“นายท่าน ท่านคิดดีแล้วใช่หรือไม่!” ฮูหยินสวี่ที่ประหม่าอย่างมากและอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะอีกครั้ง
สำหรับหานอวิ๋นซี นางเลือกที่จะหลับตา นางเกลียดคนที่ไม่น่าเชื่อถือและคนทรยศที่สุด! แม้ว่านางจะได้ยินเสียงขัดจังหวะของฮูหยินสวี่ แต่นางก็ไม่ได้ลืมตาเลย
ใครจะรู้ ครั้งนี้หานฉงอันไม่ลังเลและตอบอย่างเด็ดขาดว่า “กระหม่อมเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบลงทันที แต่ละคนต่างตกตะลึงปากค้างราวกับถูกมนต์สะกด กลายเป็รูปปั้นในทันใด ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ โดยเฉพาะฮูหยินสวี่ที่ดูเหมือนไม่หายใจมาเป็พันปีราวกับประติมากรรมน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น
มีเพียงอี๋เหนียงเจ็ดเพียงผู้เดียวที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจเบาๆ
“ไม่! นายท่าน ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้! เป็ไปไม่ได้!”
ฮูหยินสวี่ที่แข็งทื่อไปเป็คนแรกที่เรียกสติกลับคืนมาได้ นางพุ่งเข้ามา โดยไม่ทันระวังจึงล้มลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาทันใด “นายท่าน ท่านโกหกไปทำไมกัน? ทำไมท่านถึงใจร้ายและโหดร้ายได้ขนาดนี้!”
“ฮูหยินเทียนซินตายไปหลายปีแล้ว หานอวิ๋นซีก็อภิเษกแล้ว ทำไมท่านถึงทำเช่นนี้? ทำไมกัน?”
“นายท่าน ข้ายอมแต่งงานกับท่าน ทั้งยังใช้ชีวิตอยู่ในฐานะอนุเป็เวลาหลายปีโดยไม่บ่นหรือเสียใจเลย ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร? ท่านทำได้อย่างไร? นายท่าน ท่านพูดมาสิ! ตอบข้ามา!”
เป็แบบนี้ได้อย่างไร?
หานรั่วเสวี่ยที่ใมากจนดูเหมือนถูกพรากิญญาออกจากร่าง นางส่ายหัว ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเื่จะกลายเป็เช่นนี้!
มู่หลิวเยวี่ยยังคงรออยู่ที่ประตู รอให้ตระกูลหานจับหานอวิ๋นซี อีกสามวันก็จะถึงวันสิ้นสุดของการเดิมพันแล้ว! ตอนนี้นางคงอยากจะบอกอะไรกับมู่หลิวเยวี่ยแล้วสินะ?
หานอวี้ฉีที่มองมารดาของตนเองร้องไห้ ก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง ทันใดนั้นก็ผลักหานฉงอัน “ท่านพ่อ ท่านโกหก! ท่านถูกบังคับ ท่านถูกบังคับอย่างแน่นอน!”
หานฉงอันถูกผลักล้มลงกับพื้น แววตาของเขาแน่วแน่และเผยความโหดร้ายออกมา เขาลุกขึ้นเผชิญหน้ากับอี้ไท่เฟยและพูดซ้ำอีกครั้งว่า “อี้ไท่เฟย กระหม่อมเต็มใจจริงๆ ฉินหวังเฟยไม่ได้บังคับข้าเลยแม้แต่น้อย! กุญแจห้องเก็บของตระกูลหานนั้นถูกเก็บไว้ที่ฉินหวังเฟยชั่วคราว ส่วนการเลือกผู้นำของตระกูลหาน ก็จะมีการเสนอชื่อจากฉินหวังเฟยเพื่อประกอบการตัดสินใจในภายภาคหน้าเช่นกัน”
อี้ไท่เฟยใมากจนหน้าซีด นางที่มั่นใจอย่างมากและไม่เคยคิดมาก่อนว่าหานฉงอันจะปฏิเสธการทาบทามของนางและเลือกหานอวิ๋นซีแทน
นางส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว ถึงกับพูดไม่ออกเป็เวลานาน
ใครจะรู้ว่า ในเวลานี้หานอวี้ฉีก็ะโขึ้นมาอย่างรุนแรงว่า “ข้าไม่เห็นด้วย!” จากนั้นก็ยกกำปั้นขึ้นเพื่อจะเข้าไปชกหานฉงอัน
“หยุด!”
