สวี่ตี้ถูกคนนำตัวมาส่งที่เรือนด้านหลังสำนักงานเขต จางจ้าวฉือเห็นแล้วก็ใจนลุกขึ้นยืน สวี่ตี้ที่เห็นเช่นนั้นก็หน้าขาวซีดไป พร้อมกับรีบเอ่ย “ท่านแม่ ท่านแม่ ระวังหน่อยสิขอรับ ท่านท้องจะเก้าเดือนอยู่แล้ว จะต้องระมัดระวังให้มากนะขอรับ”
จางจ้าวฉือสาวเท้ามาตรงหน้าของสวี่ตี้ก่อนจะเอ่ยถาม “เ้าออกไปส่งคนไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้ทำตัวเองจนกลายเป็เช่นนี้? แม่ขอดูแผลของเ้าก่อน”
สวี่ตี้รีบถอดเสื้อออก จางจ้าวฉือเห็นว่าได้จัดการกับปากแผลมาแล้วก็พยักหน้า “แค่ดูก็รู้ว่าเป็ฝีมือของหมอเสี่ยวหวัง จัดการได้ไม่เลว เดี๋ยวแม่จะเปิดห้องให้เ้า ให้ชิงเหมี่ยวต้มยาบำรุงมาให้ดื่มก็คงจะไม่เป็อะไรแล้ว แต่ว่าปากแผลจะโดนน้ำไม่ได้ หลายวันนี้เ้าอย่าเพิ่งอาบน้ำเลย แล้วก็อย่าทำกิจกรรมที่มันหักโหมจนเกินไป เดี๋ยวปากแผลจะปริอีก”
สวี่ตี้ฟังคำสั่งของหมอจางอย่างละเอียด รอจนกระทั่งหมอจางจ่ายยาเสร็จแล้ว ก็ส่งยาไปให้กับชิงเหมี่ยว เขานั่งลงแล้วพูดกับจางจ้าวฉือเสียงเบา “ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าเกือบจะจับเป็องค์ชายห้าได้แล้ว ท่านแม่ ยาที่ท่านปรุงพวกนั้นใช้ได้ดีมากเลยขอรับ ประสิทธิภาพดีมาก”
จางจ้าวฉือเอ่ย “ประสิทธิภาพดี แต่ต้นทุนสูงเกินไป เพื่อปรุงยาพวกนั้นให้เ้า สมุนไพรมีค่ามากมายข้าก็เอามาใช้จนหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะเ้าซื้อบ้านสวนให้ข้า ข้าไม่มีทางปรุงให้เ้าหรอก”
สวี่ตี้หัวเราะแล้วตอบ “ขอรับ ขอรับ ขอรับ รอไปก่อนเถิดข้าจะหาสมุนไพรดีๆ มาให้ท่านดีหรือไม่?”
จางจ้าวฉือตอบ “เ้านี่ก็นะ เอาปืนกระบอกเดียวไปสู้ม้าทั้งฝูง เอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายก็ยังทำไปได้ นี่คือานะ เ้าคิดว่าเป็การฝึกหรือ หากพวกนั้นจับเ้าไปแล้ว บอกจะฆ่าเ้าพวกเขาก็ฆ่าเลยนะ”
สวี่ตี้เอ่ย “ข้ารู้ ข้าเข้าใจขอรับ ท่านแม่ เช่นนั้นข้าพาท่านกับแม่นมลู่แล้วก็จือเอ๋อร์กลับไปเมืองหลวงดีหรือไม่ พวกท่านอยู่ที่นี่ข้าเป็ห่วงมาก”
จางจ้าวฉือหัวเราะ “พ่อของเ้าอยู่ที่ไหนข้าก็จะอยู่ที่นั่น ข้าเชื่อมั่นในพ่อของเ้า”
สวี่ตี้ถอนหายใจ หมุนตัวเดินออกไปหาสวี่เหรา
สวี่เหราคิดไม่ถึงว่าสวี่ตี้จะกล้าขนาดนี้ หลังจากฟังเื่ั้แ่ต้นจนจบ ก็เอ่ยขึ้นว่า “ต่อไปอย่าทำเช่นนี้อีก นี่คือาที่ใช้มีดจริงปืนจริงไม่ใช่การฝึก แล้วก็ไม่ใช่เกมที่าเ็หรือตายไปก็ยังให้โอกาสเ้าได้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง”
สวี่ตี้ฟังก็รู้สึกผิดมาก กระทั่งสวี่เหราที่กำลังสั่งสอนสวี่ตี้เองความกลัวในใจของเขาก็แผ่ออกมาด้วย ถึงได้ลากสวี่ตี้ลงมานั่งข้างกายพร้อมพูดเสียงเบา “เป็องค์ชายห้าของเป่ยตี้มาจริงๆ หรือ?”
