ผ่าสวรรค์ ราชันอมตะ 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        “ฉันชื่อกัวไฮว่ ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย” กัวไฮว่กลับไปยังที่นั่งอีกครั้งตอนแรกกัวไฮว่คิดว่าจะลุกออกจากห้องเรียนแล้ว แต่ว่านักเรียนในห้องยังไม่ออกกันและเพราะนักเรียนในห้องคนนี้กัวไฮว่จึงกลับไปยังที่นั่งของตนอีกครั้ง๻ั้๹แ๻่เกิดเ๱ื่๵๹ขึ้นเมื่อสามเดือนก่อนมู่หรงเวยเวยสาวสวยอันดับหนึ่งของโรงเรียนฟู่จงก็ไม่ได้พูดกับใครอีกแม้แต่คำเดียว

        “ฉันหิวแล้วไปกินข้าวเป็๞เพื่อนฉันเถอะ” เพียงแค่ประโยคเดียวทั้งโรงเรียนฟู่จงพลันวุ่นวายไปสามนาทีมู่หรงเวยเวยสาวหวานประจำเมืองอู่เฉิงยอมพูดกับชายแปลกหน้าแล้วแถมยังชวนชายคนนั้นไปกินข้าวก่อนอีกนี่เขาเป็๞ผู้ชายแบบไหนกันแน่ถึงได้ทำให้มู่หรงเวยเวยเปลี่ยนไปได้

        “ไปกันเถอะ แต่ว่าขอพาคนอื่นไปด้วยนะไม่ใช่คนนอกหรอกเมียฉันน่ะ” กัวไฮว่พูดพลางลากมู่หรงเวยเวยออกไปนอกห้องเรียน

        “เฉียนตัวตัว ตบฉันที ตบฉันแรงๆ หน่อยสิ” เกาเฟยมองตามทั้งสองคนที่เดินออกไปแล้วก็พูดเสียงดังกับเฉียนตัวตัว

        “เพียะ เพียะ เพียะ!” เมื่อถูกฝ่ามือตบเข้าสามครั้งติดกันเกาเฟยถึงกับเห็นดาวบนหัว

        “ไปกัน ไปโรงอาหาร ต่อไปฉันก็จะอยู่กับพี่ไฮว่ด้วย” เกาเฟยพูดพลางยู่ปากใบหน้าของเขาบวมเป่งขึ้นมา

        “เสี่ยวซี โยวโยว ทางนี้” ยังไม่ทันจะไปถึงโรงอาหารกัวไฮว่ก็เห็นถังซีโหยวโยวโยวและซูเยี่ย

        “ถังซีเห็นแล้วหรือยังนั่นแหละสี่ตัวอันตรายแค่เข้าเรียนไปครึ่งวันก็หลอกเด็กผู้หญิงมาอีกคนหนึ่งแล้ว” ซู่เยี่ยดึงถังซีเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้น

        “เยี่ยจื่อนั่นมันมู่หรงเวยเวยนี่” ถังซีพูดเสียงค่อย“เธอเคยได้ยินเ๱ื่๵๹ของเขาหรือเปล่า เดี๋ยวอย่าพูดอะไรมั่วซั่วนะ”

        ซูเยี่ยแลบลิ้นก่อนจะลากถังซีกับโหยวโยวโยวไปยังด้านหน้ากัวไฮว่

        “นี่คือเพื่อนที่นั่งข้างฉันมู่หรงเวยเวย” กัวไฮว่พูดเสียงค่อยพลางชี้นิ้วไปยังมู่หรงเวยเวยผู้ไม่สนใจโลก“นี่ถังซีเมียหลวงฉันนี่โหยวโยวโยวเมียน้อยฉันส่วนนี่ซูเยี่ยเมียเก็บ”

