“แบบนี้สวยไหม? โป๊ไปหรือเปล่า?” ณ บ้านพักหลังน้อยของบริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่น เสิ่นิกำลังจัดกระเป๋าเดินทาง แต่เซี่ยวอี๋กลับเหมือนกำลังเล่นเกม ‘หนี่งแสนคำถาม’ เธอเอาของสิ่งนั้นสิ่งนี้มาถามเขาไม่หยุด
ที่เธอถืออยู่ในมือตอนนี้คือชุดว่ายน้ำเว้าหลังชิ้นเดียวลายม้าลาย ส่วนที่โชว์แผ่นหลังนั้นน่าจะเว้าลงไปถึง่เอวได้
“เวกัสเป็เมืองที่สร้างขึ้นกลางทะเลทราย คุณคงไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำหรอกมั้ง?” เสิ่นิถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้
“แต่ที่นั่นมีสวนน้ำขนาดใหญ่มหึมา ไม่แน่ว่าอาจจะได้ใช้นะ? อีกอย่าง ฉันถามนายว่าโป๊หรือเปล่า” เซี่ยวอี๋หยุดถาม
“คุณน้า เราไปปฏิบัติงาน ไม่ได้ไปพักร้อน ต้องให้ผมปูพื้นฐานปูมหลังของทั้ง 7 แก๊งให้คุณฟังหรือเปล่า? คนพวกนั้นเป็องค์กรนรกข้ามชาติ ทำแต่เื่ผิดกฎหมาย เรียกได้ว่าเป็จักรพรรดิแห่งโลกใต้ดิน พวกมันสังหารคนไม่ไว้หน้า เป็กลุ่มก่อการร้ายที่เห็นแก่เงิน” เสิ่นิจงใจเน้นเสียงตอนท้าย
“อื้อ หวาดระแวงล่วงหน้าแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ถ้ากลัวก็ไม่ต้องไปแล้วไหม? นี่สมองนายกระทบกระเทือนหรือเปล่า ตอนนี้ถึงได้มาเตือนฉันเื่อันตรายน่ะ มีเจตนาอะไรหรือเปล่า? เพราะฉะนั้นฉันถึงถามนายไงว่าโป๊หรือไม่โป๊” เซี่ยวอี๋คำรามใส่เสิ่นิไปรอบหนึ่ง
“คุณชนะแล้ว ไม่โป๊”
“งั้นก็ดี” เซี่ยวอี๋หัวเราะพลางเอาชุดว่ายน้ำพับใส่กระเป๋าเดินทาง
ถึงเสิ่นิจะพูดกับเซี่ยวอี๋ไปแล้วว่าแค่เอาเสื้อผ้าไปให้พอใส่ก็พอ เตรียมสัมภาระให้เรียบง่ายที่สุด แต่พอถึงวันออกเดินทางจริงๆ กระเป๋าเดินทางทั้งสองใบของเซี่ยวอี๋ก็ถึงกับต้องเรียกให้คนขับรถแท็กซี่มาช่วยยกขึ้นรถ
สนามบินนานาชาติเมืองหลินไห่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร เซี่ยวอี๋มาที่นี่เป็ครั้งแรก โตมาจนป่านนี้แล้ว เซี่ยวอี๋ไม่เคยได้ออกจากเมืองหลินไห่เลย เธอเติบโตที่นี่ เรียนหนังสือที่นี่ ทำงานที่นี่ หลายครั้งที่จะได้ไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศ แต่ก็ต้องยกเลิกเพราะเกิดป่วย ติดสอบ ประจำเดือนมา ราวกับถูกสาปให้ต้องจองจำอยู่แต่ในเมืองหลินไห่
ตอนที่พี่ชายเธอจะไป พี่ก็ลูบศีรษะของเธอและปลอบเธอว่า “อยู่ที่นี่ก็รักษาตัวให้ดีๆ นะ บางทีพระเ้าอาจจะอยากให้เธออยู่ที่นี่เพื่อรอคอยคนพิเศษ เมื่อเธอพบเขาแล้ว เขาอาจจะพาเธอบินไปจากที่นี่ก็ได้”
