"จะสำเร็จหรือ?" ซีมู่เซียงถามอย่างลังเล
ขณะนี้ทั้งสองกำลังเดินบนทางลูกรังในหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปทางทิศใต้
"สำเร็จสิ แค่ไปให้ถึงบ้านนายหน้าก่อนคนบ้านโน้นก็พอ มีเงินมาส่งถึงบ้าน ใครหน้าไหนจะปฏิเสธได้" แม้เซวียเสี่ยวหรั่นจะหวั่นใจอยู่บ้าง แต่เหลียนเซวียนบอกว่าทำได้ก็ต้องสำเร็จแน่
"อืม ก็จริง มีเงินมาให้ถึงที่ แม่เฒ่าอูชีไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว" ซีมู่เซียงสงบใจ
แม่เฒ่าอูชีเป็นายหน้าค้าทาสประจำหมู่บ้าน ทั้งยังมีอาชีพเสริมเป็แม่สื่อ นางเป็คนปราดเปรียวเป็ที่รู้จักกว้างขวางในหมู่บ้านละแวกนี้
แม้จะเห็นแก่เงินไปบ้าง แต่ก็จัดการเื่ราวอย่างเป็ธรรม ดังนั้นชื่อเสียงจึงนับว่าใช้ได้
นางอาศัยอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ห่างจากกลางหมู่บ้านค่อนข้างไกล
"ว้าย รีบหลบเร็ว" ซีมู่เซียงดึงเซวียเสี่ยวหรั่นไปหลังกำแพงบ้านหลังหนึ่ง
"มีอะไรหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นกระซิบถาม
"ญาติผู้พี่ของหลันฮวา" ซีมู่เซียงตอบเสียงเบา
เซวียเสี่ยวหรั่นชะโงกศีรษะออกไป เห็นชายวัยประมาณยี่สิบปีเศษ มีรอยเขียวช้ำบนใบหน้า ท่าทางบอกบุญไม่รับ เดินไม่เร็วมาก คอยลูบต้นขาใบหน้าเหยเกอยู่เป็พักๆ
รอจนกระทั่งเขาเดินผ่านทางแคบด้านหน้าไปแล้ว ซีมู่เซียงถึงยิ้มเยาะในเคราะห์กรรมของผู้อื่น "เขาต้องถูกหลันฮวาจัดการหนักสุดเป็แน่ ปรกติก็ชอบวางก้ามท้าทายต่อหน้าหลันฮวาเป็ประจำ สมควรถูกสั่งสอนเสียบ้าง"
"แม่เฒ่าอูชีผู้นั้นไม่ตามไปด้วยหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นสังเกตเห็นจุดสำคัญ
"คงจะไม่อยู่บ้าน พวกเราไปถามกันเถอะ" ซีมู่เซียงก็เห็น
ทั้งสองไม่พูดอะไรอีก เดินไปตามเส้นทางคดเคี้ยวแคบๆ จนกระทั่งถึงที่หมาย
แม่เฒ่าอูชีเป็นายหน้ามีชื่อเสียง ฐานะย่อมไม่ด้อย เคหาสน์ของนางเป็บ้านก่ออิฐหลังใหญ่ซึ่งแทบจะนับจำนวนได้ในหมู่บ้าน
ซีมู่เซียงให้เซวียเสี่ยวหรั่นหลบอยู่ข้างกำแพงก่อน ส่วนตนเองก็ไปเคาะประตู
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็เดินกลับมา
"แม่เฒ่าอูชีไปเยี่ยมเยียนคนที่หมู่บ้านข้างเคียง" ซีมู่เซียงกระซิบบอก
ความหมายของการไปเยี่ยมคนคือมีผู้แจ้งความประสงค์ว่า้าค้ามนุษย์ นายหน้าก็ต้องไปดูเพื่อประเมินราคา หลังจากนั้นก็ยื่นข้อเสนอ ดูว่าฝ่ายตรงข้ามพึงพอใจหรือไม่ค่อยมาเจรจารายละเอียดกันอีกครั้ง
เซวียเสี่ยวหรั่นดวงตาสว่างวาบ สามารถถ่วงเวลาออกไปได้พอดี
เช่นนั้นพวกเราไปดักรอแม่เฒ่าอูชีปากทางเข้าหมู่บ้าน เื่นี้อย่าให้ผู้อื่นเห็นเป็ดีที่สุด จะได้ไม่เกิดเื่ตามมาในภายหลัง คนบ้านนั้นจิตใจโสมม หากรู้ว่าคนนอกหมู่บ้านอย่างข้า้าซื้อตัวหลันฮวา ก็อาจโก่งราคาขึ้นอีกก็ได้"
