เฟิ่งเฉี่ยนก้าวเข้าไปยืนข้างกายเขาในเวลานี้และถามขึ้นอย่างใส่ใจ “หลีต้าซือ ท่านเป็อะไรหรือ เหตุใดจึงสั่นไปทั้งตัวเลยเล่า ไม่สบายใช่หรือไม่”
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหลีต้าซือกระตุกไม่เป็ธรรมชาตินัก เขากระดากใจอย่างที่สุด ทว่าเฟิ่งเฉี่ยนไม่คิดจะปล่อยให้เขาลอยนวล นางจึงพูดขึ้นอีกว่า “ท่านอย่าได้เป็ลมเป็แล้งขึ้นมาในตอนนี้เชียว! หาไม่แล้วจะกล่าวโทษข้าขึ้นมาอีกว่าเป็คนผลักท่านล้ม ต่อให้ข้าะโลงไปในแม่น้ำเหลืองก็ไม่อาจล้างมลทินให้ตนเองได้!”
หลีต้าซือหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาประสานมือเป็หมัดให้นางแล้วกล่าวว่า “แม่นาง ข้าผิดไปแล้ว เป็ข้าเองที่ทำผิดต่อเ้า เป็ข้าเองที่ให้ร้ายเ้า เ้าปล่อยข้าไปสักครั้งเถิด!”
เฟิ่งเฉี่ยนส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “หลีต้าซือ ท่านถ่อมตัวเกินไปแล้ว! ท่านน่ะเป็ถึงเทพอาหารผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนต่างเรียกขานท่านว่า อาจารย์ใหญ่หลี เหตุใดท่านจึงใส่ร้ายผู้อื่นเล่า”
ตอนนี้กระทั่งความคิดจะร่ำไห้บังเกิดกับหลีต้าซือแล้ว เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้านางดังตุ๊บ “แม่นาง ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! เ้าไม่ได้ทำให้รถม้าล้มลง เป็พวกเราเองที่วางแผนใส่ร้ายเ้า! ข้าสำนึกผิดแล้ว เ้าให้อภัยข้าเถิด!”
ฮึ ในที่สุดก็ยอมพูดความจริงแล้ว! แต่แค่การขอขมาก็จะทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นหรือ เช่นนั้นเขาก็ได้เปรียบเกินไปแล้ว!
“ในเมื่อตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็ท่านที่ให้ร้ายข้า เงินหนึ่งแสนตำลึงที่เพิ่งจะให้ท่านไป...”
“ย่อมต้องคืนให้เ้าของ” หลีต้าซือรีบล้วงตั๋วเงินปึกหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ แล้วมอบให้ทั้งสองมือ “แม่นาง ตั๋วเงินอยู่ที่นี่แล้ว ท่านนับดูเถิด!”
คำเรียกขานถูกเปลี่ยนจาก “เ้า” มาเป็ “ท่าน” ในชั่วพริบตา เพื่อการมีชีวิตรอด ตั๋วเงินเขาก็ไม่เอาแล้ว ขอเพียงได้ยาถอนพิษเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ก็พอ
เฟิ่งเฉี่ยนรับตั๋วเงินมาแล้วส่งต่อให้ลั่วหยิ่ง นางลูบคางตนเองแล้วแสดงท่าทีราวกับลำบากใจ “้ายาถอนพิษ ก็ไม่ใช่เื่เป็ไปไม่ได้ เพียงแต่ยาถอนพิษของข้านี้มีราคาสูงลิ่ว ไม่อาจหาซื้อได้ตามร้านยาธรรมดาทั่วไป”
นางถูนิ้วมือเสมือนกำลังนับเงิน “หากข้ามอบมันให้กับท่านแล้ว หลังจากนั้นข้าเกิดต้องพิษขึ้นมาข้าย่อมไม่มียาถอนพิษไว้ป้องกันตัว เช่นนั้นไม่เท่ากับเป็เื่อันตรายอย่างยิ่งหรือ”
หลีต้าซือเห็นสัญญาณมือของนาง ไหนเลยจะไม่กระจ่างแจ้ง เขาจึงรีบล้วงเอาตั๋วเงินใบละหนึ่งร้อยตำลึงออกมาจากอกแล้วยื่นออกมา “แม่นางกล่าวถูกต้องแล้ว ยาถอนพิษมีค่าย่อมต้องเสียเงินซื้อมา”
เฟิ่งเฉี่ยนตวัดสายตามองตั๋วเงินนั่นปราดหนึ่งทว่ากลับไม่ได้ยื่นมือออกไปรับมา นางแคะเล็บแล้วพูดว่า “ยาถอนพิษของข้าปรุงมาจากยาสมุนไพรราคาสูงนับร้อยชนิด เช่น หูกวาง เสวี่ยเหลียน ม้าน้ำ เขาละมั่ง...ทุกอย่างล้วนมีราคาไม่สามัญทั้งสิ้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีหนึ่งร้อยตำลึงขึ้นไป เงินแค่นี้ของท่านอย่างมากก็ซื้อได้แค่สมุนไพรตัวหนึ่งในนั้นเท่านั้น!”