หานอวิ๋นซีร้องออกมา นางไม่สนใจคนจำนวนมากและรีบลงไปหยุดพวกเขาทันที แต่น่าเสียดายที่ระยะทางไกลเกินไปจนห้ามไม่ทัน
ใน่เวลาวิกฤตนี้ ใครจะคิดว่าอี๋เหนียงเจ็ดที่อยู่ด้านข้างจะรีบเข้ามาบังด้านหน้าของหานฉงอัน
“ตุ้บ!”
มีเสียงดังเกิดขึ้น กำปั้นของหานอวี้ฉีฟาดเข้าที่ด้านหลังศีรษะของอี๋เหนียงเจ็ด อี๋เหนียงเจ็ดรู้สึกว่าสมองของนางสั่นอย่างรุนแรง ภาพตรงหน้ามืดมนลง จากนั้นก็หมดสติล้มลงไปที่หานฉงอัน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวี้ฉีที่หงุดหงิดก็สงบลงและตระหนักได้ว่าตนเองสร้างปัญหา
“สารเลว!”
หานฉงอันโกรธอย่างมาก กอดอี๋เหนียงเจ็ดไว้ เขาโกรธจนตัวสั่น เสี่ยวอี้เอ๋อร์ใมากจนตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปร้องไห้เสียงดัง “ท่านแม่! ท่านแม่!”
หานอวิ๋นซีที่มาถึงทันเวลาพอดี คว้ามือของหานอวี้ฉีอย่างแรงแล้วเหวี่ยงเขาออกไปข้างๆ พร้อมกับพูดด้วยความโกรธว่า “ทหาร มัดหานอวี้ฉีให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นว่าฉินหวังเฟยโกรธมาก คนรับใช้ของศาลต้าหลี่จะกล้าเพิกเฉยได้อย่างไร จะยังไปสนใจคำแนะนำจากอี้ไท่เฟยที่ไหนกัน?
คนใช้สองคนออกมาจับเขาทันที หานอวี้ฉีกลัวมากจนลืมที่จะขัดขืน ในไม่ช้าเขาก็ถูกมัดมือมัดเท้าไว้
หานอวิ๋นซีตรวจสอบอาการาเ็ของอี๋เหนียงเจ็ดอย่างใจจดใจจ่อ ก็พบว่าอี๋เหนียงเจ็ดหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย ศีรษะด้านหลังเองก็บวมปูดขึ้นมา หานอวิ๋นซีเป็หมอพิษ นางจึงไม่คุ้นเคยกับอาการาเ็แบบนี้!
หานฉงอันเองก็ตกตะลึงจนลืมไปว่าตนเองเป็หมอ ทั้งยังเป็หมอเทวดาอีกด้วย เขามองไปที่อี๋เหนียงเจ็ดที่หมดสติ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความปวดใจและหวาดกลัว ถึงกับสติหลุดลอยไปชั่วขณะ
“เร็วเข้า รีบพาอี๋เหนียงเจ็ดไปหาหมอ เร็ว!” หานอวิ๋นซีะโ
คนรับใช้สองสามคนรีบเข้ามาช่วย อุ้มอี๋เหนียงเจ็ดออกไป เสี่ยวอี้เอ๋อร์ร้องไห้และะโเสียงดัง จากนั้นก็วิ่งตามไป
หานอวิ๋นซีเองก็อยากจะตามไปเช่นกัน เพียงแต่เื่ในห้องโถงยังไม่จบ!
สองแม่ลูกสวี่ซื่อที่น่ารังเกียจ หากนางไม่จัดการพวกเขาในวันนี้ ก็คงไม่มีความเชื่อมั่นในตระกูลหานอีกต่อไป!
