“นั่นก็หมายความว่า ศิษย์ที่ชื่อิอวี่นั่นใช้ความสามารถขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง ฆ่าหลินเฮ่า แล้วก็เอาชนะเ้าอย่างนั้นหรือ?” โอวหยางเต้าอวี่หรี่ตาลงแล้วพูด
“ท่านพี่ ... หลินเฮ่าประมาท ข้าเองก็ไม่ได้ระวังตัวเท่านั้นเอง! หากข้าตั้งใจสู้อย่างระวังแต่แรกก็ไม่มีทางมีสภาพนี้แน่ ... แค่กแค่ก!” ซูอี้หรานพูดจนมีอารมณ์เลยไอกระอักเืออกมา
เห็นน้องชายตัวเองสภาพย่ำแย่ ในใจโอวหยางเต้าอวี่ก็เหมือนถูกมีดกรีด ั้แ่เล็กจนโต ซูอี้หรานอยากจะทำอะไรเขาก็ตามใจ เขาคอยปกป้องเสมอ ไม่มีใครทำอันตรายน้องชายของเขาใต้จมูกเขาได้!
เ้าคนที่ชื่อิอวี่นั่นคือคนแรก และจะเป็คนสุดท้ายด้วย!
“ได้ ข้ารู้แล้ว”
สีหน้าท่าทางของโอวหยางเต้าอวี่นิ่งลง แต่ในใจลึกๆ ของเขานั้นโกรธมากถึงมากที่สุด “อี้หราน เ้าพักฟื้นก่อนนะ ภารกิจของเราในครั้งนี้คือการขโมยไข่ั จำไว้อย่าได้เอาเื่แบบนั้นมาส่งผลต่อสติของเ้า”
“ท่าน!” ซูอี้หรานหน้าแดงขึ้นมาเลย เขาพูดว่า “ท่านจะให้มันผ่านไปแบบนี้น่ะหรือ? ท่านแน่ใจนะว่ายังเป็พี่ชายข้าอยู่น่ะ!!”
ซูอี้หรานไม่เคยเจอเื่เลวร้ายมาก่อนเลย เขาได้รับความอัปยศอย่างมาก แล้วจะยอมเลิกราได้อย่างไร หากไม่ฉีกิอวี่ออกเป็ชิ้นๆ แล้วจะระบายความแค้นในใจของเขาได้อย่างไร?
โอวหยางเต้าอวี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เ้าอย่าเพิ่งโมโหสิ เขาทำเื่แบบนี้กับเ้า อาจจะบีบหยกหนีออกจากสนามรบร้างโบราณไปแล้วก็ได้ เ้าอยากจะฆ่าเขาตอนนี้มันก็เป็ไปไม่ได้ ดังนั้น รอเราเสร็จภารกิจนี้แล้วกลับไปสำนักเทพอัคคี ข้าจะเลาะกระดูกแทะเอ็น ให้เขาชดเชยด้วยเืเอง”
“ไม่ ท่านพี่ ท่านจับมันมาให้ข้า ข้าจะจัดการมันเอง!”
“ได้ แต่เ้าห้ามเก็บเื่นี้มาใส่ใจเด็ดขาด ก็แค่คนที่อยู่ในสายที่กำลังจะถูกยุบ อย่าให้คนแบบนี้มาเป็อุปสรรคในการพัฒนาของเ้านะ” โอวหยางเต้าอวี่ตบไปที่หัวไหล่ของซูอี้หราน และพูดด้วยน้ำเสียงที่เน้นย้ำ
“ ... อือ”
ซูอี้หรานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอคิดว่าหลังจากกลับไปแล้วเขาได้เล่นงานิอวี่ เขาก็รู้สึกดีและตื่นเต้นมาก!
......
