เสิ่นเยว่ตบมือให้กับความดันทุรังและความหน้าด้านของเจียงหลี
“เ้าบอกว่าข้าเป็คนวางยาเ้าใช่หรือไม่ เช่นนั้นห้องนี้เป็ข้าที่เตรียมเอาไว้ก่อนทั้งที่ที่นี่เป็เรือนของเ้าใช่หรือไม่ เป็ข้าที่บังคับพาเ้ามาที่ห้องนี้ใช่หรือไม่ หรือว่าเป็ข้าที่บังคับให้คุณชายเจิ้งมาที่นี่กัน คุณหนูเจียงเ้าแต่งเื่ได้น่าสนใจยิ่งนัก ว่างๆ ควรเอาเื่ของเ้าส่งให้นักกวีเขียนออกมาเป็บทละครงิ้ว ดูท่าจะต้องโด่งดังและเป็ที่นิยมแน่”
เสิ่นเยว่พูดออกไปทั้งยังหัวเราะเยาะนางอย่างไม่ไว้หน้าคนตระกูลเจียงเลยสักนิด เสิ่นเยว่มีอะไรที่ต้องกลัวแค่ตระกูลเจียงเล็กๆ เท่านั้น ถึงท่านอาของเจียงหลีจะเป็พระสนมที่อยู่ในวัง แต่นางหรือจะใหญ่เท่าเสิ่นฮองเฮาที่เป็ป้าแท้ๆ ของนาง ฮองเฮาทั้งรักและเอ็นดูนางเหมือนลูกในไส้ ท่านแม่ของนางยังน่ากลัวกว่าคนตระกูลเจียงทั้งตระกูลเสียอีก
“เ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”
นายท่านเจียงตวาดเสิ่นเยว่เสียงดัง
“นายท่านเจียงท่านตวาดผิดคนแล้ว ข้าหาใช่บุตรสาวของท่านที่ทำเื่บัดสีในวันเกิดของท่านย่าของนางนะ คนที่ท่านควรจะโกรธน่าจะเป็บุตรสาวสุดที่รักของท่านมากกว่า อีกอย่างทำไมท่านไม่ถามคุณชายเจิ้งเล่าว่ามันเกิดเื่อันใดขึ้น แทนที่จะมาถามข้าว่าเื่ที่ข้าพูดหมายความว่าอย่างไร”
แล้วแขกที่มางานเลี้ยงวันนี้ต่างก็เห็นด้วยกับคำพูดของเสิ่นเยว่
“เป็เื่จริงที่ฮูหยินน้อยหลี่พูด มีสาวใช้ทำชุดของข้าเปื้อน ทุกท่านที่อยู่ในงานเลี้ยงบางคนก็เห็นมิใช่หรือ อีกอย่างสาวใช้นางนั้นก็เป็คนพาข้ามาที่ห้องนี้เพื่อเปลี่ยนชุด แต่เป็คุณหนูเจียงที่แอบอยูหลังม่านพุ่งเข้ามากอดข้าก่อน ข้านึกว่านางเป็สาวใช้ของจวนสกุลเจียงที่อยากยกระดับฐานะของตนเองก็เท่านั้น หลังจากนั้นก็เป็ตามที่พวเ้าเห็นเื่ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้”
เสิ่นเยว่เดินมาด้านหน้าเจียงหลีเล็กน้อย
“นี่ก็เป็เื่ที่ข้าเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเล่นงานเ้าด้วยอย่างนั้นหรือ แต่ว่านะ .......”
เสิ่นเยว่หันไปมองหลี่เซวียนเล็กน้อย
“คุณชายเจิ้งเ้าบอกว่าสาวใช้เป็คนพาเ้ามาที่ห้องนี้ใช่หรือไม่”
เจิ้งอี้หางพยักหน้ารับ
“เช่นนั้นแล้วที่สาวใช้จวนตระกูลเจียงไปเชิญสามีข้ามาที่ห้องนี้ก่อนหน้านี้เล่า ทั้งนางยังแอบอ้างชื่อของข้าเพื่อที่้าให้สามีข้าตามนางมาที่นี่ เื่นี้หมายความว่าอย่างไร นายท่านเจียงท่านต้องให้คำอธิบายแก่ข้าในเื่นี้ด้วยมิใช่หรือ หรือพวกเ้าตระกูลเจียงใช้การจัดงานเลี้ยงหาสามีให้บุตรสาว โชคดีที่สามีข้าเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วพบกับข้าที่นั่นก่อน ไม่เช่นนั้นคนที่อยู่ในห้องนั้นกับนางก็คงจะเปลี่ยนเป็อีกคน”
เสิ่นเยว่หันไปมองเจียงหลีที่ทำท่าทางโกรธแค้นจนแทบอยากจะฆ่านางให้ตาย
“คุณหนูเจียงเ้ามีคำอธิบายให้กับข้าในเื่นี้หรือไม่หรือว่าทั้งหมดเ้าจะบอกว่าเป็ฝีมือของข้าอีก นั่นเป็สาวใช้ส่วนตัวของเ้านะนางไม่ใช่สาวใช้ของข้า”
