เย่ชิงหานในตอนนี้กลับรู้สึกอบอุ่น คึกคัก และเบิกบานใจ!
เขาหลอมแหวนเซียวเหยาจนกลายมาเป็ของเขาได้สำเร็จแล้ว เขาพิชิตูเาสุสานทวยเทพได้แล้ว เขา...สามารถกลับบ้านได้แล้ว!
เด็กที่ร่อนเร่พลัดจากบ้านมาห้าปี ต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างเดียวดายอยู่ถึงห้าปี ไม่กล้าคิดถึงบ้าน ไม่กล้าคิดถึงคนที่รัก ไม่กล้าพักผ่อน ทำได้แค่เพียงต้องกัดฟันสู้ทนเอาชีวิตเข้าแลกทำการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง บุกตะลุยไปข้างหน้าเพื่อหาทางกลับบ้าน กลับไปหาผู้หญิงคนรัก กลับไปพบญาติพี่น้องที่คิดถึง!
วันนี้!
ถนนเส้นที่เดินมาในที่สุดก็สิ้นสุดลงเสียทีและได้พบกับปากทางออกแล้วด้วย ออกไปจากกรงขังแห่งนี้พร้อมกับสมบัติของล้ำค่ามากมาย พลังฝีมือที่กล้าแกร่ง กลับไปอย่างมีเกียรติและภาคภูมิ! เช่นนี้จะไม่ให้เขาอบอุ่น ไม่ให้เขาคึกคัก ไม่ให้เขาเบิกบานใจได้อย่างไร?
เขาอยากจะร้องะโออกมาดังๆ อยากจะหัวเราะขึ้นก้องฟ้า อยากจะกลิ้งไถลไปกับพื้นดินเพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ของเขาในขณะนี้ แต่เขาบอกกับตนเองว่าตอนนี้ตนเองไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ไม่ใช่ลูกหลานลำดับเจ็ดแล้ว ตอนนี้เขาคือยอดฝีมือ เป็นายท่านผู้ใหญ่ ต้องมีบุคลิกลักษณะความสง่างามน่าเกรงขาม ดังนั้นจึงต้องฝืนบังคับจิตใจตนเองให้สงบลง
เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับสวมแหวนเซียวเหยาไว้บนนิ้วนางด้วยกันกับแหวนจักรพรรดิิญญา จากนั้นเขาใช้น้ำเสียงที่สั่นเครือร้องะโขึ้น
“ผู้เฒ่าลู่ ฟ้าร้องแล้ว ฝนจะตกแล้ว รีบกลับมาเก็บเสื้อผ้า!”
ฟิ้ว!
เสียงร้องะโจบลงลู่ซีปรากฏตัวออกมาในทันที แม้เส้นทาง์ด้านล่างจะยังต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่เขาไม่ได้คิดที่จะไปดูอีก เพราะว่าเย่ชิงหานหลอมเชื่อมประสานกับแหวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขา้าพาเย่ชิงหานออกไป
“เ้าหนูหานหลอมได้ว่องไวดีนี่ ฮ่าๆ รีบร้อนถึงเพียงนี้เลยรึ? อยากกลับไปแล้ว?” ลู่ซีมองดูเย่ชิงหานที่สีหน้าเบิกบานใจจึงหัวเราะและพูดหยอกล้อขึ้น
“อืม...รบกวนผู้เฒ่าลู่พาข้าออกไปตอนนี้เลย ข้าคิดถึงบ้านแล้ว!” เย่ชิงหานไม่ได้พูดเล่นอีกต่อไป แต่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมด้วยดวงตาที่เร่าร้อน
“ตกลง เดี๋ยวข้าจะพาเ้าออกไป! อืม...เ้าอยากจะออกไปด้านนอกูเาสุสานทวยเทพหรือกลับบ้านเลย? บ้านเ้าอยู่ที่ใด? ข้าใช้การเคลื่อนย้ายในพริบตาพาเ้าไปได้!” ลู่ซีไม่ได้พูดเล่นอีกต่อไป มองออกว่าแม้ลักษณะภายนอกของเย่ชิงหานจะดูสงบราบเรียบ แต่ภายในใจคงร้อนรนอยากที่จะกลับบ้านจนใจแทบขาดแล้ว ลู่ซีเข้าใจและเห็นใจเพราะไม่ว่าอย่างไรเย่ชิงหานก็ยังเป็เด็กคนหนึ่งอยู่...