หญิงสาวมองไปยังเสิ่นิซึ่งอยู่ข้างๆ เขากำลังหยิบขนมฟรีบนเคาน์เตอร์อยู่ เซี่ยวอี๋ยังคงรู้สึกว่าคำสาปนั้นยังคงตามมาหลอกหลอนเธออยู่
อันฉีช่างเลือกปฏิบัติ พอขึ้นเครื่อง ความเกลียดผู้หญิงคนนี้ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง เธอซื้อที่นั่งชั้นประหยัดให้เซี่ยวอี๋ ในขณะที่เสิ่นิกลับได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส เก้าอี้นั่งทรงเปลือกไข่เหมือนกับในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ สามารถเอนหลังและนอนได้ ซ้ำยังมีฟังก์ชันนวดในตัวด้วย
ที่นั่งของเซี่ยวอี๋ ด้านซ้ายคือคุณยายอายุ 70 ปี ด้านขวาก็คือคุณตาอายุ 70 ปี เดิมทีเซี่ยวอี๋อยากจะแลกที่นั่งกับทั้งสองท่านนี้ แต่พวกท่านไม่ยินดี พวกเขาบอกว่ากำลังอยู่ใน่วิกฤตของความสัมพันธ์ อยู่ในภาวะาเย็น เพราะตาเฒ่าอุ้มเด็กสาวอายุ 20 กว่าขึ้นหลัง ในขณะที่ตาเฒ่าไม่ได้ปฏิบัติต่อยายเฒ่าเช่นนี้มา 10 กว่าปีแล้ว
ยายเฒ่าปักใจเชื่อว่าตาเฒ่านั้นนอกใจ แค่ลมหายใจเดียวก็สามารถโยนบัญชีรักหลายสิบปีเขวี้ยงทิ้งไปได้
ทำไมเซี่ยวอี๋ถึงได้รู้เื่พวกนี้ ก็เพราะว่ายายเฒ่าจับมือขวาของเธอไว้พลางปรับทุกข์กับเธอ ตาเฒ่าก็ดึงมือซ้ายของเธอ พยายามที่จะล้างสมองเธอ ดูท่าแล้วไฟลต์ 13 ชั่วโมงนี้คงจะพูดกันไม่จบ เพราะั้แ่นั่งลงกับที่จนกระทั่งเครื่องขึ้นมาได้ครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เพิ่งจะเริ่มเล่าถึงแค่เื่เดือนแรกของชีวิตแต่งงานเอง ผู้เฒ่าทั้งสองช่างมีความจำที่เป็เลิศ...
ในขณะที่เซี่ยวอี๋กำลังทุกข์ยากลำบาก เสิ่นิก็เอนกายสบายอยู่ที่เบาะ เขาสั่งอาหารทะเลและไวน์แดงเลิศรสฟรีจากแอร์สาวคนสวย ตั๋วเครื่องบินมูลค่า 1 แสนหยวน แน่นอนว่าต้องมีบริการเช่นนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสิ่นิเดินทางไปยังเวกัส ครั้งล่าสุด เขาเคยนอนอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้งในเขตชานเมือง พรางตัวทำเป็ก้อนหินอยู่ 7 วัน นอกจากแสงไฟจากงานเลี้ยงในเมืองซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปแล้ว สิ่งที่อยู่เป็เพื่อนเขาก็คือหางของเ้างูหางกระดิ่ง เขารออยู่นิ่งๆ จนกระทั่งมาเฟียทั้งสองซื้อขายแลกเปลี่ยนยูเรเนียมกันเสร็จสมบูรณ์ หลังจากซุ่มยิงสองนัดห่างไป 500 เมตร ภายในเวลา 10 วินาที ทริปเวกัสของเขาก็ได้สิ้นสุดลง
