ค่ำวานนี้มีสตรีหาญกล้าบังอาจลูบคมแม่ทัพปีศาจผู้ขึ้นชื่อเื่ความอำมหิต ทว่านางไม่โดนลงโทษ นางะโโวยวายประกาศถ้อยคำรัก นางปรารถนาจะเป็ฮูหยินต้าเจียงจวิน ขอให้เขาเฆี่ยนตีนาง ได้ยินกันไปทั่วกองทหารแล้ว
หาได้รู้ไม่ว่าคุณหนูรองรอดพ้นจาก ‘แส้แห่งรัก’ ด้วยวิธีใด ตงฟางมู่หยางหลุบยิ้มมองนางอย่างนึกขัน ผู้อื่นก็พลอยกลั้นยิ้มตาม จนแม่ทัพเจี้ยนหยู่รวบตัวนางขึ้นม้ากลับจวน
ในห้องนอนเงียบสงัดที่มีเพียงเขาและนาง ปั่นป่วนสติอารมณ์อย่างน่าประหลาด เขามองนางเหมือนมองเหยื่อ ทว่าทะนุถนอมนางราวแก้วอันล้ำค่า
“ข้ามีเื่จะคุยกับเ้า”
“ข้ามีเื่จะบอกท่าน”
ทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน เจี้ยนหยู่ผายมือเชื้อเชิญให้นางพูดก่อน นางเอามือป้องริมฝีปากหัวเราะเบา ๆ ท่าทางมีความสุขเสียเหลือเกิน นางหาเื่มานอนค้างจวนแม่ทัพอีกจนได้ แม้ว่าเขาจะกลับไปทำงานเร่งด่วนค่อยกลับมาพบนางในรุ่งเช้า
“ผู้คนเล่าว่า... ช่างแกะสลักหยกในลั่วหยางฝีมือเป็เลิศ ช่างฝีมือในเมืองฉางอันมีชื่อเสียงเลื่องลือ”
“เ้าจะไปซื้อหยก?”
“เ้าค่ะ ข้าจะไปตามหาหยกที่ดีที่สุด หยกราคาแพงและหายาก หยกงดงามหนึ่งเดียวในใต้หล้า หยกสีดำสนิทของปีศาจ ข้าจะรีบไปรีบกลับ ข้าเตรียมยาไว้เรียบร้อย ไม่ให้ผู้ใหญ่ต่อว่าเอาได้ว่าข้าละเลยหน้าที่”
“การเดินทางไปต่างเมืองในระยะนี้ไม่ปลอดภัย ชนเผ่าเร่ร่อนกำเริบเสิบสารทำการศึก หาได้มีความเกรงกลัวอำนาจกองทัพไม่”
“แต่ข้าอยากไปเที่ยวชมเทศกาลซั่งหยวน[1] ในที่ที่ข้าจากมา ข้าไม่มีโอกาสได้ไปที่ใด ทุกวันของข้าอ่านตำราแพทย์กองเท่าูเา ตั้งหน้าตั้งตาสอบแข่งขัน ข้าตรากตรำทำงานหามรุ่งหามค่ำ หาเงินเรียนหนังสือ”
“หมายความว่าที่ที่เ้าจากมา... เงินสำคัญมาก”
“หากไม่มีเงิน ความตายนั้นเท่ากัน”
“เ้าควรเปลี่ยนใจจากข้า ไปชอบคุณชายผู้ร่ำรวย”
“ข้ามีสติปัญญามากพอที่จะทำงานหาเงินของข้าได้ ข้าจะเป็หญิงร่ำรวยแล้วเลี้ยงดูสามีเองเ้าค่ะ”
“จะฉลาดไปได้อย่างไร เ้าเสียสติไปแล้วแน่ ๆ ถึงได้กล้าขอแส้แห่งรักจากแม่ทัพปีศาจ น่าขายหน้านัก” เอ่ยพลางเบือนหน้าไปมองหน้าต่างที่เปิดอ้ากว้าง ขณะกลิ่นหอมกรุ่นจากเรือนผมดำขลับพัดโชยมาตามลม นางพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ขอคำอนุญาตจากเขาให้นางไปเที่ยวต่างเมือง
เจี้ยนหยู่ไม่ได้บอกความจริงกับนาง หลายค่ำคืนมานี้เขาเฝ้าฝันถึงอาหารอันโอชะ ัันุ่มนวลจากอารมณ์รักใคร่ที่แอบแฝงไปด้วยราคะ กลิ่นกายสาวอันหอมหวาน เขาเคยดับกระหายจากนาง การดำรงชีวิตในเมืองมนุษย์ก็คงจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
เหม่ยฉีรู้สึกไม่ต่างไป ติดเพียงว่ามีเื่สำคัญต้องเจรจาให้เข้าใจกันเสียก่อน
“ตำราผสานจิตใจ... วิเศษถึงเพียงนั้น ไยมาอยู่ที่บิดาของเ้าได้?”
