“ยาต้าฮ่วนเป็โอสถระดับสาม! เ้าเป็เพียงนักยุทธ์ระดับดาราวงแหวนใหญ่ ไม่สามารถดูดซับพลังโอสถได้มาก! อีกไม่นาน เส้นปราณเ้าจะถูกทำลายและตายในที่สุด!”
“เมื่อเ้าตายข้าจะเก็บร่างเ้า นำเนื้อเ้าไปกิน กรีดเืเ้าไปดื่ม!” ชายชราะโด้วยความโกรธ จากนั้นจึงนั่งลงบนพื้น รอหยวนจุนถูกพลังโอสถทำลายเส้นปราณ
หยวนจุนแบะปาก แต่ก็รู้สึกโล่งใจ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ายาต้าฮ่วนเป็โอสถระดับสาม นักยุทธ์ระดับตะวันขึ้นไปจึงกินได้ มิเช่นนั้นจะทนพลังโอสถไม่ไหว
แต่ภายในร่างกายเขาไม่มีเส้นปราณอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าเส้นปราณจะถูกทำลาย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่บุ่มบ่ามกลืนยาลงไป
ผ่านไปครึ่งวัน ท้องฟ้ามืดสนิท หยวนจุนยังคงนั่งท่ามกลางเขตควบคุมพลังจิตในท่าขัดสมาธิ ทำความเข้าใจอักษรลับเก้าตะวัน
ชายชราเริ่มวิตกกังวล เขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า “ตามหลักแล้ว หากนักยุทธ์ระดับดารากลืนยาต้าฮ่วนลงไป ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามยาก็จะกระจายทั่วร่างกาย แต่นี่ผ่านมาครึ่งวันแล้ว ทำไมเ้าหนุ่มนั่นยังไม่เป็อะไรเลย!?”
“ช่างแปลกประหลาด” ชายชราหรี่ตา จ้องมองหยวนจุนอย่างไม่ละสายตา นั่งนิ่งเงียบ ไม่เปลี่ยนอารมณ์แม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ ชายชราคลายเขตควบคุมพลังจิต แล้วะโใส่หยวนจุนว่า “เ้าหนุ่ม หรือว่าเ้าหลอกข้า เ้าไม่ได้กลืนยาลงไป!”
เขารีบเขวี้ยงเข็มพลังจิต เข็มนั้นแฉลบไปโดนหน้าของหยวนจุนจนเืออก จากนั้นเขาไม่รีรอที่จะใช้ลิ้นเลียเืที่ไหลออกมา
หลังจากนั้นความใก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายเขาถึงกับสั่น
เืของหยวนจุนมีพลังโอสถอยู่ภายใน แสดงให้เห็นว่า ยาต้าฮ่วนได้หลอมรวมกับภายในเขาแล้วอย่างแน่นอน
ชายชราครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะยื่นมือผอมบางออกไปข้างหน้า พลังจิตะเิออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็มือทรงพลังแล้วจับคอเสื้อเขาเอาไว้ ก่อนจะเหาะออกไปจากที่นี่
หยวนจุนรู้สึกเวียนหัว ความเร็วระดับนี้ อย่างน้อยก็เทียบได้กับนักยุทธ์ระดับจันทราวงแหวนขั้นเก้า
“ตุ้บ ตุ้บ”
หลังจากถูกชายชราโยนลงบนพื้น หยวนจุนกลิ้งไปสองสามรอบ เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นบ้านไม้ขนาดเล็กสามหลังอยู่ตรงหน้า แม้จะดูซอมซ่อ แต่ก็ยังมีลานบ้าน
“ท่านปู่ ดูเหมือนเหยื่อวันนี้จะตัวใหญ่นะ เสียงตกลงพื้นดังสนั่นเชียว”
เมื่อถูกเสียงหวานดึงความสนใจ ทำให้หยวนจุนอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง แม้จะเห็นเพียงด้านหลัง เขาก็รู้ได้ว่าสตรีนางนี้ต้องงามมากแน่!
