หยางเทียนสีหน้าว่างเปล่า มันรู้สึกถึงพลังชีวิตทั้งร่างรั่วไหลออกจากรูบนทรวงอก ดวงตาพร่าเลือนทีละน้อย สุดท้ายก็ทรุดโครมลงกับพื้น
ยามที่หานเซียวทราบว่ามีคนบุกขึ้นมาโจมตีก็เร่งรุดไปที่โถงใหญ่เพื่อสั่งการสมุนบริวารเตรียมพร้อมต่อสู้ ขณะเดียวกันก็รอคอยหยางเทียนมาถึง แต่รออยู่นานจึงมีสมุนโจรผู้หนึ่งเข้ามารายงานว่ารองหัวหน้าค่ายกำลังต่อสู้กับศัตรูที่ฝีมือสูสีกันยิ่ง
หานเซียวตื่นตระหนกยิ่ง เนื่องเพราะผู้ที่ฝีมือสูสีกับหยางเทียนอย่างน้อยต้องบรรลุด่านปัจเจกิญญาระดับกลางเช่นกัน! มันไม่รอช้าเร่งรุดไปทันที
กระนั้น เมื่อมันได้ชมการต่อสู้ หยางเทียนกลับเสียเปรียบกระทั่งยังร่อแร่คับขัน!
ก่อนที่มันจะทันยื่นมือเข้าช่วยเหลือ มิคาดหยางเทียนกลับพลาดท่าถูกศัตรูสังหารไป!
ไป๋หยุนเฟยอาศัย่เวลาที่ทุกคนยังตื่นตะลึงจากการตายของหยางเทียน รีบพุ่งกายไปยังกำแพงด้านหลังหยางเทียนและดึงหนามธารน้ำแข็งออกจากผิวกำแพง
แต่ทันทีที่มันหายกายหลับมา หานเซียวก็จู่โจมมาถึง
รวดเร็ว รวดเร็วเกินไป ไป๋หยุนเฟยไม่อาจใช้ทวนตอบโต้ได้ทันจึงทำได้เพียงหลบเลี่ยงอย่างเฉียดฉิวเพียงปลายเส้นผม กระนั้นแขนซ้ายของมันยังคงถูกดาบสั้นของคู่ต่อสู้ฟันเป็แผลลึกถึงกระดูก
“นี่เป็พลังของด่านวีรชนิญญา? ข้าประเมินมันต่ำไป... นับว่าแข็งแกร่งกว่าที่คาดนัก!”
ไป๋หยุนเฟยลอบคร่ำครวญขณะยกทวนขึ้นกวาดขวาง่ชิงจังหวะหอบหายใจ
อาวุธของหานเซียวเป็อาวุธสั้นยาวคู่หนึ่ง เล่มในมือซ้ายเป็ดาบสั้นความยาวสองเชียะเศษส่วนมือขวาถือมีดสั้นเล่มเล็กจัดสร้างอย่างประณีต
ไป๋หยุนเฟยกวัดแกว่งทวนในมือ สร้างรัศมีเงาทวนพร่าเลือนเบื้องหน้าต้านทานคู่ต่อสู้ที่เข้าประชิด ทว่าศัตรูมันกลับรวดเร็วเกินไป แม้ทวนจะฉับไวและดุดันแต่กลับไม่อาจทำร้ายคู่ต่อสู้ได้แม้แต่น้อย
ดวงตาหานเซียวพลันสาดประกายเย็นเยียบ ยามเผชิญกับทวนที่แทงเข้ามามันไม่ได้หลบเลี่ยงอย่างสิ้นเชิงแต่กลับเบี่ยงร่างเลี่ยงจุดสำคัญแล้วแทงดาบสั้นในมือซ้ายไปตามด้ามทวนเข้าใส่ไป๋หยุนเฟย!
ยามที่ปลายทวนััถูกเอวด้านขวามิคาดกลับเกิดประกายไฟแลบปลาบ เสื้อนอกมันฉีกขาดเผยให้เห็นเกราะอ่อนสีทองส่องประกายอยู่ภายใน แม้จะเกราะถูกแทงยุบลงไปแต่หานเซียวกลับไม่าเ็แม้แต่น้อย!
ดาบสั้นกรีดขวางผ่านแขนซ้ายไป๋หยุนเฟยทิ้งาแเพิ่มขึ้นอีกแห่ง ที่เลวร้ายคือศัตรูเข้ามาประชิดถึงตัวจึงไม่อาจชักทวนมาป้องกันได้ทันการ!