สวี่ตี้พยักหน้า “ใช่ขอรับ”
สวี่เหราลูบคาง “เ้ายังคิดออกหรือไม่ว่าเขาหน้าตาเป็อย่างไร?”
สวี่ตี้ครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้วเอ่ย “สองคนนั้น ข้าเองก็ไม่รู้ว่าคนไหน ไม่เช่นนั้นข้าก็คงวาดออกมาให้ท่านแล้ว”
สวี่ตี้เคยเรียนร่างภาพ วาดภาพเหมือนคนง่ายๆ นั้นก็ยังพอได้อยู่
หาถ่านมาหนึ่งแท่ง หลังจากวาดไปได้สองสามที ก็ปรากฏภาพคนเป่ยตี้หน้าตาดุดันบนกระดาษ
สวี่เหรายืนอยู่ด้านหลังของสวี่ตี้แล้วมองภาพ “คนนี้คงจะไม่ใช่หรอก องค์ชายนะ ไม่มีทางหน้าตาดุดันขนาดนี้หรอก?”
สวี่ตี้เอ่ย “อย่างไรหนึ่งในสองคนนี้ หากคนนี้ไม่ใช่องค์ชายก็คงเป็องครักษ์ข้างกาย รอวาดอีกภาพเสร็จแล้วท่านก็ไปดูบนกำแพง ว่าตำแหน่งของผู้นำใช่หนึ่งในสองคนนี้หรือไม่ก็พอแล้ว”
สวี่เหราเอ่ย “ดูเวลาก็จะเที่ยงแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเปิดากันเมื่อไหร่”
สวี่ตี้เอ่ย “ยังไม่เริ่มโจมตี ตอนนี้พวกเราก็รีบพักผ่อนก่อนเถิดขอรับ ประตูทางทิศเหนือทิศใต้ให้ส่งคนไปเพิ่มอีก ะเิสัญญาณเอาไปพอแล้ว ที่นั่นมีอันตรายอะไรจะต้องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทันที พวกเราเตรียมตัวมาพร้อมขนาดนี้ ยังจะรับมือไม่ไหวอยู่อีกหรือขอรับ?”
สวี่เหราเอ่ย “ก็กลัวแต่ว่าพวกเขาล้อมนานไปพวกเราจะไม่มีอะไรกิน ไม่รู้ว่ากองเสริมของราชสำนักจะส่งมาถึงเมื่อไหร่”
สวี่ตี้ออกความคิดถึงสถานการณ์ “ท่านพ่อ ท่านจะต้องจำเอาไว้หนึ่งประโยค ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะต้องเชื่อตัวเอง กองเสริมของราชสำนักพวกเราไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอกนะขอรับ”
สวี่เหราตั้งใจมองสวี่ตี้ หลังจากที่แม่นมลู่กลับมาจากเมืองหลวง ก็พูดเื่ที่เมืองหลวงให้ครอบครัวสกุลสวี่ฟัง ล้วนเป็คำที่เฉินอู่ฝูพูดกับแม่นมลู่ จากคำพูดพวกนั้นสวี่ตี้สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่า ที่คนเป่ยตี้ลอบเข้าโจมตีในครั้งนี้ ไม่แน่ว่าจะเป็พวกองค์ชายพาเข้ามา
สวี่เหราเองก็ปวดหัวกับองค์ชายเหล่านี้ที่ต่อสู้กันทั้งที่ลับที่แจ้งเพื่อตำแหน่งนั้น จนถึงขั้นเอาความปลอดภัยของแคว้นมาเสี่ยงเพื่อผลประโยชน์ แต่ว่านี่คือสังคมที่ฮ่องเต้มีอำนาจ พื้นดินภายใต้โลกนี้ก็เป็ของกษัตริย์ ผืนทะเลก็เป็ของกษัตริย์ ตนเองที่เป็ขุนนางคนหนึ่งจะไปพูดอะไรได้?
