ั้แ่ไหนแต่ไร แวดวงบอดี้การ์ดต่างก็ทั้งรักทั้งชังงานที่เกี่ยวข้องกับทางราชการมาโดยตลอด ที่รักก็คือทางราชการมักจะชำระเงินตรงต่อเวลาเสมอ ไม่เคยเบี้ยว ไม่ต้องหักภาษี ส่วนที่เกลียดก็คือแม้แต่คนที่ถือปืนก็ยังไม่สามารถปกป้องเป้าหมายได้ มันช่างสุ่มเสี่ยง
เสิ่นิศึกษาคำว่า “สาวไซด์ไลน์” จากในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมันก็คือ “นักเทคนิค” ชั้นสูงในยุคสมัยใหม่ ไม่มีออฟฟิศ ไม่มีงานประจำ นั่งเครื่องบินเดินสายขยายธุรกิจไปได้ทุกที่ อัปเดต Weibo ทุกวัน โพสต์รูปสวยๆ เย้ายวน ดูแพง PS รูปภาพทุกประเภท
พวกเธอส่วนมากมักจะฝากรูปไว้กับบริษัทโมเดลลิงสักแห่ง แต่กลับไม่เคยได้ร่วมงานกับบริษัทโมเดลลิงนั้นๆ เลย โลกแห่งความเป็จริงสอนให้พวกเธอรู้ว่า “ยิ่งใส่เสื้อผ้ามากชิ้นเท่าไร ก็ยิ่งทำเงินได้น้อยลงเท่านั้น”
พวกเธอไปร่วมงานปาร์ตี้ต่างๆ ผ่านทาง “นายหน้า” โดยนายหน้าจะหักค่าคอมมิชชั่น 10% จะมีการแจ้งรายการของเล่นและระดับของงานเอาไว้ล่วงหน้า หากสะดวกก็ต่อรองราคา
และในขณะนี้ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเซี่ยวอี๋และเสิ่นิ เรียกได้ว่าเป็สาวไซด์ไลน์ที่ฮอตที่สุดในเมืองหลินไห่ ราชินีซันนี่
“นี่มันเครื่องแต่งกายแบบไหนกัน?” เซี่ยวอี๋เข้าใจว่านี่เป็ภารกิจที่ผู้กองจ้าวมอบหมายให้เป็การส่วนตัว แต่เธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้านี้ั้แ่วินาทีแรกที่เห็น
ซันนี่อายุ 28 ปี หน้าตาสะสวยตามธรรมชาติของพี่สาวเด็กเอ็น ส่วนสูง 165 เิเ และยังสวมรองเท้าส้นเข็ม 10 เิเ กี่เพ้ารูปดอกโบตั๋นสีแดงเว้าโค้งเป็รูปตัว S ตามรูปร่างของเธอ หน้าอกของเธอมันใหญ่มาก ขนาดสัก 34F ได้ ราวกับมีลูกบาสเกตบอลแขวนอยู่บนอกของเธอ เซี่ยวอี๋รู้สึกว่าเสื้อชั้นในของเธอคงจะต้องทำงานหนักอยู่ทุกวินาที เพื่อไม่ให้ลูกชิ้นคู่นี้เด้งหลุดออกมา
กี่เพ้าของเธอแหวกขึ้นสองข้างจนเกือบถึงเอว และในขณะที่เธอนั่งลงนั้น ชั้นในลูกไม้สีแดงก็โผล่แพลมออกมา บนขาเรียวยาวทั้งสองถูกห่อไว้ด้วยถุงน่องลายดอกโบตั๋นสีดำ พอเธอยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง ก็เผยให้เห็นสายรัดถุงน่องสีแดงสด
ผู้หญิงขายบริการคนหนึ่ง เหมือนดั่งเช่นสาวงามที่หลุดออกมาจากเกม Blade & Soul เธอสูบบุหรี่มวนบางของผู้หญิงอย่างมีเสน่ห์พลางสำรวจดูเซี่ยวอี๋และเสิ่นิราวกับทำการตรวจเช็กสินค้า