แค่สองขาเรียวยาวภายใต้กระโปรง ก็บ่งบอกได้ว่างามยิ่งกว่าผู้ใดในแผ่นดิน
ผมของนางยาวสลวยดุจดั่งเส้นไหม ร่างอรชรรางๆ ทำให้หยวนจุนตะลึงไปครู่หนึ่ง
นางหันกลับมา เมื่อเห็นปู่ของตนเองโยนหยวนจุนลงพื้น นางก็ตกตะลึงเช่นกัน
สักพักนางก็หัวเราะออกมา เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่ได้สัดส่วน ดวงตาเรียวยาวงดงาม นางหันไปหยอกล้อกับชายชราที่กำลังถือถังน้ำออกมา
“ท่านปู่ หากท่านนำสัตว์ป่ากลับมาดังเช่นเคย ข้าคงคิดหาทางจัดการกับมันได้ แต่ครั้งนี้ท่านพาเ้าหนุ่มมอมแมมนี่กลับมา จะให้หลานจัดการอย่างไร? เผาหรือย่างดี?”
ชายชราวางถังไม้ลงข้างๆ หยวนจุน ไม่ตอบคำหยอกล้อของหลานสาว แต่กลับเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “เสี่ยวเมิ่ง นำมีดมากรีดเื!”
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็จับชายชราที่ดูเหมือนโดนคาถาอาคม แล้วเลิกคิ้วถามว่า “ท่านปู่ ท่านจะกินคนจริงๆ หรือ!”
“สามสิบปีแล้วที่ข้าไม่ได้ฆ่าคนตามอำเภอใจ! เ้าหนุ่มนี้กลืนยาต้าฮ่วนที่ข้าเก็บไว้กว่ายี่สิบปี! ของสะสมยี่สิบปี! พลังโอสถของยาต้าฮ่วนรวมกับภายในของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว!”
“ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ข้าจะดื่มเืของเขาวันละชาม จนกว่าพลังโอสถจะหมด!”
เมื่อเห็นชายชราตาแดงก่ำ ริมฝีปากชมพูของเสี่ยวเมิ่งก็ยกขึ้นเบาๆ นางกล่าวพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ ว่า “ยาต้าฮ่วนนั่นท่านเก็บมายี่สิบปี เกรงว่าตอนนี้คงเสียรสชาติไปแล้ว เ้าหนุ่มนี้กลืนลงไป ท่านต้องดีใจถึงจะถูกนะ”
ชายชราเตะถังไม้อย่างแรง ตีอกชกหัวอยู่สักพัก ก่อนจะยอมแพ้กับสิ่งที่กำลังคิดเมื่อครู่นี้ เขาเดินกลับเข้ากระท่อมไม้ของตนเองแล้วปิดประตูดังปัง
จากนั้นเสียงร้องไห้คร่ำครวญก็ดังออกมาจากกระท่อม เสียงร้องอย่างปวดใจ ทำให้หยวนจุนที่ได้ยินนั้นรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เสี่ยวเมิ่งใจเย็นกว่ามาก นางขยับปากน้อยๆ ถามขึ้นว่า “แม้แต่ของรักของท่านปู่ก็ยังกล้าขโมย เ้านี่ใจกล้าไม่เบาเลยนะ ว่าแต่...”
หลังจากมองดูทั่วร่างของหยวนจุนแล้ว เสี่ยวเมิ่งก็มีสีหน้าประหลาดใจ “หรือจะเป็อย่างที่ข้าพูดจริงๆ ยาต้าฮ่วนของท่านปู่เสียรสชาติไปแล้ว พลังโอสถสลาย จึงทำให้เส้นปราณของคนธรรมดาสามารถทนได้?”