สวี่ตี้เอ่ย “อุปกรณ์ที่ท่านปู่ให้มาพวกนั้นข้าได้เอาไปซ่อนแล้ว ในเวลาสำคัญก็สามารถเอาออกมาป้องกันได้ครู่หนึ่ง ตอนนี้ที่ข้ากลัวก็คือแคว้นเยี่ยนจะเปิดทางให้เป่ยตี้มาทางพวกเราตลอดหรือไม่ ถ้าหากเป็เช่นนั้น ก็จะมีคนเป่ยตี้มาโจมตีพวกเราเรื่อยๆ ถ้าหากแคว้นเยี่ยนให้เป่ยตี้ยืมเส้นทาง หากจำกัดจำนวนคนละก็ คนพวกนี้ พวกเราก็สามารถเอาเข้ามาในเมืองแล้วจัดการได้”
สวี่เหราเอ่ย “เื่นี้พวกเราจะรู้ได้อย่างไร? ถึงอยากจะไปสอบถามก็ไม่รู้ว่าจะไปสอบถามที่ไหน”
สวี่ตี้เอ่ย “เช่นนั้นก็ทำได้แค่เฝ้าระวังแล้ว พวกเราจะต้องรักษาความสามารถของพวกเราเอาไว้ให้ดี ไม่รู้ว่าจะต้องอดทนไปถึงเมื่อไหร่ ั้แ่ตอนนี้ไป จะต้องเริ่มดูแลเสบียง เื่ยุทโธปกรณ์ก็ต้องยิ่งปิดเอาไว้ให้มิด”
สวี่เหราเอ่ย “อากาศหนาวแล้ว ข้ากลัวว่าพวกเขาจะสร้างทางเดินบนน้ำเพื่อมาทำลายเมืองเรา”
สวี่ตี้ยิ้มเย็น “เช่นนั้นก็ให้พวกเขาทำไป พวกเราก็มีน้ำมันดิบไม่ใช่หรือ ถึงตอนนั้นก็เผาไปเลย แค่ใช้ไฟก็พอ”
จนกระทั่งถึงเวลากลางคืน คนเป่ยตี้ที่อยู่ด้านนอกเมืองยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ในเมืองกลับเกิดความโกลาหล มีหลายคนที่อยากจะออกจากประตูเมืองทิศตะวันออกเพื่อหลบหนี คนที่เฝ้าประตูเมืองต่างพากันห้าม จนกระทั่งค่ำมากแล้ว ทางด้านประตูทางทิศเหนือก็ยังคงโวยวายเสียงดัง
เรือนที่สกุลสวี่พักอาศัยอยู่ใกล้กับประตูเมืองทางทิศเหนือค่อนข้างมาก จางจ้าวฉืออยู่ในเรือนรู้สึกรำคาญมาก จึงพาท้องโย้ของตัวเองออกไปด้านนอก
ข้าราชการที่เฝ้าประตูเมืองเห็นจางจ้าวฉือก็รีบร้องเรียก “ฮูหยิน” จางจ้าวฉือขมวดคิ้วมองคนที่ล้อมอยู่หน้าประตูเมือง “ดึกขนาดนี้แล้วพวกเ้าจะทำอะไร? ไม่อยู่ป้องกันในเรือนตัวเองดีๆ มาล้อมประตูเมืองทำอะไรกัน?”
