ในเสี้ยววินาทีนั้น หยดน้ำหลากสีสันเหล่านี้ต่างแทรกซึมลงไปใน ‘รังไหม’ จนมันค่อยๆ กลายเป็ดอกตูม จากนั้นบานสะพรั่งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
พบเพียงเคอโยวหรานกำลังอุ้มอิ๋นเยวี่ย ต้วนเหลยถิงอุ้มโม่เจวี๋ย ต่างนั่งขัดสมาธิพลางหลับตาหันหน้าเข้าหากันอยู่ใจกลางเกสรดอกไม้
กลีบดอกไม้ที่บานสะพรั่งกลายเป็แสงหลากสี หลังหมุนเวียนล้อมรอบกายคนทั้งสองจนครบสามรอบโคจรมหาจักรวาลก็แทรกซึมเข้าสู่ภายในร่างกายของพวกเขา
ทุกสิ่งคล้ายจะเชื่องช้า แต่แท้จริงแล้วแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น กระบวนการทั้งหมดกินเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ
เมื่อต้วนเหลยถิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นและสำรวจความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบว่าเคล็ดวิชาลับวิทยายุทธ์ที่กำลังฝึกฝนมาโดยตลอดได้ทะลุผ่านขั้นที่สามและก้าวเข้าสู่ระดับกลางของขั้นที่สี่แล้ว
ผ้าคาดบนหน้าผากของเคอโยวหรานที่อยู่ตรงหน้าได้เลือนหายไป ใจกลางหว่างคิ้วมีไฝน้ำตาเปล่งประกายละมุน ทั่วทั้งร่างเผยกลิ่นอายราวกับเทพเซียนของดินแดนลึกลับแห่งนี้ ทำเอาต้วนเหลยถิงกับหมาป่าน้อยทั้งสองตัวจ้องมองจนตะลึงงัน
ในขณะที่พวกเขากำลังเหม่อลอย ทั้งสองเสียงอันคุ้นเคยพลันทำลายความเงียบสงัดของมิติแห่งนี้
“แม่นางน้อย เ้าช่างใจแคบนัก พบเจอมิติของหมาป่าเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะแอบแบ่งปันให้แค่ซานหลาง หลงลืมอาจารย์พิษเช่นข้าไปแล้วหรืออย่างไร?”
“ไอ้หยา แม่นางน้อย หากมิใช่ว่าอาจารย์หมอเช่นข้านอนไม่หลับและยังเดินเตร่อยู่บนเขาต้าชิงแห่งนี้ คงจะถูกเ้าตบตาสำเร็จเสียแล้ว
หาหมาป่าเงินไม่พบอันใดกัน? แล้วที่เ้าอุ้มอยู่ในอกคือสิ่งใด? เ้าช่างใจแคบเสียจริง!”
เคอโยวหรานผู้ใจแคบ “...?”
นี่มันเื่ใดกัน? ตาเฒ่าทั้งสองคนนี้เข้ามาโดยวิธีใด? พวกเขาหาที่นี่พบได้อย่างไรกัน?
เคอโยวหรานเพิ่งจะได้สติจากเื่ราวก่อนหน้าก็ได้ยินน้ำเสียงเปี่ยมด้วยความตำหนิของอาจารย์ทั้งสอง ยามนี้ภายในหัวสับสนยุ่งเหยิงยิ่งนัก อีกทั้งหนังตายังเอาแต่กระตุก
นางปกป้องหมาป่าน้อยไว้ในอ้อมแขน และเอ่ยด้วยความเป็กังวลว่า “ท่านอาจารย์ พวกท่านทั้งสองจะทำสิ่งใดเ้าคะ?”
ต้วนเหลยถิงตั้งท่าปกป้องโม่เจวี๋ยยิ่งกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวขณะเฝ้ารอคำกล่าวถัดไปของผู้เฒ่าทั้งสอง
เซียนพิษทอดถอนใจ “ไอ้หยา แม่นางน้อย เ้ารู้บ้างหรือไม่ว่าข้ากับตาเฒ่าหมอต้องพาแขนขาชราวิ่งเต้นไปตั้งหลายแห่งเพื่อตามหามิติของหมาป่าเงินกับหมาป่าดำ?
มิใช่เื่ง่ายกว่าจะพบร่องรอยของพวกมันบนเขาต้าชิง นึกไม่ถึงว่าจะถูกศิษย์คนดีผู้ว่านอนสอนง่ายของตนเองอำพรางเอาไว้เสียแล้ว
เฮ้อ หัวใจดวงนี้ของอาจารย์รู้สึกผิดหวังเหลือเกิน ช่างน่าปวดใจยิ่งนัก”
หมอเทวะกุมหน้าผาก “โยวหราน อาจารย์นึกไม่ถึงเลยสักนิด พยายามทำดีต่อเ้าขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าเ้าจะปิดบังเื่สำคัญกับอาจารย์เสียแล้ว
ไอ้หยา หัวใจดวงนี้ของอาจารย์เต็มไปด้วยรูพรุนนับร้อยนับพันจนมิอาจกลับคืนสภาพเดิมเสียแล้ว”
เซ็งแซ่...
