ถังชิงหรูมาถึงบ้านของคุณหนูหวัง ตามคำบอกกล่าวของคนที่รู้จักกัน
คุณหนูหวังผู้นี้บอกว่าวันรุ่งขึ้นจะส่งเงินมาให้ แต่ผ่านไปสิบวันแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แวว ถังชิงหรูจึงต้องมาดูสถานการณ์ด้วยตนเอง
นางสั่งจองอาภรณ์หรูแบบชุดรวมทั้งสิ้นสิบสองสี แต่ละชิ้นล้วนปักลวดลายบุปผา สะท้อนถึงความเป็มงคล ่นี้สตรีที่กำลังจะออกเรือนมากมายล้วนมาจับจองอาภรณ์ชุดของร้านนาง เพราะรูปแบบงามวิจิตร ทั้งยังมีจำกัดเพียงสิบชุดเท่านั้น ราคาของแต่ละชุดสูงถึงหนึ่งพันตำลึง
นับว่าเป็ชุดที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่กลับขายดีที่สุด สำหรับคนมีเงินเ่าั้ หากเป็ของที่พวกเขาพอใจเื่เงินล้วนไม่เกี่ยง
ที่ชิงอีมิได้ลงที่อยู่ของคุณหนูหวัง เพราะแต่ไรมาคนมีเงินเหล่านี้ไม่เคยเบี้ยวการชำระ ลวี่สุ่ยเห็นสถานการณ์ดูผิดปรกติ จึงไปขอที่อยู่จากคนที่รู้จักคุณหนูหวัง ลวี่สุ่ยบอกว่าคนผู้นั้นมีท่าทีชอบกล ไม่รู้ว่ามีปัญหาอันใดหรือไม่ ถังชิงหรูจึงนำข้อกังขามาถึงจวนของคุณหนูหวังด้วยตนเอง
"ที่นี่..." ถังชิงหรูมองไปที่ประตูโทรมๆ บานนั้น พลางรำพึงด้วยความคลางแคลง "แปลกจริง ไฉนไม่มีคนเฝ้าประตูเลยเล่า"
ที่นี่เป็ที่อยู่ของคุณหนูสกุลใหญ่โตจริงหรือ ตนเองคงไม่ได้มาผิดที่หรอกกระมัง ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นป้ายที่อยู่เหนือบานประตู บนนั้นเขียนว่าจวนสกุลหวัง
แซ่หวัง เช่นนั้นก็เป็บ้านของคุณหนูหวังถูกต้องแล้ว แต่ทว่าสถานการณ์ดูไม่ถูกต้อง หรือว่าพวกตนจะถูกหลอก แท้จริงแล้วคุณหนูหวังผู้นี้ไม่มีเงินจะซื้อของ
แต่เมื่อมาถึงที่แล้ว ย่อมไม่อาจกลับไปมือเปล่า ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน นางก็ต้องเข้าไปดูและสอบถามให้รู้เื่ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
"มีคนอยู่หรือไม่" ถังชิงหรูะโเรียกเข้าไปด้านใน "ข้าจะเข้าไปแล้วนะ"
"ใครน่ะ?" เสียงคนแก่ดังออกมาจากด้านใน
คนผู้หนึ่งเดินออกมา ชายผู้นั้นผมขาวทั้งศีรษะ สวมชุดข้ารับใช้ ดูแล้วคงเป็บ่าวในเรือน
"เ้ามาหาใคร" ชายชรามองถังชิงหรู ดวงตาแฝงแววหวาดระแวง "ที่นี่ไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า รีบไปซะ ก่อนที่ตาแก่อย่างข้าจะไล่เ้าออกไป"
"ท่านผู้าุโ" ถังชิงหรูมองชายชรา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ข้า้าพบคุณหนูหวัง ท่านช่วยไปบอกนางให้ออกมาได้หรือไม่"
"จวนเรามีคุณหนูเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้นาง... ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เ้ามีธุระอันใดก็บอกมาโดยตรง ที่นี่มีข้าอยู่คนเดียว ไม่มีใครอื่นที่สามารถตัดสินใจได้ แต่หากมาทวงหนี้ล่ะก็ อย่าหวัง นอกจากจวนทรุดโทรมหลังนี้ ก็มีแต่คนแก่อย่างข้านี่แหละ"
