เฟิ่งหยางแค่นเสียงเยาะเบาๆ เอ่ยวาจาอย่างเอ้อระเหย "ดูเ้าทำท่าราวกับมารดาผู้เมตตา คนที่ไม่รู้อาจนึกว่าเขาเป็บุตรที่เ้าไปแอบคลอดทิ้งไว้ข้างนอก"
ถังชิงหรูตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ "คุณชายจะเห็นใจกันสักหน่อยมิได้เชียวหรือ เด็กคนนั้นน่าสงสารขนาดนี้ ดีกับเขาสักนิดไม่เห็นจะเป็ไร"
"หากข้าไม่เห็นใจ คงไล่ตะเพิดออกไปนานแล้ว ยายเด็กโสโครก เ้าช่างไม่รู้จักดีชั่วเอาเสียเลย" เฟิ่งหยางลุกขึ้น บีบคางของนางแล้วจ้องข่มลงมาที่คนร่างเล็กเบื้องหน้า "แต่ข้าว่าอย่างเ้า คงไม่มีใครเชื่อว่าจะมีบุตรโตขนาดนี้หรอก รูปร่างอย่างกับคนขาดสารอาหาร"
กล่าวจบก็ใช้สายตาเหยียดหยันมองลงไปที่หน้าอกของถังชิงหรู ทำให้เพลิงโทสะในอกของนางลุกโชนขึ้นมาทันควัน
สตรีที่อยู่ด้านข้างเ่าั้อยากหัวเราะแต่ไม่กล้า พวกนางพากันก้มศีรษะ สีหน้าข่มกลั้นอย่างสุดชีวิต
ถังชิงหรูได้ยินพวกนางหลุดเปล่งเสียงแปลกๆ ก็เอ่ยอย่างขัดเขินแกมหงุดหงิด "มัวแต่ยืนบื้ออยู่นี่ทำไม คืนนี้ต้องทำงานล่วงเวลาทั้งคืน เพื่อทำสินค้าออกมาพรุ่งนี้ เห็นแก่ที่พวกเ้ามาวันแรก ก็จะไม่ให้งานมากนักหรอก เอาสักหนึ่งร้อยชุดก็พอแล้ว"
"ชิ!" เฟิ่งหยางได้ยินคำกล่าวของนางก็หัวเราะเยาะ "ช่างโหดดีแท้ หญิงปักผ้ายี่สิบกว่าคนที่รับมาตอนแรกทำทั้งวันได้แค่ห้าสิบชุด ตอนนี้เ้าจะให้พวกนางทำหนึ่งร้อยชุด ยังบอกว่าไม่ใช้อารมณ์ดับความขัดเขินของตัวเองอีกรึ"
"คุณชาย หรูเอ๋อร์ทำเช่นนี้ก็เพื่อการค้าของท่าน คนรับเงินหาใช่หรูเอ๋อร์สักหน่อย แต่เป็คุณชายต่างหาก" ถังชิงหรูแค่นเสียงหึ "ไปก่อนนะเ้าคะ"
เฟิ่งหยางมองเงาด้านหลังของถังชิงหรูจนเลือนลับไป ก่อนเรียกคนในที่ลับออกมา "ยังไม่มีข่าวเฉินิอีกรึ"
"ไม่มีขอรับ" คนผู้หนึ่งเดินออกมาจากหัวมุม คนผู้นั้นกล่าวกับเฟิ่งหยาง "มีคนบอกว่าถูกเมิ่งหลิงจับได้ แต่ก็มีคนพูดว่าหนีไปแล้ว"
"เฉินิไม่ใช่คนเขลา ไหนเลยจะให้ถูกจับได้ง่าย" เฟิ่งหยางเอ่ยเสียงเรียบ "คิดว่าคงหนีไปแล้วเป็แน่ ส่งคนจับตาดูนาง สตรีผู้นี้เป็ยอดดวงใจของเฉินิ"
กล่าวจบก็พึมพำกับตัวเอง "ต่อให้ไม่แปลงโฉม หน้าตาก็แค่เกลี้ยงเกลาหมดจดพอดูได้ เฉินิเป็ถึงพระอนุชา มาหมายตาของพรรค์นี้ได้อย่างไร"
"แม่นางหรูเอ๋อร์..." คนผู้นั้นเหมือนอยากจะกล่าวบางอย่าง แต่ติดที่อารมณ์ของเฟิ่งหยางถึงไม่กล้าพูดออกมา