เคอโยวหรานมองผู้เฒ่าทั้งสองที่ทั้งร้องทั้งรับสลับกันไปมา ช่างปวดหัวนัก แท้จริงแล้วอาจารย์ทั้งสองของตนคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?
ไม่รอให้เคอโยวหรานเอ่ยถามออกไป หนึ่งร่างสูงใหญ่ทรงพลังของหมาป่าดำพลันย่างก้าวเข้าหาตาเฒ่าทั้งสอง ดวงตาสีครามลุ่มลึกหนึ่งคู่จดจ้องพวกเขาไม่วางตา
ตาเฒ่าทั้งสองหยุดพล่ามภายในเสี้ยววินาที พากันถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะพูดประจบเป็เสียงเดียวกันว่า
“นะ นี่มิใช่หมาป่าดำที่ชื่อเสียงเลื่องลือหรอกหรือ? ข้าไม่ใช่คนชั่วร้ายอันใด ทว่าเป็อาจารย์ของแม่นางน้อย แม่นางน้อยโยวหรานแค่พาพวกข้าเข้ามาเดินเยี่ยมชมเท่านั้น”
เคอโยวหราน “?”
ท่านอาจารย์ทั้งสอง พวกท่านขายศิษย์ของตนเองเช่นนี้ นับว่าถูกต้องแล้วหรือเ้าคะ?
ความจริงเป็เครื่องพิสูจน์ปรมาจารย์แพทย์พิษทั้งสอง พวกเขาช่างเป็อาจารย์อย่างจริงแท้ จัดการขายเคอโยวหรานเสียจนหมดเปลือกเสียแล้ว
พบเพียงอาจารย์เซียนพิษคลี่ยิ้มจนใบหน้ายับย่น เอ่ยประจบหมาป่าดำว่า
“ท่านหมาป่าดำ ข้ากับโยวหรานหารือกันแล้ว นางยินดีจะให้ข้าพักอาศัยอยู่ในมิติแห่งนี้ ภายหน้าข้าก็จะอาศัยอยู่ในหอคอยที่แขวนป้าย ‘พิษ’ หลังนั้น ฮี่ๆๆ...”
ทางด้านอาจารย์หมอเทวะก็ไม่ยอมเป็รองเช่นกัน “ใช่แล้วๆ โยวหรานช่างดียิ่งนัก นางคิดอยากจะแบ่งปันมิติอันสุขสงบเช่นนี้กับข้าโดยไม่คิดเล็กคิดน้อยแม้แต่นิด
ไม่เพียงเท่านั้น นางยังเชิญข้าให้มาอาศัยอยู่ในหอคอยแขวนป้าย ‘แพทย์’ หลังนั้น พร่ำบอกข้าอยู่หลายครั้งหลายครา ข้าก็มิอาจฉีกหน้าโยวหราน ทำได้เพียงต้องจำใจตกปากรับคำเสียแล้ว”
เคอโยวหราน “...”
ต้วนเหลยถิง “...”
หมาป่าน้อยทั้งสอง “...”
หมาป่าดำ “...”
เคอโยวหรานพอจะดูออกแล้ว เพราะจุดประสงค์ของตาเฒ่าทั้งสองช่างเด่นชัดจนมิอาจเด่นชัดไปยิ่งกว่านี้
เขาไล่ตามมาตลอดทาง เฝ้าตามหาหมาป่าดำกับหมาป่าเงินก็เพราะอยากจะอยู่ในมิติวิเศษแห่งนี้
ไม่รู้เช่นกันว่าภายในมิติมีสิ่งใดดึงดูดผู้คนถึงเพียงนั้น ถึงขั้นทำให้เฒ่าทารกที่มิอาจทานทนต่อความสงบเลือกที่จะปลีกตัวจากฝูงชนเพื่อมาอยู่ที่นี่
หมาป่าดำตั้งใจสูดดมกลิ่นอายบนกายของผู้เฒ่าทั้งสองครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็มั่นใจได้ว่ากลิ่นอายบริสุทธิ์ยิ่งนัก ไม่มีสิ่งใดเจือปน ทั้งยังมิอาจััได้ถึงเจตนาร้ายอันใดจากบนกายของพวกเขาอีกด้วย
มันจึงหันหน้าไปมองเคอโยวหรานแวบหนึ่ง เพราะยามนี้หมาป่าน้อยทั้งสองเป็ฝ่ายทำพันธสัญญากับสองสามีภรรยาไปแล้ว
มิติส่วนนี้ได้กลายเป็ของสองสามีภรรยาแล้ว ในเมื่อเป็ท่านอาจารย์ของนายท่าน ตนก็ควรจะไว้หน้าพวกเขาสักหน่อย ใช่หรือไม่?