เสิ้นเยว่พยักหน้าให้ชิงจู๋พาสาวใช้ส่วนตัวของเจียงหลีเข้ามา ท่าทางสาวใช้ดูหวาดกลัวอย่างมาก ดูท่าจะโดนชิงจู๋ใช้วิธีทรมานไม่ให้เห็นาแมาแน่ๆ
แล้วสาวใช้นางนั้นก็สารภาพออกมาจนหมด ว่าเจียงหลี้าให้หลี่เซวียนรับนางเป็ฮูหยินรอง และที่นางทำทั้งหมดก็เพื่อที่จะ้าหักหน้าเสิ่นเยว่
“นั่นไม่ใช่เื่จริงนังสาวใช้ทรยศ เ้าถูกซื้อตัวจากเสิ่นเยว่ใช่หรือไม่เ้าพูดโกหกท่านพ่อท่านต้องโบยนางให้ตายนะเ้าคะ นางกำลังใส่ร้ายข้า”
สาวใช้หมอบคลานตรงหน้านายท่านเจียงเพื่อร้องขอชีวิต นายท่านเจียงโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ มาถึงขั้นนี้แล้วหากเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็โง่เต็มทน แต่เสิ่นเยว่มาที่นี่วันนี้นางไม่ได้แค่มาเที่ยวเล่นเปล่าๆ ถ้าหากปล่อยให้นางได้ออกโรงด้วยตนเองแล้วละก็ นางจะต้องตอกตะปูปิดฝาโลงเจียงหลีให้ไม่มีหน้าเดินบนถนนได้อีก
“พูดเื่บ่าวทรยศนายแล้วข้าก็มีของฝากมาให้เ้าด้วยนะคุณหนูเจียง”
เสิ่นเยว่ตบมือสองครั้ง สาวใช้สองคนของเสิ่นเยว่ที่มาอยู่ทีนี่ตั้งเเต่เมื่อใดไม่มีใครรู้ ลากบ่าวรับใช้ที่เรือนของหลี่เซวียนมาสี่คนโยนลงตรงหน้าเจียงหลี เสิ่นเยว่ชี้ไปที่พวกเขาทีละคน
“นี่เป็คนกวาดลานเรือน นี่เป็คนดูแลม้า นี่เป็คนทำความสะอาดเสื้อผ้า ส่วนนี่เป็คนเฝ้าหน้าเรือน ทั้งหมดนี่เป็คนที่เ้าจ่ายเงินซื้อตัวพวกเขาเอาไว้ข้าได้นำพวกเขามาส่งคืนเ้าแล้ว ข้ารู้สึกทึ่งในความสามารถของเ้าจริงๆ คุณหนูเจียงคนพวกนี้ทำงานที่จวนตระกูลหลี่มานานกว่าห้าปีแต่เ้าสามารถซื้อตัวพวกเขาได้ดูท่าจะต้องทุ่มเงินไปไม่น้อยถึงได้ทำให้พวกเขากล้าทรยศนายได้เช่นนี้”
เสิ่นเยว่ลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
“พวกท่านที่มาที่นี่ในวันนี้ก็ต้องระวังเอาไว้ด้วยนะ วันนี้พวกเขากล้าซื้อตัวบ่าวที่จวนตระกูลหลี่ วันหน้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะแอบซื้อตัวบ่าวในเรือนของพวกท่านตระกูลใดอีก”
เสิ่นเยว่ชี้ไปที่ขุนนางบางคนที่มางานเลี้ยงวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าเจียง ทุกคนต่างทำหน้าขยาด เมื่อนึกถึงว่าเื่ส่วนตัวของตนจะถูกรายงานให้ผู้อื่นรู้
“ฮูหยินน้อยหลี่เ้าพูดจาไร้สาระอันใด เื่ที่บุตรสาวของข้าทำ เ้ามีหลักฐานหรือไม่ เ้าเอาแต่พูดเพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้จะเป็การใส่ความ เ้าสามารถแบกรับเื่นี้ไหวหรือ”
นายท่านเจียงตวาดเสิ่นเยว่อีกครั้ง หลี่เซวียนก้าวมาขวางหน้านางเอาไว้
“นางเป็ฮูหยินของข้า ไม่ว่านางจะกระทำการในเื่ใด ข้าหลี่ เซวียนจะเป็ผู้ที่รับผิดชอบเอง”
เสิ่นเยว่มองหลี่เซวียนด้วยสายตาทราบซึ้ง ทำไมวันนี้นางมองแล้วเขาดูหล่อเหล่ายิ่งกว่าเดิมนะ ทั้งที่ปกติคนผู้นี้ก็หน้าตาดีจนหาคนเทียบไม่ได้แล้ว เสิ่นเยว่โผล่ออกมาจากทางด้านหลังของหลี่เซวียน
“ท่าน้าหลักฐานหรือ ถ้าหากว่าบ่าวพวกนี้ยังเป็หลักฐานไม่ได้ เช่นนั้นท่านให้คนไปที่เมี่ยวโสว่ถังถามผู้ดูแลว่านางได้ให้สาวใช้ไปซื้อกำยานปลุกกำหนัดที่นั่นหรือไม่ ทั้งนางยังสั่งชนิดที่ออกฤทธิ์รุนแรงด้วยนะ อ้อ ข้าลืมบอกท่านไปกำยานนี้ส่วนมากใช้ที่หอนางโลมเท่านั้น ข้าไม่รู้ว่านางไปรู้จักของพวกนี้ได้อย่างไร นายท่านเจียงบุตรสาวของท่านคงมิได้ทำงานที่นั่นหรอกกระมั่ง”