“พวกเธอคือบอดี้การ์ดที่ผู้กองจ้าวแนะนำมาเหรอ? ดูธรรมดามาก ฉันบอกตาผู้กองนั่น ว่าฉันอยู่บ้านเขาก็ได้ ในเมืองนี้จะมีที่ไหนปลอดภัยกว่าบ้านตำรวจอีก แต่ให้ตายเขาก็ไม่ยอม” ซันนี่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ น้ำเสียงที่เธอพูดฟังดูคลุมเครือ
“ถ้าคุณเย็บชุดกี่เพ้าให้มันแหวกถึงแค่สะโพกได้ ผู้กองก็คงจะไม่ลำบากใจ อีกอย่าง บ้านนี้เป็เขตปลอดบุหรี่นะ” เซี่ยวอี๋ดันที่เขี่ยบุหรี่ไปตรงหน้าซันนี่
“ปลอดบุหรี่? ขนาดสถานีตำรวจยังอนุญาตให้สูบได้เลย น้องสาว ดุไปหน่อยไหม น้องก็พอมีหน้าอกอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับพี่สาวแล้ว มันก็ดูเล็กไปหน่อย” ซันนี่เอนกายพิงพนักของโซฟาอย่างเกียจคร้าน หน้าอกขนาดมหึมากระเพื่อมขึ้นลง
“เสิ่นิ!” เซี่ยวอี๋เตะขาเสิ่นิที่กำลังจ้องมองหน้าที่การงานจนน้ำลายหก “นายยังไม่เตือนเธออีก!”
“อ้อ ได้” เสิ่นิเช็ดน้ำลายก่อนจะเดินไปข้างหน้า เขาแย่งบุหรี่จากมือซันนี่แล้วบี้มันลงกับที่เขี่ยบุหรี่ ซันนี่หงุดหงิดเล็กน้อยกับความไม่สมเหตุสมผลของเสิ่นิ แต่เมื่อเธอเห็นว่าเต็นท์ที่ส่วนล่างของเขากางขึ้น เธอก็ยิ้มโปรยเสน่ห์ ผู้หญิงไม่มีใครไม่ดีใจหรอกที่น้องชายของชายหนุ่มตื่นขึ้นเพราะเธอ ถึงปากของพวกเขาจะพร่ำบ่น แต่ว่าในใจก็ชอบน่ะแหละ
“คุณน้าพูดถูก หนึ่งในพยานเสียชีวิตจากเหตุแก๊สะเิ ดังนั้นจึงห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน อีกอย่าง สรีระของคุณบ่งบอกได้ว่าคุณไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่จะทำให้หัวใจและระบบทางเดินหายใจของคุณสู้ผู้หญิงในวัยเดียวกันไม่ได้ หากเกิดอันตรายขึ้น หน้าอกของคุณจะส่งผลต่อความคล่องตัว หากคุณเต็มใจ ลองดูสิ ฝึกฝนสักหน่อย หน้าอกจะได้มีสภาพที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นเช่นนี้” เสิ่นิชี้ไปที่เซี่ยวอี๋เพื่อยกตัวอย่าง
“เอามือของนายออกไปจากหน้าอกฉัน! ไม่อยากมีมือไว้ใช้แล้วใช่ไหม!” เซี่ยวอี๋โมโหจนเส้นเืปูด
“ฮ่าๆ พวกเธอตลกกันจัง เหมือนกับคู่ดาราตลกเลย ดูท่าว่าในอีก 20 วันข้างหน้าจะไม่น่าเบื่อแล้วสิ แต่อย่าหวังว่าจะให้ฉันฝึกจนหน้าอกของฉันกลายเป็หินล่ะ ฉันน่ะ หาเลี้ยงชีพด้วยการหลับนอน ถ้าหน้าอกของฉันแข็งเป็ก้อน คนเขาจะหาว่าไปทำมา เดี๋ยวราคาจะตกเอา” ซันนี่พูดพลางหยัดตัวขึ้น เธอทำตัวราวกับที่นี่เป็บ้านของเธอเอง เธอเดินตรงไปที่ชั้นสอง “จะว่าไปห้องของฉันอยู่ไหนเหรอ? อย่าเอาห้องที่เตียงหันหน้าเข้าหาหน้าต่างมาให้ฉันนะ ฉันไม่อยากตื่นเพราะแดดมันส่องตา”
