เคอโยวหรานที่เดินทางออกจากตัวเมืองพบว่ารอบข้างไร้ผู้คน จึงเอาผลน้ำเต้าใส่ลงในมิติวิเศษและหยิบขนมปังกับนมออกมากินรองท้อง
ในขณะเดียวกันก็เร่งฝีเท้าย้อนกลับไปยังเส้นทางที่ใช้เดินทางมา ยามนี้ขากลับมิได้ผ่อนคลายสบายอารมณ์เช่นขามาเสียแล้ว
เพราะเคอโยวหรานรู้ว่าหญิงรับใช้ชุดเขียวกำลังพาคนมาล้อมนางเอาไว้ ประการแรกตนไม่มีพละกำลัง ประการที่สองไร้วรยุทธ์
หากเผชิญหน้ากับคนสองคนยังนับว่าดี สามารถใช้สติปัญญาได้ แต่หากเผชิญหน้ากับบุรุษสี่ถึงห้าคน นั่นก็เป็อีกเื่
เคอโยวหรานไม่อยากให้เมื่อวานเพิ่งกลับมาเกิดใหม่ วันนี้ก็ต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งเสียแล้ว นางยังมีเื่ที่ปรารถนาจะทำอีกตั้งมากมาย
์ให้นางกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง นางคว้าโอกาสนี้เอาไว้แล้วมิใช่หรือ ดังนั้นตลอดทางกลับนี้ เคอโยวหรานจึงตามองหกถนนหูฟังแปดทิศทีเดียว
มิติวิเศษก็ช่างฝังคนทั้งเป็ไม่ต่างกัน มิติของผู้อื่นสามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ อย่างน้อยยามพบเจออันตรายก็ยังสามารถเข้าไปหลบภัยภายในนั้น
ทว่ามิติของนางกลับมิอาจทำได้ ไร้ทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งหนี ช่างน่าขมขื่นยิ่งนัก!
ระหว่างทางกลับ ฝีเท้าของเคอโยวหรานเร่งรีบขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดก็เริ่มวิ่งเหยาะไปตลอดทาง
แต่แม้จะเป็เช่นนั้น นางก็ยังคงประเมินพละกำลังทางกายของตนเองสูงเกินไปและประเมินศักยภาพของศัตรูต่ำเกินไป ในยามนี้นางเข้าสู่เขตหมู่บ้านเถาหยวนซึ่งเป็บริเวณเชิงเขาต้าชิงแล้ว
สายตามองเห็นจวนอยู่ไม่ไกล ทว่าทางเข้ากลับถูกอันธพาลเจ็ดถึงแปดคนล้อมขวางทางเอาไว้
หญิงรับใช้ชุดเขียวเดินอ้อยอิ่งออกมาจากด้านหลังของพวกเขา มุมปากยกยิ้มชั่วร้าย มือทั้งสองข้างกอดอก เอ่ยพลางเผยสีหน้าราวกับกำลังชมละครชั้นเลิศ
“ไอ้หยา วิ่งไวเสียจริง พวกเราไล่ตามเ้ามาตลอดทาง เพียงพริบตาเดียวก็หนีหายไปเสียได้
หากมิใช่เพราะพวกเรานั่งรถม้าเข้าไปสอบถามคนในหมู่บ้าน จึงรู้ว่าพวกเ้าทั้งครอบครัวแยกจวนและถูกปล่อยทิ้งไว้ยังสถานที่รกร้างเยี่ยงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ เช่นนั้นคงยากจะจัดการเ้าจริงๆ เสียแล้ว”
ขณะกล่าวยังเดินเข้ามามองพิจารณาเคอโยวหรานหนึ่งรอบ เอ่ยด้วยสีหน้ารังเกียจว่า