"พูด" เฟิ่งหยางฟังมาได้ครึ่งเดียว ก็ถลึงตาใส่คนผู้นั้นอย่างไม่สบอารมณ์
"ความดีงามของแม่นางหรูเอ๋อร์หาใช่ที่รูปโฉมภายนอก แต่เป็จิตใจของนาง นางรักเด็กคนนั้นด้วยความจริงใจ สตรีผู้นี้มีจิตใจกว้างขวางเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา เฉินิถูกส่งมาอยู่ที่นี่ สิ่งที่เขาขาดเป็ที่สุดคือความอบอุ่น ดังนั้น... แม่นางหรูเอ๋อร์จึงสามารถพิชิตหัวใจเขาได้กระมัง อีกอย่าง สถานะของแม่นางก่อนหน้านี้คือหมอเทวดา นายท่านก็ทราบ หมอเทวดามีชื่อเสียงโด่งดังมากที่นี่ ช่วยเหลือคนโดยไม่เก็บเงินค่ารักษาจำนวนไม่น้อย ชาวประชาของเมืองชิ่งล้วนยกย่องสรรเสริญนางเป็พิเศษ ในบ้านของคนมากมายถึงกับบูชานางเป็ดั่งเทพยดา ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าแม่นางหรูเอ๋อร์คือหมอเทวดา หากรู้ละก็เกรงว่าต้องเกิดเื่ใหญ่เป็แน่"
"สตรีคนนั้น... ใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด ไม่ช้าก็เร็วต้องเดือดร้อนเพราะถูกเอาเปรียบ" เฟิ่งหยางกล่าวจบก็โบกมือ เอ่ยอย่างรำคาญ "ไปเถอะ คอยจับตามองนางต่อไป"
ในเรือนตัดเย็บ ถังชิงหรูมองหญิงปักผ้าเ่าั้ทำงาน
ชุดชั้นในของถังชิงหรูไม่มีโครงเหล็กจึงทำง่ายไม่ซับซ้อน พวกนางแค่ตัดตามแบบเหมือนๆ กัน เย็บริมให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ปักลาย้าให้งดงาม เพื่อทำให้ฮูหยินสูงศักดิ์เ่าั้พึงพอใจ นางยังอบร่ำจนมีกลิ่นหอมบุปผาอ่อนๆ และใช้เวลาไปกับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน
"แม่นาง ท่านคิดว่าแบบนี้เป็อย่างไรเ้าคะ" โม่เสี่ยวเม่ยหยิบชิ้นงานที่ทำเสร็จแล้วส่งให้
ถังชิงหรูมองแบบของนาง ก่อนหันไปมองด้วยสายตาตกตะลึง "เ้าแต่งลวดลายตรงส่วนนี้เป็พิเศษ เพราะเหตุใดถึงทำเช่นนี้เล่า"
"ข้าแค่คิดว่าแบบนี้น่ามองกว่า บางที... บุรุษอาจยิ่งชอบ" โม่เสี่ยวเม่ยก้มหน้าอย่างขวยเขิน
"แบบนี้ไม่เลว เ้าทำได้ดีมาก" ถังชิงหรูยิ้มอย่างชื่นชม ก่อนหันไปพูดกับคนอื่นๆ "หากพวกเ้ามีความคิดดีๆ สามารถบอกข้าได้ ถ้าผลงานออกมาดี แต่ละเดือนจะมีรางวัลพิเศษให้ ส่วนรางวัลจะเป็สิ่งใดนั้น ข้าขออุบเป็ความลับไว้ก่อน"
"ขอบคุณแม่นางเ้าค่ะ" พอทุกคนได้ยินว่ามีรางวัลพิเศษ ต่างก็พากันยิ้มหน้าบาน
"พวกเ้าล้วนเป็คนเมืองชิ่งใช่หรือไม่" ระหว่างทำงาน ถังชิงหรูก็ชวนพวกนางคุยเล่นไปด้วย เพื่อทำความรู้จักที่มาที่ไปของแต่ละคน