"ดูจากสภาพความเสื่อมโทรมภายนอก ก่อนหน้านี้ไม่นานที่นี่ก็น่าจะยังเป็จวนที่ดีอยู่ เพิ่งเกิดเื่บางอย่างขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานใช่หรือไม่" ถังชิงหรูย้อนถาม
"เ้ามายุ่งอะไรมากมาย เื่ในจวนของเราหาใช่เื่ที่เ้าควรจะเข้ามาสอดแนม เ้ารีบไปเสีย อย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาอยู่ที่นี่" ชายชราเริ่มกวัดแกว่งไม้เท้าไล่คนอย่างรำคาญใจ
ถังชิงหรูไม่ได้พบคุณหนูหวัง ซ้ำยังมาเจอคนแก่เ้าอารมณ์เช่นนี้ จึงจำต้องถอยออกมาจากจวนสกุลหวังก่อน จากนั้นค่อยไปเลียบเคียงถามสถานการณ์จากบ้านที่อยู่ติดกัน
ตึงๆ ๆ ถังชิงหรูเคาะประตูบ้านด้านข้าง
มีคนชะโงกศีรษะออกมามองด้านนอกอย่างหวาดระแวง ยามเห็นดรุณีน้อยแปลกหน้ายืนอยู่ตรงนั้น แววตาค่อยคลายความหวาดระแวงลง
"มีธุระหรือ" หญิงผู้นั้นท่าทางอายุราวสามสิบถึงสี่สิบปี นางอุ้มเด็กออกมาด้วยคนหนึ่ง
"พี่สาว ข้ามีเื่มาสอบถามเกี่ยวกับบ้านข้างๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูหวังที่อยู่บ้านติดกันไปไหนเสียแล้วเล่า"
"เด็กสาวคนนั้น..." พอได้ยินว่ามาถามเื่คุณหนูหวัง สายตาของหญิงผู้นั้นก็ฉายแววขุ่นเคือง "เ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือไร แม้แต่เื่ของนางยังจะเข้ามายุ่ง"
"เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่" ถังชิงหรูถาม
สตรีผู้นั้นทำท่าจะปิดประตู แต่ถังชิงหรูเอาตัวเข้ามาขวางไว้ หญิงผู้นั้นจึงลากนางเข้ามาด้านในอย่างหงุดหงิด ก่อนปิดประตูอย่างระมัดระวัง
"คุณหนูหวังผู้นั้นช่างเคราะห์ร้ายนัก ตอนนี้ถูกทางการจับขังคุกไปแล้ว" หญิงผู้นั้นกระซิบเล่า "ตู้โตวชุดนั้นนำภัยพิบัติมาให้แท้ๆ บ้านสกุลหวังกำลังตกต่ำไม่ร่ำรวยเหมือนในอดีต บิดามารดาเสียชีวิตไปนานแล้ว นางอยู่ตัวคนเดียวกับบ่าวชราผู้ติดตาม นางมีลูกผู้พี่คนหนึ่ง ปรกติก็เห็นดีกับนางอยู่ พอนางได้ยินว่าญาติผู้พี่มีชีวิตที่ไม่ดีนัก พี่เขยของนางผู้นั้นทำตัวเสเพลติดผู้หญิงไปทั่ว ่ก่อนหน้านี้มีคนมาบอกนางว่า ตู้โตวของร้านหัวใจสตรีงดงามเป็พิเศษ สตรีใดได้สวมแล้วบุรุษก็จะคลั่งไคล้หลงใหล นางจึงอยากมอบให้ญาติผู้พี่ แต่เ้าก็รู้สถานการณ์บ้านนาง ไหนเลยจะมีเงินมาซื้อของอย่างนั้น นางเอาของมาให้ญาติผู้พี่ของตนเองดู ญาติผู้พี่ของนางไม่ขาดแคลนเงินทอง ขอเพียงแค่สามารถมัดใจสามีได้ แพงเท่าไรก็ไม่เสียดายเงิน"
"แต่ทว่า... ยามไปส่งตู้โตวให้ญาติผู้พี่ นางถูกพี่เขยซึ่งดื่มจนเมามาย... ขณะที่ดิ้นรนขัดขืนก็ผลักบุรุษผู้นั้นล้มลงไป จนบัดนี้เขายังสลบไม่ฟื้นเลย"
