บทที่ 1 : ตื่นเถิดชาวไทย (ตื่นมาใช้หนี้!)
ปัง!
เสียงตบโต๊ะดังสนั่นหวั่นไหว ปลุกให้ฉันสะดุ้งสุดตัวจนแทบตกเก้าอี้
ความรู้สึกแรกคืออาการปวดหัวตุบๆ เหมือนมีใครเอาค้อนปอนด์มาทุบที่ขมับ กลิ่นยาหม่องน้ำตราถ้วยทองลอยเตะจมูกผสมกับกลิ่นกระดาษเก่าๆ
ฉันพยายามลืมตาที่หนักอึ้ง ภาพตรงหน้าพร่ามัวไปหมด มือข้างขวายังกำปากกาหมึกซึมแน่น คราบน้ำลายยืดเปื้อนแก้มจนต้องรีบยกแขนเสื้อขึ้นเช็ด
“ไอ้ขวัญ! ตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน!”
เสียงะโคุ้นหูสำเนียงเหนือนิดๆ ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท
เสียงแม่?
หัวใจฉันกระตุกวูบ... แม่เสียไปด้วยโรคหัวใจั้แ่ฉันเรียนจบปริญญาตรีใบแรกไม่ใช่เหรอ? หรือว่าฉันทำงานหนักจนหลอน?
ใช่สิ... เมื่อคืนฉันกำลังปั่นงานวิจัยเื่ ‘การปรับปรุงพันธุกรรมข้าวหอมมะลิทนแล้ง’ อยู่ในห้องแล็บที่กรุงเทพฯ นี่นา เดดไลน์ส่งทุนวิจัยคือพรุ่งนี้เช้า แล้วทำไม...
ฉันกวาดสายตามองไปรอบตัว
ห้องนี้ไม่ใช่ห้องแล็บสีขาวสะอาดตาที่เต็มไปด้วยเครื่องแก้วและกล้องจุลทรรศน์ แต่มันคือ ห้องนอนไม้เก่าๆ พื้นไม้กระดานขัดมันวับ ผนังติดโปสเตอร์วง Bazoo และ Raptor ที่เริ่มซีดจาง
พัดลมตั้งโต๊ะตะแกรงสนิมเขรอะกำลังหมุนเอื่อยๆ ส่งเสียงดังน่ารำคาญ
ครืด... ครืด...
สายตาของฉันไปสะดุดเข้ากับปฏิทินดาราแขวนผนัง รูปนางเอกลูกครึ่งชื่อดังในชุดไทย
‘พฤษภาคม 2542’
ปี 2542? ค.ศ. 1999?
“เฮ้ย!”
ฉันอุทานลั่น ดีดตัวลุกขึ้นยืนจนเก้าอี้ไม้ล้มดัง โครม! รีบวิ่งไปที่กระจกบานยาวหน้าตู้เสื้อผ้า
ในกระจกสะท้อนภาพเด็กสาววัย 22 ปี ผมยาวประบ่า หน้าตาสะลึมสะลือ สวมเสื้อยืดคอกลมลายการ์ตูน ขายหัวเราะ กับกางเกงขาสั้นสีมอมแมม
นี่มันฉัน... สมัยเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ!
ความทรงจำเก่าๆ ไหลทะลักเข้ามาในสมองเหมือนเขื่อนแตก ปี 2542 คือปีนรกแตกสำหรับครอบครัวเรา วิกฤตต้มยำกุ้ง (Tom Yum Kung Crisis) ที่เริ่มะเิเมื่อสองปีก่อน ส่งผลกระทบเป็ลูกโซ่มาถึงเกษตรกรรายย่อยอย่างบ้านฉัน
ราคาลำไยตกต่ำ หนี้สินพอกหางหมู และเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่ฉันไม่มีวันลืม...
วันนี้คือวันที่ “เสี่ยเกรียงศักดิ์” นายทุนหน้าเืประจำอำเภอ จะมาบีบให้พ่อเซ็นสัญญาขายที่ดินสวนลำไยมรดกเพื่อใช้หนี้!
ในอดีต... พ่อเซ็นสัญญาฉบับนั้น เราเสียที่ดินไปเกือบหมด เหลือแค่บ้านซุกหัวนอน พ่อตรอมใจจนล้มป่วย แม่ต้องทำงานหนักจนเสียสุขภาพ และฉัน... ต้องหนีความจนไปเรียนต่อและทำงานในเมืองหลวง ไม่เคยกลับมาทำเกษตรอีกเลย
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนสังเคราะห์ดังขึ้นในหัว พร้อมกับหน้าต่างโปร่งแสงสีฟ้าที่เด้งขึ้นมาตรงหน้า
[ระบบ : ห้องสมุดวิจัยเกษตรอัจฉริยะ (Agri-Research Library System)]
Status: เชื่อมต่อกับโฮสต์สมบูรณ์ (100%)
ผู้ใช้งาน: ดร.ขวัญข้าว (Level 1)
ยุคสมัยปัจจุบัน: พ.ศ. 2542 (Late 90s)
ภารกิจหลัก: ปลดหนี้เกษตรกรรม และเปลี่ยนสวนดั้งเดิมให้เป็ Smart Farm
ฉันยืนอ้าปากค้าง ขยี้ตาตัวเองสามรอบ
ระบบ? ย้อนเวลา? นี่ฉันหลุดเข้ามาในนิยายเว็บตูนหรือไง! แต่เดี๋ยวนะ... ถ้าฉันมีระบบนี้ แปลว่าความรู้ระดับปริญญาเอก 3 ใบของฉันก็ไม่ได้หายไปไหนใช่ไหม?
