ในใจของชิวิมีความโกรธพวยพุ่ง เขาก้าวไปหาหยวนอวี่เพียงไม่กี่ก้าว ดึงนางให้ลุกขึ้น ถามด้วยความเกรี้ยวกราด “นี่เ้ากำลังทำอันใดอยู่ ไม่ได้ยินเสียงร้องของลูกหรือไร? อีกอย่าง เ้าที่กลับมาจากข้างนอกได้แวะไปดูลูกอีกสองคนบ้างหรือยัง? ”
ทันทีที่นางกลับมาก็มีทีท่ารังเกียจลูกตัวเอง มิหนำซ้ำยังจะมานั่งแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่ตรงนี้ นี่เป็ครั้งแรกที่เขากล่าวโทษหยวนอวี่ ถึงแม้ในใจจะมีความเคลือบแคลง แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเื่นี้จะเป็เื่จริง
หยวนอวี่มองสามีที่ดวงตาแดงก่ำ นางคิดจะพูดตอกกลับด้วยคำรุนแรง แต่เมื่อไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน หากตนใช้ไม้แข็งปะทะไม้แข็งกับเขา คนที่ต้องาเ็รุนแรงก็มีแต่จะเป็นางคนเดียว อย่างไรเสีย บุรุษผู้นี้ก็เป็แค่คนโง่คนหนึ่ง ขอแค่นางตั้งใจปลอบดีๆ เขาก็ไม่วายจะเชื่อฟังนางไปเสียทุกอย่าง
นางจ้องมองชิวิด้วยดวงตาแดงก่ำ “ก็ไม่ใช่เพราะในใจข้ามีโทสะอยู่หรอกหรือ เมื่อครู่ที่ไปเรือนเด็ดดารามา ข้าได้ยินพวกสาวใช้แอบพูดคุยกันว่า มองดูแล้วเหมือนข้าจะแก่กว่าชายารัชทายาทอยู่สองสามปี ท่านลองคิดดูเถิด อันที่จริงตัวข้านี้ยังเด็กกว่านางสองสามปี แต่ตอนนี้กลับดูแก่เสียยิ่งกว่านาง ด้วยเื่นี้ ใจข้ายังจะรู้สึกดีได้อีกหรือ? ” พูดไปพูดมา น้ำตานางก็ร่วงเผาะขณะมองชิวิด้วยท่าทางน่าสงสาร
ชิวิที่ถูกนางมองเช่นนี้ก็ถึงกับใจอ่อนทันที เขาช่วยนางเช็ดน้ำตาออกไปอย่างระมัดระวัง พูดเสียงเบา “หยวนอวี่ของข้าดีที่สุด สวยที่สุด เหตุใดเ้าต้องนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับชายารัชทายาทด้วยเล่า ในใจข้า ชายารัชทายาทร้อยคนก็ยังเทียบเ้าไม่ได้ ก็เหมือนกับที่คนข้างกายชายารัชทายาทมองว่าเ้าไม่อาจเทียบนางได้ ในใจของคนจวนโหวเรา นางเองก็เทียบเ้าไม่ได้เช่นกัน”
หยวนอวี่ถูกเขาหยอกล้อจนสามารถกลับมาหัวเราะได้ นางแสร้งทำเป็ถลึงตาใส่เขา จากนั้นก็พุ่งกายเข้าไปในอ้อมแขนของชิวิ พูดเสียงเบา “สามี ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไปดูลูกของเราเดี๋ยวนี้”
ในตอนที่นางกำลังหมุนกายจะจากไปก็เป็ชิวิที่รั้งไว้ เขายิ้มพูดว่า “ภรรยา ก่อนจะไปดูลูก เ้าควรทำให้สามีพอใจสักหน่อยก่อน”
ชิวิมองภรรยาที่เริ่มมีท่าทีหลบเลี่ยง ในสายตามีแววขบคิดอย่างล้ำลึกวาบผ่านพลางนึกถึงคำพูดของน้องสาว สตรีก็ควรเห็นสามีเป็ดังฟ้าของนาง ทั้งยังนึกไปถึงว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้เร่าร้อนกับนางมานานแล้ว...
ถึงกระนั้นเมื่อครู่นี้นางยังร้องห่มร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนตนอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนสีหน้าแล้ว?
คิดถึงตรงนี้ เขาก็แค่นเสียงเ็าแล้วโยนตัวหยวนอวี่ลงไปบนเตียง รอกระทั่งตอนที่เขาลงจากเตียงมาอีกครั้ง หยวนอวี่ก็ถูกเขาทรมานจนหน้าแดงก่ำไปหมด นางพาดลำตัวอยู่บนเตียงด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทว่า ตอนที่ชิวิหันไปมองนางก็ไม่ได้คลาดสายตาถือโทษโกรธแค้นของหยวนวอี่ไปแม้เพียงจิบชา
เพียงแค่สายตาเดียวก็ทำเอาชิวิราวกับตื่นขึ้นจากฝัน ภรรยาของเขาโกรธแค้นเขา? เหตุใดเขาจึงไม่ได้รู้สึกว่าตนทำผิดที่ตรงไหน เขาก็แค่ให้นางทำเื่ฉันสามีภรรยาที่ใครๆ ก็ล้วนทำกัน แล้วเขาผิดด้วยหรือ? หรือว่าการที่นางยืนหยัดไม่ให้ตนััเช่นนี้จะเป็ไปเพื่อรักษาไว้ให้ผู้ใด?