หลีต้าซือได้ยินเช่นนั้นถึงกับยืนแข็งเป็ท่อนไม้ โง่งมอยู่ที่นั่น!
นี่ชัดเจนเหลือเกินว่านางกำลังโก่งราคา โก่งราคากันแบบหน้าตาเฉยนี่แหละ!
ตามที่นางกล่าว ยาถอนพิษนั้นปรุงมาจากยาสมุนไพรล้ำค่านับร้อยชนิด ตัวยาทุกชนิดมีราคาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยตำลึง เช่นนั้นหาก้าซื้อยาถอนพิษจากนางมิใช่ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นตำลึงหรือ
ยาถอนพิษราคาหนึ่งหมื่นตำลึง มือของเขาเริ่มสั่นขึ้นมาอีกครั้ง นี่มันโหดร้ายเกินไปกระมัง
ลั่วหยิ่งและองครักษ์อีกหกคนเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา แต่ละคนหัวเราะในใจแทบคลุ้มคลั่ง
เหนียงเหนียงโหดร้ายเกินไปแล้ว ใช้เพียงต้นหญ้าสมุนไพรที่ถอนมาจากข้างทาง ถึงกับออกราคาหนึ่งหมื่นตำลึง นี่มันเอาชีวิตคนเกินไปแล้ว
ทว่า ใครใช้ให้อีกฝ่ายใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฝ่ายตนก่อนเล่า วางแผนทำรถม้าให้เสียหายแล้วใส่ร้ายเหนียงเหนียง ทั้งยังเรียกร้องค่าเสียจากจากฝ่ายตนเป็เงินหนึ่งแสนตำลึง คิดถึงเื่ที่พวกเขาทำกับฝ่ายตนก่อนหน้านี้ ลั่วหยิ่งและพวกจึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย
สมน้ำหน้า!
คนเช่นพวกเขาต้องสั่งสอนให้หลาบจำ!
ถูกต้องอยู่แล้ว
ครั้งนี้ พวกเขาสนับสนุนแผนการเอาคืนของเหนียงเหนียงอย่างเต็มที่!
เมื่อเซวียนหยวนเช่อเห็นนางปั้นดินก็พอจะเดาได้แล้วว่านางคิดจะทำอะไร สตรีนางนี้ช่างเป็คนไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลยจริงๆ ยามเมื่ออยู่ในวังหลวง เขาก็ได้ััมาแล้วอย่างลึกซึ้ง แม้นางจะมีนิสัยพยศอยู่บ้าง ทว่ากลับตรงไปตรงมาอย่างยิ่งยวด เขาเองกลับรู้สึกชื่นชม หากเปรียบเทียบกับคนปากอย่างใจอย่าง หน้าไว้หลังหลอกเ่าั้แล้ว เขายินดีที่จะคบหาคนเช่นนี้มากกว่า
เขายืนมองอยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปแทรก ั์ตาดำขลับเ็านั้นนิ่งลึกยากจะคาดเดาขณะกำลังใช้ความคิด
หลีต้าซือต่อสู้กับความคิดของตนเองอยู่พักหนึ่งจึงกัดฟันตัดสินใจข่มความเ็ป เพื่อมีชีวิตอยู่รอดต่อไป โลภในทรัพย์ก็โลภในทรัพย์เถิด ถือเสียว่าเขาล้มละลายก็แล้วกัน
“ได้ ข้าซื้อยาถอนพิษ” พูดแล้วเขาก็ล้วงตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งหมื่นตำลึงออกมาจากอกแล้วยื่นให้เฟิ่งเฉี่ยน
เฟิ่งเฉี่ยนรับเงินมายัดเข้าไปในอกเสื้อโดยไม่กระพริบตา
หลีต้าซือมองนางตาค้าง “แม่นาง ยาถอนพิษเล่า”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่กระบิดกระบวนเช่นกัน นางหยิบยาถอนพิษออกมาจากเอวเม็ดหนึ่งแล้วมอบออกไป “ท่านกินยาถอนพิษ พิษนี้ก็จะถูกถอนไปเอง”
มือของหลีต้าซือที่ยื่นออกไปรับยาถอนพิษค้างอยู่กลางอากาศอย่างตกตะลึง “ไฉนจึงมีเพียงเม็ดเดียวเล่า”
เฟิ่งเฉี่ยนพูดราวกับเป็เื่สมเหตุสมผลอย่างที่สุด “ถูกต้องดีอยู่แล้ว! ยาถอนพิษเม็ดละหนึ่งหมื่นตำลึง! มีปัญหาอะไรหรือไม่”
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหลีต้าซือกระตุกอยู่พักหนึ่ง สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด เดิมทีคิดว่าจ่ายเงินซื้อยาถอนพิษจำนวนหนึ่งหมื่นตำลึงก็โหดร้ายเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าที่โหดร้ายยิ่งกว่าจะรออยู่ข้างหลัง!
