ณ ทะเลพันเกาะ บนเรือขนาดใหญ่
ภายในห้องส่วนตัว กู่ไห่นั่งขัดสมาธิ ขณะที่จิตจมดิ่งลงในช่องว่างมิติตรงหว่างคิ้วของตน
เม็ดหมากสีดำยังคงลอยอยู่้า ในจุดสูงสุดเช่นเดิม และที่กลางเวหาด้านล่าง มีผลึกสีขาวลอยอยู่ ดูเหมือนว่าหมากดำจะไม่สามารถขยับไปมาได้
ที่ด้านล่าง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็กระดานหมากหนึ่งแสนกระดาน มาบัดนี้ กลับลดจำนวนลง เนื่องจากกระดานหมากสี่กระดานยังคงรวมเข้าด้วยกัน จนกลายเป็หนึ่งกระดานใหญ่เช่นก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีกระดานหมากอยู่อีกเป็จำนวนมาก เกินกว่าที่ชายหนุ่มจะรวมเข้าด้วยกันได้ในเวลานี้
กระทั่งเกิดเสียงดังขึ้นในห้อง กู่ไห่จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองดูเกาเซียนจือและเฉินเทียนซานที่กำลังเดินเข้ามา
“เป็อย่างไรบ้าง?”
“ท่านหัวหน้าโปรดวางใจ เรือของเรากำลังมุ่งหน้าไปที่เกาะจิ๋วหวู่” เกาเซียนจือตอบ พร้อมยกยิ้ม
“ทว่าอาจต้องใช้เวลานานหน่อย อย่างน้อยก็น่าจะราวสามเดือน” เฉินเทียนซานกล่าว
ได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้ว ก่อนพยักหน้า “หวังว่าจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด”
“โอ้? ท่านหัวหน้า ตอนนี้เราปลอดภัยแล้วมิใช่หรือขอรับ ปัญหาใหญ่ที่สุดในยามนี้ เห็นจะเป็ปัญหาที่เกิดขึ้นบนเกาะจิ๋วหวู่ นอกจากนั้น ยังจะมีปัญหาใดอีกหรือขอรับ?” เฉินเทียนซานถามด้วยความสงสัย
“วันนั้น เราอาจหลอกผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ ด้วยค่ายกลเมฆาได้สำเร็จ แต่ผ่านไปนานเข้า ย่อมมีผู้ฉลาดบางคนที่รู้สึกตัว สามเดือนในทะเลนั้นถือว่านานมาก ข้าหวังว่าจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น” กู่ไห่กล่าว ค่อนข้างกังวลกับเื่นี้
“อะไรนะ?” เฉินเทียนซานอึ้งไปทันที
“ท่านหัวหน้า คนส่วนใหญ่ น่าจะมีจุดประสงค์อยู่ที่ลูกท้อร้อยปีลูกสุดท้ายนั่น เหตุใดเวลานั้นท่านไม่ใช้มัน?...” เกาเซียนจือเอ่ยถามอย่าง วิตก
หากกู่ไห่กินลูกท้อลูกสุดท้ายต่อหน้าทุกคน บางที พวกเขาอาจไม่ต้องเผชิญกับปัญหามากมายเช่นนี้ก็เป็ได้?
ชายหนุ่มส่ายหน้าและกล่าวว่า “เ้าไม่เข้าใจ... เพราะเป็ลูกสุดท้ายจึงยิ่งสูงค่า! มันมีค่ามากกว่าเก้าลูกก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะนี่เป็ลูกท้อเพียงลูกเดียวที่เหลืออยู่บนโลกในยามนี้ เป็หนึ่งไม่มีสอง!”
“โอ้?”