มีคนชราคนหนึ่งเดินเข้ามาบอก “ข้ารอจนฟ้ามืดแล้ว จะไปหลบาที่บ้านญาตินอกเมืองขอรับ”
จางจ้าวฉือได้ยินก็หัวเราะเสียงเย็น “หลบ? เมืองเหอซีคือบ้านของพวกเ้า พวกเ้าออกไปหลบแล้วบ้านของพวกเ้าจะทำเช่นไร? เพื่อบ้านของพวกเ้า ครอบครัวของพวกเราเดินทางจากเมืองหลวงมาที่นี่ ช่วยพวกเ้าสร้างบ้านสร้างสวน ช่วยพวกเ้าปกป้องบ้านเรือน พวกเ้ากลับคิดที่จะหนีหรือ?”
ทุกคนต่างแบกถุงผ้าเอาไว้ด้านหลัง ได้ยินคำพูดของจางจ้าวฉือก็มองหน้ากันไปมา
มีคนอายุไม่มากพูดขึ้น “ฮูหยิน บ้านของท่านอยู่ในสำนักงานว่าการเขต ที่นั่นเป็เรือนที่ดีที่สุดของเมืองนะขอรับ”
ยังไม่ทันพูดจบ จางจ้าวฉือก็เอ่ย “ขอแค่เมืองนี้แตกแล้วบ้านที่ไหนก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะบ้านกระเบื้อง กระท่อมฟางอะไรก็จะถูกคนเป่ยตี้ทำลายจนหมดสิ้น จะบอกกับพวกเ้าตรง ๆ เลยนะ อย่าพูดว่าตอนนี้ไม่ให้เปิดประตูเมืองตามใจชอบเลย แค่เปิดประตูให้พวกเ้า พวกเ้ารับประกันว่าจะไม่ถูกคนเป่ยตี้ดักฆ่าหรือ?”
ทุกคนมองหน้ากันเอง จางจ้าวฉือพูดต่อ “ตอนกลางวันทางเหนือของเมืองก็ได้พบร่องรอยของคนเป่ยตี้ อีกทั้งยังเกิดการปะทะกับทหารคุ้มกัน พวกเ้าคิดว่าพวกเ้าคุ้นเคยกับพื้นที่นอกเมือง ใช้ความคุ้นเคยกับพื้นที่ก็สามารถหนีได้แล้วหรือ? พวกเ้าสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าหลังจากพวกเ้าออกไปแล้วจะไม่เป็เป้าล่อที่มีชีวิตของคนเป่ยตี้น่ะ?”
มีคนพูดเสียงเบา “คงไม่เป็เช่นนั้นหรอกกระมัง?”
จางจ้าวฉือเอ่ยขัด “เหตุใดจะไม่ได้? นี่คือา ไม่ใช่ละคร เป็าที่คนตายจริงๆ เหตุใดตอนนี้คนเป่ยตี้ถึงยังไม่ลงมือ นั่นก็เพราะว่าพวกเขายังอดทนใช้แผนร้าย ไม่แน่ว่าหลังจากจับพวกเ้าแล้ว ก็เอาพวกเ้ามาอยู่ข้างหน้าแล้วเริ่มโจมตีพวกเรา ถึงตอนนั้นพวกเ้าก็จะเป็โล่เนืุ้์ให้กับพวกเขา พวกเ้าทำเช่นนี้ไม่ใช่จะเอาชีวิตไปให้คนเป่ยตี้หรือไร?”
พวกคนที่แบกห่อผ้าไว้ด้านหลังก็เริ่มถอยหลัง ปรึกษากันเสียงเบา “ที่ฮูหยินพูดมาก็มีเหตุผล พวกเรารออยู่ในเมือง ไม่แน่ว่าอาจจะปกป้องเมืองได้จริงๆ พวกเราก็ยังมีทางรอด หากออกไปแล้วถูกคนเป่ยตี้จับไว้ก็คงตายแล้วจริงๆ”
จางจ้าวฉือเห็นพวกเขาเปลี่ยนความคิดแล้วก็เอ่ย “คนสกุลเว่ยปกป้องด่านเยี่ยนเหมินมาหลายชั่วอายุคน ชะตาชีวิตของพวกเขาก็คือปกป้องแคว้นของพวกเรา ไม่ให้คนของเป่ยตี้ผ่านด่านเยี่ยนเหมินไปได้ มีคนสกุลเว่ยอยู่ พวกเ้ายังมีอะไรให้กลัวหรือ? พวกเราออกไปก็ตาย อยู่เฝ้าสวนของพวกเราดีกว่า ปกป้องได้แล้วก็มีชีวิตอยู่ เหตุใดถึงไม่ปกป้องให้ดีล่ะ?”