“ปีศาจไม่้ามัน พวกเขาไม่ปรารถนาการล่วงรู้จิตใจใคร ไม่คิดถึงอดีตให้เป็ทุกข์ ปีศาจเห็นแก่ตัว รู้จักเพียงการเข่นฆ่า ดับกระหาย”
แม่ทัพใหญ่มีสีหน้าลังเลใจ กว่าที่ถามออกมา “เ้ารู้เื่ข้ามากแค่ไหน?”
“ข้ารู้... แม้กระทั่งวันที่ใต้เท้าซ่อนเร้นกายหลังกำแพงใต้เหมันต์เยียบเย็น เยว่ฉีมอบหัวใจให้คุณชายสาม นางสารภาพรักต่อเขา ทั้งน้ำตาอสรพิษ ความเสียใจ ความริษยา ท่านรู้สึกอย่างไร ไยข้าจะไม่รู้?”
“ข้ายอมรับว่าพึงใจนาง แต่ก็ไม่มากพอจะนาง ข้าไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับนาง เป็ตรงกันข้ามเสียอีก ข้าปรารถนาให้นางพบชายสักคนในต้าเหลียง มีความสุขเช่นมนุษย์ นางจะเป็ภรรยา เป็มารดา เป็ฮูหยินใหญ่ ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง” เจี้ยนหยู่สารภาพความในใจ รินชาใส่ถ้วยทีละใบ เป็ถ้วยของนางก่อน ั์ตาสีชาดจ้องมองใบหน้างามที่แลดูมีความสุข บัดนี้เต็มไปด้วยอารมณ์สับสน
“ไม่ใช่กับเ้า เหม่ยฉี ข้าอยากจะฆ่าบุรุษที่มายุ่มย่ามกับเ้า จับคุณชายนั่นล่ามโซ่ตรวนในคุกทรมานไส้ศึก จี้ด้วยเหล็กร้อนทีละแผล”
อยู่ดี ๆ นางก็ดีใจเมื่อััถึงอารมณ์เคียดแค้นชิงชังของบุรุษตรงหน้า รอบชุดสีเงินสะอาดปรากฏไอปีศาจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางเกือบจะร้องไห้ออกมาเพราะความริษยาเยว่ฉี ยิ่งเขาไม่หยุดตัดพ้อนางเช่นนั้น
“ข้าชังหน้าเ้านัก เ้าทำให้ข้าเ็ป... ตรงนี้ ข้างในนี้” ปลายเล็บแหลมคมชี้ไปที่หน้าอกตนเอง ฝ่ามือหยาบเป็มือปีศาจในชั่วขณะ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “แล้วเ้ารู้ไหม? ข้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็อะไร”
“ข้ารู้ว่าท่านเป็อะไร” กลุ่มควันสีนิลพลันปรากฏบนหน้าตักแกร่ง นางกุมมือปีศาจที่กลับกลายมาเป็มือหยาบกร้านของบุรุษนักรบ ใช้ประโยชน์จากอารมณ์หึงหวงของแม่ทัพเจี้ยนหยู่ เขาในาง นึกถึงคำพูดของบ่าวชาย เหตุใดนางจึงเดินทางมาพบเขาได้อย่างรวดเร็ว “ตราบใดที่ข้าอยู่ในอ้อมแขนท่าน จะไม่รู้สึกเ็ป ใช่หรือไม่?”
เจี้ยนหยู่พยักหน้าเบา ๆ อย่างเห็นพ้องต้องกัน นางซุกใบหน้าเข้าหาอ้อมอกอุ่น โอบเอวสอบด้วยสองมือเล็กทว่าทรงพลัง
“เ้ากล้าเสียสละถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าเ้าจงใจฆ่าตัวตายเพื่อให้ท่านพ่อชุบจิตปีศาจจากตำราขึ้นมาหรือไม่ ข้าจะมองเมินเ้าไปได้อย่างไร”
ั์ตาสีชาดปิดลง แม้เคยลั่นวาจา ไม่คิดเื่เกินเลยกับคุณหนูรองให้เกิดเื่เสื่อมเสีย การดับกระหายด้วยกามารมณ์เป็สิ่งต้องห้าม
ครู่นั้น มือนุ่มนิ่มก็อยู่ไม่สุขแล้ว หญิงสาวฝังจุมพิตบนเคราสาก ไล่ไปถึงซอกคอ นางปลดเสื้อของเขาออกจนหลุดหล่น จูบกระดูกเป็ล่ำสันบนบ่ากว้าง นางเอ่ยถ้อยคำรักนับครั้งไม่ถ้วน...
[1] เทศกาลชมโคมไฟ เทศกาลซั่งหยวนหรือเทศกาลหยวนเซียว 元宵 จัดขึ้นในวันที่สิบสี่เดือนอ้าย [15 มกราคมของจันทรคติจีน] ทั่วทั้งเมืองจะส่องสว่างตลอดทั้งคืนด้วยแสงจากโคมไฟ