“มันจึงเป็เหมือนดาบสองคม หากใช้ไม่ถูก ก็รังแต่จะย้อนมาทำร้ายตัวเอง แต่ถ้าใช้อย่างถูกวิธีล่ะ?” กู่ไห่กล่าวอย่างมั่นใจ
“เอ๊ะ?” สีหน้าเกาเซียนจือเปลี่ยนไปทันที
ท่าทีสับสนงุนงง ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินเทียนซานอีกครั้ง เห็นได้ชัด ว่าไม่อาจคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้
กู่ไห่เพียงส่ายหน้า แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดใดๆ
…
สิบวันให้หลัง
เกาะเทียนหยวนได้กลับคืนสู่สภาพเดิม กระนั้นก็ยังมีผู้ฝึกตนเข้าออกดินแดนแรกสาบสูญ เพื่อตามล่าตัวกู่ไห่ พวกที่้าไล่ตาม ก็ไปจนหมดแล้ว ส่วนคนที่ไม่สนใจ ย่อมรั้งอยู่ที่นี่
...
ภายในดินแดนแรกสาบสูญ
ตูม!
การต่อสู้ยังคงเกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็สงบลงมาก
แม้ลูกท้อร้อยปีจะหายไปหมดแล้ว แต่ต้นท้อร้อยปียังคงอยู่ พวกเขานำต้นไม้ไปทั้งต้นไม่ได้ก็จริง แต่อยากได้กิ่งมันมาสักกิ่ง เพื่อนำกลับไปปลูก... จะได้ผลหรือไม่นะ?
กระนั้น ผู้ฝึกตนหลายคนก็ยังไม่ถอดใจ
แต่เวลานี้ คุณชายเก้าได้นำกองกำลังชาวพื้นเมืองพร้อมอสูรเมฆาจำนวนมาก เข้าไปที่ต้นท้อร้อยปีอีกครั้ง หลังจากได้รับคืนมา
“โฮก!” อสูรเมฆาเก้าเศียรร้องคำราม ตามด้วยเสียงขู่ของเหล่าอสูรเมฆาที่อยู่ด้านหลัง
อสูรเมฆานับพันของเหล่าคนนอกต่างหยุดชะงัก
“หึ! ทุกท่านใจเย็นก่อน ต้นท้อร้อยปีนี่ เป็ไปไม่ได้ที่ท่านจะย้ายมันออกไป และถึงจะนำมันไปได้ ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี” คุณชายเก้าะโเสียงดัง
“เพราะเหตุใด?” กลุ่มผู้ฝึกตนเอ่ยถามอย่างคลางแคลงใจ
“ท่านคิดว่าพืชอายุวัฒนะ เพียงแค่พรวนดินรดน้ำก็สามารถทำให้มันเติบโตได้หรือ?” คุณชายเก้าที่อยู่บนศีรษะอสูรเมฆาเก้าเศียรกล่าว น้ำเสียงจริงจัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้ฝึกตนหลายคนก็เริ่มขมวดคิ้ว
“ดูรากของต้นท้อร้อยปีนี่สิ มันหยั่งลึกเข้าไปในมิติเวลา มิใช่ในดิน หากนำกลับไปแล้ว ท่านจะสามารถปลูกมันได้หรือ? สารอาหารที่มันดูดซับนั้น คือพลังจากมิติเวลา รากของมันหยั่งลึกในห้วงมิติ แม้ข้าจะยอมให้นำออกไป แล้วท่านจะปลูกมันได้หรือ?” คุณชายเก้าพูดเสียงดัง
เมื่อมองดูรากของต้นท้อ ทุกคนก็รู้ว่ามันเป็เช่นที่เขากล่าว ถึงนำมันกลับไป ก็ไม่อาจปลูกได้จริงๆ
หลายคนตัดใจ แต่บางคนกลับไม่ยินยอม... ไม่ยินยอมแล้วอย่างไร? ถึงไม่มีกองทัพของกู่ไห่ แต่ก็ยังมีชาวพื้นเมืองและคุณชายเก้า ที่คอยสั่งการอสูรเมฆาเ่าั้อยู่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจขโมยต้นท้อไปได้อยู่ดี
ความเสี่ยงสูงเกินไป ผลประโยชน์ที่จะได้ ก็เหมือนเงาจันทร์ในน้ำ ผู้คนจึงเริ่มลังเล
สองฝ่ายต่างนิ่งงัน ไม่เคลื่อนไหว
ตูม!