ในที่สุดก็มีคนะโออกมา “ข้าว่าพวกเราควรจะอยู่ในตัวเมืองดีๆ ถึงแม้จะตายก็ตายอยู่ที่บ้านของตัวเอง อย่างไรข้าก็ไม่ไปแล้ว ข้าจะกลับเรือน ไปเตรียมตัวดีๆ เมื่อไหร่ที่้าข้าจะขึ้นกำแพงเมือง ข้าจะไปปกป้องบนกำแพงเมืองเอง”
คนหนึ่งลงมือ ต่อมาก็มีหลายคนเคลื่อนไหว ทุกคนแบกถุงผ้า พาลูกเดินกลับบ้านไป
จางจ้าวฉือรอจนกระทั่งคนไปได้พอสมควรแล้ว ถึงได้ถอนหายใจออกมา ประคองเอวตัวเองแล้วพาท้องโตๆ เดินไปที่เรือน ชิงซุยกับหลี่เหยียนเซี่ยที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาประคอง ตอนนี้หลี่เหยียนเซี่ยก็ถือว่าเป็องครักษ์ข้างกายของจางจ้าวฉือไปเสียแล้ว ไปที่ไหนก็จะตามไปด้วย จางจ้าวฉืออายุมากแล้ว ่ใกล้จะคลอดก็ไม่ถึงหนึ่งเดือน แล้วนี่ก็ไม่ใช่ลูกคนแรก จึงไม่แน่นอนว่าเมื่อไหร่ถึงจะคลอด
มีหลายคนที่อายุมากแล้วเข้ามากล่าวขอโทษกับจางจ้าวฉือ ดวงตาของหลี่เหยียนเซี่ยมองคนที่เข้ามาใกล้ สวี่ตี้ย้ำกับคนในครอบครัวหลายครั้งว่า ยิ่งในเวลานี้ ก็ต้องมองคนที่อยู่รอบๆ ตัว ดูว่าใครแปลกๆ ก็ให้รีบลงมือ จับเอาไว้ก่อนค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าอาจจะจับสายลับมาได้สักคนสองคน มีสายลับจากแคว้นศัตรูที่ไม่เข้ามาปะปนอยู่ตอนนี้ก็มีความเป็ไปได้ว่าเข้ามาปะปนอยู่มานานหลายปีแล้ว
เพิ่งจะมาได้ไม่นานก็เจอกับา หลี่เหยียนเซี่ยตื่นเต้นมาก เหล่าบรรพบุรุษของนางหลายคนต่างเข้าร่วมามาก่อน พวกเขาได้ยินเื่ราวในสนามรบของบรรพบุรุษมายาวนาน หลังจากเรียนรู้จนมีความสามารถ ก็อยากจะมาสร้างความดีความชอบในา เมืองเหอซีถูกล้อมเข้ามา หลี่เหยียนเซี่ยไม่ได้กลัวเลยสักนิด
จางจ้าวฉือมองหลายคนมาล้อมตนเอง มีคนหนึ่งดูอายุมากเอ่ยขึ้น “ฮูหยินขอรับ พวกเราเองก็หมดหนทาง ในครอบครัวไม่มีข้าวแล้วขอรับ”
ชิงซุยพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านลุง ท่านเป็เ้าของร้านแป้งทอดไม่ใช่หรือ? ร้านแป้งทอดของพวกท่านทุกวันทำแป้งทอดมากมายขนาดนั้น เหตุใดถึงไม่มีอาหารแล้วล่ะ?”