การเดินทาง 13 ชั่วโมง จบสิ้นลงหลังจากเสิ่นิได้รับประทานอาหารเช้า เครื่องบิน Boeing 777 ลำมหึมาลงจอดบนรันเวย์ของสนามบินนานาชาติเวกัส เมื่อเครื่องลงจอด ดวงตาของเซี่ยวอี๋ก็แดงก่ำ เหมือนกับคนกำลังจะตาย
“คุณเป็อะไร? ไม่คุ้นกับการปรับแรงดันตอนเครื่องลงใช่ไหม?” เสิ่นิถามด้วยความสงสัย
“ฉันไม่คุ้นกับการเป็ที่ปรึกษาชีวิตสมรส” เซี่ยวอี๋แทบอยากจะร้องไห้ สิ่งที่เธอได้มาเป็รางวัลปลอบใจก็คือ หลังจากที่ได้ปรับทุกข์กันอยู่ 13 ชั่วโมง ในที่สุดคู่ตาแก่ยายเฒ่าก็กลับมาคืนดีกันได้ และจะได้ฉลองฮันนีมูนครอบรอบแต่งงาน 50 ปีด้วยกันอย่างมีความสุข
ขณะที่เสิ่นิกับเซี่ยวอี๋เข็นกระเป๋าเดินทางออกมาจากด่านตรวจคนเข้าเมือง อันฉีก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ที่นั่นแล้ว
เป็อีกครั้งที่ได้เจอกับแม่มดมือสังหารอันโเี้ แต่ด้วยความรู้สึกอีกแบบ เธอสวมชุดทำงานกระโปรง Chanel สีขาว ผมบลอนด์ยาวถูกมัดเป็มวยสูง แว่นตากรอบทอง รูปลักษณ์ของเธอเหมือนกับสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ในละครทีวี
อยู่ที่นี่เธอชื่อทีน่า ตัวตนต่อบุคคลภายนอกของเธอก็คือนายหญิงของบาร์เต้นรำแห่งหนึ่ง ตัวตนที่แท้จริงคือเลขานุการบริหารของสมาคมม่านไม้ไผ่ในสหรัฐ
“ไฮ!” เซี่ยวอี๋โบกมือทักทายด้วยความสุภาพ
“ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ 5 นาที” หญิงสาวดันแว่นกรอบทองที่ดั้งจมูกขึ้น ก่อนที่ทีน่าจะกล่าวอย่างเยือกเย็น
“ขอโทษ ผู้ช่วยผมแวะเข้าห้องน้ำ” เสิ่นิกล่าวขอโทษ
“หวังว่าการปรากฏตัวของพวกคุณในอนาคตจะเป็มืออาชีพมากกว่านี้นะ ไม่อย่างนั้นตายไปก็คงไม่มีใครรู้ ตามฉันมา...” บุคลิกของทีน่าเหมือนกับกลายเป็อีกคนโดยสิ้นเชิง เธอดูเยือกเย็นและภูมิฐานเหมือนกับูเาน้ำแข็ง แม้สามีที่รักจะอยู่ตรงหน้า แต่แววตาของเธอก็ไม่ปรากฏร่องรอยของความรักใคร่อยู่เลย ในทางตรงกันข้าม กลับเหมือนนักล่าอันสงบนิ่งที่พร้อมจะงับคอคุณให้ขาดได้ทุกเมื่อ
เซี่ยวอี๋รู้ว่ามันเป็ทัศนคติในการทำงาน ทีน่าต้องไม่เคยรู้จักกับเสิ่นิและเธอมาก่อน เธอกลับประเทศไปเพื่อเลือกเฟ้นหาบอดี้การ์ดที่เชื่อถือได้ เนื่องจากได้ยินว่าเสิ่นิจัดการคดีใหญ่ไปแล้ว 3 คดี ดังนั้นทีน่าจึง้าให้เขามาช่วย
เมื่ออยู่ในโหมดทำงาน อันฉีสมกับเป็นักแสดงมืออาชีพ ตอนนี้ต่อให้เสิ่นิโผเข้าไปกอดเธอ เธอก็คงจะทุ่มเขาทิ้งใส่ถังขยะ
