“เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว” ฉู่ลี่หันไปตอบมู่อวิ๋นจิ่นแล้วเดินกลับไปทางตลาดมืด
มู่อวิ๋นจิ่นมองฉู่ลี่จากด้านหลัง ด้วยสีหน้ายากคาดเดา
ดังนั้น เป้าหมายที่ปท้จริงในการเดินทางมาเมืองจางโจว มิใช่เพราะพานางมาหาเงินหาทอง แต่้าหยั่งเชิงดูสิ่งที่นางซ่อนไว้ต่างหาก
มู่อวิ๋นจิ่นยกมือขึ้นเคาะหัวตัวเองที่เป็คนควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยาก เมื่อครู่หากนางอดทนอีกนิด คงไม่ต้องเผยความลับที่เก็บซ่อนไว้ให้เผยออกมาโดยเร็ว
แต่ในเมื่อเปิดเผยจนฉู่ลี่รู้ไปแล้ว เช่นนั้นก็สามารถนั่งคุยกับเขาอย่างเปิดอกได้
ไม่แน่ว่าวันใดเกิดเื่ขึ้น เขาอาจมาช่วยเหลือได้
คิดได้ดังนั้น ความรู้สึกของมู่อวิ๋นจิ่นค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ นางสาวเท้าเร็วขึ้นจนอยู่ด้านข้างฉู่ลี่ ปรายตามอง ปากขมุบขมิบไปมา
ตลอดเส้นทางเดินกลับ ฉู่ลี่เดินเข้าไปในเรือนหลังหนึ่ง เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นเดินตามเข้ามา ก็พบม้าขนขาวและม้าขนแดงกำลังก้มหน้ากินหญ้าอยู่ โดยมีชายชราที่เคยพบให้หญ้าให้น้ำ
“คุณชาย” หวงเหยียนเดินออกจากห้องด้านในแสดงความเคารพคนทั้งสอง
“อืม ของอยู่ไหน?” ฉู่ลี่ถามหวงเหยียนขึ้นมา
หวงเหยียนผายมือ “เชิญขอรับ ของทุกอย่างจัดวางไว้ในห้องเรียบร้อยแล้วขอรับ”
ฉู่ลี่เดินเข้าไปในห้อง ฉู่ลี่ก็พลอยสังเกตดูท่าทางหวงเหยียนอย่างละเอียดยิบ
หวงเหยียนดูเหมือนบัณฑิตหน้าใสธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับเป็ผีพนัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ดูเหมือนเขาจะรู้จักมักคุ้นกับฉู่ลี่มาเป็เวลายาวนาน สงสัยมาช่วยฉู่ลี่จัดการเื่ราวต่างๆ มาไม่น้อย
หึๆ ย่อมต้องเป็คนประหลาดอีกคน!
มู่อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปในห้องด้วยคิดว่าคงเป็ห้องเล็กๆ กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีทางลับเดินลงไปด้านล่างได้อีก
“เ้ารออยู่ข้างนอก” ฉู่ลี่ที่เดินลงไปหันมาพูดกับหวงเหยียน
หวงเหยียนทราบความหมายจึงรีบเดินขึ้นไป
ภายในห้องลับด้านล้างจึงมีฉู่ลี่และมู่อวิ๋นจิ่นเพียงสองต่อสอง มู่อวิ๋นจิ่นเห็นทางข้างหน้ามืดสนิท จึงเข้าใจฉู่ลี่ว่าทำไมต้องให้หวงเหยียนรออยู่ข้างบน จากนั้นนางเอ่ยเสียงแ่เบาขึ้น “เอาหยกประจำตัวยไหม?”
“เอามา” ฉู่ลี่พยักหน้า ควักหยกประจำตัวที่เรืองแสงขึ้นมา โยนไปให้มู่อวิ๋นจิ่น “เ้าเดินนำทาง”
มู่อวิ๋นจิ่นรับหยกมาแล้ว กลับมองค้อนๆ ใส่ “ข้าไม่ใช่คนมองไม่เห็นเสียหน่อย ทำไมต้องให้ข้าถือด้วย?”