พอชิงซุยพูดจบ จางจ้าวฉือก็รีบถอยหลัง ตอนนี้คนที่เฝ้าประตูเมืองทิศเหนือก็คือทหารที่มาจากด่านเยี่ยนเหมิน ได้ยินคำพูดของชิงซุย ก็ชักดาบออกมา
เ้าของร้านแป้งทอดเดินเข้ามาด้านหน้า จะเข้าไปดึงแขนจางจ้าวฉือ แต่ผู้ใดจะรู้ว่าหลี่เหยียนเซี่ยที่อยู่ข้างกายตนจะยกเท้าถีบไปหนึ่งที เ้าของร้านคนนั้นตัวผอมแห้งหนักแค่ไม่กี่ร้อยจินก็ถูกถีบลอยออกไปราวสามเมตร
ข้างกายเ้าของร้านยังมีอีกหลายคน พอเห็นเ้าของร้านลงมือก็ลงมือตาม แต่น่าเสียดายที่เสียโอกาสไปแล้ว พวกเขาถูกทหารสิบกว่าคนเข้ามาจัดการ
ชิงซุยพยุงจางจ้าวฉือ ทั้งตัวสั่นไปหมดจนจางจ้าวฉือต้องตบแขนของนาง “เอาล่ะไม่เป็อะไรแล้ว โชคดีที่เ้าจำเ้าของร้านได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเป็อย่างไรก็พูดยากแล้วจริงๆ”
ชิงซุยส่ายหน้า “ฮูหยิน เป็เพราะคุณชายใหญ่ของพวกเราสอนเอาไว้ดี คุณชายใหญ่บอกว่ายิ่งถึงเวลานี้จะต้องยิ่งสงสัยทุกคนที่ดูที่ธรรมดาที่สุดเ้าค่ะ”
ทหารเฝ้ายามพวกนั้นเป็คนที่เจนา เพียงครู่เดียวก็จัดการคนพวกนี้แล้วปลดอาวุธได้ หลังจากจับมัดเรียบร้อยแล้วก็รีบมาทำความเคารพ จางจ้าวฉือเอ่ย “ไม่มีเื่อะไรแล้วเช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับเรือน ลำบากพวกเ้าแล้ว”
กลับมาในเรือน ชิงซุยกอดชิงเหมี่ยวอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ดีขึ้น “ข้าใหมดเลย พี่ชิงเหมี่ยว เ้าของร้านแป้งทอดนั้นเ้ายังพูดว่าเป็คนดี ทุกครั้งที่ไปซื้อแป้งทอดร้านเขาก็จะให้มาเพิ่มอีกหลายชิ้น ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็สายลับของเป่ยตี้”
สวี่ตี้ฟังแล้วก็ใเกือบตาย พูดกับจางจ้าวฉือ “ั้แ่พรุ่งนี้ไป ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าออกไปนอกประตูเลยนะขอรับ ข้าว่าครั้งนี้เป่ยตี้ตัดสินใจครั้งใหญ่ พวกเราหากไม่จัดการพวกมันจนได้รับาเ็ไป พวกมันก็จะต้องมาจัดการพวกเราหนักๆ ในภายหลังแน่นอน”
จางจ้าวฉือเอ่ย “ข้าเองก็ขยับตัวมากไม่ได้แล้ว คืนนี้ข้ารู้สึกว่าท้องของข้ามันหนักกว่าเดิม เคลื่อนตัวไปข้างล่างเยอะมาก ข้าคิดว่าอีกไม่กี่วันข้าก็คงจะคลอดแล้ว”
สวี่ตี้เอ่ย “คลอดก็คลอด อย่างน้อยาด้านนอกเคร่งเครียดเกินไปพวกเราก็ไปอยู่ใต้ดิน มีข้าอยู่นะขอรับ ท่านวางใจก็พอแล้ว”
สวี่จือจับมือของจางจ้าวฉือ “ท่านแม่ ท่านวางใจเถิดเ้าค่ะ ข้าจะต้องดูแลท่านกับน้องชายให้ดี”
จางจ้าวฉือตอบ “ดี มีพวกเ้าอยู่ข้าก็วางใจแล้ว”