ดวงตาไป๋หยุนเฟยทอประกายเด็ดเดี่ยวไม่แยแสมีดสั้นศัตรูที่เสือกแทงสีข้าง มันเก็บทวนเปลวอัคคีสาบสูญไป ยามที่ยกมือขึ้นก็กุมกระชับหนามธารน้ำแข็งเอาไว้ จากนั้นจ้วงแทงไปยังหัวใจคู่ต่อสู้ด้วยท่าทีดุร้ายเช่นเดียวกัน!
หากเ้าทำร้ายข้า เ้าต้องตาย!
ดวงตาหานเซียวฉายแววตื่นตระหนก มันไม่คาดคิดว่าศัตรูจะดื้อด้านยอมตกตายไปพร้อมกันแต่ไม่ยอมหลบเลี่ยง! แน่นอนว่ามันย่อมไม่ยินยอมจึงละทิ้งการจู่โจมโดยไม่ลังเลและล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
เห็นหานเซียวล่าถอยไป๋หยุนเฟยก็ถอยกายไปหลายก้าวยืดระยะระหว่างพวกมันออก ขณะเดียวกันทวนเปลวอัคคีก็ปรากฏในมืออีกครา ดวงตาแวววับของมันจ้องตาคุมเชิงคู่ต่อสู้ไว้
เนื่องเพราะเกราะอ่อนสีทองของศัตรูมีพลังป้องกันเหนือกว่าเกราะอ่อนระดับ +10 ของไป๋หยุนเฟย หากมันไม่สามารถจู่โจมถูกอย่างถนัดถนี่ย่อมไม่อาจทำให้ศัตรูาเ็สาหัสได้
“เช่นนั้นข้าไม่มีทางเลือกได้แต่จู่โจมแขนขาและศีรษะมัน?” ไป๋หยุนเฟยใช้ความคิดหาหนทางอย่างเร่งร้อน
ขณะจับจ้องไป๋หยุนเฟยเบื้องหน้า หานเซียวพลันะโก้อง “พวกเ้ายืนทำอะไร?! เข้าไปพร้อมกัน! ฆ่ามันให้แก่ข้า!”
คำพูดของมันกลับกล่าวแก่พวกโจรที่ยืนล้อมบ้านชมการต่อสู้อยู่
ทว่าพวกมันกลับไม่โง่เขลา! ฆ่ามัน? มันเพิ่งฆ่ารองหัวหน้าไปกับมือ กระทั่งหัวหน้ายังไม่อาจฆ่ามันได้!
พวกโจรมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก้าวเท้าเข้าไปเป็คนแรก
ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนพลันดังขึ้นด้านหลังกลุ่มโจร พวกมันล้วนแตกตื่น เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นชายผู้หนึ่งร่างโชกเืมือทั้งสองถือมีดสั้นเข่นฆ่าเปิดทางเข้ามาในกลุ่มโจรอย่างโเี้ดุจดังพญามัจจุราช
จะเป็ผู้ใดหากไม่ใช่หลี่เฉิงเฟิง!
ก่อนที่เหล่าโจรจะทันได้ตัดสินใจว่าจะเชื่อฟังคำสั่งหัวหน้าเข้าไปจู่โจมไป๋หยุนเฟยดีหรือไม่ พวกมันก็ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับหลี่เฉิงเฟิงแล้ว
ชายสองคนที่เผชิญหน้ากันที่ลานบ้านล้วนพบเห็นการมาของหลี่เฉิงเฟิง หานเซียวตื่นตระหนกแล้ว ทว่าไป๋หยุนเฟยกลับยินดียิ่ง
“ไม่คิดว่าเฉิงเฟิงจะลงมือฉับไวนัก ดูท่าความเคียดแค้นต่อพวกโจรของมันจะมากมายสุดบรรยาย... ยามนี้ความเคียดแค้นเกลียดชังทั้งมวละเิออกมันจึงแสดงฝีมือได้ดีกว่าปกติ! เช่นนั้น... ข้าก็ต้องทุ่มสุดกำลังเช่นกัน!”