คิดถึงตรงนี้ ในใจเขาก็รู้สึกไม่เป็รสชาติ “เ้าคือภรรยาของข้า ั้แ่วันที่เ้าเดินเข้าประตูตระกูลชิวมาก็นับว่า ชีวิตเ้ามีความเกี่ยวพันกับตระกูลชิวแล้ว หยวนอวี่ เปิ่นโหวไม่สนหรอกว่าตัวเ้าจะคิดเช่นไร แต่จงจำไว้ ในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าเปิ่นโหวจะพูดอะไร เ้าก็มีหน้าที่แค่ฟังเท่านั้น”
ถึงแม้ในใจจะเ็ปมาก แต่นางก็เป็สตรีที่เขารัก เขาจึงไม่กล้าพนันนัก เพราะหากครั้งนี้ต้องพ่ายแพ้ก็ไม่แน่ว่าจะไม่ใช่แค่ต้องสูญเสียภรรยาไป แต่บ้านนี้ก็อาจถึงคราวแตกกระสานซ่านเซ็นไปด้วย ด้วยเหตุนี้ คงเหลือหนทางเดียวคือการเป็คนเลวสักรอบ ต่อให้นางจะแค้น ขอแค่เขาสามารถรั้งตัวนางไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว
“ชิวิ เ้าสารเลว ข้าเป็ภรรยาเ้า เ้าทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร” หยวนอวี่คิดถึงการกระทำทั้งหมดของเขาเมื่อครู่ ในใจนางโกรธแค้นยิ่งนัก คนที่นางรักคือรัชทายาท ส่วนตอนนั้นที่สามารถเข้าไปใกล้ชิดหนิงอ๋องเพื่อรัชทายาทได้ก็เป็เพราะอายุยังน้อย ไม่รู้ความ และเพียงคิดว่า หากสามารถทำอะไรเพื่อเขาได้บ้าง แม้จะสักเล็กน้อยก็ยังดี
แต่ตอนนี้นางไม่ใช่หยวนอวี่ที่มีนิสัยเป็เด็กเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว ตอนนี้สิ่งที่นาง้าคือรักษาร่างกายที่เป็ดังเศษดอกไม้ปลิดปลิวและต้นหลิวเหี่ยวเฉานี้เอาไว้ ทำอะไรเพื่อเขาให้มากหน่อย มิคาดชิวิที่รักนาง ปกป้องนางมาตลอดจะกล้าทำเื่บ้าคลั่งเช่นนี้ได้
หยาดน้ำตาของนางร่วงหล่นลงมาไม่มีหยุด ความแค้นในใจท่วมท้นเสียจนนางจมลึกลงไปถึงไหนถึงไหนแล้ว แต่คนยังจะมาให้นึกถึงตระกูลชิว หรือลูกอะไรนี่อยู่อีก
เมื่อชิวิได้ยินเช่นนั้นก็กลับมาบีบคางนาง หัวเราะหึหึเ็า “เ้ายังจำได้อีกหรือว่า ตัวเ้าเป็ภรรยาของเปิ่นโหว เปิ่นโหวนึกว่าเ้าจะหลงลืมไปหมดแล้วเสียอีก แต่ว่า ในเมื่อจำได้แล้ว เช่นนั้นก็จำไว้ให้ดี จดจำไว้ในใจ เ้าเป็สตรีของข้าก็จงทำในสิ่งที่สตรีของข้าควรกระทำเสีย”
ผู้หญิงคนหนึ่ง ภรรยาคนหนึ่ง ควรทำอะไร? หน้าที่เ่าั้นอกจากจะให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรแล้ว ก็คือการปรนนิบัติสามี หยวนอวี่มองชายที่เดินออกไป บนสองแก้มของนางอาบด้วยน้ำตา ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเื่ราวที่เกิดขึ้นในหานโจวตอนนั้น
ตอนนั้นหลังจากที่กลับมาจากหานโจว นางก็ถูกตรวจพบว่ากำลังตั้งครรภ์ จึงจำต้องแต่งให้ชิวิ ถึงกระนั้นแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่เื่ที่เกิดขึ้นในจวนหานอ๋องก็ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ ตอนนั้นนางเองก็เคยสงสัยว่า เป็นังชั้นต่ำอวิ๋นซีผู้นั้นที่เล่นงานตน
ตอนนี้คิดๆ ดูอีกที เื่ในตอนนั้นต้องเกี่ยวข้องกับอวิ๋นซีอย่างแน่นอน ที่นั่นเป็ถิ่นของอวิ๋นซี ถ้าคนคิดจะวางแผนทำอะไรนางก็ย่อมไม่มีทางหาหลักฐานเจอ ดังนั้น หนี้ความแค้นล้วนมีลูกหนี้ให้ต้องสะสาง เหตุที่วันนี้นางต้องเป็เช่นนี้ก็เพราะอวิ๋นซี