ในเวลานี้เอง ที่อาคารซากปรักหักพังสีดำแห่งหนึ่งทางทิศใต้ หญิงสาวใบหน้างดงามผิวพรรณเนียนนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนพิงผนังอยู่ นางหลับตาอยู่ดูเหมือนหลับสนิท
นางคือเิหยูเยียนที่สลบไปเพราะความเหนื่อยล้า
นางหลับสนิท รู้สึกเหมือนแค่ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังอุ้มนางเอาไว้ ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีอย่างมาก
แต่อาจจะเป็เพราะหลับนานเกินไป หรืออาจจะเป็เพราะอบอุ่นเกินไป ในที่สุดนางก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“อือ ... ”
เิหยูเยียนส่งเสียงขึ้นมา นางรู้สึกว่าดวงตานั้นเหมือนมีแสงสว่างจ้าจึงยกมือขึ้นมาบังแสงที่แยงตา รู้สึกได้ว่ามันเป็ความร้อนอย่างมาก ทำให้นางรู้สึกกระสับกระส่ายไปทั้งตัว
หลังจากที่คุ้นชินกับแสงสว่างจ้านั้นแล้ว เิหยูเยียนก็ค่อยๆ เอามือออก จากนั้นก็มองไปตามแสงนั่น
นางเห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ ด้านหน้าของเขานั้นมีลูกไฟสีเขียวที่สว่างจ้าและมีอุณหภูมิที่ร้อนแรงแผ่ออกมา
“ ... ิอวี่?”
เิหยูเยียนเห็นิอวี่หลับตาอยู่แล้วก็บ่นพึมพำ เมื่อครู่ในฝัน เหมือนว่านางก็จะได้พบกับิอวี่เหมือนกัน
เิหยูเยียนเพิ่งจะตื่น ในหัวของนางก็มีแต่ิอวี่เต็มไปหมด
คนที่ทำให้นางรู้สึกเสียใจ คนที่ทำให้นางรู้สึกโกรธก็คือชายหนุ่มคนนี้ คนที่ทำให้นางรู้สึกดูถูกอย่างไม่มีเหตุผลก็คือชายหนุ่มคนนี้ คนที่ปรากฏตัวออกมาช่วยนางในเวลาคับขัน ทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งใจจนอธิบายไม่ได้ ก็ยังเป็ชายหนุ่มคนนี้!
ความหนักแน่นและความเ็าเหมือนก้อนน้ำแข็งในใจของเิหยูเยียน มันเริ่มละลายลงโดยที่นางไม่รู้ตัว
เดิมทีนางคิดว่าที่ิอวี่ทำแบบนั้นกับนางมันจะเป็สิ่งที่อัปยศที่สุดในชีวิตแล้ว แต่ว่าตอนนี้ พอนางนึกย้อนกลับไปในหลายๆ อย่าง นึกถึงภาพตอนที่นางดีใจมากที่เจอิอวี่ในถ้ำใต้ดิน กลับรู้สึกว่าาแพวกนั้นมันไม่ค่อยเ็ปแล้ว ...
ไม่แน่ว่า นั่นมันอาจจะไม่ใช่าแ ชายหนุ่มคนนี้อาจจะกำลังใช้การกระทำของเขามารับผิดชอบข้าอยู่ก็ได้
ไม่ใช่หรือ?
เิหยูเยียนขดตัวอยู่ในเสื้อนวมปุยฝ้าย นางมองมาที่ิอวี่อย่างเหม่อลอย ผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงได้นึกสงสัยขึ้นมาว่า “ตอนนี้เขา ... กำลังทำอะไรอยู่นะ?”
ถึงแม้เิหยูเยียนจะรู้สึกสงสัย แต่นางก็ไม่ได้คิดจะไปรบกวนิอวี่เลย นางแค่นั่งมองเขาอยู่เงียบๆ
นางรู้ว่าิอวี่นั้นน่าจะกำลังทำอะไรที่สำคัญมาก จะรบกวนเขาไม่ได้เด็ดขาด
นางเห็นว่าด้านหน้าของิอวี่นั้นมีลูกไฟสีเขียวขนาดเท่าฝ่ามือ หากมองสำรวจเข้าไปดีๆ จะเห็นว่าลูกไฟดวงนี้มันกำลังหดตัวเล็กลง
เป็อยู่แบบนี้จนผ่านไปประมาณห้านาที ลูกไฟสีเขียวตรงหน้าของิอวี่ก็หดจนเหลือขนาดเท่าหัวแม่มือ!
