ผลลัพธ์ของการทิ้งงานไปเมืองZคือปริมาณงานที่กองสุมเป็ูเาใน่ระยะเวลาแค่ไม่กี่วัน
ระหว่างทีู่เี่อันกำลังอาบน้ำลู่เป๋าเหยียนจึงเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาทำงานต่อนิ้วเรียวยาวของเขารัวแป้นคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว พลางกวาดตามองรูปภาพและเอกสารอันซับซ้อนบนหน้าจออย่างละเอียด
ความสามารถอันน่าทึ่งของเขาไม่ได้มาจากพร์ั้แ่เกิดแต่เป็ผลพลอยได้จากการทำงานอันหนักหน่วงของเขาใน่เวลาที่ผ่านมา
่ก่อตั้งบริษัทใหม่ๆมีเพียงเขากับเสิ่นเยว่ชวนแค่สองคนงานทุกอย่างจึงต้องลงมือทำเองทั้งหมด เขาได้นอนวันละไม่ถึง 5 ชั่วโมง เพราะต้องอ่านเอกสารปึกหนาและร่วมการประชุมเจรจามากมาย
ถึงภายหลังจะไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นแล้วแต่ประสิทธิภาพการทำงานของเขาก็ไม่ได้ด้อยลงเลยเขาใช้เวลาว่างทั้งหมดกับูเี่อันโดยที่เธอไม่เคยรู้
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ูเี่อันแช่ตัวเรียบร้อยจึงเตรียมก้าวออกจากอ่างอาบน้ำเพื่อสวมเสื้อผ้าแต่เพราะเอวและขาที่ได้รับาเ็ ทำให้เธอเคลื่อนไหวได้อย่างยากลำบากกว่าจะเดินมาถึงราวแขวนเสื้อผ้าในขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบชุด เธอก็ลื่นจนเซเสียก่อน
“กรี๊ด!”เธอร้องอย่างใ ก่อนจะคว้าอ่างล้างหน้าเอาไว้เพื่อพยุงตัวในตอนนั้นเองประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกอย่างแรงตามมาด้วยเสียงของลู่เป๋าเหยียนที่ดูร้อนใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อกี้เธอรอดจากการลื่นล้มมาได้แต่คราวนี้นี่สิ เกิด เื่ ใหญ่ แล้ว !
เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น!!!
“กรี๊ดดดด!!!”
ูเี่อันกรีดร้องเสียงดังก่อนจะหันหลังไปทันที“ออกไปนะ!”
เธอคิดจะนั่งกอดเข่าเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเห็นเรือนร่างของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ถึงอย่างนั้นเพราะขาขวากำลังถูกเข้าเฝือกเธอจึงได้ยืนเกาะอ่างล้างหน้าพลางหลบเข้าไปอยู่ข้างๆเธออยากจะะโลงไปในอ่างอาบน้ำเพื่อหนีความอายตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอด
ลู่เป๋าเหยียนนึกว่าูเี่อันลื่นล้มในห้องน้ำเขาเลยรีบวิ่งมาไม่คิดเลยว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะได้เห็นภาพที่...น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะรีบเบือนสายตาหนีพลางรวบรวมสติให้ใจเย็นลง
สองวินาทีต่อมาเขาก็เริ่มเข้าใจว่าที่เมื่อกีู้เี่อันร้องเสียงหลงขึ้นมาเพราะสาเหตุอะไรจึงสูดหายใจลึกพลางเดินเข้าไปหาเธอ
ูเี่อันได้ยินเสียงเขาเดินเข้ามาใกล้ก็แทบคลั่ง
“ตาบ้าจะเดินเข้ามาอีกทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
ลู่เป๋าเหยียนหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ราวมาพันรอบตัวเธอ
“เจ็บขาหรือเปล่า”
ูเี่อันพูดไม่ออกเขายืนอยู่ข้างหลังเธอแบบนี้ ทำให้เธอััได้ถึงไออุ่นร้อนที่แผ่ผ่านเสื้อเชิ้ตของเขาออกมารูปร่างที่สูงใหญ่ของเขายืนบังเธอจนมิด
ขณะที่เขาช่วยพันผ้าเช็ดตัวเลี่ยงไม่ได้ที่มือของเขาจะเผลอโดนผิวของเธอบ้าง ูเี่อันรู้สึกเหมือนทุกที่ที่เขาััร้อนรุ่มขึ้นมาทันใดความร้อนเ่าั้ค่อยๆกระจายไปทั่วร่าง...