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ฮูหยินสวี่ที่มองไปก็ตื่นใ จนกระทั่งอี๋เหนียงเจ็ดถูกนำตัวออกไป หานอวี้ฉีถูกมัดมือมัดเท้าและคุกเข่าลงบนพื้น นางจึงจะได้สติกลับคืนมา
นางรีบคุกเข่าลงและขอร้อง “ไท่เฟย โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเพคะ! โปรดไว้ชีวิตด้วย! อวี้ฉียังเด็กไม่รู้เื่รู้ราว มีนิสัยมุทะลุ เขาไม่มีเจตนาที่จะกระทำความผิดอย่างแน่นอน! ครั้งนี้ได้โปรดปล่อยเขาไปเถิดเพคะ!”
อี้ไท่เฟยที่ยังจมอยู่กับการเลือกของหานฉงอัน ทั้งยังใกับการเคลื่อนไหวของหานอวี้ฉี ในเวลานี้ สีหน้าของนางก็ซีดเซียว มองไปที่ผู้คนในห้องโถงและสูดหายใจสั้นๆ
ยุ่งเหยิง! ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว!
สิ่งที่เคยแน่ใจว่าจะชนะ ตอนนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของนางโดยสิ้นเชิง จิตใจของนางเองก็เต็มไปด้วยความสับสน
“สวี่ซื่อ ท่านยังคิดที่จะขอความเมตตาอีกหรือ?”
หานอวิ๋นซีถามด้วยน้ำเสียงเ็า นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนแบบนี้อยู่
“หานอวี้ฉีอายุยี่สิบแปดปี ไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ การฆาตกรรมอย่างเปิดเผยในห้องโถง ดูิ่ไท่เฟยและเพิกเฉยต่อข้า นี่เป็การดูิ่เหยียดหยาม ทั้งยังลงมือทำร้ายท่านพ่อ ทำร้ายอี๋เหนียง สิ่งนี้ช่างน่ารังเกียจและขายขี้หน้าเหลือเกิน! สัตว์ที่ไม่ได้รับการสั่งสอนเช่นนี้ อยู่ไปจะมีประโยชน์อะไรกัน?”
เมื่อเผชิญกับคำถามของหานอวิ๋นซี ฮูหยินสวี่ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา
นางรู้ว่าเวลานี้ไม่มีประโยชน์ที่จะขอร้องหานอวิ๋นซี เมื่อเห็นว่าอี้ไท่เฟยไม่ตอบสนอง นางจึงมองไปที่มู่หรงหว่านหรูเพื่อขอความช่วยเหลือทันที
มู่หรงหว่านหรู อ่า มู่หรงหว่านหรู เ้าเป็คนพูดเสียดิบดีว่าเื่นี้ไม่มีทางพลาด แล้วไยมันถึงกลายเป็เช่นนี้ไปได้!
เ้าเป็คนสัญญากับข้าว่าอี้ไท่เฟยจะอยู่ฝั่งข้าอย่างแน่นอน
เ้านี่มันเป็พวกพูดได้เก่งจริงๆ!
ไร้สิ้นหนทาง มู่หรงหว่านหรูเองก็ไม่ต่างจากอี้ไท่เฟย ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการโจมตีของหานฉงอันและหานอวี้ฉีที่ทำให้ใกลัว ดังนั้นนางจึงไม่สังเกตเห็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนของฮูหยินสวี่
“ใต้เท้าโอวหยาง เ้าพูดมาสิ หานอวี้ฉีเป็ฏเช่นนี้ ตามกฎหมายแล้วควรจะลงโทษอย่างไร?” หานอวิ๋นซีถาม
ใต้เท้าโอวหยางที่ค่อนข้างหวาดกลัวก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว มองไปที่อี้ไท่เฟยและฮูหยินสวี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับว่าอย่างไร
“พูดมาสิ!” หานอวิ๋นซีพูดอย่างโกรธเกรี้ยวและรุนแรงมาก
ใต้เท้าโอวหยางใสะดุ้งโหยง เขาไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป ตอบอย่างรวดเร็วว่า “หากกระทำการฆาตกรรมอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ จะถูกตัดสินจำคุกสามปีตามกฎหมายพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่นะ!”