และสุดท้าย เปลวไฟสีเขียวทั้งหมดก็รวมตัวกัน และถูกเปลวเพลิงสีจางๆ กลืนและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้ว่าเปลวไฟสีจางๆ นั่นจะมีขนาดเท่าหัวแม่มือ แต่มันดูเหมือนมีจิติญญาที่ลอยและเผาไหม้อยู่กลางอากาศ ความถี่ในการเคลื่อนไหวของเปลวไฟก็มีความสม่ำเสมอ ดูมีความเป็ธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งแปลกมาก
เิหยูเยียนจ้องไปที่เปลวไฟสีเขียวอ่อนนั่น นางพยายามนึกไปในความทรงจำ และในที่สุดนางก็นึกออก!
นั่นมันไม่เปลวไฟธรรมดา แต่มันเป็ดวงจิตแห่งไฟ!
เิหยูเยียนมีพลังเวทดวงตา เวลานางสนใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ก็จะต้องไปทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง
ก่อนหน้านี้นางเคยอ่านเจอบันทึกเื่ราวเกี่ยวกับดวงจิตแห่งไฟในตำราโบราณมาก่อน ซึ่งในนั้นมันเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ดวงจิตแห่งไฟจะมีแสงสีเขียวอ่อนๆ และมีจิติญญาอยู่ มีขนาดเท่ากับหัวแม่มือ มันเป็ของหายากอายุกว่าหกพันปี!
เมื่อหลายเดือนก่อนตอนคัดเลือกเด็กใหม่ เิหยูเยียนเคยปะทะกับร่างแยก ในเวลานั้นนางก็มั่นใจว่าร่างแยกนั้นคือดวงจิตแห่งไฟ เพียงแต่นางยังไม่ได้เจอดวงจิตแห่งไฟเท่านั้นเอง
ในตอนนี้ นางกลับเจอดวงจิตแห่งไฟนั้นในตัวของิอวี่
เิหยูเยียนรู้สึกตะลึงมาก นางจะไปคิดได้อย่างไรว่าิอวี่จะมีดวงจิตแห่งไฟอายุกว่าหกพันปี!
ในความเป็จริงแล้ว เิหยูเยียนวิเคราะห์คลาดเคลื่อนไปหน่อย เพราะสีของดวงจิตแห่งไฟยิ่งเข้มมากเท่าไรยิ่งมีคุณภาพดี และมันก็เป็ของหายากอายุแปดพันปี!
ดวงจิตแห่งไฟดวงนี้ มันก็คือดวงจิตแห่งไฟที่ิอวี่ได้มากจากการเอาชนะร่างแยกในตอนคัดเลือกเด็กใหม่!
ตอนนี้ิอวี่กำลังจะสร้างร่างแยกเปลวเพลิงขึ้นมา!
“นี่เขากำลังจะสร้างร่างแยกของตัวเองหรือ เปลวเพลิงสีเขียวมรกตเมื่อครู่คือ ... ”
ความตกตะลึงของเิหยูเยียนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะนางพบว่าเปลวเพลิงมรกตพวกนี้ มันเป็แก่นกลางเปลวไฟที่อยู่ในตัวของหัตถ์ชำระบาปที่อยู่ในหอคอยเลี่ยนถ่า!
หอคอยเลี่ยนถ่าชั้นที่หนึ่งมันมีแก่นกลางเปลวไฟแค่ดวงเดียว ชั้นที่สองมีห้าสิบดวง!
เมื่อครู่เหมือนว่าิอวี่จะใช้แก่นกลางเปลวเพลิงสีมรกตประมาณห้าสิบดวง หลอมเข้าไปในดวงจิตแห่งไฟ!
เิหยูเยียนเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างขึ้นมา ที่แท้ตอนอยู่ในหอคอยเลี่ยนถ่า ิอวี่ไม่ได้แค่เอาชนะหัตถ์ชำระบาป แต่เขายังเอาแก่นกลางเปลวไฟออกมาได้อย่างสมบูรณ์เพื่อนำมาฝึกดวงจิตแห่งไฟ!
ขณะที่เิหยูเยียนกำลังคิด ที่เกราะแขนเฮยจินของิอวี่ก็มีแสงไฟอีกกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา ครั้งนี้มันเป็สีแดงเื
“แก่นกลางเปลวเพลิงชั้นที่สาม!”
เิหยูเยียนพูดออกมาด้วยความตะลึง เดิมนางคิดว่าการเอาแก่นกลางเปลวเพลิงออกมาจากหัตถ์ชำระบาปมันเป็อะไรที่ลำบากมาก ิอวี่กลับไม่ได้เอาแค่แก่นกลางเปลวเพลิงมาได้สองชั้น แต่ของชั้นที่สามเขาก็นำมาได้ด้วย มันเป็เื่ที่น่าเหลือเชื่อมาก
เปลวไฟสีแดงพุ่งออกมาจากเกราะแขนเฮยจินของิอวี่อย่างต่อเนื่อง และไปรวมตัวกันรอบๆ ดวงจิตแห่งไฟสีเขียวอ่อน เหมือนรังนกนางแอ่นที่รวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน
สิบดวง ยี่สิบดวง สามสิบดวง ...
จนถึงสุดท้าย แก่นกลางเปลวเพลิงสีเืทั้งหมดหนึ่งร้อยดวงก็รวมตัวกลายเป็ร่างสีเืที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดสองเมตร!
เขาเอาแก่นกลางเปลงเพลิงออกมาได้ทั้งหมดเลยหรือ!
จากการที่ิอวี่ดึงเอาแก่นกลางเปลวเพลิงออกมาอย่างต่อเนื่อง อารมณ์ของเิหยูเยียนก็ตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จนกระทั่งรวมตัวกันออกมาเป็ลูกไฟ นางก็ตะลึงจนต้องเอามือปิดปาก!
ก่อนหน้านี้ เขาท้าทายหอคอยเลี่ยนถ่าได้สามชั้น และชิงเอาแก่นกลางเปลวเพลิงออกมาได้ทั้งหมด ผลการแข่งขันแบบนี้ มันสมควรได้รับอันดับหนึ่งในศึกหอคอยเลี่ยนถ่าเลยนะ!
ระหว่างที่เิหยูเยียนกำลังจับตามองด้วยความตื่นตะลึง ิอวี่ก็เริ่มขมวดคิ้ว เขากำลังเริ่มทดลองรวมแก่นกลางเปลวเพลิงทั้งหมดเข้าไปในดวงจิตแห่งไฟ
น้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์เริ่มเดือดและระเหยหายไปอย่างต่อเนื่อง ิอวี่ใช้พลังจิตในการพยายามรวบรวมแก่นกลางเปลวเพลิงที่กำลังต่อต้านการแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้มันจะเป็กระบวนการที่ช้ามาก แต่ก็ดำเนินการไปเรื่อยๆ !
เป็อยู่อย่างนี้จนผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ในเวลานี้ลูกไฟที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสองเมตรก็ถูกิอวี่บีบอัดจนเหลือขนาดเท่าฝ่ามือ
เิหยูเยียนเห็นได้ชัดเจนมากว่า ในเวลานี้ิอวี่มีเหงื่อไหลท่วมตัว ขมวดคิ้วหนักมาก เหมือนว่าเขากำลังต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับแก่นกลางเปลวเพลิงอยู่
“รวม”
ในวินาทีสำคัญ ิอวี่ก็ตะคอกเสียงออกมา ลูกบอลแสงสีเปลวเพลิงขนาดเท่าฝ่ามือหดตัวเล็กลงในทันที จากนั้นก็เหมือนถูกไฟสีเขียวอ่อนๆ กลืนกินเข้าไปด้านในทั้งหมด
แสงสีเขียวอ่อนๆ นั่นเริ่มกระสับกระส่าย มันใกล้ถึงขีดสูงสุดที่จะรับไหวแล้ว ิอวี่พยายามคุมพลังงานที่น่ากลัวเ่าั้ ทำให้ดวงจิตแห่งไฟอายุกว่าแปดพันปีนี้เต็มไปด้วยพลังงานสูงสุด!
