“โฮ่งๆๆ”
หัวโตคำรามอย่างบ้าคลั่ง พยายามทำหน้าให้ดุร้าย ท่าทางเหมือนจะทุ่มสุดตัว
าาัหิมะแผ่รังสีกดดันออกมา เคลื่อนหัวขนาดั์เข้ามาใกล้เ้าหัวโตอย่างเชื่องช้า
ความแตกต่างของขนาดตัวพวกมันทั้งสองช่างน่าขำ หัวโตตัวใหญ่ไม่เท่าตาข้างหนึ่งของาาัหิมะด้วยซ้ำ
“อืม...มดตัวจ้อยยิ่งกว่า...อีกตัว?” คลังคำศัพท์ในความคิดของาาัหิมะค่อนข้างน้อย
สำหรับของที่อ่อนแอและเล็กกว่า เขาชอบยืมคำว่ามดหรือไม่ก็หนอนมาเป็คำนิยาม ในสายตาของเขา เมื่อหัวโตเทียบกับเ่ิูแล้ว เป็แค่มดตัวเล็กและอ่อนแอกว่าเท่านั้นเอง
“โฮ่งๆ...เ้าหนอนั์ ปล่อยเ้านายข้า”
เ้าหัวโตพูดเหมือนเด็กเพิ่งหย่านม
าาัหิมะเบิกตา เขาจ้องมองหัวโตอย่างละเอียดด้วยความสงสัย
หัวโตมองเปลือกตาของาาัหิมะแล้วเหมือนประตูเมืองที่กำลังเปิดปิด มันเริ่มรู้สึกถึงอันตราย จึงได้ถอยหลังเสียก้าวหนึ่ง ป้องกันมิให้าาัหิมะตะครุบมันตอนที่เบิกตา ลำคอยังคงส่งเสียงขู่อย่างเกรี้ยวกราด แยกเขี้ยวคมๆ เหมือนเสือน้อยขู่คู่ต่อสู้
“ไอัเทพอีกแล้วหรือ?”
าาัหิมะฉงนอีกหน
ทำไมร่างกายเหมือนหนอนสองตัวนี่ถึงได้มีกลิ่นอายเยี่ยงใต้เท้าัเทพผู้ยิ่งใหญ่ได้กัน
เขาปล่อยหนวดัตนที่พันรอบเ่ิู ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาหา
ัเทพ สัตว์วิเศษที่ยิ่งใหญ่ในบรรดาเผ่าั สิ่งมีชีวิตทรงพลานุภาพในทุกด้าน ผู้พิทักษ์และบุกเบิกของเผ่าั ฐานะสูงล้ำเป็ประวัติการณ์
ัรุ่นหลังของเผ่าั าาัมีโลหิตัไหลอยู่ในกายอย่างเบาบาง เขาไม่มีทางไม่เคารพต่อัเทพไม่ว่าสถานะใด แม้จะเป็หนอนเล็กๆ สองตัวตรงหน้านี้...โอ้ เดี๋ยวสิ ควรจะเป็สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ทั้งสองข้างหน้านี้ต่างหาก พวกเขามีกลิ่นอายเทพัอยู่ในตัว เช่นนั้นก็มิใช่หนอนตัวเล็กอีกต่อไป าาัหิมะจะไม่มีวันทำร้ายพวกเขา
ัเทพผู้ยิ่งใหญ่สาบสูญไปนานมากแล้ว
ความรุ่งเรืองแห่งเผ่าพันธุ์ั หลังใต้เท้าัเทพหายไป ก็ค่อยๆ เสื่อมคลาย ราวกับดวงตะวันตกดินหลังูเาแห่งแดนตะวันตก ไม่โชติ่ชัชวาลเช่นวันเก่าก่อนอีกแล้ว
หากหาใต้เท้าัเทพจนพบได้ เช่นนั้นแล้ว...