ูเี่อันกลืนน้ำลายก่อนอึกอักตอบกลับไป
“ปะเปล่า แค่ลื่นนิดหน่อย”
ลู่เป๋าเหยียนหยิบเสื้อผ้าของูเี่อันและอุ้มเธอขึ้นมา
“กลับไปใส่เสื้อผ้าที่ห้องแล้วกัน”
ูเี่อันเพิ่งเคยอยู่อ้อมกอดเขาในสภาพที่‘เกือบเปลือย’ แบบนี้ ทั้งตัวเธอมีผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวห่มคลุมร่างกายเอาไว้่คองามระหงและแนวกระดูกไหปลาร้าอันงดงามที่เผยออกมาเพียงแค่ลู่เป๋าเหยียนก้มหน้าเล็กน้อยภาพเ่าั้ก็จะเข้าสู่สายตาทันที
ูเี่อันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องจึงขยับตัวเข้าไปหาอกแกร่งของลู่เป๋าเหยียนโดยอัตโนมัติอย่างหาที่หลบภัย เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเธอกำลังท้าทายความอดทนของลู่เป๋าเหยียนมากแค่ไหน
ภาพเมื่อครู่ก็ส่งผลกับเขามากพออยู่แล้วแต่นี่เธอดันขยับเข้าหาเขาอีก ทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการเต็มใจเปิดทางให้เขาเลย
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกเหมือนเืกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่งความปรารถนาบางอย่างเริ่มก่อตัว
เพื่อไม่ให้เกิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้เขาจึงรีบสาวเท้าตรงไปที่ห้องนอน ก่อนจะวางูเี่อันลงบนเตียง
“ฉันกลับไปที่ห้องรับแขกก่อนเสร็จแล้วก็เรียกนะ”
ูเี่อันมองตามแผ่นหลังของลู่เป๋าเหยียนไปอย่างช็อกๆเธอยกมือทาบอกอย่างใ ในตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าแต่เมื่อกี้...เหมือนว่าหัวใจของลู่เป๋าเหยียนก็เต้นแรงผิดปกติเช่นเดียวกันแถมร่างกายเขาดูเหมือนจะ...ร้อนๆแปลกๆ
หรือเพราะเขาตากฝนไปช่วยเธอบนเขาเลยเป็ไข้?
ูเี่อันลุกขึ้นนั่งก่อนจะรีบสวมเสื้อผ้าด้วยความเร็วแสงเธอสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งและส่งเสียงเรียก
“ลู่เป๋าเหยียนฉันเสร็จแล้ว”
ในตอนนั้นลู่เป๋าเหยียนกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างในห้องรับแขกเขาเปิดหน้าต่างออกไปจนสุด
ต้นฤดูใบไม้ร่วงของเมืองAในยามค่ำคืนเริ่มมีลมเย็นพัดผ่านเมื่อเปิดหน้าต่างออกไปสายลมก็พัดลอดเข้ามาปะทะร่างกายของเขาในทันที ซึ่งมันช่วยทำให้เขาใจเย็นลงบ้าง
เมื่อเสียงของูเี่อันดังขึ้นลมหายใจของเขาก็เริ่มติดขัดอีกครั้ง เขาสูดหายใจลึกก่อนจะผลักประตูเข้าไปูเี่อันกำลังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง พวงแก้มทั้งสองข้างแดงก่ำ แววตาดูสับสน
“อะแฮ่ม”ูเี่อันไม่กล้าสบตากับลู่เป๋าเหยียน “นะ นายมานี่หน่อย”
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกแปลกใจในเวลาแบบนีู้เี่อันเรียกเขาให้เข้าไปหา? เธอควรกลัวเขาจนขยับตัวหนีไม่ใช่เหรอ?
เขาเดินเข้าไปอย่างว่าง่ายูเี่อันตบมือลงบนขอบเตียงเบาๆพลางเอ่ย
“นั่งสิ”
ทำสิ? ——(คำว่า ‘นั่ง’ กับ ‘ทำ’ ในภาษาจีนออกเสียงเหมือนกันค่ะ : ผู้แปล )
แววตาของลู่เป๋าเหยียนแปรเปลี่ยนในชั่วพริบตาเขามองูเี่อันราวกับจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว
ูเี่อันรอจนเริ่มหงุดหงิดจึงดึงมือเขาให้นั่งลงเธอไม่นึกเลยว่าลู่เป๋าเหยียนจะใช้แขนสองข้างคร่อมตัวเธอเอาไว้พลางเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เขาเหมือนนักล่าที่ค่อยๆขยับเข้าหาเหยื่ออันโอชะที่หมายตามานาน
“ละลู่เป๋าเหยียน...” ูเี่อันเริ่มกลัวขึ้นมา “นายจะทำอะไร?”
“เธอบอกให้ฉัน‘ทำ’ ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันบอกให้นาย‘นั่ง’ ต่างหาก” ูเี่อันอยากจะร้องไห้ “ตอนนี้นายกำลังจะทะ...”
พูดได้แค่ครึ่งทางูเี่อันก็เข้าใจแล้วว่าลู่เป๋าเหยียนเข้าใจความหมายของเธอผิดไปแถมยังตีความไปทางเื่อย่างว่าอีกด้วย!