“ขวัญ! ลงมาเร็วๆ พ่อแกจะเซ็นสัญญาแล้ว!”
เสียงแม่ะโเรียกด้วยความร้อนรนดึงสติฉันกลับมา
ฉันไม่มีเวลามานั่งงงกับระบบบ้าบอนี่แล้ว ประวัติศาสตร์จะต้องไม่ซ้ำรอย ที่ดินผืนนี้คือชีวิตของพ่อ คือลมหายใจของแม่ และมันจะเป็ ห้องทดลอง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน!
ฉันคว้าเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตตัวเก่งที่พาดอยู่หัวเตียงมาสวมทับ สวมรองเท้าแตะตราช้างดาว แล้ววิ่งตึงตังลงบันไดบ้านไม้ไปทันที
เอี๊ยด... ตึง! ตึง!
ที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน บรรยากาศตึงเครียดจนแทบขาดผึง
พ่อนั่งก้มหน้า กุมขมับที่มีผมสีดอกเลาแซม มือกร้านแดดสั่นเทาเล็กน้อย ตรงหน้ามีกระดาษสัญญาปึกใหญ่วางอยู่ ข้างๆ คือ เสี่ยเกรียงศักดิ์ ชายร่างท้วมสวมสร้อยทองเส้นโตเท่าโซ่ตรวน ใส่เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีฉูดฉาด กำลังแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ
“เซ็นๆ ไปเถอะน่าน้าอิน ดีกว่าโดนแบงก์ฟ้องล้มละลายนะ ผมให้ราคาดีที่สุดในตำบลแล้ว” เสี่ยเกรียงศักดิ์คะยั้นคะยอ ยื่นปากกาลูกลื่นด้ามหรูให้พ่อ
พ่อถอนหายใจยาว มือค่อยๆ เอื้อมไปรับปากกา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพ่อ!”
ฉันะโสุดเสียง ะโลงจากบันไดขั้นสุดท้ายมายืนขวางกลางวง
“ไอ้ขวัญ!” พ่อเงยหน้ามองฉันด้วยความใ
“อย่าเพิ่งเซ็นอะไรทั้งนั้น!”
ฉันพุ่งเข้าไปคว้ากระดาษสัญญาบนแคร่มาถือไว้ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน เสี่ยเกรียงศักดิ์ชักสีหน้าไม่พอใจ
“นังหนู! เป็เด็กเป็เล็กอย่ามายุ่งเื่ผู้ใหญ่ พ่อเอ็งเป็หนี้อั๊ว สัญญานี้มันทางออกเดียวแล้ว!”
ฉันไม่สนเสียงนกเสียงกา กวาดสายตาอ่านเนื้อหาในสัญญาอย่างรวดเร็ว สมองระดับดอกเตอร์ประมวลผลตัวเลขและข้อกฎหมายในเสี้ยววินาที
นี่มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายปกติ...
“ขอดูปหน่อยนะคะ...” ฉันพึมพำ ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา “โห... เสี่ยคะ นี่กะจะปล้นกันชัดๆ เลยนี่นา”
“พูดอะไรของเอ็ง!” เสี่ยตวาด
ฉันชี้ไปที่ย่อหน้าเล็กๆ ตรงท้ายกระดาษ
“ข้อ 4.2 ผู้ขายต้องยินยอมให้ผู้ซื้อหักผลผลิตลำไย 70% เป็เวลา 5 ปี เพื่อเป็ค่าดำเนินการ... เดี๋ยวนะคะเสี่ย แค่ดอกเบี้ยทบต้นที่คิดเกิน อัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย (ร้อยละ 15 ต่อปี) นี่ก็ผิด พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2542 แล้วนะคะ แล้วนี่ยังจะมายึดผลผลิตล่วงหน้าอีก”
ฉันวางสัญญาลดลง จ้องหน้าเสี่ยเกรียงศักดิ์เขม็ง ปรับโหมดสายตาเป็ Professor เวลาสอบ Defend วิทยานิพนธ์นักศึกษา
“สัญญาฉบับนี้เข้าข่าย สัญญาที่ไม่เป็ธรรม (Unfair Contract Terms) ค่ะ ถ้าพ่อหนูเซ็นไป หนูฟ้องเพิกถอนได้แน่นอน แถมเสี่ยอาจจะโดนคดีอาญาข้อหาปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดด้วย... จะลองไปคุยกันที่โรงพักไหมคะ?”