าาัหิมะคิดถึงตรงนี้แล้วฮึกเหิมขึ้นมา
ในชีวิตอันยาวนานและเหน็บหนาวของเขา เขาไม่เคยรู้สึกถึงความฮึกเหิมเร้าใจเฉกเช่นตอนนี้มาก่อน
ทว่าไม่นานนัก เขากลับง่วงนอนขึ้นมา
ให้ตายเถอะ นี่คือผลข้างเคียงของการตื่นก่อนกำหนดอย่างนั้นใช่ไหม
าาัหิมะรู้สึกเปลือกตาที่หนักจนแทบทนไม่ไหว ความง่วงเหงาหาวนอนเหมือนคลื่นั์โถมใส่เขาจนจะมิดตัว แบบแผนของชีวิตที่ธรรมชาติกำหนดมาเป็เวลายาวนาน แม้ว่าใจที่ฮึกเหิมจะไม่อาจยับยั้งไว้ได้ ทว่าร่างกายกลับเริ่มนอนขดอีกครั้งราวกับหุบเขา จากนั้นศีรษะจึงค่อยๆ นอนซบกับร่างกาย เข้าสู่ห้วงนิทราอันยาวนานอีกครั้งหนึ่ง...
“รอข้าตื่นมาอีกครั้งก่อนเถิด ต้องตามหาฝ่าาัเทพให้จงได้ ข้าจำกลิ่นอายกับหน้าตาของสิ่งมีชีวิตสองตนนี้ได้แล้ว ตามพวกเขาไปต้องได้พบฝ่าาัเทพได้เป็แน่”
ห้วงสุดท้ายก่อนหลับใหล าาัหิมะคิดในใจเช่นนี้
จากนั้นเขาก็ก้าวสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
แม้แต่าาัหิมะเองยังไม่รู้เลยว่าจะตื่นขึ้นอีกทีเมื่อไร
อีกด้าน
หัวโตที่ขู่แง่งๆ และพร้อมสู้ตลอดเวลา เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเข้าจึงงงงวยไม่น้อย
ครู่ต่อมา
“โฮ่งๆ...เ้าหนอนั์ กลัวข้าหรือ? หรือแกล้งตาย?” หัวโตมองหนอนตัวใหญ่ถอยกลับไปแล้วพอใจนัก ยิ่งเห็นัหลับใหลอีกครั้ง มันยิ่งพอใจหนัก “ฮ่าๆ กลัวจนสลบเลยหรือ? รู้ถึงความเก่งกาจของข้าแล้วล่ะซี่”
จากนั้นมันจึงคุ้มครองเ่ิูอยู่ด้านข้างอย่างภักดี
“เฮ้อ คุ้มครองเ้านายสะเพร่าเช่นนี้วางใจไม่ได้เลยสิน่า เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะข้าปกป้องเขาอยู่ คงโดนหนอนั์นั่นกินสบายท้องไปแล้วเถอะ”
หัวโตนอนคว่ำอยู่ด้านหนึ่ง ท่าทางเป็ทุกข์ยามพูดกับตัวเอง
ไม่รู้เพราะเหตุใด ในเวลาที่เพิ่งผ่าน่คับขัน เผชิญหน้าาาัหิมะมาเมื่อครู่ มันถึงได้พูดเป็ต่อยหอยอย่างคล่องแคล่วได้
มิหนำซ้ำก่อนหน้านั้น มันยังเป็แค่สัตว์ที่พ่นเสียงออกมาได้ไม่กี่เสียงเท่านั้น หรืออาจเป็เพราะความกระวนกระวาย?