ต่อไปนางจะต้องทำงานร่วมกับคนเหล่านี้ จึงจำเป็ต้องรู้นิสัยใจคอ รวมถึงพื้นเพของพวกนางด้วย ยามเผชิญกับปัญหารูปแบบต่างๆ จะได้จัดการง่ายขึ้น
"ข้าไม่ใช่" หญิงสาวท่าทางใจเสาะคนหนึ่งเอ่ยเสียงเบา "บ้านข้าอยู่ในสถานที่ห่างไกลมาก ถูกขายทอดมาสองสามครั้งแล้ว จนกระทั่งมาถึงที่นี่"
"แล้วเ้าเป็คนที่ไหนล่ะ" ทุกคนได้ยินคำบอกเล่าของนาง ต่างก็มองนางด้วยความเห็นใจ
"เกิดภัยพิบัติที่บ้านเกิดข้า ไม่มีใครเหลืออีกแล้ว มีข้าคนเดียวนี่แหละ ข้าชื่อชิงซิ่ว ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่สาวทุกท่านด้วย" หญิงสาวคนนั้นกล่าวอย่างอ่อนโยน
"ชิงซิ่ว ชื่อนี้เพราะดี" โม่เสี่ยวเม่ยยิ้มน้อยๆ "ต่อไปทุกคนจะดูแลซึ่งกันและกัน"
พ่อบ้านเรียกถังชิงหรูจากด้านนอก นางรู้ว่าที่นี่มีแต่ผู้หญิง สินค้าที่ทำก็เป็ของใช้ส่วนตัวของสตรี พ่อบ้านจึงไม่สะดวกเข้ามา
นางเดินออกไป เห็นพ่อบ้านจูงเด็กชายตัวน้อยยืนรออยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาบวมเล็กน้อยจากการถูกตบตี เขาสวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน แม้ไม่หรูหรา แต่หาใช่ชุดของบ่าวไพร่ เขาเงยหน้าขึ้นมองถังชิงหรูด้วยแววตาชื่นชมยกย่อง
ถังชิงหรูรับเด็กชายคนนั้นมาจากมือของพ่อบ้าน ก่อนพูดกับเขาว่า "ขอบคุณท่านพ่อบ้าน เด็กคนนี้มอบให้ข้าเถอะ ต่อไปข้าจะดูแลเขาเอง"
"แม่นางไม่ต้องเป็ห่วง นายท่านเชิญอาจารย์ไว้แล้ว พรุ่งนี้สามารถให้เขาเริ่มเรียนหนังสือได้เลย" พ่อบ้านมองหลินหลันเซิงอย่างรักใคร่เอ็นดู
"เร็วขนาดนี้เชียว? ข้านึกว่ายังมีเวลาอีกสองสามวัน" ถังชิงหรูอุทานอย่างตกตะลึง
ครานี้เฟิ่งหยางกินยาผิดหรือเปล่า ทำไมถึงใจดีขนาดนี้ สายลมเปลี่ยนทิศกะทันหัน นางรู้สึกตั้งรับไม่ทัน
"ใช่แล้ว คำสั่งนายท่านคือประกาศิต การตัดสินใจไม่ใช่งานของพวกเรา ขอเพียงนายท่านมีบัญชาลงมา พวกเราวิ่งวุ่นประเดี๋ยวก็แล้วเสร็จ" พ่อบ้านกล่าว
"เช่นนั้นก็ประเสริฐ พรุ่งนี้ข้าจะพาเด็กไปพบอาจารย์" ถังชิงหรูคำนับขอบคุณพ่อบ้านอีกครั้ง
นางทราบว่าพ่อบ้านช่วยพูดกับเฟิ่งหยางถึงแต่สิ่งดีๆ เกี่ยวกับนาง มิเช่นนั้นนางคงได้รับโทษอีกหลายกระทง เดิมทีนึกว่าการพบกับนายใหญ่ของตำหนักสังหาร คือการเริ่มต้นของวันเวลาที่ยากลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะตื่นตระหนกอยู่แค่สองสามวันแรก หลังจากนั้นก็พบว่าเฟิ่งหยางหาใช่คนที่อยู่ด้วยยากอย่างที่จินตนาการไว้ แม้ว่าวิถีของบุรุษผู้นี้จะโเี้อำมหิต แต่เขาไม่เคยใช้ความตายมาข่มขู่นาง
