“สุราชั้นยอด!”
หลังม่านมุ้งพลันมีเสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นไพเราะประดุจสายน้ำขึ้นนาสิกเล็กน้อย และน่าแปลกที่กลับกังวานใสน่าฟัง
ดูเหมือนเป็เสียงที่คุ้นหู!
เซวียนหยวนเช่อยื่นมือออกไป นิ้วมือเรียวยาวนั้นเลิกม่านมุ้งเปิดออก ภาพที่เข้ามาในคลองจักษุทำให้เขาถึงกับตื่นตะลึง!
เส้นผมดกดำราวกับม่านน้ำตกนั้นปล่อยสยายลงมา นางสวมเพียงผ้าโปร่งบางเบาเพียงชิ้นเดียว ร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้นนอนอยู่ ปกคอเสื้อเปิดออกเล็กน้อย ความงดงามนั้นปรากฏขึ้นรางๆ ทว่ากลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวน
แก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง ริมฝีปากแดงฉ่ำราวกับดอกท้อ ขนตาหนาดกนั้นกระเพื่อมถี่ๆ อยู่บนผิวหน้านวลผ่องราวกับหยก เหมือนกลีบดอกไม้ที่กำลังหยอกล้อกับสายลม
ดูเหมือนนางจะรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตามองมาทางเขาอย่างสะลึมสะลือ ในแววตานั้นฉ่ำไปด้วยละอองน้ำราวกับฤดูสารท ยั่วยวนผู้คน
คิ้วเรียวนั้นขมวดเล็กน้อย!
สตรีนางนี้ ยังคงขวัญกล้าเทียมฟ้า!
ไม่เพียงแต่ขโมยดื่มสุราของเขา ยังกล้าปีนขึ้นมา...
เซวียนหยวนเช่อยืนอยู่ข้างเตียง รูปร่างสูงใหญ่นั้นถลึงตาใส่นาง น้ำเสียงที่ตวาดออกมาเฉียบขาด “ลุกขึ้นมา! ใครให้เ้าดื่มสุรา ดูสภาพของเ้าในตอนนี้ไร้ระเบียบสิ้นดี”
คิดไม่ถึงว่าคนบนเตียงไม่เพียงไม่ลุกขึ้นมา ในทางตรงข้ามนางยังขมวดคิ้วสะบัดมือไปมา “ออกไปนะ! ท่านช่างน่ารำคาญ!”
เซวียนหยวนเช่อหน้าเคร่ง น้ำเสียงเย็นเยียบสุดขั้ว “เจิ้นสั่งให้เ้าลุกขึ้น!”
“ไม่เอา! ไม่ลุก!” เฟิ่งเฉี่ยนพูดงึมงำแล้วพลิกกาย เอามือทั้งสองหนุนแก้มต่างหมอน นอนหลับต่อ
เซวียนหยวนเช่อถูกท้าทายความอดทน ดวงตาเรียวยาวรูปหงส์หรี่ลงอย่างส่งสัญญาณอันตราย เขายื่นแขนออกไปคว้าไหล่ขวาของนางพลิกร่างของนางขึ้นมาบนเตียง แล้วพูดเสียงเย็น “รนหาที่ตาย!”
ยังพูดไม่สิ้นเสียง พลันมีแขนข้างหนึ่งโอบรอบลำคอของเขา แก้มซ้ายของเขาัักับความนุ่มนิ่มอบอุ่น ร่างของเขาราวกับถูกไฟฟ้าช็อตอย่างไรอย่างหนึ่ง เมื่อก้มหน้าลงเห็นแก้มแดงปลั่งของนางอยู่ในระยะใกล้ชิด และแนบติดไปกับเขา ราวกับความอ่อนหวานของน้ำพุไหล่บ่าเข้ามาในหัวใจของเขา
อิริยาบถของเขาชะงักงัน คนทั้งคนราวกับถูกสกัดจุด แข็งค้างอยู่ที่นั่นไม่ไหวติง!
ข้างหูได้ยินเสียงนางอ้อน “เซวียนหยวนเช่อ...หากท่านไม่ใช่ฮ่องเต้ จะดีแค่ไหนนะ!”