ทันใดนั้นหานอวี้ฉีก็คำรามเหมือนสัตว์ร้ายและขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง แต่โชคดีที่คนรับใช้จับเขาไว้แน่น
ด้วยเสียงคำรามนี้ อี้ไท่เฟยยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อยและถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
นางไม่เคยเผชิญกับฉากที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน นางกลัวมากจริงๆ ดังนั้นจึงไม่สนใจว่าหานอวี้ฉีจะเป็ใคร นางรีบพูดว่า “ทหาร! เร็วสิ รีบพาเขาออกไป! ไป...ไปขังที่คุก! น่ากลัวเหลือเกิน โเี้จริงๆ!”
ทันทีที่อี้ไท่เฟยพูดออกไป คนรับใช้ก็ลากเขาออกไป แต่ฮูหยินสวี่กลับวิ่งไปขวางข้างหน้าและหยุดไว้ “ไท่เฟย โปรดยกโทษให้ด้วยเถิด! โปรดไว้ชีวิตเถิด! อี้ไท่เฟย ได้โปรดท่าน...”
“สวี่ซื่อ ท่านมีคุณสมบัติอะไรที่จะขอร้องไท่เฟยหรือ?” หานอวิ๋นซีขัดจังหวะอย่างรวดเร็วและถาม
ฮูหยินสวี่ถึงกับผงะไป ทว่าก็ไม่ที่กล้าจะตอบกลับและยังคงอ้อนวอนอี้ไท่เฟยต่อไป “อี้ไท่เฟย ได้โปรดเมตตา! ได้โปรดเมตตาด้วย! อวี้ฉี แค่...”
ใครจะคิดว่าหานอวิ๋นซีกลับขัดจังหวะอย่างไร้ความปรานีอีกครั้ง “สวี่ซื่อ ท่านใส่ร้ายข้า สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่จวนฉินอ๋องและทำลายชื่อเสียงของฉินหวังเฟย ท่านคงรู้ความผิดใช่หรือไม่?”
ฮูหยินสวี่ผู้นี้ หากไม่เตือนขึ้นมา นางคงลืมไปจริงๆ ว่านางตัวเองก็ยังเอาไม่รอด แล้วจะไปช่วยอื่นได้อย่างไรกัน? ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฮูหยินสวี่ที่ตื่นตระหนกก็สงบลงและลืมสถานการณ์ของตัวเองไปจริงๆ
ความผิดของนางนั้นยิ่งใหญ่กว่าหานอวี้ฉีมาก นางค่อยๆ หันหน้าไปมองหานอวิ๋นซี เมื่อพบกับการจ้องมองที่ดุดันของหานอวิ๋นซี สองขาก็อ่อนแรงและทรุดตัวลงนั่งทันที คนรับใช้พาหานอวี้ฉีออกไปทันที
“ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าด้วย!”
“ท่านแม่ ขอให้ท่านตามาช่วยข้าหน่อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ ท่านแม่!”
…
ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ไร้สาระของหานอวี้ฉีนั้นชัดเจนและเต็มไปด้วยการประชดประชัน
ถ้าท่านตาของเขาและคนของกระทรวงขุนนางรู้เื่ในวันนี้ ยังแทบปกป้องตัวเองไม่ทันเลย แล้วจะไปช่วยชีวิตคนอื่นได้อย่างไร?