บัดนี้ เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นที่ทางเข้าดินแดน ซึ่งอยู่ไกลออกไป
“อ๊าก!”
“เป็เรือเหาะลำใหญ่มาก!”
มีเสียงดังขึ้น ก่อนที่เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมาก จะถูกสายลมซัดจนลอยกระเด็น
ปัง!
เรือเหาะขนาดใหญ่สองลำ ค่อยๆ บินออกมาจากทางเข้าดินแดน
“ทุกคนหลีกให้เราหออี้ผิน!” เสียงะโก้องมาจากเรือเหาะ
เป็ไป๋อวิ๋นของหลงหว่านชิง และเรือเหาะของเฉินจีหยิง ที่บินมาถึงแล้ว
“หออี้ผิน? เป็หออี้ผินอีกแล้วหรือ?” เสียงร้องอย่างประหลาดใจ ดังขึ้นทั่วสารทิศ
...
บนเรือเหาะ
ดวงตาของหลงหว่านชิงปรากฏแวววิตกกังวล
“ไม่รู้ว่าเิไท่และกู่ไห่สืบหาไปถึงไหนแล้ว?” หลงหว่านชิงกล่าว พลางนิ่วหน้า
หัวหน้าสังกัดอัคคี ติงรุ่ย ขมวดคิ้ว พร้อมร้องเรียก “เิไท่! พวกเ้าอยู่ที่ใด?”
เสียงของหญิงชราดูเหมือนจะก้องไปทั่วดินแดน
ผู้ฝึกตนทั้งหมดและคุณชายเก้าที่อยู่บนฟ้า พากันตะลึงงัน
ฝูงชนที่อยู่รายรอบคล้ายจะเงียบไป ต่างจ้องมองเรือเหาะทั้งสอง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ สับสน และว่างเปล่า
ทุกคนมองยานเหาะอย่างพิศวง ขณะเดียวกันพวกมันก็บินสูงขึ้นเรื่อยๆ
ไต้ซือหลิวเหนียนค่อยๆ สังเกตเห็นสีหน้าประหลาดของผู้คน “ข้าว่ามีบางอย่างแปลกๆ เหตุใดสายตาทุกคนที่มองพวกเราถึงได้?...”
“ต้นท้อร้อยปี? อสูรเมฆา?” บนเรือเหาะอีกลำ จู่ๆ หลี่ฮ่าวหรานก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย
สำหรับพวกเขาแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับอสูรเมฆา หาใช่ความลับไม่ เช่นเดียวกับต้นท้อร้อยปี
แต่เหตุใด? ทุกคนถึงได้มองเราด้วยสายตาชอบกลเช่นนั้น?
“เิไท่? เหตุใดยังไม่ออกมาอีก?” เสียงะโของติงรุ่ยดังขึ้น
กระนั้น ทุกอย่างก็ยังคงเงียบงัน
...
ที่ทางเข้าห้องโถง ในป่า
ผู้าุโใหญ่และชายหนุ่มขี้โรคผู้นั้น เดินออกมาอีกครั้ง ตามด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนในชุดสีดำ
“แค่กๆๆ! คนของหออี้ผิน ยังไม่ยอมเลิกราอีกหรือ?” ชายหนุ่มที่กำลังป่วย กล่าวพร้อมไอออกมาเล็กน้อย
ผู้าุโใหญ่พยักหน้า ก่อนสูดหายใจลึก เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นนัก
...
บนเรือสองลำ หลงหว่านชิง ติงรุ่ย ไต้ซือหลิวเหนียน และหลี่ฮ่าวหราน รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เหตุใดทุกคนที่อยู่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็ชาวพื้นเมือง หรือคนนอก ต่างก็มองพวกเขาด้วยสายตาพิกลเช่นนี้?