กลับกันเมื่อผ่านพ้น่น่าลำบากใจไปแล้ว หัวโตกลับพบว่าตนสามารถพูดภาษาคนได้คล่องปรื๋อ ความรู้สึกเช่นนี้ดีไม่หยอก
คิดถึงตรงนี้แล้ว มันก็มีแรงขับเคลื่อนที่จะเขย่าเ่ิูซึ่งกำลังฝึกวิชาอยู่ให้ตื่นมาคุยกับตัวเองเหลือเกิน
ดีที่มันพอรู้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมนุษย์อยู่บ้าง รู้ว่ายามนี้ไม่ควรรบกวนเ่ิู ท้ายที่สุดจึงระงับความอยากไว้ได้
เวลาไหลผ่านไปทีละนาที
ครึ่งวันต่อมา
“หา ทำไมป่านนี้ยังไม่ตื่นอีกล่ะ? นายท่านฝึกวิชาช่างน่าเบื่อ โฮ่ง ไปเดินเที่ยวที่อื่นเถอะ โฮ่งๆ ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าระหว่างทางมามีอยู่ที่หนึ่ง น่าจะมีของสวยๆ งามๆ อยู่ด้วยนะ...” มันนึกอะไรออก หลังชำเลืองมองเ่ิูเสร็จจึงเดินส่ายหางจากไป
ครึ่งวันผ่านพ้นไปอีกครั้ง
ัเงินปราณพันรอบกายเ่ิูเพิ่มขึ้นเป็ยี่สิบตัว
น้ำพุิญญาตาที่ยี่สิบ
เป็ขั้นแรกของอาณาน้ำพุิญญา
เมื่อบรรลุเข้าอาณาน้ำพุิญญายี่สิบตาแล้ว ก็เริ่มปลุกิญญา กระทั่งสามารถทะลวงเข้าอาณาทะเลระทม นี่เท่ากับว่าล่วงสู่ขั้นแรกของอาณาน้ำพุิญญาแล้ว เริ่มก้าวพรวดพราดเข้าขั้นกลางของอาณาน้ำพุิญญาเป็ที่เรียบร้อย
ในโลกตันเถียนของเผ่ามนุษย์นั้น จะบุกเบิกน้ำพุิญญาพลังปราณได้มากน้อยเพียงไหนก็ยังไม่มีจำนวนจำกัดที่แน่นอนเลย
โดยทั่วไปล้วนว่ากันว่า จอมยุทธ์ที่ฝึกวิชาจนได้น้ำพุิญญาครบยี่สิบตา เท่ากับว่าสามารถฟันฝ่าเข้าอาณาทะเลระทมได้เลย
ทว่าจอมยุทธ์ส่วนมากกลับไม่ทำเช่นนั้น
เพราะเส้นทางจอมยุทธ์ในอาณาน้ำพุิญญาคือบันไดขั้นพื้นฐานที่สำคัญเป็ที่สุด
การสะสมก้าวนี้ คือตัวกำหนดขีดจำกัดหนทางแห่งการฝึกวิชาในอนาคต
ตอนอยู่ในอาณาน้ำพุิญญานี้ ยิ่งบุกเบิกน้ำพุิญญาได้มากเท่าไร โอกาสในการพัฒนาในวันข้างหน้าย่อมมากขึ้นเท่านั้น
เ่ิูเคยได้ยินคำบอกเล่าปากต่อปาก เห็นกรณีศึกษามากมาย ในสมัยา มีบรรพบุรุษชาวมนุษย์ท่านหนึ่ง ตรากตรำเพื่อบุกเบิกน้ำพุิญญาในโลกตันเถียนหนึ่งร้อยตา จึงเข้าอาณาทะเลระทม บรรพบุรุษท่านนี้ตอนที่อยู่อาณาน้ำพุิญญา ได้มีจอมยุทธ์ทะเลระทมมากมายต่อกรกับเขาแต่ก็สู้ไม่ได้ จนเมื่อเขาเข้าอาณาทะเลระทม ก็บังเกิดเป็อุบัติการณ์ครั้งใหญ่ บรรลุสัจธรรมวรยุทธ์สองประการ กระทั่งผู้แข็งแกร่งชื่อดังผู้เข้าอาณาทะเลระทมมานานปีก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของบรรพชนท่านนี้ นี่แหละคืออานุภาพแห่งการสั่งสมพลัง
และจอมยุทธ์ที่มีน้ำพุแค่ยี่สิบตา ย่อมทนความโดดเดี่ยวไม่ไหว หากเลือกเข้าอาณาทะเลระทมโดยเน้นเร็วไวไว้ก่อน อนาคตก็เป็ได้แค่จอมยุทธ์ขั้นนี้เท่านั้น ไม่มีวันได้ััถึงอาณา์อย่างแน่นอน