“อืม...บ้านของข้าอยู่ที่เมืองชางชื่อว่าตระกูลเย่! แล้ว? กำหนดเวลาเปิดออกของเส้นทาง์ภายในูเาสุสานทวยเทพถึงหรือยัง?” เย่ชิงหานตอบออกไป แต่เขาพลันคิดถึงปัญหาบางอย่างขึ้นมา ถ้าหากตอนนี้เส้นทาง์เปิดออกแล้วคนของตระกูลเย่อาจจะรออยู่ข้างนอกหรืออาจจะเข้ามาภายในแล้วก็เป็ได้
“หืม? ไม่ใช่ข้าบอกเ้าไปแล้วรึว่าถ้าเ้าเข้าไปภายในหอเซียวเหยาเส้นทาง์ภายในูเาสุสานทวยเทพจะเปิดออกในทันที ตอนนี้คนกลุ่มใหญ่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนเส้นทาง์ ฮ่าๆ...” ลู่ซีหัวเราะขึ้นอย่างเริงร่า นึกถึงคนเ่าั้ที่ถูกเขาจัดให้ต่อสู้ตะลุมบอนกันขึ้นถึงสองครั้ง แค่นึกก็ทำให้รู้สึกอย่างสนุกสนานขึ้นมาแล้ว
“ว่าอย่างไรนะ? เปิดออกแล้ว? ไม่ได้การแล้ว ตระกูลเย่จะต้องส่งคนมาแล้วอย่างแน่นอน ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษจะต้องบอกแก่พวกเขาแน่ว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ไม่แน่ว่าพวกเยว่ชิงเฉิงและเย่ชิงอู่คงมากันแล้ว... ผู้เฒ่าลู่ ท่านรีบพาข้าไปที่เส้นทาง์ตอนนี้เลยข้าอยากจะไปดูสักหน่อย!” เย่ชิงหานเมื่อได้ฟังเหงื่อเย็นผุดออกมาเป็ทาง รีบพูดขึ้นต่อลู่ซีด้วยความใและเป็ห่วงกังวล
“เอ่ออ...ข้างล่างมีญาติพี่น้องของเ้าอย่างนั้นรึ? ไอ้หยา! ทำไมไม่บอกแต่แรก แต่...ก่อนจะลงไปข้าจะต้องบอกกับเ้าไว้ก่อนว่า นายท่านสั่งกับข้าเอาไว้ว่านอกจากก่อนไปยังดินแดนแห่งเทพที่ต้องคอยปกป้องคุ้มครองเ้าแล้ว ข้าสามารถลงมือช่วยตามที่เ้าขอได้เพียงแค่สามครั้ง ถ้าเ้าอยากจะให้ข้าช่วยเหลือละก็คิดให้ดีๆ ก่อนก็แล้วกัน!” ลู่ซีเอามือลูบใบหน้าของตนเองพูดขึ้นอย่างขัดเขิน ในขณะเดียวกันพลันคิดอะไรขึ้นมาได้จึงรีบพูดอธิบายออกมา
“สามครั้ง? แค่นี้ก็เกินพอแล้ว! ผู้เฒ่าลู่พาข้าลงไปตอนนี้เถอะ!” ดวงตาของเย่ชิงหานปรากฏแสงแหลมคมวาบผ่านพร้อมกับพูดขึ้น
“ตกลง! ไปกันเถอะ!”
ลู่ซีไม่พูดไร้สาระใดๆ อีก ร่างกายขยับวูบขึ้นคราหนึ่งพร้อมกับพาเย่ชิงหานเลือนหายไปจากภายในหอเซียวเหยา
.................................
“นายน้อยเฟิง นายน้อยฮวา แม่นางชิงเฉิง แม่นางหลง นายน้อยหลง ทุกๆ ท่านล้วนอยู่ที่นี่กันอย่างพร้อมหน้าเลย อืม...ยังมีเหล่ายอดฝีมือและผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายของเขตปกครองเทพา เสว่อู๋เหินรู้สึกเป็เกียรติที่ได้พบกับทุกท่านอีกครั้ง!”
ไม่รู้ว่าเสว่อู๋เหินหยิบพัดออกมาจากที่ใดเริ่มนำมาสะบัดพัดไปมา เพียงแต่เสื้อเกราะป้องกันที่เขาสวมใส่อยู่ภายนอกและเสื้อคลุมยาวสีทองที่ใส่อยู่ภายในทำให้ดูไม่ได้มีความสุภาพงดงามเหมือนดั่งในอดีต ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ดูแปลกพิลึกเสียมากกว่า
“แหะๆ... คุณชายเส่วเกรงใจเกินไปแล้ว ความเกรงใจของเ้า ข้าเฟิงจื่อคนนี้รับเอาไว้ไม่ไหว!” เฟิงจื่อเป็พวกนิสัยตรงๆ ขวานผ่าซาก ในเมื่อแตกหักกันไปแล้วเขาก็ไม่คิดที่จะกลับมาคืนดีอีก จึงได้เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเยาะ
“เสว่อู๋เหินไม่ต้องพัดแล้ว สวมชุดหนังสุนัขเช่นนี้ต่อให้เ้าพัดอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะพัดความสุภาพงดงามเมื่อในอดีตออกมาได้อีก!” ฮวาเฉ่าเองก็ไม่น้อยหน้าเอ่ยปากพูดเย้ยหยันออกไปโดยตรง
“คุณชายเสว่ ความจริงแล้วในปีนั้นข้ารู้สึกเสียใจมาโดยตลอด!” เยว่ชิงเฉิงเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างช้าๆ น้ำเสียงที่ไพเราะของนางทำให้เสว่อู๋เหินขมวดคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง เพียงแต่ประโยคต่อมากลับทำให้เขาอยากที่จะบดทำลายพัดให้แหลกเป็ผุยผงไปในทันที
“ข้ารู้สึกเสียใจที่รู้จักบุคคลขยะเช่นเ้า! หานพูดประโยคหนึ่งไว้อย่างถูกต้องที่สุดว่า...สุนัขแม้จะคลุมด้วยหนังของมนุษย์ แต่ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนนิสัยสุนัขของตัวมันเองได้!”