เสิ่นเยว่พูดจบก็หดหัวไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของหลี่เซวียนอีกครั้ง นายท่านเจียงโมโหกับคำพูดของนางจนเป็ลมหงายหลังลงไป เดือดร้อนพวกบ่าวไพร่ต้องรีบปฐมพยาบาลให้เขาฟื้นขึ้นมา หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแล้วเขาได้แต่พูดอยู่คำเดียวว่า เ้า เ้า อยู่เช่นนั้นเพราะเถียงไม่ทันเสิ่นเยว่
เสิ่นเยว่ไม่สนว่าพวกเขาจะจัดการเื่นี้อย่างไรเพราะนั่นไม่ใช่เื่ของนาง เวลานี้คนตระกูลเสิ่นและตระกูลหลี่ ออกจากจวนสกุลเจียงไปพร้อมกันและยังตรงไปที่หอว่านเหลียวเหลาอาหารที่มีชื่อของเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบว่านเหลียว
เสิ่นเยว่ได้แต่นั่งห่อเหี่ยว เมื่อได้รับสายตาทิ่มแทงจากเสิ่นฮูหยินผู้เป็มารดา พวกเขาต่างเอ็นดูท่าทางเหมือเตาหดหัวของเสิ่นเยว่ ก่อนหน้านี้นางยังกล้าหาญยืนหยัดต่อสู้กับคนตระกูลเจียงอยู่เลย ท่าทางของนางกับ หลี่เซวียนล้วนอยู่ในสายตาของคนทั้งสี่ พวกเขาแค่มองอยู่ห่างๆ เพื่อดูว่าทั้งสองคนจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้หรือไม่ และเด็กสองคนนี้ก็ไม่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวัง
ตระกูลเสิ่นและตระกูลหลี่เป็ตระกูลใหญ่ที่อยู่คู่ราชวงศ์มานาน ั้แ่เริ่มก่อตั้งและบิดาของทั้งสองยังเป็สหายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันยิ่งทำให้สองตระกูลใกล้ชิดราชวงศ์ยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่กลัวเลยว่าตระกูลเจียงจะหันกลับมาเล่นงานเด็กทั้งสองคนที่ก่อเื่ในวันนี้ เพราะพวกเขาก็ไม่ใช่ลูกพลับนิ่มให้ใครบีบได้เหมือนกัน
หลังจากการชุมนุมของสองครอบครัวผ่านไป เสิ่นเยว่ที่กลับมาที่จวนตระกูลหลี่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างมี่เวลาหนึ่งที่นางกำลังคิดถึงเ้านกน้อย ถึงแม้ว่านางคิดจะตัดใจจากสหายคนนั้น แต่กับเ้านก เสิ่นเยว่ก็ยังเอ็นดูมันอยู่ดี
“แกอยู่ที่ไหนนะเ้านกน้อย”
นางพึมพำเสียงเบากับตนเองโดยไม่รู้ว่ามีอีกคนยืนอยู่ด้านหลัง
“เ้ากำลังคิดถึงใครอยู่หรือ”
เสิ่นเยว่สะดุ้งจนตัวโยน
“ท่าน.... เหตุใดถึงได้มาด้านหลังแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเช่นนี้ ท่านกำลังทำให้ข้าในะ”
เสิ่นเยว่สายตาหลุกหลิก เปลี่ยนเื่ที่หลี่เซวียนถามออกไปทันทีเพราะเื่นี้นางถนัดนัก
“อย่าได้เปลี่ยนเื่ข้ากำลังถามเ้าอยู่ว่าเ้ากำลังคิดถึงผู้ใด”
เสิ่นเยว่จ้องเขาตาเขม็ง
“เ้าจ้องข้าด้วยเหตุใด”
“เปล่าซะหน่อยข้าก็แค่พูดไปเรื่อยเวลาคนเราอยู่คนเดียวก็มีเื่ให้คิดเรื่อยเปื่อย ท่านไม่เคยเป็เช่นนี้บ้างหรือไง เลิกจับผิดข้าได้แล้ว”
หลี่เซวียนส่ายหัวให้ความกะล่อนของนาง
“ได้ข้าไม่ซักเ้าแล้วก็ได้ แต่ข้ามีเื่ที่อยากจะคุยกับเ้าสักหน่อย”
หลี่เซวียนทำหน้าจริงจัง ซึ่งทำให้เสิ่นเยว่มีสีหน้าจริงจังตามไปด้วย