“เดรัจฉานสมควรตาย!” ชายฉกรรจ์สะบัดโลหิตที่ไหลรินบนมือออกด้วยดวงตาแดงก่ำ
“โอ้โห เป็จิ้งจอกสีขาวบริสุทธิ์เสียด้วย ดีๆๆ นึกไม่ถึงว่าจะกล้ามาหาถึงที่ คอยดูเถิดว่าบิดาจะถลกหนังเ้าไปขายอย่างไร!”
ชายฉกรรจ์บ้วนน้ำลายใส่ฝ่ามือสองที ก่อนจะถูฝ่ามือแล้วเดินมาหาจิ้งจอกน้อยด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
ปลาแห้งชิ้นเดียวจะราคาเท่าไรกัน? หากสามารถถลกหนังจิ้งจอกตัวนี้ไปขาย ร้านขายปลาแห้งของเขาก็ไม่จำเป็ต้องเปิดแล้ว!
จิ้งจอกน้อยโกรธจัด มันแยกเขี้ยว หางอันปุกปุยชี้ขึ้นสูง ขนสีขาวทั่วสรรพางค์กายลุกชัน
“กรร!”
หากไป๋เซี่ยเหอไม่แสดงพลังออกมา คงคิดว่านางเป็แมวป่วยกระมัง!
“เมี้ยว!”
เมี้ยวอะไร?
ไป๋เซี่ยเหอเหลือบมองแมวสีขาวด้วยความกระอักกระอ่วน ก่อนจะตระหนักว่านางพลาดเสียแล้ว นางลืมว่าตอนนี้ตนเองเป็เพียงสัตว์เล็ก
แท้จริงแล้วแมวสีขาวตัวนี้ฟังคำพูดของนางออก
“เฮอะ ในเมื่อมาถึงที่แล้วก็อย่าได้คิดจะหนี!”
ชายฉกรรจ์ลับมีดพลางเดินไปทางจิ้งจอกด้วยแววตาเ้าเล่ห์
ดวงตาสีดำของจิ้งจอกน้อยไม่มีความหวาดกลัวแม้เพียงเล็กน้อย มันไม่ใช่จิ้งจอกธรรมดา ทว่ามันคือจิ้งจอกที่มีความทรงจำของทหารรับจ้างจากในอดีตชาติ
ร่างกายของจิ้งจอกอ่อนนุ่ม มันทำท่าทางอันแปลกประหลาดเพื่อหลบ ‘ความชั่วร้าย’ ของชายฉกรรจ์ จากนั้นมันก็ใช้ขาหลังเหยียบลงบนพื้นเพื่อทรงตัวทันที
“โอ๊ย เ้าเดรัจฉานสมควรตาย!” ชายฉกรรจ์ใช้มือััคราบโลหิตบนใบหน้า ก่อนจะโมโหจนกัดฟัน
หากไม่ได้เกรงว่าจะทำให้เส้นขนสีขาวนั้นเสียหาย เขาจะระแวดระวังเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาคงสับจิ้งจอกตัวนี้เป็ชิ้นๆ ไปเนิ่นนานแล้ว!
อิ๋งเฟิงยืนอยู่ด้านหลังของฮั่วเยี่ยนไหว เขามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมุมปากกระตุก “ท่านอ๋อง ไม่ไปช่วยเ้าจิ้งจอกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ฮั่วเยี่ยนไหวส่ายศีรษะ “ไม่ต้อง ข้าเชื่อใจมัน”
แม้จะกล่าวเช่นนี้ ทว่าสายตาของเขาไม่เคยละไปจากร่างสีขาวเล็กๆ นั้นแม้แต่น้อย
“อั๊ก”
เมื่อไม่ทันระวัง จิ้งจอกน้อยก็ถูกชายฉกรรจ์ถีบเข้าที่ท้อง ร่างของมันกระเด็นออกไปจนกระทั่งล้มลงกับพื้น
เมื่อแมวสีขาวเห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงร้องอย่างดุร้าย มันลุกขึ้นจากพื้นโดยใช้เรี่ยวแรงจากไหนก็ไม่ทราบ จากนั้นร่างกายอันอ่อนแรงของมันก็พุ่งเข้าไปกระแทกที่ท้องของชายฉกรรจ์
แรงกระแทกของแมวตัวหนึ่งจะมากเพียงใดกัน?
ชายฉกรรจ์ไม่รู้สึกเ็ปใดๆ ทว่าการกระทำของแมวสีขาวกลับยั่วโทสะของเขา
เขายกร่างของแมวสีขาวขึ้นมา ก่อนจะฟาดมันลงกับพื้นอย่างโเี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ปลาแห้งในปากถูกย้อมไปด้วยโลหิต
“กรร!”