หลินหลันเซิงตามถังชิงหรูเข้าไปในเรือนตัดเย็บ ข้างในมีแต่สตรี หลินหลันเซิงไม่เคยเห็นสตรีมากมายเช่นนี้มาก่อน จึงรู้สึกกลัวเล็กน้อย
ถังชิงหรูทำของเล่นให้เขาชิ้นหนึ่ง บอกให้เขาเล่นเองอยู่ที่นั่น ส่วนนางก็ทำงานกับหญิงปักผ้าเ่าั้ต่อ ทำกันจนดึกมากถึงเสร็จสิ้น
"เด็กคนนี้เงียบจริงๆ " โม่เสี่ยวเม่ยหันไปพูดกับถังชิงหรู "ตอนนี้หลับไปเสียแล้ว"
ถังชิงหรูเอี้ยวศีรษะหันไปมอง หลินหลันเซิงฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ นางไม่ปิดบังชาติกำเนิดของเขา เล่าความเป็มาของเด็กคนนี้ให้พวกนางฟัง
หญิงปักผ้าเหล่านี้ล้วนเป็สตรี สตรีส่วนใหญ่ต่างก็มีความเมตตาเช่นหัวใจของมารดา พอได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลินหลันเซิง แต่ละคนต่างร้องไห้น้ำตาไหลพราก พลางให้สัญญาว่าจะดีต่อหลินหลันเซิงให้มาก และจะไม่ให้ผู้ใดมารังแกเขาอีก
"ข้าจะอุ้มเขาไปพักผ่อน อีกประเดี๋ยวค่อยกลับมา" ถังชิงหรูพูดกับสาวปักผ้าเ่าั้
"พี่สาวกลับไปเถอะ งานเหล่านี้พวกเราทำได้ พรุ่งนี้ท่านมาดูงานที่ทำสำเร็จแล้วก็ได้" โม่เสี่ยวเม่ยลุกขึ้นพูดกับถังชิงหรู "เด็กคนนี้น่าสงสารยิ่งนัก ท่านอยู่เป็เพื่อนเขา ดูแลเขาให้ดีเถิด หากพวกเรามีตรงไหนติดขัดค่อยไปถามขอคำชี้แนะจากท่าน"
"ข้าเชื่อว่าพวกเ้าทำได้" ถังชิงหรูยิ้มน้อยๆ "เช่นนั้นพวกเ้าก็ทำกันไป พรุ่งนี้ข้าจะมาดูผลงาน"
คืนนั้น เทียนของเรือนตัดเย็บสว่างไสวเกือบทั้งคืน วันต่อมาถังชิงหรูมาตรวจสอบสินค้าก็พบว่าทำออกมาได้ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบชุด
"พวกเ้าทำได้ร้อยชุดจริงๆ ด้วย เดิมทีข้าก็เอ่ยปากไปอย่างนั้นเอง พวกเ้าทำได้เท่าไรก็เท่านั้น ไม่ต้องเร่งรีบมากมาย" ถังชิงหรูกล่าวชื่นชม "แต่พวกเ้าก็ลำบากแล้ว ข้าจะไม่ให้ทุกคนต้องเหนื่อยเปล่า วันนี้ทุกคนจะได้รับเงินรางวัลคนละสองตำลึง ข้าเป็คนออกทุนเอง"
"ดูท่าสาวใช้ตัวน้อยของข้าจะมีคลังสมบัติเป็ของตนเอง" เฟิ่งหยางยืนพิงประตู มองมาที่นางพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเอ้อระเหย "หรือว่าข้ายังยึดไว้ไม่หมด?"