เธอยื่นมือออกไปััหน้าผากของเขาก่อนเอ่ย
“นี่นายฟังผิดไปงั้นเหรอเป็ไข้หรือเปล่าเนี่ย” อุณหภูมิที่ได้รับไม่ได้สูงอย่างที่คาดูเี่อันจึงเอียงคอเล็กน้อยอย่างแปลกใจ “ก็ไม่มีไข้นี่หน่า”
เธอมองลู่เป๋าเหยียนอย่างประหลาดใจราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสาที่กำลังต่อว่าคุณอาตรงหน้าว่า ‘ทำไมคุณอาถึงทำกับหนูแบบนี้ล่ะค่ะ?’
เดิมทีลู่เป๋าเหยียนกะจะแค่แกล้งเธออยู่แล้วเพราะรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงใจกล้าขนาดนั้นอีกอย่างตอนนี้เธอก็เคลื่อนไหวไม่สะดวก...
แต่พอเห็นสีหน้าของเธอในตอนนี้เขาก็อดแกล้งเธออีกหน่อยไม่ได้
ลู่เป๋าเหยียนดึงมือของูเี่อันออกจากหน้าผากก่อนจะพูดว่า
“วัดไข้แบบนี้ไม่ถูกต้องนะ”
ูเี่อันกะพริบตาปริบๆ“นายมีวิธีที่ดีกว่านี้งั้นเหรอ?”
“มีสิ”
ลู่เป๋าเหยียนยังคงไม่ปล่อยมือจากูเี่อันเขารั้งตัวให้เข้าสู่อ้อมกอด และใช้อีกมือโอบเอวเธอไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
“อุ้ย!”ูเี่อันอุทานอย่างไม่ทันตั้งตัว ถึงแม้เขาจะทำแบบนี้กับเธอมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่เธอก็อดเบิกตากว้างอย่างใไม่ได้ เธอขยับปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก
ั์ตาคู่เรียวยาวลึกลับของลู่เป๋าเหยียนเหมือนมีเวทมนต์ประหลาดหากใครเผลอไปสบเข้าแล้วล่ะก็ จะต้องหลงใหลไปกับมันโดยไม่รู้ตัว
“เจี่ยนอันหลับตาลง” เขาสั่งเธอด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะก้มหน้าเข้าใกล้เธอทีละนิด...
ทั้งที่รู้ดีว่าลู่เป๋าเหยียนคิดจะทำอะไรสติร้องบอกเธอว่าให้ผลักเขาออก แต่ร่างกายของเธอกลับไม่เชื่อฟังซะได้ ขนตางอนยาวของเธอสั่นไหวก่อนจะหลับตาลงอย่างเผลอไผล
วินาทีต่อมาเรียวปากบางก็ััได้ถึงความอุ่นร้อนที่ส่งผ่านมา
จะเรียกว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังจูบเธออยู่ก็ได้แต่ตอนนี้เขาเหมือนกำลังชิมรสชาติของเธออย่างระมัดระวังเสียมากกว่า
เมื่อก่อนถึงเขาจะจูบเธออย่างอ่อนโยนแต่ก็ยังคงวางอำนาจและไม่ยอมให้เธอปฏิเสธอยู่บ้างแต่ครั้งนี้เขาจูบเธออย่างทะนุถนอมพลางโอบเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ ราวกับกำลังปกป้องเธอไม่ให้ได้รับอันตราย
เวลาที่เขาวางอำนาจเธอไม่อาจจะปฏิเสธ
เวลาที่เขาอ่อนโยนเธอก็ไม่อาจจะต่อต้าน
ลู่เป๋าเหยียนคือจุดอ่อนของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอคิดจะยอมแพ้หลายครั้งหลายหน แต่สุดท้ายก็ลืมเขาไม่ลง
มือสองข้างของูเี่อันโอบรอบท้ายทอยของลู่เป๋าเหยียนและเริ่มจูบตอบเขาอย่างเผลอไผล
อาจเพราะเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จทำให้มือของเธอค่อนข้างเย็น เมื่อััเข้ากับท้ายทอยของลู่เป๋าเหยียน ความปรารถนาที่เขาอุตส่าห์ข่มมันลงไปได้ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าเป็เื่การควบคุมตัวเองลู่เป๋าเหยียนดูจะเก่งกว่าูเี่อันอยู่เล็กน้อย เขาพยายามอดกลั้นอย่างเต็มกำลังก่อนจะปล่อยูเี่อันให้เป็อิสระ
หากปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้คืนนี้เขาอาจจะปล่อยมือจากเธอไปไม่ได้อีก
เมื่อผละจากอ้อมกอดของลู่เป๋าเหยียนูเี่อันรู้สึกราวกับกำลังลอยล่องอยู่ในความเวิ้งว้าง แววตาของเธอยังคงสับสนขณะที่มองมาทางลู่เป๋าเหยียน
เพียงชั่วอึดใจใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อ เธอรีบก้มหน้าอย่างเขินอายกับเื่ที่ตนทำลงไปเมื่อครู่
ลู่เป๋าเหยียนชอบเวลาทีู่เี่อันเป็แบบนี้ที่สุดเธอทำตัวเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่กำลังหลงทาง ทำให้คนมองอยากจะปกป้องและรังแกในเวลาเดียวกัน
เขากลัวว่าตัวเองจะหลงใหลจนลืมตัวอีกครั้งจึงรีบลุกขึ้นยืน
“เธอนอนก่อนเถอะฉันจะไปอาบน้ำ”
เมื่อประตูห้องน้ำถูกปิดลงูเี่อันก็คิดได้ว่า นี่ลู่เป๋าเหยียนจะอยู่กับเธอที่โรงพยาบาลงั้นเหรอ?