“หออี้ผินหรือ? หออี้ผินอีกแล้ว? ้าสิ่งใดกันแน่? เว่ยเซิงเหรินมิใช่ว่าถูกพวกเ้าขอให้จากไปแล้วหรือ? เหตุใดถึงมาที่นี่กันอีก?” คุณชายเก้าถลึงตาอย่างโกรธเคือง
“เอ๊ะ?” หลงหว่านชิงผงะไป
ไต้ซือหลิวเหนียนก็มีสีหน้างงงันเช่นกัน เพราะจากน้ำเสียงของคุณชายเก้า คล้ายว่าพวกเขาจะเคยประสบเภทภัยด้วยน้ำมือของสมาชิกหออี้ผิน ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“เว่ยเซิงเหรินถูกคนของเราเชิญออกไป?” ดวงตาของติงรุ่ยพลันสว่างวาบ “ดูเหมือนเิไท่จะทำหน้าที่ได้สำเร็จ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของติงรุ่ย ผู้ฝึกตนที่อยู่บนอสูรเมฆาบริเวณนั้น ต่างก็มีสีหน้าพิกลยิ่งกว่าเดิม
เมื่อไต้ซือหลิวเหนียนสังเกตเห็นเช่นนั้น จึงรีบถามผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้ๆ ทันที “สหายท่านนี้ ช่วยบอกได้หรือไม่ ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นก่อนที่พวกเราจะมาถึง? ศิษย์หออี้ผินอยู่ที่ใด? แล้วกู่ไห่ล่ะ?”
“ถูกต้อง! เิไท่และพวกพาเว่ยเซิงเหรินไปที่ใด? แล้วเ้ากู่ไห่นั่น ตายไปแล้วหรือยัง?” ติงรุ่ยถามขึ้นเช่นกัน
“กู่ไห่?” ชายคนนั้นกล่าวด้วยสีหน้าแปลกแปร่ง
“โอ้? เกิดอะไรขึ้นกับกู่ไห่หรือ?”
“กู่ไห่สังหารศิษย์หออี้ผินทั้งหมด รวมทั้งเิไท่ด้วย” ในที่สุด ชายผู้นั้นก็เปิดปาก
ติงรุ่ยและหลงหว่านชิงนิ่งงัน
“เ้าพูดไร้สาระอะไร? กู่ไห่จะสามารถฆ่าเิไท่ รวมทั้งศิษย์หออี้ผินทั้งหมดได้อย่างไร?” ดวงตาของติงรุ่ยเบิกกว้าง ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
“เหตุใดต้องโกหกด้วย? ข้ารู้แต่แรกแล้ว ว่ากู่ไห่ร้ายกาจมาก จึงมิได้เข้าร่วมขบวนไปสู้ศึกครั้งใหญ่นั่น กู่ไห่แข็งแกร่งมาก เขาคือคนที่ข้าชื่นชมที่สุด!” ผู้ฝึกตนคนนั้นก็ะโออกมาพลัน
“ศึกใหญ่หรือ?” ไต้ซือหลิวเหนียนเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
“ประมาณครึ่งเดือนที่แล้ว อืม!... ดูเหมือนท่านจะไม่ทราบจริงๆ พวกท่านมาช้าไปแล้ว เวลานั้นกู่ไห่เพียงคนเดียว ต่อสู้กับฝูงชนนับหมื่น และชิงเอาต้นท้อร้อยปีไป ทุกคนรวมถึงศิษย์ของอี้เทียนเก๋อ ต่างก็ไม่กล้าเข้าใกล้” ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อะไรนะ? ช้าก่อน กู่ไห่ต่อสู้กับผู้คนนับหมื่นด้วยตัวคนเดียวหรือ? อีกทั้งศิษย์อี้เทียนเก๋อและทุกคน ต่างก็มิกล้าเฉียดเข้าไปใกล้เขา?” ติงรุ่ยไม่อาจตามคำพูดของชายผู้นั้นทัน
“แน่นอน! เิไท่ผู้นั้นนับเป็ตัวอะไร ในที่สุดก็ถูกกู่ไห่สังหาร ช่างยอดเยี่ยมนัก! กู่ไห่สมเป็ลูกผู้ชายจริงๆ เพื่อปีศาจงูน้อยตัวเดียว เขามิได้สนใจแม้แต่ลูกท้อร้อยปี ถึงกับป้อนให้นางไปหกลูก ยอดเยี่ยมยิ่ง!
