"บ้าไปแล้ว นั่นคือเ้าแห่งหุบเหวจริงหรือ? นั่นมันข่าวเก่าตั้งหมื่นปีแล้วนะ! เ้าแห่งหุบเหวไม่ควรจะกลายเป็เถ้าธุลีและถูกซ่อนเร้นอยู่ในซากโบราณไปแล้วหรือ?"
"จะกลายเป็เถ้าธุลีได้อย่างไร? ผู้มีพลังอำนาจระดับนั้นจะตายได้อย่างนั้นหรือ? เ้าไม่คิดให้ดีก่อนพูดเลย!"
"นั่นสิ ต้องรู้ไว้ว่าต่อให้เป็ยุคโบราณ มหาหุบเหวก็ยังเป็ดินแดนต้องห้าม!"
"ผ่านศึกมานับร้อยก็ยังไม่ดับสูญ ฟ้าดินไม่อาจฝังเขาได้ แม้กายจะมลายเป็ธุลี แต่จิติญญาของเขาจะไม่มีวันสลายไป!"
"ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าตระกูลหลินไปยั่วยุเ้าแห่งมหาหุบเหวได้อย่างไร!"
ขณะเดียวกัน ตระกูลอื่น ๆ ที่มีอำนาจใกล้เคียงกับตระกูลหลินต่างก็มองไปยังทิศทางนั้นด้วยคิ้วขมวดแน่น
ต้องรู้ไว้ว่าครั้งหนึ่งเ้าแห่งมหาหุบเหวเคยลงมือมาก่อน หลายปีก่อน ตระกูลใหญ่ทั้งหลายในอาณาจักรฉีซานเคยร่วมมือกันเพื่อรับมือกับเขา แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
และตอนนี้ ดูเหมือนว่าพลังของเ้าแห่งมหาหุบเหวจะล้ำลึกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เขาไม่ได้ปรากฏตัวเลยด้วยซ้ำ แต่เพียงลมหายใจเดียวก็สามารถสร้างเส้นทาง์ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เจตจำนงที่เขาปลดปล่อยลงมาก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก!
ไม่มีใครรู้ว่าเ้าแห่งมหาหุบเหวแข็งแกร่งเพียงใด เพราะระดับพลังของเขานั้นยากจะหยั่งถึง
"น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าหากพวกเรารออีกสักหน่อย บางทีบรรพชนหลินอาจจะบรรลุถึงระดับนั้นได้เหมือนกัน!"
บนยอดเขา ชายชราถอนหายใจเบา ๆ
ไม่นานมานี้ บรรพชนหลินเพิ่งส่งข่าวมาว่า เขาจะสามารถทะลวงขีดจำกัดของตนเองได้ภายในสามปี และก้าวเข้าสู่ระดับนั้น
แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเ้าแห่งมหาหุบเหวจะไม่ให้เวลานานขนาดนั้น
หลังจากที่เ้าแห่งมหาหุบเหวปรากฏตัวและข่าวแพร่ออกไป ตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างก็พากันวิเคราะห์ว่า ตระกูลหลินไปก่อเื่ใหญ่อะไรขึ้น ถึงได้ทำให้เ้าแห่งมหาหุบเหวเดือดดาลถึงเพียงนี้?
ตระกูลมากมายนับไม่ถ้วนต่างส่งสายสืบออกไปทั้งลับและแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ตระกูลเซียวซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเื่นี้กลับเงียบกริบ ไม่ว่าผู้ใดจะมาถาม พวกเขาก็ไม่ปริปากพูดถึงเื่นี้เลย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่้าเข้าไปพัวพัน
จนกระทั่งในที่สุด ไม่รู้ว่าตระกูลใดที่มีข่าวกรองดีเยี่ยมสามารถล้วงข้อมูลบางอย่างจากตระกูลเซียวมาได้
พวกเขาทราบว่าตระกูลหลินไปยั่วยุเ้าแห่งมหาหุบเหวเพราะ "บุตรศักดิ์สิทธิ์" ของตระกูลหลิน!
"ตอนแรกเราได้ยินแค่ว่าอัจฉริยะไร้เทียมทานของตระกูลหลินสามารถทะลวงระดับและไปทำให้เ้าแห่งมหาหุบเหวขุ่นเคือง แต่เราไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัด พวกเขาเองก็ไม่ยอมเปิดเผย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลิน!"
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ตระกูลใหญ่ทั่วอาณาจักรฉีซานต่างก็ตกตะลึง
"กลายเป็ว่าต้นเหตุของเื่นี้มาจากบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินจริง ๆ ดูเหมือนว่าโชคและเคราะห์จะมาพร้อมกันเสมอ! การมีอัจฉริยะ อาจไม่ใช่เื่ดีเสมอไป!"
"ถ้ามันเป็เพียงเพราะคน ๆ เดียว ก็คงยังพอมีความหวังอยู่ ถ้าหากพวกเขายอมส่งตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินไปให้ เ้าแห่งมหาหุบเหวอาจจะยอมระงับโทสะ"
"นั่นสินะ นี่อาจเป็ทางเลือกที่ฉลาดกว่า"
"ถึงแม้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหลินจะถือเป็อัจฉริยะของยุคนี้ และเป็ความหวังของตระกูลหลิน แต่เมื่อเทียบกับการที่ตระกูลหลินอาจถูกกวาดล้างไปทั้งหมดแล้ว การส่งตัวเขาออกไปน่าจะเป็ทางเลือกที่ดีกว่า อย่างน้อย ตระกูลหลินก็ยังพอมีโอกาสหายใจต่อไปได้!"