บรรยากาศเงียบกริบ
พ่อกับแม่อ้าปากค้าง มองฉันเหมือนเห็นผี ปกติ ‘นังขวัญ’ ลูกสาวคนนี้วันๆ เอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูน ไม่เคยรู้เื่กฎหมายหรือตัวเลข
เสี่ยเกรียงศักดิ์หน้าแดงก่ำสลับซีดเผือด เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นตามไรผม
“นะ... นังเด็กบ้า! แกขู่อั๊วเหรอ!”
“ไม่ได้ขู่ค่ะ แค่แจ้งข้อเท็จจริงทางกฎหมาย” ฉันกอดอก เชิดหน้าขึ้น “หนี้สินส่วนของพ่อ หนูยอมรับว่ามีจริง และเราจะจ่ายคืนแน่นอน... แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีปล้นกลางแดดแบบนี้!”
“แกจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย! อีก 6 เดือนดอกเบี้ยก็ท่วมหัวแกแล้ว!”
“ภายใน 6 เดือน...”
ฉันสูดหายใจลึก ประกาศกร้าวออกไปทั้งที่ใจยังเต้นตึกตัก
“หนูจะหาเงินมาใช้หนี้ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย (ที่ถูกต้องตามกฎหมาย) ให้ครบทุกบาททุกสตางค์! แต่ตอนนี้... เชิญเสี่ยกลับไปก่อนค่ะ ก่อนที่หนูจะเปลี่ยนใจโทรแจ้งสรรพากรเื่รายได้ของเสี่ย!”
เสี่ยเกรียงศักดิ์กัดฟันกรอด ลุกขึ้นยืนชี้หน้าฉัน “เก่งให้มันตลอดนะนังตัวดี! อีก 6 เดือนถ้าไม่มีเงินมาคืน อั๊วจะมายึดที่ดินผืนนี้ แล้วไล่พวกแกออกไปให้หมด!”
พูดจบเขาก็สะบัดก้นเดินกระแทกเท้ากลับไปขึ้นรถกระบะคันโก้ สตาร์ทเครื่องดัง บรึ้ม! แล้วขับออกไป ฝุ่นตลบอบอวล
ฉันยืนมองจนรถลับสายตา ขาที่เกร็งไว้เริ่มสั่นพั่บๆ จนต้องทรุดลงนั่งบนแคร่
“ขวัญ...” แม่เดินเข้ามาจับไหล่ฉัน เสียงสั่นเครือ “เอ็งไปเอาความกล้ามาจากไหนลูก... แล้วเราจะหาเงินทันได้ยังไง ลำไยปีนี้ก็ไม่ออกดอก ดินก็เสีย...”
ฉันหันไปมองหน้าพ่อกับแม่ รอยย่นบนหน้าผากของพวกเขาทำให้ใจฉันเจ็บแปลบ
ในอนาคต ฉันเป็นักวิจัยที่ช่วยเกษตรกรมาทั่วโลก แต่กลับช่วยพ่อแม่ตัวเองไม่ได้... ครั้งนี้แหละ ฉันจะแก้ตัว
“ทันสิแม่” ฉันยิ้มให้ท่าน จับมือแม่ที่หยาบกร้านมากุมไว้
ทันใดนั้น หน้าต่างระบบสีฟ้าก็เด้งขึ้นมาอีกครั้ง ตรงหน้าพ่อกับแม่ (แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เห็น)
[ภารกิจสำเร็จ: ปกป้องที่ดินจากสัญญาที่ไม่เป็ธรรม]
รางวัล: ปลดล็อกฟังก์ชัน "Eye of Truth (เนตรวิเคราะห์ธาตุ)"
คำอธิบาย: สามารถมองเห็นค่า N-P-K (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) และค่า pH ในดินได้ด้วยตาเปล่า
ฉันตาลุกวาวทันที นี่มัน... Cheat Code ชัดๆ!
แต่ก่อนที่จะได้ดีใจไปมากกว่านั้น...
โครกคคค~
เสียงท้องร้องดังสนั่นหวั่นไหวขัดบรรยากาศซึ้งจนพ่อกับแม่สะดุ้ง
“เอ่อ...” ฉันยิ้มแห้งๆ ลูบท้องตัวเอง “กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะแม่... มีข้าวเช้ากินไหมจ๊ะ?”
แม่หลุดหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา “ไอ้ลูกคนนี้นิ... เอ้อๆ เดี๋ยวแม่ไปอุ่นแกงฮังเลให้”
ฉันมองตามหลังแม่ที่เดินเข้าครัวไป แล้วหันกลับมามองผืนดินแห้งแล้งตรงหน้า
าเกษตรกรรม... เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