หัวใจแข็งกระด้างประดุจน้ำแข็งพลันอ่อนยวบในชั่วพริบตา
“เจิ้นเป็ฮ่องเต้ ไม่ดีหรือ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนอย่างหาได้ยาก
แก้มนวลผ่องนั้นถูไถไปมากับใบหน้าของเขา เฟิ่งเฉี่ยนร้องฮึอย่างมิยินยอม “ไม่ดีแน่นอน! ท่านมีภรรยามากมายถึงเพียงนั้น ข้าจะแบ่งปันบุรุษคนหนึ่งกับหญิงอื่นได้อย่างไร”
นี่นางกำลังหึงหวงใช่หรือไม่
เซวียนหยวนเช่อผ่อนคลายลง น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “เช่นนั้นหากเจิ้นไม่ใช่ฮ่องเต้เล่า เ้าจะว่าอย่างไร”
เฟิ่งเฉี่ยนถอยไปด้านหลัง มองคนตรงหน้าด้วยดวงตาพร่ามัว มือเรียวนุ่มนิ่มนั้นประคองใบหน้าหล่อเหลาของเขา พินิจพิจารณาองคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขา ปลายนิ้วเรียวนั้นวาดผ่านคิ้วคมหนา จมูกโด่งเป็สัน ริมฝีปากเย้ายวนของเขา “หากท่านมิใช่ฮ่องเต้ บางที...ข้าอาจจะชอบท่านก็ได้!”
นางหัวเราะเบาๆ แก้มที่แดงปลั่งไปด้วยเืฝาดนั้นยั่วยวนผู้คนอย่างที่สุด
ปลายนิ้วอุ่นร้อนดังไฟของนางัักลีบปากทั้งคู่ของเขา
แววตาของเขานิ่งลึก ั์ตาดำขลับนั้นราวกับจะหยดน้ำหมึกออกมาได้
ริมฝีปากทั้งคู่ของเขาปิดสนิท สายตาของเซวียนหยวนเช่อตกลงบนริมฝีปากของนาง งดงามราวกับผลอิง--
“เฉียนเฉี่ยน!”
เขาก้มหน้าลงไปจุมพิต...
“อ๊อก!”
ในวินาทีสำคัญ เฟิ่งเฉี่ยนอาเจียนออกมา!
ลำคอของเซวียนหยวนเช่อร้อนวาบ สีหน้าของเขาแข็งค้าง แววตาราวกับจะพ่นไฟออกมาได้!
...
หนาวเหลือเกิน!
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ เฟิ่งเฉี่ยนไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่นางตื่นขึ้นเพราะความหนาวเย็น
นางลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย สิ่งที่เข้ามาในสายตาเป็อันดับแรกก็คือเสาแกะสลักสีทอง นางกระพริบตาปริบๆ สายตาเลื่อนลอยออกไปไกล
นี่นางอยู่ที่ไหน ดูเหมือนจะไม่ใช่ตำหนักเว่ยยาง และไม่ใช่ตำหนักบูรพา...
ร่างกายรู้สึกถึงความหนาวเย็น ทั้งหนาวทั้งแข็ง นางหันหน้าไปมองพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงหยกที่ปูอยู่บนพื้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
นางหันหน้ามองไปอีกด้านหนึ่ง เป็เตียงไม้กฤษณาขนาดกว้างใหญ่หลังหนึ่ง!
หรือเป็เพราะนางนอนดิ้นเกินไป จึงตกลงมาจากบนเตียง ดังนั้นจึงนอนอยู่บนพื้น
ไม่ถูกต้อง นี่ดูเหมือนจะเป็ตำหนักบรรทมในตำหนักไท่จี๋...
นางรีบลุกขึ้นมาจากพื้น มองผ่านม่านมุ้งสีเหลืองสว่าง มองเห็นร่างสูงใหญ่ของบุรุษคนหนึ่ง กำลังนอนสงบนิ่งอยู่ที่นั่น เขามิใช่ใครอื่น แต่เป็เซวียนหยวนเช่อ
เกินไปแล้วนะ! โยนนางลงมานอนบนพื้นเย็นเยียบ ตนเองนอนอยู่บนเตียงอุ่นสบาย ไม่เคยเห็นบุรุษแล้งน้ำใจเช่นนี้มาก่อน!