จิ้งจอกน้อยถลึงตา มันอ่อนแอเกินไป แม้แต่จะช่วยชีวิตสัตว์ตัวน้อยก็ยังต้องตกอยู่ในสภาพน่าอดสูเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงร่างกายของตัวเองที่มีาแเต็มตัวเลย แม้แต่แมวสีขาวที่มันอยากจะช่วย ก็ตกอยู่ในสภาพลมหายใจรวยรินในเวลานี้
ความรู้สึกล้มเหลวกำลังถาโถมเข้ามาและกลืนกินจิ้งจอกน้อย
ั์ตาของจิ้งจอกเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ อารมณ์รุนแรงภายในร่างกายกำลังกัดกร่อนระบบประสาท
ในอดีตชาติไป๋เซี่ยเหอคือทหารรับจ้าง นางไม่เคยเห็นผู้ใดในสายตา ความหยิ่งยโสและความเชื่อมั่นในตนเองคืออุปนิสัยของนาง
ทว่าตอนนี้...
แม้ว่านางจะเป็เพียงจิ้งจอกตัวหนึ่ง นางก็ไม่อาจเป็จิ้งจอกที่อ่อนแอได้เด็ดขาด!
“กรร!”
สมควรตาย!
ลมปราณที่เต็มไปด้วยความกระหายเืได้เข้าโอบล้อมร่างของจิ้งจอกสีขาวหิมะเอาไว้ ดวงตาเปลี่ยนเป็สีแดงฉาน ในแววตานั้นมองเห็นรูม่านตาที่หดลงอย่างรวดเร็ว
ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นราวกับสามารถดูดกลืนิญญาของผู้คนจนดับสูญได้!
ฉึก
โลหิตพุ่งกระฉูด
ชายฉกรรจ์ยังคงถือหางของแมวสีขาวไว้ในมือ รูม่านตาของเขาขยายใหญ่จนถึงขีดสุด เปี่ยมไปด้วยความหวาดผวาและความเหลือเชื่ออยู่ในนั้น
ปั้ก
ร่างของเขาล้มลงกับพื้นอย่างแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย
บริเวณลำคอของเขามีรอยกรงเล็บสามสายที่ลึกจนเห็นกระดูกอย่างชัดเจน
ร่างของจิ้งจอกน้อยร่วงลงบนพื้นอย่างอิดโรย ความโเี้ดุร้ายเมื่อครู่หายไป ก่อนจะใช้ดวงตาแวววาวมองไปทางฮั่วเยี่ยนไหวที่อยู่ไม่ไกล
ฮั่วเยี่ยนไหวค่อยๆ เดินไปอุ้มจิ้งจอกน้อยมาไว้บนฝ่ามือพร้อมกำหมัดแน่น
“ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”
มือเย็นเยียบลูบไล้ตัวของมัน ส่งผลให้จุดที่เหมือนจะเ็ปจนร้อนรุ่มราวกับจะบรรเทาลงเล็กน้อย
จิ้งจอกน้อยชะงักไปในทันที
เจ็บหรือไม่?
ในความทรงจำของไป๋เซี่ยเหอ ไม่เคยมีใครถามคำถามนี้กับนางมาก่อน
ในอดีตนางคือทหารรับจ้าง ในสายตาของคนอื่น นางทำได้ทุกอย่าง ได้รับาเ็มาหลายต่อหลายครั้ง นางจึงคุ้นชินแล้ว คนอื่นก็คุ้นชินเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ คำว่าเจ็บจึงไม่มีอยู่ในโลกของนาง
จิ้งจอกน้อยราวกับถูกอะไรบางอย่างกระทบเข้าที่หัวใจ ความรู้สึกชนิดนี้แปลกใหม่อย่างยิ่ง ทว่ากลับทำให้นางรู้สึกดีเป็พิเศษ
“หงิง!”
เจ็บ
ร่างกายของนางไม่ได้ทำจากเหล็ก จะไม่เจ็บได้อย่างไร?
เมื่อเห็นดวงตาสีดำดูฉ่ำน้ำของจิ้งจอกน้อย ฮั่วเยี่ยนไหวก็ทั้งโมโหและปวดใจ ก่อนจะยกมือขึ้นแตะปลายจมูกที่เชิดขึ้นเล็กน้อยของมัน “ดูว่าต่อไปเ้าจะยังเอะอะอยู่หรือไม่?”
เอะอะที่ไหนกัน? นางช่วยชีวิตคนอยู่ชัดๆ
แมวสีขาวสละชีพเพื่อรักษาปลาแห้งให้ลูกของมัน ทำให้นางประทับใจอย่างยิ่ง
ในอดีตนางเป็เด็กกำพร้า ไม่เคยัักับความรักของบิดามารดามาก่อน แม้ว่าในชาตินี้จะมีบิดามารดา ทว่าความสัมพันธ์กลับซับซ้อนจนยากจะเอื้อนเอ่ย
ฮั่วเยี่ยนไหวเคลื่อนสายตาตามจิ้งจอกน้อย ก่อนจะเอ่ยกับอิ๋งเฟิงอย่างเฉยเมย “พาสองตัวนี้กลับไปด้วย”
อิ๋งเฟิงเบิกตากว้าง คางแทบจะหล่นลงกับพื้น
จวนเซ่อเจิ้งอ๋องกลายเป็ศูนย์พักพิงสัตว์จรจัดั้แ่เมื่อใดกัน?