“ผมจะพาคุณไปก็แล้วกัน” เสิ่นิเดินตามตูดซันนี่ไป ในขณะที่ราชินีย่างกรายขึ้นไปที่ชั้นบน สีหน้าของหมอนั่นก็เหมือนกับพวกชายชราที่ชอบถ้ำมอง
“ผู้ชายก็เหมือนสัตว์” เซี่ยวอี๋กล่าวดูถูก ก่อนจะปัดกวาดเช็ดถูห้องนั่งเล่นและทำความสะอาดถ้วยกาแฟที่ผู้กองใช้
ห้องของซันนี่อยู่ตรงสุดทางเดิน รอบห้องเป็กำแพงทั้งสี่ด้าน ไม่มีหน้าต่าง เดิมทีพ่อของเสิ่นิเตรียมห้องนี้ไว้เพื่อคุ้มกันเป้าหมายพิเศษ แผ่นเหล็กกันะุฝังอยู่ในผนัง เคลือบพิเศษด้วยฉนวนป้องกันการสแกนหาคลื่นความร้อน พื้นปูด้วยพรมแดงที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่ขนาดสิบตารางเมตร ผ้าปูที่นอนคุณภาพยอดเยี่ยม แม้ว่าจะไม่ใช่ผ้าไหมแท้ก็ตาม
“่นี้คุณก็อยู่ที่นี่ไปก่อนนะ อยากได้อะไรก็บอกผม แต่ผู้กองจ้าวให้ค่าที่พักและค่าอาหารของคุณไว้แค่ 4,000 เพราะฉะนั้น คุณก็อย่าคาดหวังอะไรที่มันมากเกินไปล่ะ” เสิ่นิยืนหันหลังให้ซันนี่ เขาหยิบผ้าห่มที่สะอาดออกมาจากตู้
ในขณะนั้น ซันนี่ก็ยิ้มหว่านเสน่ห์ที่มุมปาก เธอเข้าประชิดเขาที่ด้านหลังพร้อมกับปิดประตูลงและล็อกประตู
“คุณจะทำอะไรน่ะ?” ในมือของเสิ่นิถือผ้าห่ม เขานิ่งไปครู่หนึ่ง
“คิดสิ!” ซันนี่ถอดกิ๊บบนศีรษะออก ผมยาวหยักศกสีแดงไวน์ร่วงสยายลง
“พี่สาว ผมให้บริการแค่ด้านรักษาความปลอดภัย ไม่ได้ให้บริการในด้านอื่น...” ไม่รู้ว่าห้องมันอบอ้าวเกินไปหรือไม่ เสิ่นิเหงื่อแตกพลั่ก
“โลกนี้เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ที่พูดออกมาไม่ได้ จะทำศัลยกรรมก็ต้องยัดอั่งเปา เด็กไปเรียนหนังสือเพื่อหาคอนเน็กชั่น และแน่นอนว่าบอดี้การ์ดก็คงไม่ยกเว้น พี่จะเติมความหวานให้เธอหน่อย เธอจะได้ตั้งใจดูแลพี่สาวคนนี้ขึ้นอีกนิด เราได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่” พูดแล้วซันนี่ก็เดินเข้าหาเสิ่นิ รองเท้าส้นเข็ม 10 เิเของเธอทำให้เธอมีระดับความสูงที่พอๆ กันกับเสิ่นิ สายตาทั้งคู่สบประสานกัน
“พี่สาว ผมเป็บอดี้การ์ดของจริง ถึงจะไม่รับอั่งเปาแต่ก็ตั้งใจทำงานนะ!” เสิ่นิยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
“เอาน่า พี่ก็แค่อยากรู้ว่าเธอจะตั้งใจมากแค่ไหน!” สายตาของซันนี่เต็มไปด้วยความปรารถนา เธอผลักให้เสิ่นิล้มลงบนเตียง เสิ่นิประเมินเธอพลาดไปหน่อย พละกำลังของผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งไม่น้อย การฝึกท่าต่างๆ อย่างลำบากในเวลาหลายปีช่วยหล่อหลอมความแกร่งของซันนี่ เธอสามารถทำท่าหกสูงได้เป็ครึ่งชั่วโมง