“จิ๊ๆๆ เหตุใดนายหญิงของข้าถึงได้มีลูกพี่ลูกน้องเช่นเ้า ผอมแห้งไม่ต่างกับท่อนฟืน ทั้งดำทั้งน่าเกลียด และเสื้อผ้าทั้งกายยังเต็มไปด้วยรอยปะ
กระทั่งขอทานในเมืองยังมีเนื้อหนังมากกว่าเ้าเสียอีก ช่างเป็พวกไส้แห้งอย่างแท้จริง”
กล่าวจบก็ถ่มน้ำลายด้วยความรังเกียจ จากนั้นเอ่ยกับบุรุษหลายคนที่อยู่ข้างหลังนาง
“สตรีผู้นี้ยกให้เป็หน้าที่ของพวกเ้าแล้ว เล่นสนุกได้ตามใจ หากตายก็โยนทิ้งให้หมาป่ากินเป็พอ”
บุรุษเจ็ดถึงแปดคนข้างหลังหญิงรับใช้ชุดเขียวต่างเผยสีหน้ารังเกียจขณะทอดมองเคอโยวหราน
“นี่คือสตรีที่เ้าพูดถึงหรือ บนกายไม่มีเนื้อสักนิด แค่คลำยังกระดูกทิ่มแทงมือ”
“ใช่แล้ว หากจะให้พวกเราเล่นสนุกกับสตรีเยี่ยงนี้ เ้าต้องจ่ายเงินมาเสียก่อน”
“ใช่ หากเ้าไม่จ่ายเงิน เช่นนั้นพวกเราก็จะเล่นสนุกกับเ้าแทน เพราะเ้างามกว่าสตรีผอมแห้งดำคล้ำผู้นี้มากทีเดียว”
“จิ๊ๆ ใช่แล้ว ดูผิวพรรณขาวเนียนเหล่านี้เถิด ราวกับหากบีบเคล้นจะมีหยาดน้ำหยดออกมาก็มิปาน”
หญิงรับใช้ชุดเขียวถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยสีหน้าซีดเผือด นางเอ่ยวาจาข่มขู่ว่า “ข้าเป็ถึงบุตรสาวของข้ารับใช้ที่เกิดในสกุลต่ง หากพวกเ้ารังแกข้า ก็ระวังจะถูกสกุลต่งแก้แค้นเอาไว้ให้ดี”
กล่าวจบก็ล้วงหยิบแท่งเงินสิบตำลึงจำนวนสองแท่งออกมาจากชายแขนเสื้อ โยนให้ผู้นำกลุ่มพลางเอ่ย
“นี่คือเงินค่าจ้างของพวกเ้า หลังเสร็จงาน ฮูหยินในจวนของข้าย่อมตกรางวัลให้อย่างงามแน่นอน”
ครั้นอันธพาลเ่าั้เห็นเงิน ต่างเผยรอยยิ้มและหันมองหน้ากัน เอ่ยอย่างเป็สุขว่า
“ฮ่าๆๆ เ้าวางใจเถิด กลับไปบอกฮูหยินในจวนของเ้า พวกเราทำงานไม่เคยหลอกลวงผู้ใด จะต้องทำให้ฮูหยินของเ้าพึงพอใจได้เป็แน่”
“ใช่ กลับไปบอกฮูหยินของเ้าให้เตรียมรางวัลเอาไว้ พวกเราจะต้องทำให้นังเด็กอัปลักษณ์ผอมแห้งผู้นี้มีความสุขถึงขีดสุดจนอยากตายเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ...”
หญิงรับใช้ชุดเขียวยกยิ้มพลางพยักหน้า “นั่นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเ้า ข้าจะกลับไปรายงานฮูหยินก่อน พวกเ้าค่อยๆ เสพสุขเถิด”
กล่าวจบก็วิ่งหนีไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ หัวหน้าอันธพาลแค่นเสียงเย้ยหยัน “หึ ขี้ขลาดถึงเพียงนี้ยังกล้ามาหาพวกเรา...”