ยามที่หานเซียวเหลือบตามองการต่อสู้ด้านนอก ไป๋หยุนเฟยก็ลงมือจู่โจม
เนื่องจากศัตรูสวมใส่เกราะอ่อนปกป้องลำตัวจึงต้องมุ่งจู่โจมท่อนล่าง
ไป๋หยุนเฟยฉวยโอกาสเข้าจู่โจมหานเซียวที่ไม่ทันระวังอยู่บ้าง แต่มันก็รับมืออย่างได้อย่างรวดเร็ว อาศัยความคล่องแคล่วปัดป้องและหลบเลี่ยง ไม่เปิดโอกาสให้ไป๋หยุนเฟยลงมือ
ทันใดหานเซียวพลันพุ่งกายถอยทิ้งระยะห่าง ขณะเดียวกันก็สะบัดมือขวาส่งประกายแสงเย็นเยียบพุ่งเข้าสู่ใบหน้าไป๋หยุนเฟย
ยามที่หานเซียวยกมือขึ้นไป๋หยุนเฟยก็ตื่นตัวขึ้นเพราะมันก็ฝึกฝนขว้างมีดสั้นเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน มันเบี่ยงศีรษะไปด้านข้างมีดสั้นก็เฉียดผ่านใบหูไปปักตรึงกำแพงด้านหลัง
กระนั้นการโจมตีของหานเซียวกลับยังไม่จบสิ้น! มันบิดเอวไปด้านข้างก็ปรากฏมีดสั้นอีกเล่มสะบัดขว้างมา จากนั้นเล่มที่สองและสามก็ตามติดมา มีดสั้นสามเล่มพุ่งออกแทบพร้อมเพียงกันเป็รูปสามเหลี่ยมเข้าหาไป๋หยุนเฟย
ไป๋หยุนเฟยสูดลมหายใจหนาวเหน็บ หมุนควงทวนในมือราวจักรผันสร้างโล่จากเงาทวนเบื้องหน้า เสียงติงตังดังขึ้นสามครายามที่มีดสั้นถูกปัดกระเด็นออกไป
ทว่าหานเซียวกลับไม่หยุดมือ มันซัดขว้างมีดสั้นอีกสองเล่มเข้าใส่ขาของไป๋หยุนเฟย
ไป๋หยุนเฟยหยุดควงทวนในมือและพุ่งทแยงไปด้านข้าง ยามที่ทะยานกายออกก็เก็บทวนสาบสูญจากมือ จากนั้นสะบัดมือซัดมีดสั้นใส่คอหอยหานเซียว
“ข้าก็มีมีดบิน!”
หานเซียวหมายจะไล่ตามไปจู่โจมคู่ต่อสู้ที่พุ่งกายไปด้านข้าง พลันเห็นประกายแสงเย็นเยียบพุ่งเข้ามาก็แตกตื่นในบัดดล มันไม่คาดคิดว่าศัตรูก็ฝึกฝีมือซัดมีดสั้นเช่นกัน!
ด้วยความแตกตื่นมันจึงพุ่งกายหลบเลี่ยง พลาดโอกาสไล่ตามไปจู่โจมไป๋หยุนเฟยอย่างน่าเสียดาย ที่เลวร้ายกว่าคือมันกลับเปิดโอกาสให้ไป๋หยุนเฟยลงมือ!
ตาต่อตาฟันต่อฟัน ไป๋หยุนเฟยใช้ฝีมือมือเช่นเดียวกับหานเซียว มันสะบัดมืออย่างต่อเนื่อง ส่งมีดสั้นเล่มแล้วเล่มเล่าพุ่งตรงไปยังคู่ต่อสู้ไม่หยุดยั้ง
จากการต่อสู้ระยะประชิดกลับกลายเป็ประลองมีดบิน ดูเหมือนพวกมันทั้งคู่จะมีมีดสั้นเก็บไว้ในแหวนช่องมิติไม่น้อยจึงโหมซัดมีดบินออกจู่โจมคู่ต่อสู้ไม่หยุดพลางหลบหลีกมีดที่พุ่งเข้ามา
กระนั้นผ่านไปชั่วขณะก็เกิดความเหลื่อมล้ำ ไป๋หยุนเฟยที่แม้จะมีพร์ในวิชามีดบินแต่ก็ยังด้อยประสบการณ์ ย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับยอดฝีมือมีดบินเช่นหานเซียว
พวกมันสวมเกราะอ่อนป้องกันที่ส่งเสียงกังวานยามถูกมีดสั้นกระทบถูก ทว่าเห็นได้ชัดว่าพลังป้องกันของไป๋หยุนเฟยไม่เพียงพอ เกราะของมันเสียหายหลายแห่ง อีกทั้งแขนและขาก็ปรากฏแผลเกลื่อนกลาด ดูเหมือนว่ามันจะพ่ายแพ้อย่างช้าๆ
“เฮอะ! หวังจะสู้ข้าด้วยมีดบิน? เป็เ้าเชือดคอตนเอง! ข้าจะฆ่าเ้าภายในสิบมีด!”
หานเซียวรั้งมุมปากเผยรอยยิ้มราวเย้ยหยันที่ไป๋หยุนเฟยไม่ประมาณตน เห็นไป๋หยุนเฟยหลบเลี่ยงมีดบินจนเสียหลักเล็กน้อยล้มเอนไปด้านข้าง ดวงตาหานเซียวก็ทอประกายอำมหิต มันขยับมือคราหนึ่งมีดสั้นสองเล่มก็ปรากฏในมือพร้อมจะซัดออก
แต่ฉับพลันสีหน้ามันแปรเปลี่ยนอย่างใหญ่หลวง!