เธอเม้มปากเล็กน้อยความอ่อนหวานเริ่มแทรกซึมเข้ามาในจิตใจ พร้อมกับความร้อนบนใบหน้าที่ทำให้เธอแทบคลั่ง
ลู่เป๋าเหยียนชำระร่างกายด้วยน้ำเย็นกว่า20นาทีจึงเดินออกมา ูเี่อันกำลังดูหนังจากแท็บแล็ตจึงไม่รู้ตัวว่าลู่เป๋าเหยียนอาบน้ำเสร็จแล้ว
เมื่อเขาเดินมาตลบผ้าห่มออกูเี่อันจึงเบิกตากว้างพลางถาม
“นายจะทำอะไร?”
“นอน”ลู่เป๋าเหยียนตอบ
“จะนอนก็ไปนอนสิแล้วขึ้นมาบนเตียงฉันทำไม” ูเี่อันชี้ไปที่ประตูห้อง“ข้างนอกยังมีห้องนอนอีกห้องนี่” ห้องนั้นเป็ห้องสำหรับคนที่มาเฝ้าไข้โดยเฉพาะการตกแต่งไม่ต่างจากห้องนอนปกติ แถมยังนอนสบายกว่าห้องผู้ป่วยของเธอด้วยซ้ำ
ลู่เป๋าเหยียนไม่แม้แต่ปรายตามองห้องที่ว่าเขาเอนตัวลงบนเตียงทันที
“มันไกลฉันี้เีเดิน”
ูเี่อันพูดไม่ออกเดินออกไปยังไม่ถึงร้อยก้าว ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที มันไกลตรงไหน? ยังไง?
คนชอบพูดกันว่าลู่เป๋าเหยียนไอคิวสูงลิ่วไม่ใช่เหรอแล้วทำไมเขาถึงหาข้ออ้างได้แย่ขนาดนี้
ูเี่อันพูดอย่างหงุดหงิด“นั่นไม่ใช่เหตุผลนะ...”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“ฉันอยากจะนอนกับเธอ เหตุผลนี้โอเคหรือยัง?”
“……”
ูเี่อันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าเธอมองลู่เป๋าเหยียนอย่างอึ้งๆ จนแท็บแล็ตถึงกับไหลหลุดมือ
บางครั้งลู่เป๋าเหยียนก็ชอบทำตัวรุ่มร่ามแต่นี่เป็ครั้งแรกที่เขาทำตัวรุ่มร่ามกับเธอได้อย่าง...หน้าตาเฉยขนาดนี้ ที่น่าแปลกก็คือทำไมเธอถึงสวนกลับเขาไม่ได้นี่สิ
ูเี่อันลอบกลืนน้ำลายใบหน้าของเธอแดงขึ้นทันที เธอจึงเบือนหน้าหนีเขา
“นะนายมันโรคจิต!”
ูเี่อันสูญเสียความสามารถในการโจมตีเป็ที่เรียบร้อยขนาดจะต่อว่าเขายังพูดติดๆขัดๆ
คนโรคจิตเห็นดังนั้นจึงหยิบแท็บแล็ตของไปวางที่โต๊ะหัวเตียงก่อนจะรั้งตัวูเี่อันให้นอนลง และเอื้อมมือไปปิดไฟ
ูเี่อันดิ้นอย่างประท้วงแต่วินาทีต่อมาเธอก็ถูกลู่เป๋าเหยียนจับตัวเอาไว้
“เธออยากจะลองััอะไรที่โรคจิตกว่านี้ไหมล่ะ?”
“……”
สิ้นคำูเี่อันก็ตัวนิ่งเกร็งไม่กล้าขยับไปไหนอีก
นี่เธอกลายเป็คนใจเสาะแบบนี้ไปั้แ่เมื่อไรเนี่ย...