เหล่าหญิงปักผ้าเห็นเฟิ่งหยาง ก็ลุกขึ้นมาทำความเคารพด้วยท่าทางเอียงอาย ก่อนไปยืนอยู่ด้านหลังถังชิงหรูกับโม่เสี่ยวเม่ย
หากกล่าวว่าครั้งแรกที่พบเฟิ่งหยางยังมีความคิดอย่างอื่นซ่อนเร้น ยามนี้ความกระตือรือร้นทำนองนั้นก็เย็นชืดไปเสียแล้ว บุรุษผู้นี้ดั่งภาพเขียน พวกนางไม่มีทางอาจเอื้อมไปถึง แม้แต่จะเป็แค่อนุรับใช้ ยังไร้คุณสมบัติ มิสู้สงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้ดีกว่า มิเช่นนั้นอาจตายไม่รู้ตัว
ถังชิงหรูเห็นเฟิ่งหยางก็มิได้มีท่าทางตื่นตระหนก นางยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า "คุณชาย แม้ข้าจะเป็สาวใช้ แต่ก็มีเบี้ยเงินเดือนเหมือนกัน"
"หืม? สาวใช้ปรกติได้รับเงินเดือนแค่สองตำลึง สาวใช้ข้างห้อง[1]ถึงจะได้สิบตำลึง เ้านายยังมีรางวัลอื่นให้เป็พิเศษ เ้าคิดจะเป็สาวใช้ข้างห้องของข้าหรือ" เฟิ่งหยางใช้ดวงตาที่ฉายแววชั่วร้ายคู่นั้นมองนางั้แ่หัวจรดเท้า
ถังชิงหรูมุมปากกระตุก บุรุษผู้นี้ปากไวอีกแล้ว หากนางปีนขึ้นเตียงจริงๆ เกรงว่าคนที่ใจะเป็เขาเสียมากกว่า
"คุณชาย สินค้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าจะไปเปิดร้าน หากท่าน้าสาวๆ เดี๋ยวข้าจะแวะไปเลือกแม่นางที่เรือนร้อยบุปผากลับมาให้เองเ้าค่ะ" ถังชิงหรูกล่าวจบก็ไม่แยแสต่อสีหน้าบึ้งตึงของเฟิ่งหยาง หันไปพูดกับโม่เสี่ยวเม่ย "เ้ากลับไปพักผ่อนก่อน เื่อื่นไม่ต้องใช้งานพวกเ้าแล้ว เดี๋ยวหลังจากพักผ่อนกันแล้ว พวกเราค่อยมาทำงานของวันพรุ่งนี้กัน แต่ครานี้ไม่ต้องทำเยอะเกินไป ทำเท่าที่ทำไหวก็พอ"
"ขอบคุณแม่นางมากเ้าค่ะ ที่จริงพวกเราไม่เหนื่อยกันเท่าไร เมื่อก่อนพวกเราได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวดเป็พิเศษ ตอนนี้ทำแค่งานเย็บปักถักร้อย สบายกว่ามากเ้าค่ะ พวกเราจะช่วยแม่นางเฝ้าร้าน แม่นางทำอยู่คนเดียวคงจะยุ่งมาก" โม่เสี่ยวเม่ยเอ่ยปาก
"ไม่ต้องหรอก" ถังชิงหรูไม่คิดจะให้พวกนางแตะต้องในส่วนของการค้า แม้ว่าสัญญาขายตัวของพวกนางจะอยู่ในมือของเฟิ่งหยาง แต่เื่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเ่าั้ ทำให้ต้องระแวงไว้ส่วนหนึ่งไม่ว่ากับผู้ใดก็ตาม
พิกลนัก! ทำไมนางต้องไปคิดแทนเฟิ่งหยางด้วย หรือว่านางไม่นึกรังเกียจเขาแล้ว? เฟิ่งหยางฝังหนอนกู่ในตัวนาง นางควรจะชิงชังเขาให้มากถึงจะถูก