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหม? เดี๋ยวคุณน้าจะด่าผมเอา” เสิ่นิมองไปข้างๆ อย่างขวยเขิน
“ปากก็บอกไม่เอา แต่ร่างกายมันซื่อสัตย์นะ ไอ้ที่พุ่งใส่พี่อยู่น่ะ พูดตามจริงนะ พี่ไม่ได้ชิมผู้ชายที่เนื้อแน่นแบบเธอมานานแล้ว มีแต่แขกรูปร่างจ้ำม่ำตลอด พี่ทำจนจะเบื่อโลกอยู่แล้ว” ซันนี่ขึ้นคร่อมเอวของเสิ่นิ เธอยกมือขึ้นรูดซิปที่ด้านหลังของชุดกี่เพ้าลง “ถือว่าเธอโชคดีมากนะ พี่ไม่ใช่สาวที่ทาแป้งทาปากตามไนต์คลับ ผู้ชายที่อยากได้พี่ต้องลงคิวนัด คิวตอนนี้ยาวไปถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแน่ะ คืนหนึ่งอย่างน้อยๆ ก็ต้องจ่ายหนึ่งแสนขึ้นไป พี่ถึงจะยอมเปลื้องผ้า”
“พี่สาว พี่กลัวตายหรือเปล่า?” จู่ๆ เสิ่นิก็ถามขึ้นมา
“กลัว กลัวว่าเดี๋ยวจะได้สนุกแล้ว” กี่เพ้าของซันนี่ลากลงมาถึงเอว เสื้อผ้าบนอกเลื่อนลงอย่างเป็ธรรมชาติ เผยให้เห็นเส้นทางสายอาชีพที่ยาวที่สุดเท่าที่เสิ่นิเคยเห็นมาในชีวิต
แต่ก่อนจะถึงจุดน้ำค้าง เอวของเสิ่นิก็แข็งขืน ซันนี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ โลกของเธอก็กลับหัว
“ปากก็บอกไม่กลัว แต่ร่างกายมันซื่อสัตย์นะ พี่กลัวว่าผมจะทิ้งพี่ในยามวิกฤต เลยคิดจะมัดจำความหวานไว้กับผม เพื่อให้ผมระลึกไว้ ทางที่ดีก็เลยจะให้ผมสยบอยู่ใต้กระโปรงพี่ พี่ถึงจะรู้สึกปลอดภัยใช่หรือเปล่า?” ราวกับว่าเสิ่นิมีเครื่องอ่านใจซันนี่
“พวกผู้ชายก็แบบนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? พอเวลาคับขัน ก็ทิ้งกันไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้ผู้หญิงจ้องเพดานหง่าวคิดถึงแตงกวาที่พวกเธอกินไปจนหมดั้แ่มื้อเย็น” ซันนี้ไม่ชอบท่าทีของเสิ่นิในตอนนี้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมือทั้งสองข้างของเธอถูกจับกดเอาไว้ สิ่งที่ซันนี่รู้สึกก็คือพละกำลังช้างสารของผู้ชายอย่างเขากับความอ่อนแอของผู้หญิงอย่างเธอ
“ในเมื่อผมรับงานพี่มาแล้ว ผมก็ต้องคุ้มครองพี่ให้รอบด้าน ภายในระยะเวลาของสัญญา ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายพี่ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่จำเป็ต้องพลีกายให้ผมเพื่อเื่นี้” เสิ่นิอมยิ้มในขณะที่อธิบายถึงข้อมูลการให้บริการ
“เอา ‘ไส้กรอกแฮม’ ของเธอหลบไปก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ” ซันนี่กล่าวด้วยสายตาดูิ่
“โอ้ ขอโทษ” ในที่สุดเสิ่นิก็ลุกขึ้น เขารูดซิปกางเกงลงแล้วดึงไส้กรอกแฮมออกมาจากเป้า
“นี่เธอ?!”