“เ้ายังคิดจะเอาเงินเอาทองอยู่ไหม?” ฉู่ลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เอาสิ” มู่อวิ๋นจิ่นยกหยกประจำตัวขึ้นส่องนำทาง เดินเคียงข้างฉู่ลี่ลงไปทางลับ
ทั้งสองคนก้าวย่างเดินลงไปจนเจอทางตันในบันไดขั้นสุดท้าย นางพยายามมองหาทางรอบทิศ “นี่คงเป็กลไลเปิดปิดละสิ”
ฉู่ลี่หันมองมู่อวิ๋นจิ่นแวบหนึ่งอย่างชื่นชม จากนั้นเขายื่นมือไปหมุดปุ่มที่ยื่นออกมา
ทันใดนั้น กำแพงเบื้องหน้าที่เหมือนปิดตายกลับเปิดออกเป็สองทาง มู่อวิ๋นจิ่นและฉู่ลี่เดินต่อเข้าไปด้านใน
หลังจากก้าวเข้าไปได้ไม่ทันไร มู่อวิ๋นจิ่นเห็นทางเดินลงไปด้านล่างอีกด้วยความแปลกใจ “ารุปแล้วเ้าซ่อนเงินทองไว้ที่นี่เท่าไหร่กันแน่?”
ฉู่ลี่ยิ้มมุมปากเดินต่อไป โดยไม่สนใจคำถามที่นางถาม
จนกระทั่งทั้งสองเดินลงเจอกับกำแพงหินอีกครั้ง
“ถ้าเปิดมันออกคงไม่ใช่ว่ามีทางเดินไปอีกละ?” มู่อวิ๋นจิ่นยืนกอดอกขมวดคิ้ว
ฉู่ลี่ส่ายหน้าแล้วรวบรวมพลังลมปราณเป็แสงพวยพุ่งรวมตัวเป็ทรงกลม จากนั้นปล่อยพลังไปที่กำแพงหินเพื่อเปิดออก
ประตูหินบานนั้นรับพลังลมปราณสีม่วงแล้ว ต่างเปิดแยกออกจากกัน
“ประตูหินบานนี้ก็ถูกปิดผนึกเอาไว้?” มู่อวิ๋นจิ่นนึกถึงูเาลูกนั้นที่เมืองธารรัตติกร ก็ถูกปิดผนึกไว้เช่นนี้ ซึ่งคนธรรมดามิอาจเข้าใกล้ได้
ยังไม่ทันรอให้ฉู่ลี่อธิบาย มู่อวิ๋นจิ่นกลับมองประตูหินเลื่อนออกด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ว้าว……”
มู่อวิ๋นจิ่นรีบวิ่งเข้าไปด้านใน เห็นหีบกองพะเนินอยู่เต็มห้อง ส่องแสงประกายทองระยิบระยับเข้าตา
พอเปิดหีบดูสี่ห้าใบ ภายในบรรจุทองและเงินเต็มไปหมด
เมื่อเห็นเงินทองกองพะเนินอยู่เต็มห้อง มู่อวิ๋นจิ่นจึงหันไปถามฉู่ลี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความแปลกใจ “สิ่งของทั้งหมดนี้เอามาจากไหน?”
มู่อวิ๋นจิ่นนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถามต่อไปว่า “อย่าบอกนะว่าเป็สิ่งของที่หวงเหยียนชนะการพนันมา?”
ฉู่ลี่ ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบที่สุดเท่าที่พูด “ตลาดมืดตลอดทั้งเส้นนั้น บ่อนพนันและโรงรับจำนำล้วนเป็การค้าของเปิ่นหวงจื่อทั้งสิ้น”
“อะไรนะ???”
มู่อวิ๋นจิ่นถลึงตาโตด้วยความตะลึงพรึงเพริด ราวกับไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน “เ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“ไม่เลย” ฉู่ลี่ทำหน้าจริงจังขึงขัง
มู่อวิ๋นจิ่นได้ยินคำตอบของฉู่ลี่แล้ว ถึงกับเม้มปากด้วยความตกตะลึง จากนั้นย้อนคิดถึงถนนทั้งเส้น ล้วนเป็บ่อนพนัน ไม่ก็โรงรับจำนำ เต็มไปทั้งซอย ไม่นึกไม่ฝันว่าการค้านี้เป็ของฉู่ลี่ทั้งหมด
ถึงแม้นางรู้ว่าฉู่ลี่ต้องมีการหารายได้อื่น แต่นึกไม่ถึงว่าเป็บ่อนพนันกับโรงรับจำนำ
“เงินทองทั้งหมดนี้ ได้มาจากการชนะในบ่อนและของที่คนมิอาจมีเงินมาถ่ายถอนได้อย่างนั้นสิ?” มู่อวิ๋นจิ่นพยายามเก็บอารมณ์
ฉู่ลี่พยักหน้าไปมา ก้าวเท้าเข้ามาใกล้ พร้อมคว้าทองหนึ่งแท่งขึ้นมากวัดแกว่งเล่น “ภายในห้องลับแห่งนี้มีเงินทองมากกว่าหนึ่งแสนตำลึงทอง ล้วนเป็กำไรของเดือนนี้เท่านั้น!”