พูดยังไม่ทันจบ พลันมีคนเอ่ยเตือนว่า “ลูกพี่ นังเด็กผอมดำผู้นั้นหายตัวไปแล้วขอรับ”
ครั้นคนทั้งกลุ่มเพ่งมอง ดังคาด มีหรือจะยังเห็นร่างเงาของเคอโยวหราน
พวกเขาต่างหันมองหน้ากัน เริ่มเสาะหาร่องรอยของเคอโยวหรานโดยอาศัยประสบการณ์ ทันใดนั้นก็มีคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า
“ลูกพี่ นางขึ้นเขาไปแล้ว จะไล่ตามหรือไม่ขอรับ?”
หัวหน้าอันธพาลถ่มน้ำลายก่อนเอ่ย “ก็แค่สตรีเพียงคนเดียว คงยังหนีไปได้ไม่ไกล ตามไป!”
เคอโยวหรานอาศัยความทรงจำยามขึ้นเขาเก็บฟืนของเ้าของร่างเดิม ใช้สายตามองสำรวจทิวทัศน์โดยรอบ คอยให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวทางด้านหลังและรอบกายตลอดทางที่มุ่งหน้าวิ่งขึ้นไปบนูเา
ถึงอย่างไรก็มีอันธพาลเจ็ดถึงแปดคนไล่ตามมา ทั้งยังมีสัตว์ร้ายที่คาดไม่ถึงอยู่บนูเาอีกด้วย
ยามนี้นางยังไร้ความสามารถในการปกป้องตนเอง ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับสิ่งใดล้วนต้องตายทั้งสิ้น
พลาดเสียแล้ว นางควรจะศึกษาวิชาพิษกับเซียนพิษสักระยะหนึ่งแล้วค่อยออกมาข้างนอก
อาจารย์ทั้งสองมีวรยุทธ์ล้ำเลิศถึงเพียงนั้น เหตุใดนางกลับไม่คิดจะเรียนรู้จากพวกเขาสักครึ่งกระบวนท่าเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวสักหน่อยเล่า!
ประมาทเกินไปแล้ว อยู่ในโลกที่ปกครองด้วยกฎหมายมานานเกินไป ครั้นมายังโลกที่ผู้อ่อนแอเป็เนื้อสมันผู้แข็งแกร่งเป็เสือสมิงเช่นนี้ นางจึงยังไม่ทันได้ฝึกฝนจนมีความระแวดระวังตัวอันพึงมี
ยามนี้ไร้ความสามารถปกป้องตนเอง การออกเดินทางเพียงลำพังคือข้อห้ามสำคัญอย่างแท้จริง เป็นางเองที่ใจร้อนจนเกินไป
เคอโยวหรานคิดในใจ หากสามารถรอดพ้นอันตรายในครั้งนี้ไปได้ นางจะตั้งใจศึกษาวิชาแพทย์พิษสักระยะหนึ่งอย่างแน่นอน
ตามด้วยรบเร้าให้ท่านอาจารย์ทั้งสองสอนวรยุทธ์เสียเป็ดี ที่นี่มิใช่โลกที่ปกครองด้วยกฎหมาย หมัดผู้ใดใหญ่ ผู้นั้นก็สามารถเรียกขานตนเองว่าาาได้
การคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมในการอยู่รอดของแคว้นฉีฉู่ปรากฏอย่างชัดเจนอยู่เบื้องหน้า นับได้ว่าครั้งนี้เป็การมอบหนึ่งบทเรียนที่ดีแก่ตนเอง
......
จวนสกุลต้วน ยามนี้สำนักคุ้มกันที่เคอโยวหรานกำชับให้ส่งข้าว เส้นหมี่ ธัญพืช และน้ำมันได้มาถึงแล้ว
ครั้นเห็นเสบียงอาหารกองเท่าูเาอยู่ในห้องครัว มารดาสกุลต้วนถึงกับหวาดหวั่นใจ แม่นางน้อยผู้นี้ใช้เงินทองของท่านปรมาจารย์ทั้งสองไปมากมายเพียงใดกัน
มิหนำซ้ำยังให้ท่านปรมาจารย์ทั้งสองรักษาและถอนพิษโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากพวกเขาไม่พอใจจะทำอย่างไรดี?