“ไส้กรอกแฮมที่ขโมยมาจากห้องคุณน้าน่ะ อย่าบอกเธอนะ เดี๋ยวโดนอัดตาย งั้นก็ตามนั้น ผมไปก่อนล่ะ” เสิ่นิกัดไส้กรอกแฮมไป 2 คำต่อหน้าต่อตาซันนี่ โดยที่ไม่สนใจว่า ‘ไส้กรอกแฮม’ นั้นจะยังอุ่นอยู่หรือไม่
“เฮ้ เธอไม่ได้เป็เกย์หรือเสื่อมสมรรถภาพใช่ไหม!” ซันนี่ะโไล่หลังเสิ่นิไป
“ใครจะรู้ล่ะ?” เสิ่นิอมยิ้มและจากไป
ณ ขณะนั้น เสียงออดดังขึ้นที่ประตูด้านล่าง สติของเซี่ยวอี๋และเสิ่นิตื่นตัวขึ้นทันที เซี่ยวอี๋รีบคว้าปืนแล้ววิ่งไปที่ประตู เสิ่นิพุ่งตัวลงมาจากชั้นสองพลางคว้าเอามีดปอกผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะติดมือไปด้วย
เสียงออดดังขึ้นเป็ครั้งที่สอง เซี่ยวอี๋เปิดประตู ก่อนจะคว้าจับลำคอของผู้มาเยือนกดลงกับพื้น ผู้มาเยือนสวมชุดเครื่องแบบของ “SB Express” เขาล้มลงไปอย่างกับสุนัขจมกองอึ
เซี่ยวอี๋กดทับที่หลังเขาอย่างรุนแรง เธอเอามือข้างหนึ่งของพนักงานส่งของบิดไพล่หลังไว้ ปืนพกจ่ออยู่ที่ด้านหลังศีรษะของเขา “พูดมา! แกมาทำอะไร? ชื่อแซ่อะไร! บ้านอยู่ที่ไหน! เลขบัตรประชาชนอะไร! มีพวกมาด้วยหรือเปล่า!”
“นายหญิงไว้ชีวิตผมเถอะ! ผมเป็พนักงานส่งของจาก SB Express ชื่อ ไข่หมา! บ้านเลขที่ 104 อาคาร B ตรอกไก่ เลขประจำตัว XXXXXXXXXXXXXX! มีเพื่อนร่วมงานทั่วประเทศทั้งหมด 80,000 คน เราคือสุดยอดในวงการขนส่งด่วนพิเศษ!” ขนาดนายไข่หมาใกล้จะตายแล้วก็ยังไม่ลืมที่จะโฆษณาให้กับบริษัท สมควรได้เป็พนักงานดีเด่นของเดือน
“ปล่อยเขาเถอะ เขามาส่งพัสดุจริงๆ ของเยอะจังเลยนะ...” เสิ่นิที่ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูถอนหายใจพลางวางมีดในมือลง รถบรรทุกที่มีตัวหนังสือ SB จอดอยู่ที่หน้าบ้าน พนักงานทั้ง 4 คนกำลังขนถ่ายสินค้า มันดูเหมือนกับการส่งพัสดุด่วนตรงไหนกัน เหมือนกับการย้ายออฟฟิศเสียมากกว่า ชื่อผู้ส่งและผู้รับของทุกรายการคือซันนี่