เิหยูเยียนมองไปที่อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงด้วยความตะลึง นางรู้สึกใอยู่นานจนไม่ได้สติ
นางจะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าศิษย์ชั้นยอดสองคนที่ดูไม่เกี่ยวข้องอะไรกับซูอี้หรานเลย จะสมรู้ร่วมคิดกับเขาแล้วมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ด้วย
ที่จริงในเวลานี้ในใจของเิหยูเยียนคิดถึงความเป็ไปได้หลายต่อหลายอย่าง แต่นางก็ยังไม่เชื่อ นางยอมเชื่อว่ามันเป็แค่ความฝัน ไม่มีทางเชื่อความจริงที่โหดร้ายตรงหน้านี้เด็ดขาด
“ข้าคิดว่า ศิษย์น้องหยูเยียนน่าจะเดาออกแล้วสินะ”
อวี่ชงค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาแล้วยืนอยู่ตรงหน้าเิหยูเยียน ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย “ตอนที่ข้าสู้กับเ้า เราได้หยดยาจื่อลู่บนตัวเ้า เพื่อป้องกันเ้าหลบหนี”
“ยาจื่อลู่สกัดมาจากผลหลิวซู คนปกติทั่วไปไม่มีทางได้กลิ่น แต่อสูรสัตว์ปีกทำได้ อีแร้งของข้านั้นได้รับการฝึกมาแล้วอย่างดี มันสามารถดมกลิ่นยาจื่อลู่ได้ในระยะร้อยลี้ ดังนั้น คิดจะตามหาเ้า มันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!”
“พวกเ้า ... พวกเ้าเป็ศิษย์ของฟางหลิงจวินไม่ใช่หรือ เราก็ต่างเป็ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนนะ ทำไมถึงได้ไปช่วยพวกคนของสายจั่วเหยียนล่ะ?” สายตาของเิหยูเยียนนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงเวลาถามในตอนนี้เริ่มอ่อนแรง
“เพราะมันไม่ใช่แค่ความ้าของศิษย์พี่อี้หรานเท่านั้น มันยังเป็ความ้าของข้าด้วย!”
อวี่ชงยิ้มแล้วค่อยๆ เดินไปหาเิหยูเยียน แล้วจับที่คอเสื้อของนางก่อนจะยกตัวขึ้นมา
เิหยูเยียนพยายามขัดขืน แต่นางถูกยาทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ถึงแม้จะเป็แค่โซ่ธรรมดาก็ไม่อาจสลัดให้หลุดได้ อวี่ชงที่นางคิดว่าฝีมือไม่เท่าไรเลยก่อนหน้านี้ ในเวลานี้กลับไม่ต่างอะไรกับเสือที่ดุร้าย มันทำให้เิหยูเยียนนั้นตื่นใ!
“เ้าปล่อยข้านะ! … ปล่อยข้า!”
เิหยูเยียนออกแรงดิ้นสุดกำลัง ด้วยความร้อนใจนางเลยกัดไปที่ข้อมือของอวี่ชง แต่เพราะนางไม่มีแรง จึงรู้สึกเหมือนกัดไปที่เกราะเหล็ก มันไม่ได้ทำให้อวี่ชงนั้นรู้สึกเ็ปเลยแม้แต่นิดเดียว
“ใช่ ใช่ ทำแบบนี้แหละ กัดเลย กัดต่อสิ ดิ้นอีก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
อวี่ชงไม่ได้คิดจะปล่อยมือเลย แต่กลับจ้องไปที่หน้าของเิหยูเยียนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้า “เดิมเราก็แค่อยากจะเล่นงานิอวี่คนเดียว แต่เ้ากลับยื่นมือเข้ามายุ่ง แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ได้ยินมานานว่าเ้าเป็ของดี อีกเดี๋ยวก็มาดูกันว่าจะลีลาเด็ดแค่ไหนกัน!”
ก่อนหน้านี้หลังจากที่อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงไปได้ไม่นาน พวกเขาก็ไปแวะพักหายใจกันที่ซากปรักหักพังแห่งหนึ่งแล้วระหว่างนั้นก็ได้พบกับซูอี้หราน เดิมซูอี้หรานไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาสองคน แต่เขาดันไปบังเอิญได้ยินอวี่ชงกับข่งหลินเฟิงเอ่ยปากด่าเิหยูเยียนออกมาพอดี
ซูอี้หรานก็เลยตรงไปหาพวกเขา หลังจากรับรู้เื่ราวทั้งหมดแล้วก็เลยร่วมมือวางแผนกันขึ้นมา
ถ้ำใต้ดินแห่งนี้เป็รังซากปรักหักพังที่พวกเขาพบเมื่อสองวันก่อน ในระยะร้อยลี้ไม่มีคนอยู่เลย แทบไม่มีใครมาพบเห็นที่นี่
ดังนั้น อวี่ชงถึงได้ไม่เกรงกลัวอะไรเลยแบบนี้!