หานอวี้ฉีที่กระทำความผิด ก็ควรแบกรับมันเอง
ความผิดของฮูหยินสวี่ไม่ว่าจะเป็เื่เล็กหรือใหญ่ บางทีแม้แต่คนของกระทรวงขุนนางก็จะถูกลากลงมาเกี่ยวด้วย
เสียงร้องขอความช่วยเหลือของหานอวี้ฉีที่ค่อยๆ ไกลออกไป ในที่สุดห้องโถงก็เงียบลง ฮูหยินสวี่คุกเข่าลงบนพื้น หานรั่วเสวี่ยถูกอี๋เหนียงสามลากไปโดยที่ไม่เต็มใจ ไม่กล้าส่งเสียงดัง หานฉงอันคุกเข่าอย่างท้อแท้และก้มหน้าลง
ในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง ความสงบนี้เองที่ทำให้ตระหนักได้ว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมา
หานอวิ๋นซีหายใจเข้าลึกๆ กลับไปนั่งที่ที่นั่งถัดจากอี้ไท่เฟย ยืดเสื้อผ้าของนางให้ตรงและนั่งตัวตรง
ตราบใดที่หานฉงอันไม่ใส่ร้ายและอยู่ฝั่งเดียวกับนาง นางก็ไม่กลัวสิ่งใดแล้ว!
นางมองไปที่อี้ไท่เฟยและพูดทีละคำอย่างจริงจัง “หมู่เฟย ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว จะลงโทษสวี่ซื่ออย่างไร โปรดตัดสินใจด้วย”
อี้ไท่เฟยตั้งสติ หลังจากนั้นไม่นานก็ค่อยๆ หันหน้าไปมองหานอวิ๋นซี
นางรู้ว่านางแพ้อีกแล้ว!
หานอวิ๋นซีเป็เพียงเด็กสาวผู้หนึ่ง ไม่มีภูมิหลัง ไม่มีการสนับสนุนใดๆ ทำไมนางถึงรับมือยากเช่นนี้นะ?
ทำไมหานฉงอันถึงวางอนาคตของตระกูลหานไว้ในมือของหานอวิ๋นซี และปฏิเสธความใจดีของนาง?
เป็ไปได้หรือไม่ว่านางประเมินหานอวิ๋นซีต่ำไปจริงๆ?
หัวใจของอี้ไท่เฟยสั่นระรัวเป็ครั้งแรก ในขณะที่กำลังจะพูด มู่หรงหว่านหรูก็รีบพูดว่า “หมู่เฟย ข้าคิดว่านี่เป็ความเข้าใจผิด! มันเป็เพราะความเข้าใจผิดเท่านั้น!”
ในขณะนี้ แม้ว่าฮูหยินสวี่จะไม่เตือนนาง มู่หรงหว่านหรูก็ควรที่จะอ้าปากพูดอะไรได้แล้ว เพราะเื่นี้นางก็เป็คนวางแผนเองและฮูหยินสวี่ก็แค่ให้โอกาสนางเท่านั้น
หากนางไม่ทำอะไรสักอย่าง นิสัยของฮูหยินสวี่ก็คงจะปล่อยเลยตามเลย แต่ถ้าแฉนางขึ้นมาเมื่อไร นางก็คงจบเห่!
“น้องหว่านหรูไม่ใช่คนที่ถูกใส่ร้ายเสียหน่อย น้องหว่านหรูยืนไปพูดไปไม่เจ็บเอวแล้วหรือไร?” หานอวิ๋นซีเย้ยหยันกลับ
มู่หรงหว่านหรูที่รู้สึกกระวนกระวายก็ลุกขึ้นทันที “พี่สะใภ้ ท่านอย่าพูดอย่างนั้น ข้าจะไปหมายความว่าอย่างนั้นได้อย่างไร ข้าเองก็คิดถึงตระกูลหานของพวกเราเหมือนกัน? อย่างไรเราเป็ครอบครัวเดียวกัน”
ฮึ ฮึ ฮึ!
หานอวิ๋นซีถอนหายใจในใจ มู่หรงหว่านหรูคนนี้แสดงให้เห็นแก่นแท้ของดอกบัวสีขาวแล้วสินะ
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีไม่เคยเป็คนนิ่งเฉย นางถามกลับอย่างเกียจคร้าน “น้องหว่านหรูพูดเช่นนั้น หมายความว่าเื่ของจวนฉินอ๋องก็ไม่ถือเป็เื่ของตระกูลข้าหรือ น้องหว่านหรูไม่ได้เห็นข้าเป็คนในครอบครัวหรือ”