เฟิ่งเฉี่ยนพุ่งเข้าไปด้วยโทสะ นางะโเสียงดังผ่านม่านมุ้ง “เซวียนหยวนเช่อ ท่านลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
คนที่อยู่ด้านในเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาพูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อย “เอะอะโวยวายอันใดกัน”
เฟิ่งเฉี่ยนเปิดมุ้งออก ยืนมองเขาจากมุมสูง “ท่านบอกมาว่าท่านโยนข้าลงไปบนพื้นใช่หรือไม่”
เซวียนหยวนเช่อลืมตาขึ้นช้าๆ เขาตวัดสายตามองนาง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงนัยถากถาง “คิดจะปีนขึ้นมา เ้ายังมีคุณสมบัติไม่ดีพอ!”
แก้มทั้งสองข้างของเฟิ่งเฉี่ยนร้อนซู่ราวกับถูกอังด้วยไฟ “ใคร? ใครคิดจะปีนขึ้นเตียงของท่าน”
“เช่นนั้นผู้ใดกันที่ดื่มสุราจนเมามายเมื่อคืนนี้แล้วปีนขึ้นมา” เซวียนหยวนเช่อพูดไปพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนสีเงินยวงตัวหลวมของเขาเปิดออกปรากฏให้เห็นกล้ามเนื้อท่อนบนอันงดงาม งดงามเสียจนทำให้คนลืมหายใจ
เส้นผมของเขาที่ปล่อยสยายลงมากลับไม่ยุ่งเหยิง แต่กลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น
เฟิ่งเฉี่ยนกลั้นลมหายใจ มองอย่างประหลาดใจ นางมองจนลืมตัว!
เห็นนางอยู่ดีๆ ก็ไม่พูดไม่จา เซวียนหยวนเช่อมองตามสายตาของนาง เมื่อก้มลงจึงกระจ่างแจ้งทันที คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อยและถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ายวน “น่าดูหรือไม่”
เฟิ่งเฉี่ยนราวกับถูกสะกดจิต นางพยักหน้าตอบว่า “น่าดู”
เมื่อพูดออกไป เฟิ่งเฉี่ยนได้สติกลับมาทันที นางรีบหันกายหนีพร้อมกับต่อว่า “ท่าน...ท่านมันจอมลามก!”
ทว่าแก้มทั้งข้างกลับร้อนซู่
ขายหน้าเหลือเกิน! ถึงกับถูกความงามของเขาทำให้ลุ่มหลง!
เห็นเงาร่างด้านหลังของนางที่สั่นน้อยและติ่งหูที่แดงก่ำของนาง หางตาของเซวียนหยวนเช่อยกขึ้นเล็กน้อย เขาพูดคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คนที่ลามกน่าจะเป็เ้ากระมัง อย่าลืมว่าที่นี่เป็ตำหนักบรรทมของเจิ้น! ขอถามว่าฮองเฮามาที่นี่ทำอันใด”
เขาหยุดพูดแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังขึ้นราวๆ แปดหลอด “หรือมาเพื่อขโมยสิ่งของล้ำค่า”
เฟิ่งเฉี่ยนหันกลับมาทันที ดวงตางดงามนั้นจ้องเขาเขม็ง “ใครขโมยสิ่งของล้ำค่า ก็แค่ดื่มสุราของท่านไปสามกามิใช่หรือ ท่านถึงกับต้องเ้าคิดเ้าแค้นเช่นนี้”
“อ้อ ในเมื่อไม่ได้มาขโมยสิ่งของล่ำค่า หรือมาเพื่อ...” คิ้วตาและใบหน้าที่เ็ามาเสมอของเซวียนหยวนเช่อเปลี่ยนเป็เ้าเล่ห์ยั่วยวน เขายกยิ้ม “เ้ามาเพื่อเป็ฝ่ายเริ่มก่อนหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนหน้าแดงแปร๊ดทันที พูดจาก็ตะกุกตะกัก “ท่าน...ท่านอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเอง! ข้าไม่รู้สึกสนใจท่านแม้แต่นิดเดียว!”
เสียงฉะอ้อนขององค์ไท่จื่อน้อยดังขึ้นนอกประตูในตอนนี้เอง “เสด็จพ่ออยู่หรือไม่ ข้า้าพบเสด็จพ่อ!”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน ไฉนบุตรชายจึงมาที่นี่ในเวลานี้
ต่อมาเป็เสียงของจ้าวกงกง “ทูลไท่จื่อ ฝ่าายังทรงบรรทม พระองค์เข้าไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
องค์ไท่จื่อกลับดื้อรั้นที่จะบุกเข้าไปข้างใน เสียงที่ดังนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีก “เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อ!”