หากนางไม่ได้อยู่ดี อวิ๋นซีก็อย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่ดี เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้างามของหยวนอวี่ก็ปรากฏรอยยิ้มดำมืด ทั้งหมดนี้ นางจักต้องคิดหาวิธีเอาคืนให้ได้ อวิ๋นซีทำให้นางต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป เช่นนั้นนางก็จะให้อีกฝ่ายได้ลิ้มรสความเ็ปจากการที่คนรักต้องละจาก
ในตอนนี้อวิ๋นซีไม่รู้เื่รู้ราวเลยว่า ตนเองถูกคนหมายหัวไว้แล้ว ทันทีที่นางตื่นขึ้นก็ได้ยินสาวใช้มารายงานว่า ผิงถิงจวิ้นจู่ ไม่ใช่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกคนว่า จางเหวินเหมย และครอบครัวของอีกฝ่ายได้ย้ายออกไปพำนักอยู่ที่ตำหนักสิงกงแล้ว เมื่อนางได้ยินก็ยิ้มบางๆ ในสถานการณ์ดังเช่นตอนนี้จางเหวินเหมยผู้นั้นจะยังมีหน้ารั้งอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทว่า หากเป็คนที่ไม่หน้าหนาเพียงนี้จักต้องเก็บข้าวของแล้วไสหัวไปให้ไกลอย่างแน่นอน ขณะที่คนเช่นจางเหวินเหมยกลับยังมีหน้ารั้งอยู่ในเมืองหลวงได้
“พอคุณหนูจางย้ายออกไป ชายาอี้อ๋องก็มาที่นี่เพคะ ตอนนี้นางรอพระชายาอยู่ที่นอกเรือน” หวนเอ๋อร์พูดเสียงเบา “ท่านจะไปพบนางหรือไม่เพคะ? ”
อวิ๋นซีครุ่นคิด จากนั้นก็พยักหน้าตอบ “ไปพบนางสักหน่อยก็แล้วกัน มิเช่นนั้นคนจะไปพูดเอาได้ว่า เปิ่นเฟยไม่ชอบนาง” ั้แ่ที่มาเมืองหลวง นางก็ไม่เคยได้สมาคมกับพระราชชายาเต๋อเฟยเลย อย่างไรก็ดีนางรู้ว่าสตรีผู้นั้นไม่ใช่คนที่จะหาเื่ด้วยได้ง่ายๆ นอกจากจะต้องระวังป้องกันเต๋อเฟยแล้ว นางยังต้องระวังป้องกันหวงกุ้ยเฟยที่มักจะเก็บตัวเงียบผู้นั้นอีกด้วย คนผู้นั้นเองก็เป็คนที่ร้ายกาจคนหนึ่งถึงขนาดพูดได้เต็มปากว่า ตอนนั้นที่โอวหยางเทียนหัวสามารถดำรงตำแหน่งรัชทายาทได้อย่างมั่นคงได้ นอกจากจะเป็ผลงานของเฉียวอวิ๋นซีแล้วก็ยังเป็ผลงานของมารดาเขาอย่างหวงกุ้ยเฟยอีกด้วย
ไม่ว่าจะเต๋อเฟยหรือหวงกุ้ยเฟย ผู้หญิงสองคนนี้ก็เป็คนที่มีน้ำอดน้ำทนยิ่ง เพียงแต่ตอนนี้ที่ทุกอย่างยังสงบนิ่งก็เป็เพราะพวกนางยังไม่ได้ลงมือทำอะไรก็เท่านั้น
หลังจากที่อวิ๋นซีแต่งตัวและเกล้าผมเรียบร้อยแล้ว นางก็ออกไปเจอหลินหลานอี๋ผู้ที่ตอนนี้เป็ชายาอี้อ๋อง คนไม่เจอกันไม่กี่วันกลับดูเหมือนว่า หลินหลานอี๋ผู้นี้จะซูบผอมลงไปไม่น้อย ถึงแม้บนใบหน้าจะโบกแป้งและแต่งแต้มสีสัน แต่ความแห้งเหี่ยวที่บริเวณดวงตาก็ไม่ใช่ว่าจะปิดบังได้ง่าย
ทันทีที่นางเห็นอวิ๋นซีเดินเข้ามาก็รีบขึ้นหน้ามาคุกเข่า อวิ๋นซีเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาประคองคนขึ้น “น้องสะใภ้ห้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร นี่เ้า้าทำให้เปิ่นเฟยกลายเป็คนไร้คุณธรรมั้แ่เช้าเลยหรือ? ”
หากว่าวันนี้หญิงผู้นี้คุกเข่าให้ตนจริงๆ เพียงไม่นานด้านนอกก็คงมีคำเล่าลือที่ว่า ชายาหนิงอ๋องโอหังรังแกผู้อื่น ไม่ถูกกับสะใภ้ด้วยกัน ทั้งยังไม่เคารพผู้าุโอะไรทำนองนี้แน่