“ออกไปนะ! ข้าไม่มีทางยอมเ้าหรอก!”
คำพูดของอวี่ชงมันกระตุ้นให้เิหยูเยียนนั้นขัดขืนรุนแรงขึ้น!
“อย่างนั้นหรือ? จนถึงตอนนี้ยังจะหยิ่งในศักดิ์ศรีอีกหรือ? เมื่อหลายวันก่อนเ้าใช้กระบี่ทำร้ายข้า วันนี้ข้าก็จะใช้กระบี่กรีดจนเรือนร่างของเ้ามีาแเช่นกัน ข้าจะเขียนคำว่า ‘อวี่ชง’ ตัวใหญ่ๆ ไว้ที่หน้าอกของเ้า ฮ่าฮ่า!”
“เ้ากล้าหรือ!” เิหยูเยียนโกรธจนปากสั่น
“ครืด ... ”
พูดจบอวี่ชงก็ฉีกชุดกระโปรงแดงตัวนอกของเิหยูเยียนออก ครึ่งตัวบนของเิหยูเยียนก็เหลือแค่ผ้าพันหน้าอกสีขาวเท่านั้น หัวไหล่ เอว แขน ทั้งหมดโผล่ออกมาด้านนอกหมด
เิหยูเยียนอึ้งไปเลย!
“ฮ่าฮ่า!”
มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง มันเป็เสียงของข่งหลินเฟิง
แขนซ้ายและหัวไหล่ซ้ายของข่งหลินเฟิงพันผ้าพันแผลอยู่ ถึงแม้เมื่อสามวันก่อนเขาจะรีบต่อแขนในทันที แต่ว่าตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกเ็ปอย่างมาก หากไปแตะแผลแค่นิดหน่อยก็ปวดมากแล้ว ทุกอย่างมันเป็เพราะเิหยูเยียน!
เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของเิหยูเยียน ข่งหลินเฟิงจะไม่สะใจได้อย่างไร?
“แค่มีาแเต็มตัวมันจะไปพอได้อย่างไร หลังจากที่เราเสียวกันแล้ว เราก็ตัดแขนทั้งสองข้างของนางทิ้ง ให้นางได้รู้ว่าความเ็ปมันเป็อย่างไร!” ข่งหลินเฟิงชี้ไปที่เิหยูเยียนด้วยความตื่นเต้น
คำพูดนี้มันบ้ามาก มันเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจของเิหยูเยียน!
“ไม่ ... ไม่ ... เ้าไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก หากอาจารย์ของข้ารู้ว่าพวกเ้าทำกับข้าแบบนี้ นางจะต้องฆ่าพวกเ้าทิ้งแน่! …”
เิหยูเยียนส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง นางถูกบีบจนจะบ้าแล้ว สติของนางใกล้จะะเิแล้ว!
ั้แ่เล็กจนโต เิหยูเยียนเคยเจอความอัปยศขนาดนี้ที่ไหนกัน? สิ่งที่ทำให้นางผ่านมาได้ถึงตอนนี้ เพราะในใจของนางนั้นมีความหวัง คนแรกที่นางนึกถึงคือซ่งหยวนหยวนอาจารย์ของนาง หากซ่งหยวนหยวนรู้เื่นี้ ไม่ว่าจะเป็อวี่ชงหรือว่าข่งหลินเฟิง หรือคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างซูอี้หราน ซ่งหยวนหยวนไม่มีทางปล่อยไปแน่ นางจะต้องทวงความยุติธรรมคืนมาให้กับนาง!
ความเชื่อมั่นนี้ มันทำให้เิหยูเยียนยังคงปกป้องศักดิ์ศรีและพรหมจรรย์ของนางอย่างเต็มที่แม้ว่าเสื้อผ้าของนางจะถูกฉีกขาดไปแล้วก็ตาม!