เมื่อคิดเช่นนี้ หมาป่าดำจึงไม่มีท่าทีต่อต้านใดๆ และนั่งลงข้างเท้าของเคอโยวหราน นับได้ว่ายอมรับคำร้องขอของผู้เฒ่าทั้งสองแล้ว
เคอโยวหรานสามารถดูออกเช่นกันว่าผู้เฒ่าทั้งสองแค่อยากอาศัยอยู่ที่นี่อย่างบริสุทธิ์ใจ ยิ่งไปกว่านั้นหมาป่าดำก็ยังตกลงแล้ว นางจึงไม่จำเป็ต้องขัดขวางพวกเขา
แม้จะมิได้ขัดขวาง แต่เคอโยวหรานยังคงตั้งเงื่อนไขจำนวนหนึ่ง
“ท่านอาจารย์ทั้งสองเ้าคะ ในเมื่อพวกท่านจะพักอาศัยอยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็ต้องรับปากข้าว่าจะไม่ลงมือกันในมิติแห่งนี้เพียงเพราะพูดจาไม่ลงรอยกัน หากจะสู้กันให้ออกไปสู้ข้างนอกแล้วค่อยกลับเข้ามา...”
เคอโยวหรานยังกล่าวไม่ทันจบ สัญลักษณ์ข้อห้ามสีทองทั้งสองสายพลันทาบลงบนกายของพวกเขา
เซียนพิษสะดุ้งโหยง “แม่นางน้อย นึกไม่ถึงว่าเ้าจะทำพันธสัญญากับมิติแห่งนี้ไปแล้ว?”
ทางด้านหมอเทวะตบต้นขาหัวเราะท้องแข็งจนมิอาจลุกขึ้นมา “ฮ่าๆๆ... วาสนาของตาเฒ่าช่างฝืนบัญญัติ์เสียจริง แก่ชราแล้วแท้ๆ กลับนึกไม่ถึงว่ายังจะมีศิษย์ที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ ฮ่าๆๆ... ์ช่างเมตตาข้าเสียจริง! ฮ่าๆๆ...”
เคอโยวหรานมีเครื่องหมายคำถามเต็มหัว นางไปทำพันธสัญญากับมิติั้แ่เมื่อใดกัน? เหตุใดตนถึงไม่รู้ตัวแม้แต่นิด
คล้ายกับอิ๋นเยวี่ยภายในอ้อมแขนจะััได้ถึงความฉงนของเคอโยวหราน มันจึงขยับร่างเล็กน้อยอย่างลำพองใจ
เคอโยวหรานก้มหน้าลงมองอิ๋นเยวี่ยภายในอ้อมแขนแล้วหวนนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยามนี้เพิ่งจะตระหนักได้ว่าตนทำพันธสัญญากับมิติได้อย่างไร
นางขอบตาแดงระเรื่อเสียแล้ว พลันอุ้มหมาป่าน้อยในอ้อมแขนขึ้นมากอดหอม “อิ๋นเยวี่ย ฝีมือของเ้าใช่หรือไม่?”
ครั้นโม่เจวี๋ยเห็นอิ๋นเยวี่ยถูกผู้เป็นายแสดงความรักใคร่ มันจึงเอาหัวถูไถแผงอกของต้วนเหลยถิงอย่างไม่ยอมเป็รอง ตามด้วยแหงนหน้าขึ้นสูงอย่างภาคภูมิใจ
คล้ายกับจิตใจของต้วนเหลยถิงจะเชื่อมโยงกับโม่เจวี๋ย ทันใดนั้นก็เข้าใจบางสิ่ง ชายหนุ่มจัดการอุ้มโม่เจวี๋ยขึ้นมาสบตากับตนเองแล้วถามด้วยความไม่แน่ใจว่า
“ข้าก็เหมือนกับโยวหราน ทำพันธสัญญากับมิติส่วนนี้แล้วใช่หรือไม่?”
บนใบหน้าหมาป่าน้อยโม่เจวี๋ยพลันเผยยิ้มออกมา ตามด้วยผงกหัวหมาป่าที่ยังไม่เติบใหญ่ของมัน
ดวงตาของหมอเทวะกับเซียนพิษแทบจะถลนออกมาในทันใด ที่แท้การทำพันธสัญญากับมิติยังทำเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
ด้วยเหตุนี้ เคอโยวหรานกับต้วนเหลยถิงจึงพากันกอดหอมหมาป่าน้อยทั้งคืนท่ามกลางความตกตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่าของสองปรมาจารย์แพทย์พิษ
นอกจากนี้คนทั้งสองยังทำการทดสอบจนรู้ว่ามิติส่วนนี้สามารถเข้าออกโดยการนึกคิดของพวกเขาสองคน ไม่จำเป็ต้องเข้ามาทางปากถ้ำเช่นก่อนหน้านี้