล้วก็ลอยเหาะออกไปเป็คนแรกส่วนคนอื่นๆ ก็ทยอยตามกันไป ซึ่งข้ากับถังเชวียหรานก็หันมามองกันพักหนึ่งแล้วปกป้องถงจั๋วให้อยู่ตรงกลางและลอยเหาะออกไปเช่นกันโดยข้าใช้พลังของเพลงขาเมฆาหมอกเพื่อพยุงตัวเองให้ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ตามฟางชิงยวนจนทันซึ่งคนของสำนักหมื่นิญญาอย่างซือคงอี้เชวียนหยวนจิ้นและไอลาต่างก็มองมาที่ข้าพร้อมๆกันแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา...ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเลือกอยู่ฝั่งฟางชิงยวนแล้วสินะ
“ระวัง!”
เบื้องล่างเกิดน้ำวนขึ้นก่อนจะมีเสียงน้ำเดือดปุดๆเพื่อเป็สัญญาณบอกว่าสัตว์ร้ายใต้สมุทรกำลังจะขึ้นมาแล้ว
ซุ่ม!
พอพวกเราเหาะมาได้ประมาณหนึ่งพันเมตรเ้าสัตว์ร้ายใต้สมุทรมันก็รวมใจเข้ามาโจมตีพร้อมกันถึงสองตัวขาที่เป็เหมือนคีมเหล็กพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ซึ่งรู้สึกได้ถึงความคมอย่างชัดเจนเช่นกัน
ข้ากัดฟันแน่นก่อนจะเหยียบลงบนคลื่นน้ำและใช้กระบี่คมจันทราที่อัดแน่นไปด้วยพลังของสี่พลังรวมเป็หนึ่งจากนั้นจึงหันเข้าหาสัตว์ิญญาระดับเจ็ดตรงหน้าจนมันหล่นกลับลงไปดังเดิมส่วนอีกฝั่งฟางชิงยวนก็ใช้พลังของตัวเองจัดการจนสัตว์ร้ายใต้สมุทรตกลงไปในน้ำเหมือนกัน
ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิมเพราะคลื่นกลับรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและเผยให้เห็นสัตว์ิญญาขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาจากผืนน้ำนับสิบกว่าตัว!
ความจริงข้าสามารถใช้พลังของเพลงขาเมฆาหมอกเพื่อหลบหลีกการโจมตีที่เชื่องช้าของสัตว์ร้ายใต้สมุทรแล้วขึ้นไปบนฝั่งได้ง่ายๆแต่ถ้าข้าไปแล้วพวกถงจั๋ว ไอลา เชวียนหยวนจิ้นและคนอื่นๆที่มีพลังน้อยกว่าจะต้องแย่แน่ๆเพราะถ้าถูกสัตว์ิญญาระดับเจ็ดเข้าโจมตีต่อให้พวกเขามีเยอะแค่ไหนก็ไม่เพียงพอ
อ๊ายยย!
คลื่นั์ซัดเข้ามาที่ร่างของไอลาอย่างแรงกว่าหนึ่งพันชั่งแม้แต่นางที่อยู่ในขั้นเทวิญญายังเสียการทรงตัวส่วนด้านล่างก็เป็สัตว์ร้ายใต้สมุทรที่กำลังอ้าปากรอรับนางซึ่งตอนนี้ใบหน้าของนางบ่งบอกถึงความใกลัวจึงได้แต่ะโเรียกเสียงดัง“ฟางชิงยวน ช่วยข้าด้วย!”
แต่ฟางชิงยวนกลับรีบหลบหลีกสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวนั้นอย่างรวดเร็วแทนแถมยังไม่สนใจนางเลยสักนิดอีกต่างหาก
หวึ่ง!
ข้ารีบเคลื่อนพลังของมหาัั์เพื่อลดความหนักของร่างตัวเองจากนั้นจึงพุ่งเข้าไปดึงนางออกจากปากของสัตว์ร้ายใต้สมุทรอย่างรวดเร็วและสะบัดนางให้ขึ้นไปที่ปลายระลอกคลื่นลูกอื่นเพื่อทรงตัวใหม่
“ปู้อี้เชวียน...”
นางก้มหน้าลงมามองข้าด้วยสายตาซาบซึ้งในบุญคุณของข้าอยู่
ซู่ม!ซุ่ม! ...
สัตว์ร้ายใต้สมุทรสองตัวพุ่งเข้ามาโจมตีข้าพร้อมๆกัน ส่วนข้าก็ใช้พลังเพื่อเหวี่ยงตัวไปมาไปจนเกือบหมดจึงต้องหาแรงในการทรงตัวใหม่เมื่อคิดได้แบบนั้นข้าก็ประกบมือเข้าด้วยกันจนเกิดแสงสีทองจากนั้นแยกออกเพื่อให้คันศรอัคนีออกมาแล้วยิงไปที่เ้าสัตว์ร่างั์สองตัวนั้นอย่างรวดเร็ว
ปั้ง!
ศรทะลวงพิภพพุ่งเข้าใส่ผืนน้ำจนแตกออกเป็วงกว้างและใช้แรงต้านของมันพยุงตัวเองให้ทรงตัวได้อีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมา
โชคดีที่ยังทัน!
ขณะที่ข้าเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่ามีคนกำลังดิ่งลงมาจากฟ้าพร้อมกับกระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังของเพลงกระบี่โลกชิตซึ่งก่อตัวเป็เส้นพลังกว่าร้อยเส้นฟางชิงยวนดิ่งลงมาด้วยใบหน้าเคียดแค้นก่อนจะตวาดเสียงดัง “ปู้อี้เชวียน ตายซะ!ข้าจะล้างแค้นแทนหลี่ซูหนานและจ้าวชูเยว่เอง!”
ข้าเคยคิดว่าฟางชิงยวนจะลงมือฆ่าข้าสักวันแต่ไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้
...
พลังของเพลงกระบี่โลกชิตะเิออกเมื่อกระทบไหล่ของข้าและพลังการทรงตัวของข้าก็เสียไปจนร่างกายดิ่งลงไปในสายน้ำเหมือนะุปืนและขณะที่ดิ่งลงไปข้าก็ได้ยินเสียงของถังเชวียหรานและถงจั๋วพูดขึ้น
“ปู้อี้เชวียน...ฟางชิงยวนเ้าคนสารเลว!”
“สหายปู้!! ...ฟางชิงยวน เ้าคนสกปรก ข้าจะจัดการคนชั่วอย่างเ้าเองเ้าเทียบกับหมาตัวหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ ไอ้คนบัดซบ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้