“เช่นนั้นเงินทองพวกนี้มาจากพวกผีพนันเ่าั้?” มู่อวิ๋นจิ่นนึกถึงคนพวกนั้นที่เดินเข้าร้านน้ำชา มิน่าเล่าคนพวกนั้นถึงได้พร้อมสู้่สุดชีวิตเพื่อให้ได้เงินทองกลับมา
“คนพวกนี้ละโมบโลภมาก ดังนั้นจุดจบที่เกิดขึ้นมาจากตัวพวกเขาเองทั้งสิ้น” ฉู่ลี่โยนทองในมือลงในหีบ
มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้าเห็นด้วย “ก็ถูก ผีพนันย่อมคิดได้มากขึ้นเรื่อยๆ สมควรแล้วที่คนพวกนั้นเป็เช่นนี้!”
มู่อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปใกล้ฉู่ลี่ แหงนหน้าขึ้นมองฉู่ลี่ “เมื่อครู่เ้าบอกว่าที่นี่มีประมาณหนึ่งแสนตำลึงทอง เช่นนั้นข้าจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่?”
ฉู่ลี่กดเสียงหัวเราะ ก้มหน้าจ้องมองมู่อวิ๋นจิ่น “แล้วแต่เ้าเลย”
“จริงเหรอ?” มู่อวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับรู้สึกว่าตัวนางเปลี่ยนเป็คนบ้าเงินทองั้แ่เมื่อไหร่ แต่เมื่อคิดไปคิดมา นางยกมือออกมานับ “อย่างนั้น ข้าเอาแค่หนึ่งหมื่นตำลึงทองก็เพียงพอแล้ว!”
“เอาเหมือนครั้งก่อนที่เขียนเป็ตั๋วเงินให้ข้าแล้วกัน แบบนั้นสะดวกเก็บและพกพา”
ฉู่ลี่ดูท่าทางของนางเต็มไปด้วยความภูมิใจ จึงหลุดขำออกมา “อืม เปิ่นหวงจื่อรับปากแล้ว”
……
เมื่อตกลงกันเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินขึ้นมาจากห้องลับ มู่อวิ๋นจิ่นยื่นหยกประจำตัวคืนให้ฉู่ลี่ด้วยความเบิกบานใจ พอเห็นหวงเหยียนยืนรออยู่หน้าประตู กลับไม่ตะขิดตะขวงส่งรอยยิ้มให้เขาอย่างสบายใจ
มู่อวิ๋นจิ่นเดินออกจากเรือน สูดอากาศภายนอกััได้ถึงความบริสุทธิ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากนั้นมองไปทางตลาดมืดด้วยความแปลกใจ
พูดก็พูดเถอะ การที่ฉู่ลี่ทำบ่อนพนันและโรงรับจำนำลับหลังฝ่าา หากฝ่าาทรงทราบเข้า คงต้องเกิดเื่ครั้งใหญ่เป็แน่เเท้
มู่อวิ๋นจิ่นอดนึกถึงองค์หญิงห้าฉู่ชิงเฉียงที่คบค้ากับคนหอนางโลม หรือว่าฉู่ลี่กับองค์หญิงห้ามีนิสัยเหมือนกัน
ระหว่างนั้นเบื้องหน้าของนางมีร่างของคนมายืดขวางเอาไว้
มู่อวิ๋นจิ่นเงยหน้าขึ้นมองเห็นเป็หวงเหยียน กำลังมองนางอย่างพิจารณาใคร่ครวญ ฉีกยิ้มน้อยให้ “ที่แท้ท่านก็เป็ภรรยาของคุณชายนี่เอง”
“รูปร่างหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ เหมาะสมกับคุณชายของพวกเรา เพียงแต่ไม่รู้นิสัยใจคอเป็เช่นไร” หวงเหยียนยกมือลูบปลายคาง
มู่อวิ๋นจิ่นหัวเราะเสียงเบา ปลายตามองไปทางฉู่ลี่ ต่อด้วยหวงเหยียน “เ้าติดตามเขามานานเท่าไหร่แล้ว?”