กู่ไห่คือหัวหน้าสังกัดวารีใช่หรือไม่? แล้วหออี้ผินของพวกท่านยังรับสมัครศิษย์อยู่หรือไม่? หากยังรับอยู่ ข้าอยากจะเข้าร่วมสังกัดวารี และติดตามหัวหน้ากู่” ชายผู้นั้นถามอย่างกระตือรือร้น
หลงหว่านชิง ติงรุ่ย ไต้ซือหลิวเหนียน และหลี่ฮ่าวหราน พากันอึ้ง ขณะฟังเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รายรอบ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อน
หลงหว่านชิงและไต้ซือหลิวเหนียน สบตากันแวบหนึ่ง
ตอนแรกหลงหว่านชิงก็ไม่มั่นใจในตัวกู่ไห่นัก แต่ผู้ใดเล่าจะรู้ ว่าเขาจะก่อให้เกิดความปั่นป่วนใหญ่โตเช่นนี้? ลูกท้อทั้งสิบถูกเขาเอาไป แล้ว ทั้งยังเสียเก้าลูกไปอย่างเปล่าประโยชน์อีก
เสียของยิ่ง ลูกท้อนั่นถูกกินไปโดยที่หาประโยชน์อันใดมิได้!
“ดูเหมือนเราพลาดอะไรไปมากมายทีเดียว!” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว พลางยิ้มขื่น
“หาเว่ยเซิงเหรินพบแล้ว เขาออกจากที่นี่ไปแล้ว... ดียิ่ง!” ดวงตาของหลงหว่านแดงระเรื่อ
“จักรพรรดินีหนี่วา? จักรพรรดิเซียนต้าิ?” หลี่ฮ่าวหรานที่อยู่ไม่ไกล เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“กู่ไห่สังหารเิไท่? บังอาจนัก!” ติงรุ่ยกล่าว พร้อมถลึงตาด้วยความโกรธ
“หึ!”
ทันใดนั้น เสียงแค่นหัวเราะก็ดังมาจากฟากฟ้า คุณชายเก้าจ้องมองเรือเหาะสองลำด้วยความโกรธแค้น
เมื่อครู่ ผู้ฝึกตนทั้งหลาย ต่างเล่าเหตุการณ์ให้พวกหลงหว่านชิงฟัง พวกเขาพากันยกย่องสรรเสริญกู่ไห่ ขณะเดียวกัน กลับดูแคลนพวกตน ว่าเป็เหมือนตัวตลกเมื่ออยู่ต่อหน้ากู่ไห่ และอีกฝ่ายก็ี้เีเกินกว่าจะมาสนใจพวกตน
คุณชายเก้าเก็บกลั้นโทสะไว้ในใจมาตลอด ตอนนี้จึงยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม
“หออี้ผินสั่งสอนศิษย์ได้ดียิ่ง ถึงขนาดฆ่ากันเองได้ ไม่แปลกที่ถังจู่คนก่อนของพวกเ้า จะถูกผู้ใดก็ไม่ทราบลอบสังหาร สมน้ำหน้า!” คุณชายเก้าหยามหยัน
“เ้าว่าอะไรนะ? แน่จริงพูดอีกรอบสิ!” หลงหว่านชิงจ้องมองคุณชายเก้าอย่างขุ่นเคือง
ปัง!