หลังส่งคนของสำนักคุ้มกันกลับไป ยังมีร้านผ้าอีกแห่งมาส่งม้วนผ้าที่เคอโยวหรานซื้อเอาไว้ ครั้นเห็นผ้าวางกองพะเนินจนเต็มโต๊ะ มารดาสกุลต้วนถึงกับใจนตัวโหยง
แม่นางน้อยผู้นี้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว เหตุใดจึงซื้อข้าวของมากมายถึงเพียงนี้กัน?
เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว นางจึงสอบถามคนส่งผ้าอย่างไม่ใส่ใจนักว่า “พ่อหนุ่ม ขอรบกวนถามเ้าว่าแม่นางที่ไปซื้อผ้าในร้านของพวกเ้าได้บอกหรือไม่ว่าจะกลับยามใด?”
คนผู้นั้นเผยสีหน้ายากอธิบาย “เอ๋ แม่นางผู้นั้นยังไม่กลับมาอีกหรือ? นางบอกกับเ้าของร้านว่าจะกลับจวนมารอให้พวกเรานำผ้ามาส่ง ตามหลักก็ควรจะมาถึงตั้งนานแล้วขอรับ”
ในใจของมารดาสกุลต้วนถึงกับกระตุก หลังส่งคนงานของร้านขายผ้ากลับไป พลันรีบวิ่งเข้าไปในห้องของต้วนซานหลาง...
......
บนเขาต้าชิง
เคอโยวหรานที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดไม่รู้ว่ายิ่งนางวิ่งก็ยิ่งเข้าไปในส่วนลึก ค่อยๆ เข้าสู่เขตป่าลึกของูเาต้าชิง
กลุ่มอันธพาลทางด้านหลังถูกเคอโยวหรานที่ดูอ่อนแอจนไร้เรี่ยวแรงจะมัดไก่ผู้นี้ทิ้งห่างจนไกลลิบ
ภายในใจของพวกเขาเปี่ยมด้วยความขุ่นเคือง ยิ่งไล่ตามยิ่งฮึกเหิม ตามเคอโยวหรานมุ่งหน้าเข้าสู่เขตป่าลึกของูเาต้าชิงโดยไม่รู้ตัว
“โฮก...” ทันใดนั้น หนึ่งเสียงคำรามะเืแก้วหูผู้คนพลันดังขึ้น
กลุ่มอันธพาลที่ไล่ตามเข้ามาในป่าลึกตระหนักได้ถึงความผิดปกติ มีคนผู้หนึ่งเอ่ยด้วยกายที่สั่นเทาว่า
“ลูกพี่ มิอาจไล่ตามต่อแล้วขอรับ ที่นี่มีเสือโคร่ง หากต้องเอาชีวิตของพวกพ้องมาเสี่ยงตายอยู่ที่นี่เพียงเพราะสตรีคนเดียวคงไม่คุ้มหรอกขอรับ”
“ใช่แล้วลูกพี่ พวกเรากลับกันเถิด สตรีผู้นั้นวิ่งเข้าป่าลึก ย่อมต้องโชคร้ายมากกว่าโชคดี พวกเราอย่าได้เสี่ยงอันตรายเพราะสตรีเช่นนี้เลยขอรับ”
หัวหน้ากลุ่มอันธพาลกวาดตามองสถานการณ์โดยรอบ ก่อนเอ่ยโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดว่า
“ไป พวกเรากลับ มารดามันเถิด ทางที่ดีสตรีผู้นี้จงตายอยู่บนูเา หากไม่ตายแล้วบังเอิญมาเจอข้า ข้าจะทำให้นางต้องชดใช้เป็สิบเท่าของวันนี้”
คนหนึ่งกลุ่มพากันหันหลังเดินย้อนกลับทางเดิม ทว่าน่าเสียดายที่โชคชะตาไม่เป็ใจ เดินไปได้ไม่ไกลก็ถูกฝูงหมาป่าล้อมเอาไว้...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้