เยว่ชิงเฉิงรู้สึกหมดหวังอย่างสิ้นเชิง หาเย่ชิงหานไม่เจอและเสว่อู๋เหินคงไม่ปล่อยให้พวกเขารอดไปแน่ นางจึงตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องตายดังนั้นคำพูดจึงไม่ได้มีความเกรงใจอีกต่อไป
“เขาคือคนเลว...ข้ารู้จักเขา ในปีนั้นเขาทำร้ายพี่ชายของข้า!”
ในตอนนี้เองเย่ชิงอวี่และเย่ชิงอู่ฟื้นขึ้นมาพอดี นางจ้องมองไปยังเส่วอู๋เหินด้วยดวงตาที่เบิกกว้างกลมโต ชี้นิ้วไปที่เสว่อู๋เหินพร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เ็า
“ฮ่าๆ...”
คำพูดดูิ่เหยียดหยามของทุกคนทำให้เสว่อู๋เหินเริ่มมีอาการคลั่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาฉีกทำลายหน้ากากจอมปลอมภายนอกที่ทำเป็สุภาพสง่างามนั้นทิ้งในทันที ใบหน้าเปลี่ยนเป็ดุร้ายน่ากลัวพร้อมกับร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ
“ดี ดีมาก! ข้าคือสุนัข ข้ามันไร้ความสามารถ เย่ชิงหานเป็คนดี เย่ชิงหานแข็งแกร่ง เขาเป็วีรบุรุษของเขตปกครองเทพา เขาแย่งผู้หญิงของข้า เขาบีบบังคับให้บิดาข้า อาจารย์ของข้าต้องตาย แต่ว่า...ขอถามหน่อย ตอนนี้เขาอยู่ที่ใด? เรียกเขาออกมาสิ... ฮ่าๆ...ข้าจะบอกพวกเ้าให้ตอนนี้เขาตายไปแล้ว! แต่ข้ากลับยืนอยู่ที่นี่ ยืนกุมชะตาชีวิตของพวกเ้า เฮอะ! ต่อให้เขายังไม่ตายข้าก็ยังสามารถบดขยี้เขาด้วยนิ้วมือเดียวได้เช่นเดิม ดังนั้น...เขาจึงเป็ขยะ เป็คนไร้ค่า เป็สุนัข!”
“ผู้มีพร์แล้วอย่างไร? มีพร์แต่ตายไปแล้วก็กลายเป็ขยะไร้ค่าดีๆ นี่เอง ข้าเสว่อู๋เหินวันนี้สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้ สามารถกุมชะตาชีวิตของพวกเ้าเอาไว้ได้ ข้าถึงควรจะเป็ผู้มีพร์ที่สุด ข้าถึงควรจะเป็วีรบุรุษ... อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสพวกเ้า คนของตระกูลเย่และตระกูลเยว่นอกจาก เย่ชิงอู่ เย่ชิงอวี่ และเยว่ชิงเฉิง คนที่เหลือปลิดชีวิตตนเองเสียตอนนี้ละก็ข้าจะปล่อยคนอื่นๆ ที่เหลือไป แน่นอนว่าเยว่ชิงเฉิง เย่ชิงอู่ และเย่ชิงอวี่พวกเ้าจะต้องแต่งมาเป็ภรรยาเข้า มาปรนนิบัติข้าให้ดีๆ ข้าจะนวดเคล้าคลึงผู้หญิงของเย่ชิงหานทุกๆ วัน มิฉะนั้นละก็...วันนี้คนของเขตตปกครองเทพาทุกคนจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งหมดอย่างไร้ซากศพ! ฮ่า...”
เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งบนใบหน้าบิดเบี้ยวดุร้ายน่ากลัวของเสว่อู๋เหินหัวเราะดังสะท้อนก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ของเส้นทาง์ เขามีชีวิตอยู่ราวกับสุนัขที่หลบๆ ซ่อนๆ อยู่ภายในหอเล็กๆ ของนครแห่งเทพ ทำการฝึกฝนนอย่างยากลำบากทุกๆ วันก็เพื่อที่จะกลับมาอย่างเปิดเผยและยิ่งใหญ่ดังเช่นวันนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้