เมื่อหยวนจุนถูกดวงตางามคู่นั้นจ้องก็รู้สึกอึดอัด เขายืนขึ้นแล้วปัดเศษดินบนตัว กล่าวนิ่งๆ ว่า “ในเมื่อจบเื่แล้ว เช่นนั้นข้าขอลา”
เสี่ยวเมิ่งเหล่มองเขา ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “เกรงว่าท่านปู่คงไม่ยอม”
“ข้าไม่สนว่าผู้เฒ่านั้นจะยอมหรือไม่!” หยวนจุนบ่นในใจ หันหลังเดินออกไป แต่เดินไปได้เพียงสองก้าว ก็ถูกพลังจิตที่เปลี่ยนเป็เชือกรั้งตัวไว้
ชายชราโผล่หน้ามาทางหน้าต่างด้วยความเกรี้ยวโกรธแล้วกล่าวว่า “คิดจะหนีหรือ ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก! ั้แ่พรุ่งนี้ เ้าต้องไปขายของให้ข้ากับเสี่ยวเมิ่ง! จนกว่าความโกรธของข้าจะหมดไป!”
“เสี่ยวเมิ่ง คอยเฝ้าสังเกตเขาไว้ ถ้าปล่อยให้เขาหนีไปได้ ปู่จะไม่ยกโทษให้เ้า!”
หลังจากได้ฟังประโยคสุดท้ายที่ไร้เรี่ยวแรง เสี่ยวเมิ่งโบกมือเรียวอย่างอ่อนโยน และตอบกลับไปว่า “เข้าใจแล้ว!”
หยวนจุนรู้สึกว่าหญิงงามที่อยู่ตรงหน้านี้น่าจะอายุไล่เลี่ยกับเขา เพียงแต่เป็นักยุทธ์ระดับดาราวงแหวนเล็กขั้นหนึ่ง เขาแอบหัวเราะแล้วพึมพำว่า “แม้แต่วงแหวนใหญ่ขั้นสองข้ายังไม่กลัวเลย คิดว่าแค่สตรีนางเดียวจะรั้งข้าได้หรือ?”
เสี่ยวเมิ่งพอคาดการณ์ได้ว่าหยวนจุนกำลังคิดอะไร นางหลับตาลง สะบัดนิ้วเรียวยาว จากนั้นพลังจิตก็ปรากฏ กลายเป็ดรรชนีพลังจิต กระแทกเข้าตรงหัวใจของหยวนจุน
“นี่คือดรรชนีพลังจิตที่เป็เอกลักษณ์เฉพาะของข้า หากเ้าคิดหนีไปจากเงื้อมมือข้า เ้าจะได้ััมัน”
เสี่ยวเมิ่งหันหลังแล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “พรุ่งนี้เ้าต้องไปขายของในเมืองกับข้า หลังจากได้เงินแล้ว บางทีข้าอาจพิจารณาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เ้านะ”
“แต่ก่อนหน้านั้นเ้าต้องทำตัวให้ดี ถ้าวันหนึ่งท่านปู่โกรธและจะจับเ้ากิน ข้าก็ไม่สนนะ” เสี่ยวเมิ่งเหลือบมองหยวนจุน จากนั้นก็ชี้ไปที่บ้านไม้หลังสุดท้ายแล้วกล่าวว่า “เ้านอนที่นั่นไปก่อนแล้วกัน”
หยวนจุนฉีกเสื้อยุทธ์ที่ขาดหลุดลุ่ยเพื่อดูรอยที่หน้าอก เขาถึงกับพูดไม่ออก
“พลังจิตของสตรีนางนั้นแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็สูงกว่าพลังยุทธ์ของข้าในตอนนี้ ดูแล้วกว่าข้าจะสามารถหนีออกไปได้ คงต้องอยู่ที่นี่สักพัก!”
เมื่อเข้าไปในบ้านไม้ แม้ข้าวของเครื่องใช้จะเรียบง่ายและฝีมือหยาบ แต่ก็สะอาดพอสมควร หยวนจุนนั่งขัดสมาธิ จากนั้นก็กลั่นพลังโอสถของยาต้าฮ่วนออกมาอย่างรวดเร็ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้