        “ตาบ้า นายอยากตายหรือไง” ซูเยี่ยพูดพลางชกกำปั้นน้อยๆไปที่ตัวกัวไฮว่

        “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อมู่หรงเวยเวย ฉันเคยได้ยินชื่อพวกเธอมาก่อนดีใจที่ได้รู้จักกับพวกเธอนะ” มู่หรงเวยเวยยื่นมือมาแล้วมองทั้งสามคนอย่างยิ้มๆ

        “ถังซีห้องสาม” “ซูเยี่ยห้องสาม” “โหยวโยวโยวห้องเจ็ด”

        “ไปเถอะ ไปห้องอาหารส่วนตัวของตระกูลเริ่นกันดีกว่า” พูดจบทั้งหมดก็เดินไปยังร้านอาหารเล็กๆของเริ่นเสวียนเช่อ

        “ไม่ได้มากินข้าวที่นี่นานแล้ว ฉันไปสั่งกับข้าวส่วนพวกเธอรออยู่นี่นะ” มู่หรงเวยเวยยิ้มแล้วเดินออกไป

        “พี่ไฮว่ก่อนหน้านี้พี่รู้จักมู่หรงเวยเวยรึเปล่า” ถังซีมองกัวไฮว่แล้วถามขึ้น

        “ทำไมคุณเมียหลวงหึงแล้วเหรอ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ไม่รู้จักหรอกแต่วันนี้เข้าเรียนวันแรกครูประจำชั้นให้ฉันนั่งข้างเธอน่ะ”

        “เ๱ื่๵๹ของเธอนายเคยได้ยินแล้วใช่ไหม” ซูเยี่ยพูดเสียงค่อย“นายไม่รู้แน่ๆ นายเพิ่งมาโรงเรียนวันแรกนี่ฉันจะบอกนายไว้ก็แล้วกันเดี๋ยวนายไปพูดอะไรมั่วซั่วเข้า”

        “ตอนเพิ่งขึ้นมอสี่เกิดเ๹ื่๪๫ใหญ่ขึ้นที่ฟู่จงข่งเสวียนกับมู่หรงเวยเวยหนุ่มหล่อกับสาวหวานแห่งเมืองอู่เฉิงเข้าเรียนที่ฟู่จงพร้อมกันทำให้หลังจากเปิดเทอมหนึ่งเดือนโรงเรียนฟู่จงได้กดดันโรงเรียนอื่นในการแข่งการต่อสู้และได้รับที่หนึ่งของเมืองอู่เฉิงอีกครั้ง” ซูเยี่ยพูดเสียงเบา

        “แข่งขันการต่อสู้? แข่งอะไรเหรอ ทะเลาะกันเหรอฉันไปก็ได้ที่หนึ่งนะ”กัวไฮว่พูดแหย่เล่น

        “ชิ ทะเลาะงั้นเหรอ ตอนนายอยู่จิ่วจงไม่เคยได้ยินเหรอ” ซูเยี่ยถลึงตามองกัวไฮว่แวบหนึ่ง

        “เมืองอู่เฉิงได้ชื่อว่าเมืองอู่เฉิงก็เพราะว่าในสมัยก่อนที่เมืองอู่เฉิงให้ความสนับสนุนวิชาต่อสู้ยังไงล่ะฉะนั้นนับ๻ั้๹แ๻่๰่๥๹ก่อตั้งประเทศ[1]ก็มีกฎสืบต่อกันมาว่าเดือนแรกของการเปิดเทอมในทุกๆปีโรงเรียนมอปลายทุกแห่งจะต้องส่งนักเรียนสิบคนมาต่อสู้กันที่บอกว่าต่อสู้น่ะไม่ใช่ทะเลาะกันแต่เป็๲การแข่งกรีฑาสิบประเภทเหมือนกับกีฬาสีนั่นแหละรายชื่อสุดท้ายในการแข่งก็คือนักเรียนที่เก่งที่สุดของแต่ละโรงเรียน” โหยวโยวโยวมองกัวไฮว่แวบหนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงค่อย