บนเรือเหาะ เหล่าศิษย์หออี้ผินแต่ละคน ต่างจ้องคุณชายเก้าด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางชักอาวุธออกมา
“ข้าบอกว่าถังจู่ของพวกเ้า สมควรถูกสังหารแล้ว! จะทำไม?” คุณชายเก้าเยาะเย้ย
ฟิ้ว!
ทันใดนั้น ลูกศรสีทองก็พุ่งเข้าใส่คุณชายเก้า มันแหวกอากาศ จนเกิดเสียงกรีดตัดสายลม ดูสวยงามราวกับสายรุ้งสีทอง มันผ่านอสูรเมฆาจำนวนมากไปได้ในชั่วอึดใจ และมาอยู่ตรงหน้าคุณชายเก้าแล้ว
“อะไรกัน?” คุณชายเก้าหน้าถอดสีทันที
โฮก!
อสูรเมฆาเก้าเศียรร้องคำราม ยกหางขึ้นมาขวางลูกศรดอกนั้นทันที
ตูม!
ลูกธนูยาวสีทองปะทะเข้ากับหางของอสูรเมฆาอย่างจัง มันแทงทะลุหางอสูรเมฆาเก้าเศียรจนเป็รูใหญ่ ขณะที่ลูกศรอันทรงพลังที่ตามมาด้านหลัง ก็พุ่งมาถึงตรงหน้าคุณชายเก้าแล้ว ไอมรณะเข้าปกคลุมร่างเขาโดยฉับพลัน
“ไม่... ไม่!” คุณชายเก้าแผดเสียงด้วยความใ
ฟิ้วๆๆ!
เศียรทั้งเก้าของอสูรเมฆา ปรากฏขึ้นตรงหน้าคุณชายเก้า พยายามขัดขวางลูกศรสีทองเอาไว้
ตูม!
ลูกศรสีทองนั้นร้ายกาจยิ่ง พริบตาก็ได้แทงทะลุเศียรทั้งเก้าไป
“ไม่!” คุณชายเก้าส่งเสียงร้องโหยหวน
ปัง!
ศีรษะของเขาะเิออก
เฮือก!
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างสั่นสะท้าน ด้วยความตระหนก
อสูรเก้าเศียรนั่น ถูกลูกศรดอกเดียวเจาะทะลุศีรษะทั้งเก้า อีกทั้ง ยังะเิศีรษะของคุณชายเก้าเป็เสี่ยงๆ
ปัง!
อสูรเก้าเศียรสูญสลาย ร่างไร้ิญญาของคุณชายเก้าดิ่งลงพื้น
ผู้คนหันมองไปยังทิศที่มาของลูกศรสีทอง เห็นชายผู้หนึ่งในชุดเกราะสีทอง ยืนอยู่บนเรือเหาะลำที่สอง ในมือของชายผู้นั้นมีธนูยาว เขาจ้องมองศพคุณชายเก้า ด้วยสายตาเย็นะเื
“เ้าคิดว่าสามารถดูถูกถังจู่หออี้ผินของข้าได้หรือ? หึ!” ชายชุดเกราะสีทองผู้นี้ ก็คือหลี่ฮ่าวหรานนั่นเอง
“เขาฆ่าคุณชายเก้าๆ!” ชาวพื้นเมืองร้องโพล่งอย่างตื่นตะลึง และหวาดกลัว
หลี่ฮ่าวหรานลดคันธนูลง มองดูกลุ่มอสูรเมฆาที่เฝ้าต้นท้อร้อยปี ด้วยสายตาเยือกเย็น “อี้เทียนเก๋อกลายเป็อดีตไปแล้ว! พวกเ้าในตอนนี้ ไม่อาจหาเื่ผู้ใดตามใจชอบได้อีก หากมิได้เห็นแก่ผู้าุโกวนฉี ข้าคงจะทำลายอี้เทียนเก๋อไปแล้ว เพราะประโยคที่เขาเพิ่งเอ่ยออกมา!”