"เมื่อเื่เป็เช่นนี้ ไฉนถึงจับนางไปขังเล่า นางต่างหากที่ถูกทำร้าย" ถังชิงหรูเอ่ยพลางมุ่นคิ้วขมวด
"บิดามารดาของบุรุษผู้นั้นไม่ยอมน่ะสิ ญาติผู้พี่ของนางก็ไม่กล้าขอร้องแทน มิเช่นนั้นอาจเดือดร้อนถูกหย่าไล่กลับบ้าน" หญิงผู้นั้นเบ้ปาก
"เื่ราวใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมคนที่ให้ที่อยู่พวกเรากลับไม่บอกความจริง หรือว่าอยากให้พวกเรามาเห็นเหตุการณ์ด้วยตาของตนเอง จะได้ไม่มีแก่ใจมาทวงหนี้" ถังชิงหรูบ่นพึมพำ
"แม่นางมาหาคุณหนูหวังทำไมหรือ เื่นี้เกิดขึ้นหลายวันแล้ว ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงที่จะไปข้องเกี่ยวกับบ้านนาง ด้วยเกรงว่าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ตอนนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าการลงทัณฑ์ในคุกรุนแรงแค่ไหน เมื่อก่อนขโมยของแค่ถูกตัดมือ ตอนนี้ถึงกับตัดศีรษะ เมื่อก่อนโจรปล้นบ้านแค่ติดคุก แต่บัดนี้ก็ถูกตัดศีรษะเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดกล้าลองดีกับท่านเ้าเมืองคนใหม่"
"อื้ม ข้าเป็เ้าของร้านหัวใจสตรี นางไปเอาตู้โตวจากร้านเราแล้วยังไม่ชำระเงิน ข้าก็เลยมาทวงหนี้" ถังชิงหรูเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณพี่สาวมากที่ช่วยบอกเล่าเื่เหล่านี้"
"เ้าเป็เ้าของร้านหัวใจสตรีรึ ได้ยินว่าตู้โตวที่นั่นวิเศษมาก เป็อย่างที่พวกเขาว่ากันจริงหรือเปล่า" หญิงผู้นั้นจับมือของถังชิงหรูไม่ปล่อย ดูจากถ้อยคำของนางคงจะสนใจตู้โตวจากร้านหัวใจสตรีอยู่ "เ้าว่า... พวกเราคุ้นเคยกันขนาดนี้ เ้าพอจะมอบส่วนลดให้ข้าบ้างได้หรือไม่"
"ก็อย่างที่พี่สาวว่า พวกเราคุ้นเคยกันขนาดนี้ ท่านเองก็ช่วยไขปัญหาให้ข้า ข้าย่อมจะมอบส่วนลดให้อยู่แล้ว" ถังชิงหรูทอยิ้ม "งั้น... ก็สักห้าร้อยตำลึงก็แล้วกัน"
"ห้าร้อยตำลึง? ไม่มาปล้นไปกันไปเลยเล่า" หญิงผู้นั้นอุทานเสียงดัง จนเด็กที่อุ้มอยู่ร้องไห้จ้าด้วยความใ
ถังชิงหรูไม่คิดจะอยู่วุ่นวายกับหญิงผู้นั้น นางรีบเปิดประตูเดินออกมา
ขณะยืนอยู่ที่ถนน ก็มองไปยังคฤหาสน์สกุลหวังที่อยู่ไม่ไกลนัก คุณหนูหวังผู้นั้นช่างน่าสงสาร แม้ว่าเื่จะเกิดขึ้นเพราะสินค้าของพวกนาง แต่นางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ถังชิงหรูรู้สึกสลดใจเล็กน้อย เพียรบอกตนเองว่าคุณหนูผู้นั้นโชคร้ายเอง นางไม่ต้องรู้สึกละอายใจ เป็เื่ที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่พอรับรู้เื่แล้วไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ นางก็ไม่สบายใจ นางรู้สึกว่า่นี้นิสัยของนางเปลี่ยนไปจากเดิม จนแทบไม่เหมือนนางสมัยก่อน หรือว่าอุปนิสัยของเ้าของร่างเดิมจะมีผลมาถึงตัวนางด้วย?