จางจ้าวฉือพูดกับแม่นมลู่ “แม่นม รบกวนท่านไปช่วยทำน้ำแกงร้อนๆ ไปส่งให้กับทหารที่เฝ้าเมืองสักหน่อยเถิด แล้วจะต้องระวังให้ดีนะเ้าคะ ของกินเปลืองได้แต่จะให้คนอื่นมาเอาไปไม่ได้ คนที่จะได้ของจะต้องเป็คนของพวกเรา หากมีคนเข้ามาใกล้โดยไม่มีเหตุผล ก็ยอมเปลืองของไปได้แต่อย่าให้คนพวกนี้ฉวยโอกาส ท่านเอาเื่นี้ไปพูดกับคนเฝ้าเมืองนะเ้าคะ ตอนที่กินจะต้องระมัดระวัง”
แม่นมลู่รับคำ แล้วพาชิงเหมี่ยวกับชิงซุยไปทำอาหารกันที่โรงครัว ป้าเหอได้พาสามีของตนเองไปพักในห้องว่างที่สำนักงานว่าการเขต ส่วนนางก็อยู่ที่เรือนสกุลสวี่รอคำสั่ง สามีของนางอยู่กับสามีของป้าจ้าวที่สำนักงานว่าการเขต ทำอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่นทุกวัน
ครู่เดียวสวี่เหราก็กลับมา หลายวันมานี้เขาไม่ค่อยได้พักผ่อนสักเท่าไหร่ จนหนวดเฟิ้ม พอเห็นจางจ้าวฉือก็ถอนหายใจออกมา “ฮูหยิน เื่เมื่อครู่อันตรายเกินไปแล้วจริงๆ ต่อไปเื่เช่นนี้เ้าอย่าไปเลย ให้ข้าไปก็พอ เ้าไม่รู้หรือ เป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้ก็คือจับตัวข้า จากนั้นก็เอาไปขู่ให้เปิดประตู ผลสรุปแล้วข้าไม่ได้ไป แต่เ้ากลับไปแทน โชคดีที่มีแม่นางหลี่อยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นก็อันตรายเกินไปแล้ว”
จางจ้าวฉือเอ่ย “เช่นนั้นได้ถามมาหรือไม่ว่ามีสายลับมีจำนวนเท่าไหร่?”
สวี่เหราส่ายหน้า “เพื่อความปลอดภัยพวกเขาจึงติดต่อแค่ทางเดียว ครั้งนี้ที่ติดต่อกลับมาล้วนเป็เ้าของร้านแป้งทอด เ้าของร้านคนนี้อยู่ในเหอซีมาหลายสิบปีแล้ว ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็สายลับของเป่ยตี้?”
จางจ้าวฉือเอ่ย “โชคดีที่จับมาได้แล้ว ข้าเห็นว่าเขาเองก็อยากจะหลอกให้คนในเมืองพวกนี้ออกไปด้านนอกเมือง ขอแค่คนออกไปนอกเมืองแล้วถูกพวกเขาจับได้ขึ้นมา ไม่แน่ว่าจะกลายเป็โล่หนังมนุษย์ให้กับคนเป่ยตี้ ถึงตอนนั้นคนเป่ยตี้ก็จะมีประชาชนของพวกเรากันอยู่ด้านหน้าและเดินมาใต้กำแพงของพวกเรา หากเป็เช่นนั้นจริงเ้าจะลงมือหรือไม่?”
สวี่เหราตอบ “พวกเราเองก็กลัวว่าจะเป็เช่นนั้น ประชาชนหมู่บ้านใกล้ๆ พวกข้าได้สั่งให้ไปหลบอยู่ในูเาแล้ว เว่ยหลางพูดว่า พรุ่งนี้หากพวกเขายังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ก็จะออกกลอุบายมาบีบให้พวกเขาเคลื่อนไหว จะเอาแต่รอเช่นนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา”
จางจ้าวฉือเอ่ย “โอกาสดีขนาดนี้ หากด้านหลังมีกลุ่มทหารม้ามาร่วมมือกับพวกเขาอีก ก็จะกลายเป็ห่อเกี๊ยวพอดีเลย”
สวี่เหราเอ่ย “ใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ ตอนนี้เกรงว่าสถานการณ์จากฝั่งนี้จะส่งรายงานออกไปไม่ได้น่ะสิ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้