เมื่อเห็นชายหนุ่มระบายโทสะแทนตัวเอง รอยยิ้มพลันผุดขึ้นบนใบหน้าของหลงหว่านชิง
หลี่ฮ่าวหรานมองหญิงสาว และกล่าวว่า “หว่านชิง ในเมื่อได้ข้อมูลแล้ว ตอนนี้มาคิดกันเถอะ ว่ายังมีเบาะแสใดเกี่ยวกับเว่ยเซิงเหรินอีกหรือไม่?”
หลงหว่านชิงพยักหน้า ก่อนพูด “ก่อนที่ท่านแม่ของข้าจะเสียชีวิต สถานที่สุดท้ายที่นางไปก็คือเกาะจิ๋วหวู่... เว่ยเซิงเหรินต้องไปที่นั่นแน่ เราไปกันเถอะ!”
ชายหนุ่มพยักหน้า
ฟิ้ว!
เรือเหาะสองลำค่อยๆ บินจากไปทันที
เมื่อได้เห็นพลังของลูกศรอันน่ากลัวนั้น เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างก็กลั้นหายใจด้วยความตระหนก
“ใครกัน? ชายผู้นั้นเป็ใคร? ศรดอกเดียว...”
“คุณชายเก้าตายแล้ว?”
“เฉินจีหยิง! ข้าจำได้แล้ว… นั่นคือกองกำลังเฉินจีหยิง! เขาคือผู้บัญชาการกองกำลังเฉินจีหยิง นามว่าหลี่ฮ่าวหราน!”
“อะไรนะ? หลี่ฮ่าวหรานมาที่นี่ด้วยตัวเองหรือ?”
ทุกคนต่างมีสีหน้าพิศวง ทันใดนั้นบรรยากาศในดินแดนแรกสาบสูญก็เปลี่ยนไปมาก
…
ที่ทางเข้าห้องโถง
ผู้าุโใหญ่มองเรือเหาะทั้งสองลำจากไป พร้อมสูดหายใจลึก จึงสามารถระงับโทสะได้
“แค่กๆๆๆๆ!” ชายหนุ่มอมโรคที่อยู่ใกล้ๆ หรี่ตาลง พร้อมยิ้มเย็น
“หลี่ฮ่าวหรานแห่งกองกำลังเฉินจีหยิง? หึๆๆ! เกาะจิ๋วหวู่หรือ? ผู้าุโใหญ่ ข้าอยากออกไปดูที่เกาะนั่น ฝากท่านดูแลที่นี่ด้วย ข้าอยากเห็น ว่าพวกเขามีความสามารถใด ถึงได้อวดอ้างว่าจะทำลายอี้เทียนเก๋อของเรา”
ผู้าุโใหญ่หันไปมองชายหนุ่ม แล้วกล่าวว่า “จะไปจริงๆหรือ?”
“แค่กๆๆๆ... ใช่! ข้ารู้ว่าท่านประมุข เคยพูดเกี่ยวกับเกาะจิ๋วหวู่ไว้อย่างไรบ้าง แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว แม้อี้เทียนเก๋อจะล่มสลาย แต่ทะเลพันเกาะ ก็ยังถือเป็ทรัพย์สินของอี้เทียนเก๋ออยู่ดี เราจะยอมปล่อยให้คนนอกพวกนั้น กำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้อย่างไร” ชายหนุ่มขี้โรคกล่าว น้ำเสียงเยียบเย็น
“เช่นนั้น ศพนั่น...” ผู้าุโใหญ่ชี้ไปทางร่างไร้ิญญาของ ‘คุณชายเก้า’ ที่ร่วงลงมา
“เ้าคนไร้ค่านั่น! มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำ… ฝังมันเสีย! ข้าจะหาคนใหม่มาแทนในภายหลัง... แค่กๆๆ!” ชายหนุ่มขี้โรคเอ่ยเสียงเ็า
“ได้! คุณชายเก้ารักษาตัวด้วย” ผู้าุโใหญ่พยักหน้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้