“เื่นี้นั้น… เป็ความลับที่มิอาจเปิดเผยได้ในเวลานี้” หวงเหยียนยกมือขึ้นจุ๊ปาก เดินไปด้านหลังฉู่ลี่
“คุณชาย สองวันมานี้พบคนของอาณาจักรตงหลินปรากฏตัวที่ตลาดมืด พบว่าพวกเขาเข้าพักที่โรงเตี๊ยมเป็ปกติ ยังไม่พบความผิดแปลกขอรับ” หวงเหยียนรายงาน
พอฉู่ลี่ได้ยินชื่อของอาณาจักรตงหลิน แววตาของเขากลับแสดงความโเี้ขึ้น “จับตามองต่อไป”
“ขอรับ คุณชาย”
หวงเหยียนรายงานเรียบร้อยแล้ว ชายชราที่ให้หญ้าม้าอยู่ก็เดินเข้ามาทำความเคารพฉู่ลี่เหมือนกัน “โรงเตี๊ยมฮวาซ่านสองวันมานี้มีคนของอาณาจักรหนานถิงมาพักขอรับ”
“แล้วคนอาณาจักรเป่ยิละ?” ฉู่ลี่ถามชายชราขึ้นมา
“ในตอนนี้ยังไม่พบคนของอาณาจักรเป่ยิ ทว่าทางเราได้แพร่ข่าวไปสะพัดทุกที่แล้ว อีกไม่นานคนของอาณาจักรเป่ยิต้องปรากฏตัวที่เมืองจางโจวอย่างแน่นอนขอรับ” ชายชราตอบอย่างมั่นใจ
มู่อวิ๋นจิ่นที่นั่งเก้าอี้จดจำเื่ราวที่ทั้งสามคนสนทนาได้จนหมด นี่มันเกิดเื่ใหญ่อะไรขึ้นถึงสามารถนำพาคนทั้งสามอาณาจักรให้มาอยู่ที่นี่ได้
หรือว่าเป็แผนเชื่อมโยงกับการเสาะหาของชิ้นนั้นที่ฉู่ลี่รอมาโดยตลอด?
อันที่จริง มู่อวิ๋นจิ่นอยากระงับความกระหายใคร่รู้นี้ลง ทว่ากลับถูกบทสนทนาดึงดูด อยากล่วงรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ ที่สามารถทำให้ฉู่ลี่ติดตามเสาะหาอย่างไม่ปล่อยวาง
หลังจากหวงเหยียนและชายชราแยกย้ายไปทำหน้าที่ของพวกเขาตามเดิม เห็นได้ชัดว่ามู่อวิ๋นจิ่นััได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ซ่านออกจากร่างกายของฉู่ลี่
“เ้าดึงดูดคนทั้งสามอาณาจักรมาทำอะไรที่นี่? ้าทำอะไรกันแน่?” มู่อวิ๋นจิ่นหันไปเอ่ยถามฉู่ลี่
ฉู่ลี่หรี่ตาลง ค่อยๆ เผยยิ้มมุมปาก พูดเสียงเรียบนิ่ง “เ้าไม่จำเป็ต้องรู้ให้มาก มันไม่มีประโยชน์ต่อเ้า!”
มู่อวิ๋นจิ่นฟังแล้วยกมือขึ้นปิดปาก ทว่าท้องเ้ากรรมดันมาร้องกรอดๆ ขึ้นมา “ข้าหิวแล้ว ที่ไหนมีของอร่อยทานบ้าง?”
“ถนนในตลาดไง” ฉู่ลี่ตอบกลับ
มู่อวิ๋นจิ่นลุกขึ้นเตรียมตัวเดินไปด้านนอก กลับเห็นฉู่ลี่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย “เ้าไม่ไปด้วยกันเหรอ?”
ฉู่ลี่ส่ายหน้าปฏิเสธ “เปิ่นหวงจื่อมีเื่ที่ต้องสะสาง เ้าไปหาทานเองแล้วกัน ฝีมือของเ้าไม่ธรรมดา เปิ่นหวงจื่อไม่จำเป็ต้องกังวลว่าจะเกิดเื่กับเ้า”
พอได้ยินคำพูดเสียดสีเชิงกระทบกระเทียบ มู่อวิ๋นจิ่นทำได้เพียงเบะปาก ถลึงตาโตใส่ฉู่ลี่ “เชอะ! เปิ่นกูเหนี่ยง[1]มีความสามารถรอบด้าน ไม่เกิดเื่ขึ้นง่ายๆ หรอก!”
[1] เปิ่นกูเหนี่ยง สรรพนามที่สตรีธรรมดาใช้เรียกแทนตนเอง ด้วยความรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่าย (ยกตนข่มอีกฝ่าย)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้