หลายครั้งที่พวกเขามิใช่คู่ประมือกับจอมยุทธ์อาณาน้ำพุิญญาเสียด้วยซ้ำ
อาณาทะเลระทมเช่นนี้ นอกจากเพิ่มอายุให้ยืนยาวอีกห้าร้อยปีแล้ว พลังอย่างอื่นล้วนไก่กา จึงได้รับสมญานามว่าอาณาทะเลระทมปลอม
เ่ิูมีน้ำพุิญญายี่สิบตาแล้ว ตามทฤษฎีว่าไว้เขาย่อมเข้าอาณาทะเลระทมได้
ทว่าเขาไม่ทำเช่นนั้นแน่
ภาพลวงตาัปราณหิมะยี่สิบตัวที่พันรอบกายเขานั้น สำแดงฤทธิ์เดชสมจริงราวกับมีชีวิต ราวกับัหิมะตัวจริงยี่สิบตนกำลังคุ้มครองเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น เสียงครวญครางแ่เบาของั ัหิมะลวงตานอนขดกายอยู่บนสองแขน สองไหล่ คอและใบหน้า ราวกับเกราะัหิมะ ห่มคลุมร่างเ่ิูให้ทรงอำนาจ กำเนิดฝุ่นผงบางเบา ระบายกลิ่นอายแห่งเซียนราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด
พลังเพิ่มพูนจนน้ำพุตาที่ยี่สิบ นับว่าเข้าสู่คอขวดแรกแล้ว
รูปกายเ่ิูไม่สูบเอากลิ่นอายัหิมะอีกต่อไป
ในที่สุดเขาก็หลุดออกจากสภาวะหลงลืมตัวตน ฟื้นตื่นขึ้นมาช้าๆ
วินาทีที่ตื่นขึ้น เ่ิูชะงัก ฉับพลันใบหน้าก็เผยแววยินดีอย่างบ้าคลั่ง
“ทีเดียวถึงน้ำพุตาที่ยี่สิบจริงหรือนี่?”
เขาไม่อยากจะเชื่อ
ตอนเ่ิูเริ่มฝึกวิชา่แรกหลายวันก่อน ความปรารถนาแรกสุดของเขาก็แค่จะยืมเอากลิ่นอายัหิมะมาชะล้างปราณน้ำแข็งตัวเองเท่านั้นเอง
ทว่าไม่นึกว่าเลยว่าจะรับเอามามหาศาลปานนี้ นี่ทำให้เขาดีใจอย่างเหนือความคาดหมาย
จุดประกายห้าน้ำพุในอึดใจเดียวจริงๆ!
มองดูภายในโลกตันเถียน
เห็นเพียงน้ำพุิญญาทั้งยี่สิบกระจ่างเอ่อท้นในโลกตันเถียน นำพากลิ่นอายน่าสะพรึง ทว่าเปี่ยมเต็มด้วยพลังชีวิตอันชุ่มฉ่ำ ให้ความชุ่มชื้นแก่ทะเลทรายรอบด้าน
ในรัศมีของน้ำพุทั้งยี่สิบตานี้ ปราณอันบริสุทธิ์ลุกลามไปหลายพันเมตร ก่อร่างเป็ทะเลสาบขนาดเล็กหลายพันเมตรเห็นจะได้ ราวกับไข่มุกอันงดงามยี่สิบเม็ด ประดับประดาในโลกตันเถียนของเ่ิู นี่เองคือความแตกต่างของปุถุชนกับจอมยุทธ์ โลกตันเถียนของคนทั่วไปนั้นเป็แค่ทะเลทรายเท่านั้น ไม่มีชีวิตใด แต่จอมยุทธ์ที่ผ่านการฝึกวิชา จักสามารถมอบชีวิตแก่โลกตันเถียน
เ่ิูกระตุ้นกำลังภายใน
ในน้ำพุทั้งยี่สิบตา พลันมีสายน้ำัครวญพุ่งสู่เบื้องฟ้า กลายเป็ภาพลวงตาัหิมะยี่สิบตน ดำเนินสู่ทุกตารางนิ้วของเรือนร่าง
นี่คือแหล่งพลังงานของเ่ิู
ัหิมะทุกตัวเคลื่อนที่และหลั่งไหลไปสู่ทุกส่วนในร่างกายเขา หันเหตามแต่ใจเขาปรารถนา มีชีวิตชีวายิ่งนัก ตอนที่พลังภายในเติมเต็มร่างกายนั้น เขารู้สึกถึงได้แม้แต่ความรู้สึกแข็งแกร่งที่ไม่เคยรู้สึกถึงมาก่อน
“ในที่สุดก็ผ่านขั้นแรกของอาณาน้ำพุิญญา มุ่งสู่ขั้นกลางแล้ว!”