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ... ”
สี่คนที่อยู่ตรงนั้นพอได้ยินสิ่งที่เิหยูเยียนพูดก็ต่างหัวเราะขึ้นมา แต่ละคนมองมาที่นางด้วยสายตาไม่เป็มิตร
“เ้าคิดว่าเ้าจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่หรือ” เสียงของซูอี้หรานดังขึ้น
“อะไรนะ ... ” เิหยูเยียนมองไปที่ซูอี้หรานด้วยความตะลึง ในหัวของนางว่างเปล่า
ซูอี้หรานยิ้ม น้ำเสียงของเขาอ่อนนุ่มแล้วก็นิ่งเรียบ “ข้าบอกว่า ข้าสนุกกับเ้าพอแล้ว ก็จะให้เ้าตาย”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาและเรียบง่าย โดยไม่มีปิดบัง!
เขาจะปิดบังไปเพื่ออะไรกัน?
ที่ถ้ำใต้ดินแห่งนี้ซูอี้หรานคือาา เขาควบคุมทุกอย่างในนี้ เขาไม่จำเป็ต้องไปสนใจว่าเิหยูเยียนรู้สึกอะไร จะสนุกกับเิหยูเยียนเขาก็จะทำ เขาจะทำทุกอย่างที่เขา้า!
ง่ายๆ แค่นั้น ไม่ต้องไปกังวลอะไร
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคน เิหยูเยียนก็ทรุดนั่งลงไปกับพื้น สายตาของนางเศร้า เพราะความหวังสุดท้ายของนางมันได้ถูกทำลาย สลายไปจนไม่เหลือแล้ว!
เดิมเิหยูเยียนคิดว่าการที่นางถูกฉีกเสื้อผ้าทิ้งไปยังพอทนได้ แต่ฝันร้ายที่แท้จริงมันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น นางถึงได้เพิ่งจะรู้ว่า ตนเองไม่เคยมีความกล้าที่จะเผชิญกับความพ่ายแพ้และความตายใดๆ มาก่อนเลย!
ที่แท้ ที่ผ่านมานางไร้เดียงสาและอ่อนแอขนาดนี้!
ทันใดนั้นเองเิหยูเยียนก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา เป็คนที่นางเกลียดที่สุด และ่ชิงความบริสุทธิ์ของนางไป ...
เขาเคยเตือนนางว่าให้อยู่ห่างจากซูอี้หราน เขารู้สึกว่าซูอี้หรานนั้นมีปัญหา แต่ว่านางกลับไม่สนใจอะไรและเลือกที่จะแยกตัวออก ...
ดวงตาของเิหยูเริ่มแดงก่ำ หัวของนางเอาแต่นึกย้อนถึงคำพูดที่นางคิดว่ามันเกินเยียวยานั้น
“ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเ้าจะไปทำอะไร แต่หวังว่าเ้าจะจำเอาไว้ อย่าถูกคนบีบคั้นจนหมดหนทาง ถึงรู้ว่าอะไรคือความสิ้นหวัง ถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นเคยโง่มากแค่ไหน”
“ ... เพราะว่าโลกใบนี้มันไม่ได้ใสบริสุทธิ์อย่างที่เ้าคิดหรอกนะ”
เิหยูเยียนควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว นางสติแตก น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา นางเสียใจและรู้สึกผิด ตอนนี้นางถึงได้รู้ว่าคนชายหนุ่มที่ชื่อว่า “ิอวี่” คือคนที่หวังดีกับนางมากที่สุด ...
แต่จะพูดอะไรในตอนนี้มันก็สายไปแล้ว เพราะความดื้อ ความเอาแต่ใจ ความไร้เดียงสา และไร้เหตุผล ทำให้นางต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่มีวันหวนคืนได้อีก!
ตอนนี้นางไร้เรี่ยวแรงไม่มีกำลัง แม้แต่แรงจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายยังไม่มีเลย ...
ดังนั้นนางจึงทำได้แค่ต้องจำยอมให้สี่คนตรงหน้านี้คลั่ง และตายไปพร้อมกับความแค้น!
น่าเศร้าและน่าอนาถมาก!