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า นางในยามนี้ก็คือการผสานรวมตัวกันระหว่างเ้าของร่างเดิมกับถังชิงหรูแพทย์อัจฉริยะของศตวรรษที่สามสิบเอ็ด พอคิดแบบนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าเค้า
"แม่นาง... " มีคนผู้หนึ่งรั้งแขนเสื้อของถังชิงหรู "มีคุณชายคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม้าพบท่าน"
ถังชิงหรูก้มหน้าลง เห็นขอท่านน้อยคนหนึ่ง นางจึงให้เงินไปหนึ่งเหรียญ แล้วบอกว่า "เอาไปซื้อของกินซะ"
ขอทานน้อยรับเงินที่นางส่งให้ก่อนวิ่งออกไปด้วยสีหน้าเริงร่า
นางเดินไปยังหอสุราแห่งนั้น เถ้าแก่ร้านผายมือเชิญให้ขึ้นไปห้องพิเศษชั้นสอง ระหว่างเข้าประตูไป ก็เอ่ยว่า "คุณชายเฟิ่ง วันนี้ท่านไม่กลับไปทรมานข้าแล้วหรือ จู่ๆ ก็เกิดใจดีกะทันหันเช่นนี้ เพราะรู้สึกว่า่นี้ข้าทำงานหนักเกินไป ก็เลยจะตกรางวัลให้ที่นี่ใช่หรือไม่"
แต่พอผลักประตูเข้าไปแล้ว กลับไม่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาจนเทพยดายังริษยาของเฟิ่งหยาง แต่เป็ดวงตาดำทะมึนคู่หนึ่ง
บุรุษผู้นั้นสวมอาภรณ์สีดำ แต่ก็ยังดูดี เขานั่งอยู่ตรงนั้น ด้านหน้ามีกับข้าวตั้งอยู่สี่ห้าอย่าง ปลายนิ้วของเขากำลังเล่นกับจอกสุราตรงหน้าในท่วงท่าผ่อนคลาย
"ปรกติเ้าพูดจากับเ้านายของตนเองเช่นนี้หรือ ดูท่าคุณชายเฟิ่งจะให้ท้ายเ้าน่าดู" เมิ่งหลิงกล่าวเสียงเรียบ
"เป็ท่านได้อย่างไร" ถังชิงหรูหยุดยืนที่หน้าประตู จะเข้าก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้ รู้สึกเหมือนกำลังจะเข้าถ้ำเสือ
เฟิ่งหยาง คุณชายเฟิ่ง ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน รีบมาดับภัยให้ยุทธภพโดยด่วน
ถังชิงหรูสูดหายใจลึก ก่อนเดินเข้าไปอย่างสง่างาม รอยยิ้มกลาดเกลื่อนเต็มใบหน้า "ใต้เท้าเมิ่งมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อาหารข้างนอกคงสู้ครัวของจวนเมิ่งมิได้หรอกกระมัง"
"เ้าไม่เคยกินอาหารของจวนเมิ่งของข้าเสียหน่อย รู้ได้อย่างไรว่าฝีมือการทำอาหารของพวกเขาไม่เลว" เมิ่งหลิงมองนางด้วยสายตาเฉยชา "มัวยืนอยู่ทำไม เข้ามานั่งสิ"
"เอ้อ..." ถังชิงหรูยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ พลางเอ่ยด้วยความประหม่าเล็กน้อย "ไม่ค่อยดีกระมัง ใต้เท้าคงกำลังคอยคน หากข้ารั้งอยู่ที่นี่ จะมิเป็การเสียเวลาของท่านหรือ"
"ข้าคอยเ้าอยู่" เมิ่งหลิงมองไปนอกหน้าต่าง "จากตำแหน่งที่ข้าอยู่ เห็นเ้าแต่ไกลแล้ว นั่นคือบ้านสกุลหวัง เ้าเพิ่งออกมาจากที่นั่น"
ถังชิงหรูเดินเข้าไปหาเมิ่งหลิง หยุดอยู่ข้างกายเขา ก่อนชะเง้อศีรษะมองไปยังฝั่งตรงข้าม ก็เห็นจวนสกุลหวังจริงๆ สายตาของเขาไม่เลว เห็นแม้กระทั่งชื่อจวนสกุลหวัง
เมื่อเอ่ยถึงจวนสกุลหวัง ไม่สู้ถามเื่ของคุณหนูหวังเลยดีหรือไม่ อย่างไรเสียเขาก็เป็ฝ่ายเริ่มเอ่ยถึงก่อน หากเขาไม่บอก ก็ถือว่าเสียเวลา... คุยเล่นไปอย่างนั้นเองก็แล้วกัน
"ใต้เท้า เมื่อครู่ข้าไปทวงหนี้ที่จวนสกุลหวัง ได้ยินว่าคุณหนูของจวนนั้นไม่อยู่เสียแล้ว ทำเอาข้าไปเสียเที่ยว" ถังชิงหรูแสดงทำโมโห "ไม่รู้ว่าคุณหนูผู้นั้นหายไปไหน บอกว่าอีกสองวันจะส่งเงินมาจ่ายข้า แต่จนบัดนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคน ข้าทำงานให้ผู้อื่น หากมีหนี้คงค้างขนาดนั้น คุณชายของเราคงจะแล่เนื้อเถือหนังข้าแน่ ท่านก็รู้ว่าเขาตระหนี่ถี่เหนียวขนาดไหน"
"จากถ้อยคำที่แม่นางพูดกับคุณชายเฟิ่งเมื่อครู่ คนที่จะถูกแล่เนื้อเถือหนังจะเป็ผู้ใดยังไม่แน่" เมิ่งหลิงเงยหน้าขึ้น ยิ้มกล่าวเสียดสี "แม่นางไม่ต้องวิตก"
"... ก็มิได้วิตกอันใด เพียงแต่ข้าเป็คนข้าขาย ไม่อยากทำการค้าที่ขาดทุน" ถังชิงหรูมองเมิ่งหลิง กล่าวว่า "มิเช่นนั้นก็คงกินข้าวไม่ลง"