เ่ิูถอนใจด้วยอารมณ์อย่างห้ามมิได้
นี่เป็ก้าวใหญ่หลวงของเส้นทางฝึกวรยุทธ์โดยแท้
น้ำพุิญญายี่สิบตา ไม่เพียงเป็การเติบโตของพลังเท่านั้น อายุยังยืนยาวขึ้นด้วย
หากสมมุติว่าเ่ิูจะมีอายุยืนได้ถึงร้อยปี เช่นนั้นเมื่อผ่านน้ำพุิญญายี่สิบตาแล้ว อายุเขาจะเพิ่มขึ้นจนถึงสองร้อยปีขึ้นไปนั่นเอง
นี่เองที่เป็ข้อสนับสนุนที่ว่า เมื่อพลังภายในของจอมยุทธ์แกร่งขึ้นเท่าไร เืเนื้อ เอ็น กระดูก และไขกระดูกจะเกิดการแปรสภาพ โลกตันเถียนถูกเติมเต็มเพิ่มขึ้น พลังชีวิตก็เพิ่มทวีขึ้นนับจำนวนไม่ถ้วน นำมาซึ่งชีวิตอันยืนยาวยิ่งกว่า โรคร้ายธรรมดาไม่อาจกล้ำกราย อัคคีหรือวารีสามัญใดก็ทำอันตรายไม่ได้
“น้ำพุิญญาตาแรกมีกำลังแรงหนึ่งหมื่นจิน สำหรับจอมยุทธ์แล้ว แข็งพลังเป็น้ำพุิญญาทุกตาล้วนเพิ่มระดับชีวิตขึ้นไปด้วย น้ำพุิญญายี่สิบตา อย่างน้อยต้องมีกำลังสักสองแสนจินล่ะ”
เ่ิูรู้สึกถึงรู้สึกถึงกำลังในร่างกายตัวเอง
ข้อมูลและเคล็ดวิชามากมายที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือ เป็เพียงตัวอักษรไม่กี่ตัวมาอธิบายเท่านั้น ไม่เท่ากับเผชิญด้วยร่างกายตัวเองหรอก
และตอนนี้เอง ที่เ่ิูรู้สึกถึงอาณาและพลังวรยุทธ์ในกายเขาได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
ตามความปรารถนาของเขา กระตุ้นกำลังภายใน ัหิมะยี่สิบตนพันรอบกาย ไอเหน็บหนาวเพิ่มทวีคูณ
ราวกับว่าเมื่อเขาสั่งการ ัหิมะลวงตายี่สิบตนนี้จะบินปรี่เข้าไปกลืนกินและฉีกกระชากทุกอย่างที่ขวางหน้า
เ่ิูมองาาัหิมะที่หลับใหลอยู่ไกลออกไป เขาไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังนิทราอยู่นั้นเกิดเื่อะไรขึ้นบ้าง เหมือนเข้าโลกิญญาแล้วปิดประตูเดินรอบหนึ่ง แต่เขาััได้ชัดเจนว่าร่างกายของตนนั้นรับเอาพลังของาาัหิมะมาจนอิ่มตัวแล้ว ให้รับอีกก็รับไม่ไหวแน่นอน
เขารู้ ว่าถึงเวลาที่เขาควรไปได้แล้ว
เขาเดินทีละก้าวๆ มุ่งสู่โพรงน้ำแข็ง้า
เมื่อเหยียบย่ำไป บัวน้ำแข็งเบ่งบานอยู่ใต้แทบเท้า รองรับเขาเอาไว้ ลอยขึ้นสู่เบื้องบนอย่างเชื่องช้า น้ำแข็งหนาวราวกับหยกขาวกำเนิดขึ้นใต้เท้าเขาไม่หยุดหย่อน โอบอุ้มเ่ิูไว้ แล้วส่งเขาสู่โขดน้ำแข็งก้อนแรก