“ถอดเสื้อผ้าของนางออกมาให้หมด แล้วใช้โซ่เหล็กห้อยนางขึ้น เสร็จแล้วพวกเ้าก็ออกไปรอข้างนอกก่อน” ซูอี้หรานหันไปสั่งพวกอวี่ชงเหมือนสั่งบ่าวรับใช้ก็ไม่ปาน
สีหน้าท่าทางของอวี่ชงนั้นก็เปลี่ยนไปทันที เขายิ้มแล้วพูดว่า “ได้เลย ศิษย์พี่ลูกเล่นพราวแพรวมากเลยนะ ถ้าเสียวเสร็จแล้วเรียกเรานะ เราไม่รีบ รอหลายคืนก็ไหว เหอะๆ ... ”
ความสามารถของอวี่ชงนั้นต่ำกว่าซูอี้หรานหลายระดับ เขาได้รับของเหลือที่ซูอี้หรานเล่นสนุกจนหนำใจ เขาก็พอใจมากแล้ว พอนึกได้ว่าอีกเดี๋ยวบนเรือนร่างของเิหยูเยียนนั้นจะเต็มไปด้วยรอยกระบี่ ในใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เื่ดีๆ แบบนี้ ให้รอกี่วันกี่คืนมันก็คุ้ม
ซูอี้หรานโบกมือด้วยความหงุดหงิด “พวกเ้าได้กันอยู่แล้ว เร็วๆ หน่อย”
“ได้ได้ เดี๋ยวนี้เลย”
อวี่ชงถูมือแล้วเดินไปตรงหน้าของเิหยูเยียน จากนั้นก็มองไปที่นางที่กำลังร้องไห้น้ำตาอาบหน้า เขาใช้นิ้วเชยคางของเิหยูเยียน จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “แม่นางน้อย เตรียมตัวขึ้น์กับศิษย์พี่อี้หรานนะ ฮ่าฮ่า ... ”
น้ำตาของเิหยูเยียนไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของนางไม่มีอารมณ์อย่างอื่น ดวงตาเหม่อลอย
“ข้าชอบเห็นเ้าทำหน้าแบบนี้จังเลย อย่างนี้สิมันถึงจะสนุก”
พูดจบ อวี่ชงก็ยื่นมือขวาออกไปจับที่ผ้าพันหน้าอกของเิหยูเยียน
“ตึก!”
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น มันไม่ใช่เสียงฉีกผ้าพันหน้าอกของอวี่ชง แต่มันมาจากปากทางเข้าถ้ำใต้ดิน
“เสียงอะไร?”
หลังจากที่ได้ยินเสียงดังที่ว่านั่น อวี่ชงก็ชะงักและหยุดการกระทำของตนเองลง เขาเป็ผู้กล้าคนหนึ่งมีความระวังตัวที่สูงมาก ถึงแม้อารมณ์ในตอนนี้จะตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเจออันตราย สัญชาตญาณของเขาจะทำให้เขานั้นสุขุม เพราะหากประมาทแม้แต่เหตุการณ์เล็กๆ ก็อาจจะทำให้เขาตายได้
ข่งหลินเฟิง ซูอี้หราน และศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สามอีกคนก็ล้วนแต่มองไปที่ปากทางเข้า
“อสูรสัตว์ป่าหรือ?”
ข่งหลินเฟิงเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน ซากปรักหักพังนี้หลายวันก่อนตอนที่พวกเขาเจอมันไม่มีใครเลย แล้วอสูรสัตว์ป่ามาจากไหน?
อีกอย่าง เมื่อครู่พวกเขาก็ได้ใช้ก้อนหินปิดปากทางเข้าเอาไว้แล้ว อสูรก็ไม่น่าจะเจอพวกเขาได้
ในเวลานี้เอง ที่สุดปลายทางเดินมีเสียงฝีเท้ากำลังลงมาตามทาง
“เป็คน!”
ทุกคนเริ่มระวังตัว หากเป็คนจริง แสดงว่ามีเป้าหมายในการมาอย่างชัดเจน เป็ไปได้ว่าอาจจะมีของอะไรบางอย่างบนตัวของเิหยูเยียนที่ทำให้คนลึกลับคนนี้ตามมาถึงที่นี่ได้!
พวกของซูอี้หรานเริ่มเดินลมปราณจากเทวะที่อยู่ในร่างกาย เตรียมพร้อมรับศึกอย่างเต็มที่
หากเื่ในวันนี้ถูกคนลึกลับที่ว่านี้แพร่ออกไป พวกเขาทั้งหมดต้องแย่แน่!
บรรยากาศภายในเริ่มตึงเครียด และร่างของคนคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงบริเวณทางเข้า หน้าตาของเขาดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที
“ ... เ้าเองหรือ?”
หลังจากที่เห็นหน้าของคนคนนั้นชัดแล้ว พวกของซูอี้หรานก็ตะลึงไป แต่สิ่งที่ตามมานั้นกลับเป็ความผ่อนคลายและโล่งใจทันที ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจก็เหมือนถูกยกออก
ตอนนี้พวกเขาไม่เพียงไม่มีความเครียด กลับกัน สีหน้าของแต่ละคนยังดูแปลกๆ อีกด้วย