ซีมู่เซียงฟังแล้วก็พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง "ไม่ผิด ไม่อาจให้ใครเห็นได้ เื่เมื่อคืนเป็เพราะยายเฒ่าปาผอปากสว่างนั่นที่เดียวไปฟ้องอูต้าฟาง มิเช่นนั้นไหนเลยอูหลันฮวาจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้"
ทั้งสองใช้ทางอ้อมด้านข้างลัดออกไปหน้าหมู่บ้าน เดินไปก็พึมพำไปว่าอีกประเดี๋ยวจะโน้มน้าวแม่เฒ่าผู้นั้นช่วยเหลืออย่างไร
พวกนางหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนมาก เดินตามเส้นทางแคบไปทางหมู่บ้านข้างเคียง หลังจากนั้นก็ยืนรอคนอยู่ที่ป่าข้างทาง
ภูมิประเทศแถบนี้เป็เนินสูงต่ำ ขึ้นๆ ลงๆ พรางสายตาผู้คนได้เป็อย่างดี ตำแหน่งที่พวกนางยืนอยู่ไม่สะดุดตาผู้คนที่สัญจรไปมา
รออยู่สองเค่อ ดวงตาที่จดจ้องปากทางอยู่ก็สว่างวาบ
"มาแล้ว ต้าเหนียงจื่อ ท่านรอที่นี่ก่อน ข้าจะไปเรียกนางมา"
ซีมู่เซียงเดินออกจากป่า รีบเดินเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนสวมชุดผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีม่วงเข้ม
หญิงสูงวัยส่วนใหญ่ของที่นี่มักจะสวมชุดพื้นเมืองซึ่งเป็เอกลักษณ์เฉพาะ บนศีรษะยังโพกด้วยผ้าหลากสี แม่เฒ่าอูชีก็เแต่งกายเช่นนี้
ซีมู่เซียงสนทนากับอูชีผออยู่ครู่หนึ่ง ถึงพานางเข้ามา
"แม่เฒ่าชี นี่คือต้าเหนียงจื่อสกุลเหลียน ต้าเหนียงจื่อ นี่คือแม่เฒ่าอูชีเ้าค่ะ"
"ต้าเหนียงจื่อ" แม่เฒ่าอูชีตระเวนตามหมู่บ้านต่างๆ มาหลายปี บางครั้งไปถึงต่างเมืองที่ไกลออกไป ดวงตาจึงแลดูดุดันกร้านโลก
สะใภ้สกุลเหลียนตรงหน้าผิวพรรณขาวผ่อง หน้าตาสะสวย ตากลมโตสุกใส ใครเห็นเป็ต้องชมชอบ เห็นแวบแรกก็ััได้ถึงความอ่อนโยนและโอบอ้อมอารี
แม่เฒ่าอูชีได้ยินเื่ของพวกเขามานานแล้ว
ราคาหมีครึ่งตัวบอกว่าให้ก็ให้ ไหนเลยจะเป็วิสัยของคนสามัญทั่วไป
ประกอบกับเื่ที่ซีมู่เซียงเพิ่งบอกกล่าว แม่เฒ่าอูชีจึงแสดงทีท่าพะเน้าพะนออยู่หลายส่วน
"แม่เฒ่าอูชี" เซวียเสี่ยวหรั่นผงกศีรษะ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย จะให้คนมองออกง่ายๆ มิได้เป็อันขาด
"ต้าเหนียงจื่อคงรู้สึกไม่สบายใจ ที่แม่หนูอูหลันฮวาถูกครอบครัวอูต้าฟางขายทิ้ง เพราะเข้ามาข้องเกี่ยวกับท่านกระมัง"
แม่เฒ่าอูชีได้ยินเื่ของอูหลันฮวาั้แ่เมื่อคืน แต่ไม่นึกว่าอูต้าฟางจะกล้าขายหลานสาวแท้ๆ ของตนเอง โดยไม่กลัวว่าใครจะติฉินนินทาลับหลัง
"เื่เป็เช่นนี้ เมื่อวานข้าไปตักน้ำที่บ่อน้ำพุหลังเขา อูหลันฮวาผ่านมาพอดี ก็เลยช่วยข้าหิ้วถังน้ำกลับไป ข้าซาบซึ้งในน้ำใจนาง จึงเลี้ยงอาหารมื้อหนึ่ง ไม่นึกว่าท้ายที่สุดความหวังดีจะกลับกลายเป็เื่ร้าย"
น้ำเสียงของเซวียเสี่ยวหรั่นเผยความจนใจ
"คนในครอบครัวอูต้าฟางล้วนเป็พวกผีกลับมาเกิด ตนเองปฏิบัติต่อหลันฮวาอย่างเลวร้าย ก็ไม่อยากเห็นผู้อื่นดีกับนาง" แม่เฒ่าอูชีส่ายหน้า
