ไม่ต้องรอถึงอีกวัน หลังเลิกงานวันนั้น กู่เจี้ยนกั๋ว ก็นำผลสอบของสวี่เยว่กลับมา คะแนนรวม 435 คะแนน
คะแนนนี้ไม่ถึงแม้แต่คะแนนขั้นต่ำสำหรับวิทยาลัยวิชาชีพ ซึ่งปีนี้กำหนดไว้ที่ 445 คะแนนด้วยซ้ำ สวี่เยว่ขาดไปตั้งสิบคะแนน
กู่ซิ่วเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ “พี่ พี่ดูผิดหรือเปล่า? เยว่เยว่จะสอบได้คะแนนแค่นี้ได้ยังไง?”
กู่เจี้ยนกั๋วไม่พอใจเล็กน้อย “จะดูผิดได้ยังไง ฉันตรวจแล้วตรวจอีก ดูแล้วดูอีก!”
คุณปู่กู่ออกไปเล่นหมากรุกยังไม่กลับ ส่วนคุณย่ากู่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัว ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งคู่
กู่เจี้ยนกั๋วถึงกล้ากดเสียงต่ำ “เธอลองคิดดูสิ ปีที่แล้วเยว่เยว่สอบได้แค่สี่ร้อยคะแนน ปีนี้ยังไงก็เพิ่มขึ้นมาหลายสิบคะแนน ถือว่าไม่เลวแล้ว”
กู่ซิ่วพูดด้วยท่าทางห่อเหี่ยว “แต่คะแนนแค่นี้แม้แต่วิทยาลัยวิชาชีพยังเข้าไม่ได้เลย”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ถามอย่างคาดหวัง “พี่ พี่พอจะช่วยซื้อคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้เยว่เยว่ได้ไหม?”
กู่เจี้ยนกั๋วปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ฉันเป็แค่ข้าราชการขั้นเล็ก ๆ จะมีปัญญาขนาดนั้นได้ยังไง!”
สวี่เยว่เผลอพูดเสียงแ่เบา “งั้นปีที่แล้วที่พี่สาวสอบได้คะแนนผ่านเกณฑ์เข้ามหาวิทยาลัย ทำไมลุงถึงขายคะแนนของพี่ แล้วเปลี่ยนเป็คะแนนรวมร้อยกว่าคะแนนให้พี่ได้ล่ะ? ตอนนั้นลุงไม่กลัวมีปัญหาเหรอ?”
กู่เจี้ยนกั๋วเห็นสวี่เยว่พูดจาแดกดันไม่ค่อยน่าฟังก็รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังอดทนอธิบาย
“การซื้อขายคะแนน น่ากลัวที่สุดคือฝ่ายขายรับเงินไปแล้วกลับคำ บอกว่าคะแนนของเขาถูกสับเปลี่ยน เื่ใหญ่โตขึ้นมา ลุงอาจจะโดนปลดจากตำแหน่งได้ ดังนั้นลุงเลยไม่เคยทำเื่แบบนี้ ปีที่แล้วลุงกล้าขายคะแนนของพี่สาวเธอให้คนอื่น เพราะเราเป็ฝ่ายขาย ไม่มีทางกลับคำ ลุงถึงกล้าขาย ถ้าเธอไปซื้อคะแนนคนอื่น แล้วเขาไปแจ้งความหลังจากขายให้เราจะทำยังไง? ลุงกับแกก็จบกัน!”
ดวงตากู่ซิ่วเป็ประกาย “งั้นปีนี้พี่ก็ขายคะแนนของสวี่ฮุ่ยด้วยสิ!”
กู่เจี้ยนกั๋วหัวเราะ “สวี่ฮุ่ยเป็บัณฑิตสอบได้ที่หนึ่งสายวิทยาศาสตร์ปีนี้ ฉันจะกล้าขายคะแนนของเธอได้ยังไง? ฉันต้องสมองกลวงแน่ ๆ ถึงทำแบบนั้น!”
กู่ซิ่วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ปีที่แล้วพี่ขายคะแนนของฮุ่ยฮุ่ยให้หัวหน้าในราคาถูก ๆ พี่ถึงได้เลื่อนตำแหน่งมาจนทุกวันนี้ พี่จะมุ่งแต่ไต่เต้าอย่างเดียวไม่ได้นะ ยังไงก็ต้องช่วยหลานสาวตัวเองด้วย สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ อย่างน้อยสอบติดวิทยาลัยวิชาชีพได้บ้างก็ยังดี”
กู่เจี้ยนกั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เธอไปขอร้องสวี่ฮุ่ยให้หล่อนยกคะแนนให้เยว่เยว่แทนที่จะขอร้องฉันยังดีซะกว่า แบบนั้นเยว่เยว่ก็ได้เรียนมหาวิทยาลัยแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
กู่ซิ่วลังเล “สวี่ฮุ่ยเป็ถึงจ้วงหยวนของการสอบเข้า ปลอมตัวเป็เธอจะเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่เสี่ยงเลยสักนิด พวกเธอสองพี่น้องเป็ฝาแฝดกัน สลับทะเบียนบ้าน แล้วให้เยว่เยว่ไปเรียนมหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ ที่อยู่เมืองไกล ๆ ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“พูดง่าย ๆ คือสวมรอยเป็คนอื่นสินะ”
กู่ซิ่วเริ่มหวั่นไหว “ดี พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปคุยกับสวี่ฮุ่ยให้เรียบร้อย”
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากกินข้าวเช้าที่บ้านพ่อแม่เสร็จ กู่ซิ่วก็พาสวี่เยว่ไปซื้อชุดกระโปรงให้สวี่ฮุ่ย
เด็กเวรนั่นไม่เคยใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ เลยั้แ่เด็ก ได้แต่ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ของสวี่เยว่ ซื้อชุดให้สักตัว คงดีใจแทบตาย
แล้วค่อย ๆ เกลี้ยกล่อม ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าเธอจะไม่ยอมสลับตัวกับเยว่เยว่ลูกรัก แบบนั้นเยว่เยว่ก็จะได้เรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ แล้ว
ตอนออกจากบ้านตาบ้านยาย สวี่เยว่รู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตามพวกเธอแม่ลูกเงียบ ๆ
สวี่เยว่แอบมองไปด้านหลัง คนที่สะกดรอยตามพวกเธอคือ นักโทษชายมีปาน——ผู้หลุดลอดจากการจับกุมคนนั้น เธอทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดกลัว
เมื่อสองแม่ลูกกลับมาถึงบ้าน สวี่ฮุ่ยก็เพิ่งขายปลาไหลเสร็จ กำลังก้มดื่มน้ำประปาอย่างกระหาย อยู่พอดี
กู่ซิ่วร้องเสียงหลง “ดื่มน้ำประปาไปได้ไง?”
เธอยื่นเงินหนึ่งหยวนให้สวี่เยว่ “รีบไปซื้อแตงโมลูกใหญ่ ๆ มาให้พี่สาวลูกเร็ว”
สวี่เยว่รับเงินไปอย่างว่าง่าย
สวี่ฮุ่ยเกือบสำลักน้ำ
กู่ซิ่วเกลียดเธอออกปานนั้น อยู่ดี ๆ จะมาเอาใจเธอทำไม?
ท่าทางผิดปกติต้องมีเงื่อนงำบางอย่างแน่นอน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้