        “ข่งเสวียนได้ที่หนึ่ง?” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ

        “เปล่า มู่หรงเวยเวยได้ที่หนึ่ง” ซูเยี่ยพูดเสียงดังขณะนี้เองมู่หรงเวยเวยก็เดินเข้ามา

        “เยี่ยจื่อฉันได้ที่หนึ่งอะไรเหรอ” มู่หรงเวยเวยถามยิ้มๆ

        “หมายถึงการแข่งขันต่อสู้น่ะ เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิฉันอยากรู้” กัวไฮว่มองมู่หรงเวยเวยแล้วถามขึ้นโดยไม่สนใจเด็กสาวทั้งสามคนที่ส่งสายตาพิฆาตให้เป็๲๲ั๾๲์

        “การแข่งขันต่อสู้? พวกเธอหมายถึงเ๹ื่๪๫เทอมก่อนน่ะเหรอ”มู่หรงเวยเวยชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย“การแข่งขันต่อสู้มีทั้งหมดเจ็ดรายการ ใครทำได้หมดก็ได้ที่หนึ่งไปมีทั้งแปดร้อยเมตร สามพันเมตร หนึ่งหมื่นเมตร วิ่งไปกลับหนึ่งร้อยเมตรสามสิบครั้งปีนหน้าผา แข่งหมากรุกกับมืออาชีพห้ากระดาน แข่งโกะกับมืออาชีพห้ากระดานรวมทั้งหมดเจ็ดรายการ”

        “ตามหลักแล้วเนี่ย เธอไม่น่าจะได้ที่หนึ่งนะรายการแข่งเยอะขนาดนี้เด็กผู้หญิงแบบเธอได้ที่หนึ่งนี่ดูจะยากเกินไปหน่อยละมั้ง” กัวไฮว่คิดๆแล้วก็ถาม

        “ข่งเสวียนเป็๞ข่งเสวียนเขาควรได้ที่หนึ่งแต่เป็๞เพราะเขาสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะส่งฉันถึงจุดสูงสุดของการต่อสู้ให้ได้...” มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นด้วยดวงตาอันแดงก่ำ

        “อะไรนะ เขาแบกเธอห้ารายการพันเมตรจนชนะได้ที่หนึ่ง?”กัวไฮว่๻๠ใ๽อย่างมาก มู่หรงเวยเวยไม่อ้วนน่าจะประมาณสี่สิบกว่ากิโลมั้งแบกคนคนหนึ่งจนได้ที่หนึ่งข่งเสวียนนี่มันคนประเภทไหนกันแน่

        “ใข่แล้วล่ะเขาแบกฉันเลยได้ที่หนึ่งของห้ารายการแรกจากนั้นในการแข่งขันหมากรุกกับโกะฉันเลยชนะสบายๆได้ที่หนึ่งมาข่งเสวียนได้ที่สอง” มู่หรงเวยเวยพูดเสียงค่อย

        “ทำไมถึงตกลงให้ฉันนั่งข้างๆ” กัวไฮว่มองหญิงสาวที่สวยไม่มีใครเปรียบผู้ที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเบา

        “เป็๞เพราะสัญญา สัญญาที่ฉันให้กับข่งเสวียนไว้” มู่หรงเวยเวยมองกัวไฮว่แล้วพูดว่า“ฉันสวยไหม”

        “สวย” กัวไฮว่พูดเสียงเบา

        “นายชอบฉันไหม”

        “ชอบ”

        “งั้นนายก็พยายามทำให้ฉันตกหลุมรักนายแล้วกัน นายไม่ใช่เงาของข่งเสวียนฉันอยากให้นายตกหลุมรักฉัน” มู่หรงเวยเวยพูดเสียงค่อยด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ

        “ได้สิ กินข้าวกันก่อนเถอะ” กัวไฮว่มองเด็กสาวที่ตกอก๻๠ใ๽ทั้งสามคนก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ

        “พี่ไฮว่เหล้าในน้ำเต้าพี่ยังมีอีกไหม แก้วเดียวแค่แก้วเดียวนะ” ซูเยี่ยมองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเบาถึงหมอนี่จะไม่ดีทั้งหลายใจโรคจิตใ จง่าย ชอบชกต่อย แต่ว่าเหล้าในน้ำเต้านั่นอร่อยจริงๆ

        “ให้สาวใช้แบบเธอกินข้าวบนโต๊ะก็ถือเป็๲บุญคุณล้นฟ้าแล้วตอนนี้เธอยังจะกินเหล้าอีกเหรอ” กัวไฮว่มองซูเยี่ยแล้วพูดขึ้น“แต่เสียงที่เธอเรียกว่าพี่ไฮว่นี่เพราะจังเลยนะงั้นให้เธอแก้วหนึ่งแล้วกัน แต่ว่าไม่มีแก้วไม้จันทน์แล้วเดี๋ยวฉันไปขอแก้วคริสตัลจากพวกเขาสักสองสามใบ” กัวไฮว่พูดพลางเตรียมจะเดินออกไป

        “พี่ไฮว่ไม่ต้องหรอกฉันเอาแก้วมา” ซูเนี่ยพูดพลางหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าของตัวเองหลังจากเปิดออกแก้วคริสตัลสี่ใบก็เรียงรายอยู่ข้างในนั้น

        “อะแฮ่ม เสี่ยวเยี่ยจื่อที่ว่ากันว่าอกใหญ่ไร้สมองนี่ฉันว่าเธอเป็๲ข้อยกเว้นนะ” กัวไฮว่พูดขึ้นขำๆ “แก้วสี่ใบพวกเธอสี่คนพอดีคนละใบอย่ากินกันเยอะล่ะ”

        เด็กสาวทั้งสามคนมองแก้วคริสตัลที่เทเหล้าเต็มแก้วด้วยความพึงพอใจมู่หรงเวยเวยสับสนเล็กน้อย เหล้านี่อร่อยจริงๆ เหรอ ถึงทำให้บุคคลที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ทั้งสามคนพอใจถึงขนาดนี้

        “เวยเวยลองชิมเป็๲ไงวันนี้กินข้าวกับเธอเป็๲ครั้งแรกฉันให้เธอดื่มสองแก้วได้นะ” กัวไฮว่ยิ้มพลางเอาแก้วคริสตัลยื่นไปให้ตรงหน้ามู่หรงเวยเวย

        “เสี่ยวซีเห็นแล้วใช่ไหมได้ใหม่ลืมเก่า คนใหม่แทนที่คนเก่า อีกอย่างนะคนใหม่ยังไม่ทันเก่าเลยก็มารักกันต่อหน้าเธอซะแล้วเธอต้องจัดการเขานะ” ซูเยี่ยพูดเบาๆ ข้างหูถังซี

        “แน่นอนเมียหลวงกับเมียน้อยก็ต้องได้กินอีกคนละแก้วมีเ๱ื่๵๹หนึ่งที่ไม่ได้บอกเธอก็คือถึงนี่จะเป็๲แค่เหล้าแต่ก็มีสรรพคุณทำให้สวยขึ้นทั้งยังช่วยขับสารพิษอีกด้วย พวกเธอรู้สึกกันใช่ไหมว่าหลังจากกินเสร็จตอนสายตอนบ่ายก็กระปรี้กระเปร่ากัน” กัวไฮว่พูดพลางเทเหล้าลงแก้วถังซีกับโหยวโยวโยวเต็มแก้วอีกครั้ง

        “ตาบ้า! นาย…น่าโมโหจริงๆ”ซูเยี่ยมอง๞ั๶๞์ตาหยอกล้อของกัวไฮว่ก็พูดขึ้นด้วยเสียงดัง

 

[1] เหมาเจ๋อตงก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1949

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้