“แม่นาง ท่านทำเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง เมื่อสักครู่พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าเงินหนึ่งหมื่นตำลึงซื้อยาถอนพิษ...”
“ท่านฟังผิดกระมัง เมื่อสักครู่ข้าพูดว่า ซื้อยาถอนพิษหนึ่งเม็ดหนึ่งหมื่นตำลึง!” เฟิ่งเฉี่ยนผายมือออก ถามองครักษ์คนอื่นๆ “เมื่อสักครู่พวกเ้าได้ฟังชัดเจนหรือไม่ ซื้อยาถอนพิษหนึ่งหมื่นตำลึง หรือว่า ยาถอนพิษหนึ่งเม็ดหนึ่งหมื่นตำลึงหรือ”
ลั่วหยิ่งทั้งเจ็ดคนประสานเสียงตอบว่า “ยาถอนพิษหนึ่งเม็ดหนึ่งหมื่นตำลึงขอรับ!”
แต่ละคนอกผายไหล่ผึ่ง พูดด้วยเสียงห้าวหาญ
ถูกต้อง เหนียงเหนียงกล่าวถูกต้อง ถูกต้องดีอยู่แล้ว
เซวียนหยวนเช่อเห็นแล้วมุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้ม
หลีต้าซือโมโหจนแทบจะเป็ลมชัก นับว่าเขากระจ่างแจ้งแล้ว ชัดเจนเหลือเกินว่านางกำลังเอาคืนพวกเขา เมื่อสักครู่เขาโหดร้ายกับนาง ตอนนี้นางตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเอาคืนทุกเม็ด หาไม่แล้วนางไม่มีทางยอมเลิกรา!
เมื่อตระหนักได้ถึงความจริงในเื่นี้ เขาดูเหมือนแก่ลงอีกหลายปีพูดอย่างยอมรับสภาพ “แม่นาง ท่านบอกมาตรงๆ เถิด หากต้องช่วยเหลือพวกเราทั้งหมด ต้องใช้เงินเท่าใดกันแน่”
เฟิ่งเฉี่ยนตรวจนับจำนวนคนทั้งหมดแล้วกล่าวว่า “พวกท่านมีคนทั้งหมดสิบเอ็ดคน หากว่ากันตามจำนวนคนแล้ว หนึ่งคนหนึ่งหมื่นตำลึง เป็เงินหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นตำลึง! แต่เห็นแก่ที่พวกเราเป็สหายร่วมอาชีพเดียวกัน ข้าให้ส่วนลดท่าน คิดเงินท่านหนึ่งแสนตำลึงก็พอ!”
หลีต้าซือกระอักเื ล้วนกล่าวว่าสหายร่วมอาชีพเป็เ้ากรรมนายเวร ไม่ผิดจริงๆ! ครั้งนี้ถึงกับขูดรีดเงินจากเขาหนึ่งแสนตำลึง นี่เป็เงินที่เขาใช้เืเนื้อและหยาดเหงื่อแลกมาเชียว ไท่จื่อให้เงินมาหนึ่งแสนตำลึง เขายังไม่ทันได้กำให้อุ่นมือก็ไม่เหลือแล้ว!
เขายื่นตั๋วเงินใบละหนึ่งหมื่นตำลึงอีกเก้าใบออกมาอย่างไม่เต็มใจที่สุด
“แม่นาง ท่านนับดูเถิด!”
เฟิ่งเฉี่ยนรับเงินมาแล้วยัดใส่อกเสื้อด้วยท่าทางมีความสุข จากนั้นจึงหยิบยาลูกกลอนที่นางปั้นจากดินมอบใส่มือแต่ละคน คนละหนึ่งเม็ด พร้อมทั้งกำชับว่า “ยานี้จะต้องกลืนลงไปในอึกเดียว ห้ามเคี้ยวเป็อันขาด หาไม่แล้วสรรพคุณของยาก็จะไม่ออกฤทธิ์!”
น่าขัน ยาถอนพิษนี้นางใช้น้ำที่สกัดจากหญ้าชางเอ๋อร์และดินปั้นออกมา หากเคี้ยวละเอียดย่อมต้องรู้แน่นอน!
คนทั้งหมดได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็ไม่กล้าเอาชีวิตของตนมาล้อเล่น ได้แต่กลืนลงไปในอึกเดียว
หลีต้าซือยังไม่รีบร้อนกลืนยาถอนพิษ เขานำยาลูกกลอนมาดมๆ แล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า “ไฉนข้าดมแล้วได้กลิ่นเหมือนก้อนดินอย่างไรอย่างนั้นเล่า ดูแล้วก็เหมือนดิน อีกทั้งยังเป็ดินที่ค่อนข้างใหม่...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้