ในอาณาจักรฉีซาน ตระกูลใหญ่มากมายต่างคาดเดาผลลัพธ์ของเื่นี้ และพยายามหาวิธีรับมือ แต่ไม่มีใครเชื่อว่าตระกูลหลินจะสามารถต่อกรกับเ้าแห่งมหาหุบเหวได้
เพราะมันเป็ไปไม่ได้! ต้องรู้ไว้ว่าหลายปีก่อน เ้าแห่งมหาหุบเหวเคยก่อพายุโลหิตในอาณาเขตเหนือคราม ต่อให้ทุกตระกูลในอาณาจักรฉีซานร่วมมือกัน พวกเขาก็ยังไม่อาจต่อกรกับเขาได้ แม้แต่สัตว์อสูรดุร้ายในมหาหุบเหวยังต้องล่าถอย ตระกูลหลินจะรับมือเขาเพียงลำพังได้อย่างไร? เป็เื่ตลกสิ้นดี
เื่นี้ไม่ได้แพร่กระจายแค่ในอาณาจักรฉีซานเท่านั้น คำประกาศของเ้าแห่งมหาหุบเหวยังะเืทั้งอาณาเขตเหนือคราม!
"ไม่นึกเลยว่าเสียงนั้นจะเป็เสียงของเขา? เ้าแห่งมหาหุบเหว เขายังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือ!"
ในป่าลึกโบราณ หมอกบาง ๆ ลอยคลุ้ง นกกระเรียนขาวบินผ่านไป เบื้องล่าง ชายชราสองคนกำลังนั่งประจันหน้ากันและเล่นหมากรุก เมื่อได้ยินข่าวนี้ พวกเขาถึงกับขมวดคิ้วพร้อมกัน ก่อนจะกล่าวออกมาเป็เสียงเดียวกันว่า
"ดูเหมือนว่าตระกูลหลินจะเจอเคราะห์ใหญ่เข้าแล้ว..."
...
ในอาณาจักรฉีโจว ซึ่งเชื่อมต่อกับอาณาจักรฉีซาน ที่หอศึกษาเล็ก ๆ ในหมู่บ้านบนูเาอันห่างไกล เสียงเด็ก ๆ อ่านตำราดังก้องอยู่ภายในกระท่อมฟาง กลิ่นอายลึกลับอันบางเบาแผ่ซ่านไปทั่ว
ผู้ที่กำลังสอนเด็ก ๆ อยู่คือชายวัยกลางคนผู้มีรูปลักษณ์อ่อนโยน
ในขณะที่มหาหุบเหวลุกโชนขึ้นพร้อมกับเสาแสงดำทะลุฟ้า คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เขาวางตำราลงก่อนจะเดินออกจากหอศึกษาไปยืนมองออกไปไกล
"ผ่านวัฏจักรแห่งหยินหยาง ผ่านกระแสแห่งกาลเวลา เขายังไม่สูญสิ้นพลังชีวิต! เขานี่มันจอมปีศาจที่ไม่ยอมตายจริง ๆ การเผชิญหน้าครั้งนี้ ตระกูลหลินต้องพบหายนะแน่!"
...
บนเทือกเขาอันห่างไกลจากอาณาจักรฉีซาน เสียงคำรามของอสูรและเสียงฟ้าผ่าที่เคยดังกึกก้องได้เงียบลงในที่สุด
ผืนดินและก้อนหินแตกร้าว ูเาพังทลาย พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสายฟ้า ท่ามกลางซากหินปรักหักพัง ัวารีเขาเดียวขนาดใหญ่โต ส่งเสียงครวญครางอ่อนแรง ร่างกายของมันเต็มไปด้วยาแ เกล็ดหลุดลอก เผยให้เห็นกระดูกสีขาวซีด
ชายชราผอมแห้งร่อนลงมาจากฟากฟ้า ฝ่ามืออันเหี่ยวย่นของเขาเหมือนกรงเล็บเหยี่ยว ควักเข้าไปในดวงตาของัวารี เืที่เต็มไปด้วยพลังสายฟ้าหลั่งไหลออกมา
ชายชราผอมแห้งหยิบเอาไข่มุกห้าสีขนาดเท่าฝ่ามือออกมา ไข่มุกนั้นเปล่งแสงระยิบระยับ ไม่ใช่ของธรรมดา แต่เขากลับไม่ได้สนใจอะไรมาก เพียงแค่โยนเข้าปากและเคี้ยวกลืนลงไป
จากนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองไปไกลออกไป
นั่นคือทิศทางของอาณาจักรฉีซาน
ริมฝีปากของชายชราเหี่ยวย่นแสยะออกเป็รอยยิ้ม ก่อนกล่าวเสียงเย็นว่า
"ดูท่าพวกเราจะมีละครดีให้ชมแล้วสิ..."
ขณะนั้นเอง เงาร่างเลือนรางปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เงานั้นประสานมือคารวะก่อนกล่าวขึ้นอย่างลังเลว่า
"ท่านบรรพชน ตระกูลหลินถือว่าเคยสร้างสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์ ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหายนะ พวกเราควรส่งคนไปช่วยเหลือหรือไม่? อีกทั้ง... เราได้ยินมาว่าตระกูลหลินให้กำเนิดบุตรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา..."
แต่รอยยิ้มของชายชราผอมแห้งกลับเ็า เขาเอื้อมมือคว้าเบา ๆ ร่างที่เลือนรางนั้นกลับกลายเป็ร่างจริงขึ้นมาก่อนจะถูกฟาดกระเด็นออกไป เงานั้นถึงกับตะลึงงันในทันที
"ช่วยเหลืออะไรกัน? ข้าพูดไว้แล้วว่าตอนนี้พวกเรามีหน้าที่แค่ดูละคร"
"หากตระกูลหลินรอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้ วันนั้นค่อยนำตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์มาหาเราก็ยังไม่สาย..."