เซี่ยวอี๋เข็นกระเป๋าเดินทางออกมาจากสนามบิน เธอไม่เห็นรถ Limousine อันเป็สัญลักษณ์ของเวกัสเลย มีเพียงรถบรรทุกยาวซึ่งเหมือนกับ Optimus Prime (ในเื่ Transformers) จอดอยู่ที่นั่น
“นี่มันเวอร์เกินไปหน่อยไหม?” เซี่ยวอี๋กล่าวอย่างละอายใจ
ทั้งสามเดินตรงเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ รถออกเดินทางพ่นควันดีเซล มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเวกัส
ทีน่าเปิดโคมไฟภายในตัวรถ เซี่ยวอี๋เหงื่อแตกพลั่ก ขนของเธอถึงกับลุกชันในทันที ในรถเหมือนกับคลังแสงขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยสรรพาวุธต่างๆ เมื่อเทียบกับคลังแสงของสถานีตำรวจในเมืองหลินไห่แล้ว ที่นั่นเหมือนกับของเล่นเด็กไปเลย
มันใหญ่พอๆ กับเครื่องยิงจรวดขีปนาวุธ ดุเดือดเหมือนกับปืนใหญ่ของ Green Vulcan อาวุธสังหารซึ่งเคยเห็นแค่ในนิตยสารหรือภาพยนตร์ทางทหารเท่านั้น แต่กลับถูกแขวนอยู่บนชั้นโดยรอบเหมือนกับหัวไชเท้าหรือกะหล่ำปลี
“คุณเสิ่นิถนัดอาวุธประเภทไหนเป็พิเศษ?” ทีน่าดันแว่นกรอบทองที่ดั้งจมูกขึ้น
“สำหรับการรักษาความปลอดภัย จะใช้อาวุธหนักไม่ได้ แค่นี้ก็น่าจะพอ” เสิ่นิยิ้มพลางหยิบปืนลูกโม่ Colt Python ขึ้นมาจากชั้นวาง ตัวปืนมีสีเงินเหมือนกับอนาคอนดาโอบล้อมไว้ เืเย็นและถึงตาย
ปืนลูกโม่ Colt Python ใช้ะุปืนพกแบบพิเศษ .45 เส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 12 มิลลิเมตร สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เป้าหมายซึ่งมีมาตรการป้องกันในระดับต่ำ รูปลักษณ์ประณีต เป็ของสะสมอันหรูหราที่หาได้ยาก
เสิ่นิมีความสามารถในการยิงปืนแบบกายล่องหน ดังนั้นปืนจึงเป็อาวุธที่เขาโปรดปราน เพราะขอแค่เพียงปรับสปริงเล็กน้อย เขาก็สามารถปรับความเร็วของปืนพกกึ่งอัตโนมัตินี้ได้ เนื่องด้วยพลซุ่มยิงต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมอันเหนื่อยล้าอยู่เป็เวลานาน ประสิทธิภาพของลูกปืนที่ออกไปจึงอาจจะตกไปได้ไกลกว่าปกติ ประสิทธิภาพของปืนลูกโม่ด้านนี้สูงกว่าบรรดาอาวุธปืนอื่นๆ หรือเรียกได้ว่าเป็ปืนที่มีความปลอดภัยสูงสุด
ด้วยความเคยชินกับปืนลูกโม่ เสิ่นิเหนี่ยวไกเพื่อทดสอบการยิง เห็นได้ชัดว่าแรงของสปริงได้รับการแก้ไข ความยืดหยุ่นสูงผิดปกติตรงตามสไตล์ของเสิ่นิ ทีน่ามองเขาด้วยความเ็า มันเป็ไปตามที่เธอคาดคิด