"เมื่อสาเหตุมาจากข้า ก็ไม่อาจปล่อยให้หลันฮวาถูกพวกเขากดขี่เช่นนี้" เซวียเสี่ยวหรั่นถอนหายใจ
"นั่นสิ แม่เฒ่าชี หลันฮวาถูกพวกเขาโขกสับอย่างไร ใช่ว่าท่านไม่รู้ แม้แต่งานสกปรกอย่างเก็บมูลสัตว์มาทำปุ๋ยเพื่อเพาะปลูก พวกเขายังใช้ให้นางทำ" ซีมู่เซียงคับข้องใจในความอยุติธรรม
แม่เฒ่าอูชีพยักหน้า พูดถึงแม่หนูอูหลันก็เป็เด็กมีความสามารถทีเดียว"
เซวียเสี่ยวหรั่นกับซีมู่เซียงส่งสายตาให้กัน
"แม่เฒ่าชี ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนขายฟางเฉ่าได้สิบตำลึงเงิน หลันฮวาก็ราคานี้หรือไม่" ซีมู่เซียงถามเื่สำคัญ
"เทียบกันไม่ได้ ฟางเฉ่าหน้าตาสะสวย อายุก็น้อย เข้าไปในเมืองก็ได้เป็สาวใช้ขั้นหนึ่งหรือสองของคหบดีตระกูลใหญ่ หลันฮวาอายุมากแล้ว พูดจาไม่ชัดถ้อยชัดคำ หน้าตาก็ธรรมดา จะขายได้หรือไม่ก็ยังพูดยาก แม้ว่าจะขายออกก็อาจต้องไปเป็ทาสทำงานหนัก ราคาสู้ฟางเฉ่าไม่ได้อยู่แล้ว"
แม่เฒ่าอูชีส่ายหน้า
"เช่นนั้น..." ซีมู่เซียงลังเล หันไปมองเซวียเสี่ยวหรั่นอย่างไม่มีความเห็น
"ช่างเถอะ ข้าจะบอกพวกเ้าตามตรงก็ได้ แม่หนูหลันฮวาน่ะ ข้าให้อย่างมากก็ห้าตำลึงเท่านั้นแหละ เกินกว่านี้ข้าขายไม่ได้ เื่การค้าขาดทุน ข้าแม่เฒ่าอูชีไม่ทำเป็อันขาด"
นางเป็นายหน้าค้ามนุษย์มาหลายปี พบทั้งคนและเื่ราวมามากมาย หากใจไม่แข็งก็ไม่อาจทำมาหากินในช่องทางนี้
ครอบครัวที่ต้องขายบุตรชายหญิง ไหนเลยจะไม่ใช่การลาจากชั่วชีวิต ไม่จากเป็ก็จากตาย นางเห็นหยาดน้ำตาของคนมานักต่อนักจนชาชินเสียแล้ว
"แม่เฒ่าอูชี ท่านดูว่าเช่นนี้พอได้หรือไม่" เซวียเสี่ยวหรั่นเดินเข้าหาสองก้าว กระซิบสองสามประโยค
แม่เฒ่าอูชีดวงตาเป็ประกาย คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้ารับปาก
เห็นอีกฝ่ายตอบตกลง เซวียเสี่ยวหรั่นก็ข่มความรู้สึกยินดีในใจ ชี้แจงรายละเอียด แล้วให้แม่เฒ่าจากไปก่อน
หลังจากนางไปแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นกับซีมู่เซียงก็ยิ้มสบตากัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ พวกนางถึงค่อยเดินไปยังปากทางเข้าหมู่บ้าน
เื่ของบ้านอูต้าฟาง ดึงดูดความสนใจของพวกชาวบ้านให้มาชมความครึกครื้นแต่เช้าตรู่
เสียงเอะอะดังเกินไป จนผู้าุโสกุลอูต้องออกมาไกล่เกลี่ย
"ต้าฟาง เ้าจะทำเช่นนี้ไปทำไมกัน ต้าซันน้องชายของเ้ามีบุตรสาวเพียงคนเดียว เ้าผู้เป็ลุงจะขายหลานสาวได้อย่างไร เหลวไหลสิ้นดี"
"เหลวไหลอย่างไร นางเคยเห็นพวกเราเป็ผู้าุโเสียที่ไหน ท่านดูนี่ พวกเราทั้งครอบครัวถูกนางซ้อมจนกลายเป็เช่นนี้ นางไร้มโนธรรม ไม่รู้จักบุญคุณคน ขายทิ้งไปก็ยังไม่อาจระบายโทสะของพวกเราได้เลย"
อูต้าฟางตาเขียวไปข้าง ใบหน้าบวมฉึ่งครึ่งซีก พูดจาอู้อี้ไม่ชัดถ้อยชัดคำ มือสั่นระริกชี้ไปที่อูหลันฮวาซึ่งนั่งเงียบงันไม่พูดไม่จาอย่างมีโทสะ