จิ้งจอกน้อยช่างใหญ่โตนัก
อิ๋งเฟิงหิ้วแมวสีขาวและลูกแมวขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยด้วยความสงสัย “ไม่ทราบว่าเหตุใดจิ้งจอกน้อยจึงสู้สุดชีวิตเพื่อแมวตัวผู้ตัวหนึ่ง? หรือว่าอยากจะเป็แม่เลี้ยงของลูกแมวตัวนี้?”
จิ้งจอกผสมพันธุ์กับแมว?
เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทว่าโลกกว้างใหญ่นัก ไม่มีสิ่งใดที่เป็ไปไม่ได้ คงไม่แน่กระมัง?
เสียงของอิ๋งเฟิงไม่ดังนัก ทว่าทั้งฮั่วเยี่ยนไหวและจิ้งจอกน้อยล้วนได้ยินอย่างชัดเจน
ทั้งคู่มีความสามารถในการฟังที่น่าทึ่งมาก
จิ้งจอกน้อยที่ฟุบลงบนบ่าของฮั่วเยี่ยนไหวได้ชั่วครู่ก็แยกเขี้ยวยิงฟันให้อิ๋งเฟิง ก่อนจะฟาดเขาด้วยอุ้งเท้าขาวปุกปุย
เ้าน่ะสิแม่เลี้ยง ทั้งตระกูลเ้าล้วนเป็แม่เลี้ยงกันทั้งหมด!
ฮั่วเยี่ยนไหวรวบตัวหลีเอ๋อร์ไว้บนฝ่ามือโดยไม่ชายตามอง “เลี้ยงสองตัวนี้ในห้องของเ้า หากมันหลุดออกมา ข้าจะให้เ้ารับผิดชอบ!”
.............................
“เหตุใดผู้ที่ได้รับาเ็ถึงเป็ข้าอยู่เสมอ!” อิ๋งเฟิงสติแตก
ฮั่วเยี่ยนไหวพาจิ้งจอกน้อยมายังโรงน้ำชาแห่งหนึ่งที่ประดับตกแต่งอย่างประณีตงดงาม
ที่นี่คือโรงน้ำชาหลงเฉวียน
ห้องส่วนตัวอันหรูหราตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของชั้นสาม
บุคคลที่ขึ้นมายังชั้นสามได้นั้นต้องเป็ผู้ที่มั่งคั่งและสูงศักดิ์ และผู้ที่ใช้งานห้องนี้ได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ทว่าจิ้งจอกน้อยไม่ได้รู้เื่นี้
ภายในห้องส่วนตัว จิ้งจอกน้อยปีนขึ้นโต๊ะอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะประคองของว่างที่ดูสวยงามไว้ในอุ้งเท้า แล้วยื่นให้แมวสองตัวที่ถูกวางไว้บริเวณมุมห้อง
จิ้งจอกน้อยกับแมวสองตัวถูกปฏิบัติแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
แมวสีขาวมองขนมโก๋ถั่วเขียวตรงหน้าด้วยความสงสัย มันลองเลียขนมดูเล็กน้อยก่อนจะถอยหลังทันที
“เมี้ยว!”
นี่คืออะไร? ไม่เห็นอร่อยเลย
จิ้งจอกน้อยพูดไม่ออก
ไป๋เซี่ยเหอลืมไปว่าถึงแม้ตนเองจะอยู่ในร่างจิ้งจอก ทว่าิญญากลับเป็มนุษย์
นางเต็มใจกินอาหารของมนุษย์ ทว่าไม่ได้หมายความว่าสัตว์เล็กทั้งหมดจะกินเช่นนี้
ฮั่วเยี่ยนไหวจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ ดวงตาสีดำลึกล้ำเป็ประกายเล็กน้อย มองเห็นความผิดปกติของจิ้งจอกน้อยมากยิ่งขึ้น
“ไปบอกเสี่ยวเอ้อร์ให้นำปลาแห้งมาสักเล็กน้อย”
ฮั่วเยี่ยนไหวสั่งอิ๋งเฟิงอย่างเยือกเย็น คำพูดของเขาดังเข้าหูของจิ้งจอกน้อย นางจึงยกนิ้วโป้งให้ฮั่วเยี่ยนไหว
เป็คนดีนัก!
เพียงแต่น่าเสียดาย...
ในสายตาของฮั่วเยี่ยนไหว นางกำลังยกอุ้งเท้าขึ้นด้วยความตื่นเต้น
แววตาของฮั่วเยี่ยนไหวหม่นแสงลง เขาให้อาหารแมวเพราะรู้สึกว่าพวกมันน่าสงสาร แล้วเหตุใดจิ้งจอกน้อยถึงตื่นเต้นปานนี้? แมวสองตัวเกี่ยวข้องอะไรกับมันกัน?
เมื่ออยู่ว่างๆ จนเบื่อก็หันไปสนใจเื่ของผู้อื่นเสียอย่างนั้น
“ยังไม่รีบมาอีก!”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้