“ฉันก็เลือกแล้ว!” แววตาของเซี่ยวอี๋เปล่งประกาย ในมือของเธอถือ M4A1 มาพร้อมกับเครื่องยิงลูกะเิ ด้านหลังของเธอมีปืนลูกซองเสียบเอาไว้สองกระบอก ปืนพกอีก 4 กระบอกถูกมัดที่ต้นขา ะเิมือ 8 ลูกติดอยู่ที่หน้าอก ปืน AWM ห้อยอยู่ที่ด้านหลังก้นอีกกระบอกหนึ่ง
“คุณทำอะไรน่ะ? จะไปรบในาเวียดนามหรือยังไง?” เสิ่นิตบหน้าตัวเองอย่างไร้เหตุผล
“ก็ยังไม่เคยใช้ทั้งนั้นเลย ของพวกนี้ แล้วก็ไอ้นี่อีก อยากลองใช้ดู” เซี่ยวอี๋แก้มแดงระเรื่อ เธอตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก
“พอคุณลงจากรถ ยังไม่ทันได้เริ่มงาน คุณก็ถูกตำรวจกุมตัวแล้ว ไม่ได้! เกะกะไป” เสิ่นิขวางเซี่ยวอี๋เอาไว้และถอดอุปกรณ์บนร่างกายของเธอออกทั้งหมด
มือหนึ่งกำะเิมือ อีกมือหนึ่งดึงปืนพกและโยนทิ้งไป เสียงดังโครมคราม เสิ่นิไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ในมือถึงมีเกาะอกติดมาด้วย
“ไอ้โรคจิต! เอาคืนมานะ!” เซี่ยวอี๋ตบหน้าเสิ่นิ ก่อนจะกระชากเกาะอกลูกไม้สีดำกลับไป
“ปกติชีวิตของพวกคุณมีความสุขเช่นนี้เหรอ?” ทีน่าซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ผลักแว่นกรอบทองที่ดั้งขึ้น ครู่หนึ่งก็เผยให้เห็นถึงความไม่พอใจของอันฉี
“ไม่นะ ไม่แน่นอน ผมแค่พลั้งมือไปเท่านั้น” เสิ่นิรีบอธิบาย ก่อนจะหยิบปืน Glock G18 ด้ามเงินปลอกสีดำมาจากชั้นวางและยัดใส่มือเซี่ยวอี๋ “คุณใช้เ้านี่ก็พอ?”
“ปืนพกอีกแล้ว...” เซี่ยวอี๋สบประมาท อุตส่าห์มาถึงคลังแสงระดับชาติ ยังจะเลือกปืนพกให้อีก ช่างทำให้คนกระชุ่มกระชวยเสียจริง
“ปืนพก?” เสิ่นิหยิบลูกปืน Glock พิเศษ 31 นัดขึ้นมาจากโต๊ะด้านข้าง เขาพลิกดูและหันไปยังประตูเหล็กของตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งอยู่ห่างออกไป 5 เมตรก่อนจะเหนี่ยวไก ดวงไฟเจิดจ้าจากปากกระบอกปืนเหมือนดั่งเช่นปืนกล ใช้เวลาน้อยกว่า 2 วินาทีในการยิงจนหมดแม็ก ประตูเหล็กยุบตัวลงดังเช่นปล่องูเาไฟที่ผิดรูป
“Glock G18 อัตราการยิง 1300 รอบต่อนาที เปรียบได้กับปืนกลขนาดเล็ก เนื่องจากเล็กและพกพาสะดวก แรงยิงแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงจัดสรรให้แต่หน่วยรบพิเศษ เช่นหน่วย SWAT และเ้าหน้าที่พิเศษทางการทหารเท่านั้น ด้วยสมรรถภาพร่างกายของคุณ ใช้ตัวขยาย 6 ะุไม่มีปัญหา ยัง้าอาวุธอื่นๆ อีกไหม?” เสิ่นิกล่าวพลางโยน G18 ให้เซี่ยวอี๋ เขามองไปยังดวงตาของสาวน้อยซึ่งหลงใหลในปืนกระบอกนี้จนเกิดเป็ความ “ความรัก”