ดวงจิตแห่งไฟเดิมก็มีสติปัญญาของตัวเองอยู่แล้ว แต่สติปัญญาของมันอ่อนแรงมาก ในเวลานี้มีพลังมหาศาลพุ่งเข้าสู่ด้านในเลยเกือบทำให้มันะเิออก
ิอวี่กางมือออก พยายามควบคุมดวงจิตแห่งไฟที่กลางฝ่ามือเอาไว้ น้ำสีดำพุ่งออกมาจากที่หว่างคิ้วของเขา มันคือน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งเข้าไปในดวงจิตแห่งไฟอย่างรวดเร็ว!
“อือ ... ”
ในเวลานี้ เหมือนว่าดวงจิตแห่งไฟมันหยุดกระสับกระส่ายและเริ่มนิ่งลง
แต่แค่สามวินาทีเท่านั้น ดวงจิตแห่งไฟก็เริ่มกระสับกระส่ายอีกครั้ง มันปริตัวออกในแบบที่รอแทบไม่ไหว เหมือนกำลังมีสิ่งมีชีวิตใหม่กำลังจะออกมาจากเปลือกไข่!
เิหยูเยียนเห็นดวงจิตแห่งไฟค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น คราวนี้เป็เปลวไฟที่ดูเปล่งประกายมากจนกลายเป็รูปเป็ร่างและยืนอยู่ตรงหน้าของิอวี่!
มันคือ ... ิอวี่อีกคน!
“ิอวี่” คนนี้สวมชุดผ้าหยาบธรรมดาเหมือนกัน รูปร่างกำยำแข็งแกร่งอกผายไหล่ผึ่ง บนร่างกายของเขา ไม่ว่าจะเป็หน้าตาหรือว่าความสง่างามก็คล้ายกับิอวี่มาก
แต่สิ่งที่แตกต่างกันนั้นก็คือ “ิอวี่” คนนี้ดูทื่อ และมีพลังฝีมืออยู่แค่ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งเท่านั้น ...
ถึงแม้ในขอบเขตระดับจะต่ำกว่าิอวี่หนึ่งระดับ แต่ร่างแยกที่มีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง ในเวลาสำคัญก็สามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้ได้!
“บนตัวเ้ายังมีความลับอะไรที่ข้าไม่รู้อีกไหม?”
เิหยูเยียนมองไปที่ใบหน้าของิอวี่ ถึงแม้เขาจะยังหลับตาอยู่ แต่ท่าทางของเขาก็ดูสง่างามมาก มันทำให้เิหยูเยียนนั้นตะลึง
“มีอะไรหรือเปล่า?”
ในเวลานี้เอง ิอวี่เหมือนรู้สึกได้ว่าเิหยูเยียนนั้นกำลังมองมา เขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วหันไปมองนาง และ “ิอวี่” อีกคนก็หันสายตามามองเิหยูเยียนด้วยเหมือนกัน
“ ... หือ?” เิหยูเยียนใ “อ๋อ ข้าก็แค่ ... แค่ดู อันนั้น คือร่างแยกดวงจิตแห่งไฟของเ้าใช่ไหม?”
เิหยูเยียนพูดแล้วก็มองไปด้านข้าง
ที่ผ่านมา เวลานางมองไปที่ิอวี่มักจะมองจ้องไปที่ดวงตาของเขาตรงๆ เลย แต่ตอนนี้นางกลับไม่กล้าที่จะสบตาเขาแบบนั้น พอคิดถึงเื่ก่อนหน้านี้ที่ิอวี่ช่วยนางเอาไว้ ในใจของเิหยูเยียนก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แต่พอคิดถึงเื่ที่ิอวี่อุ้มนางในขณะที่นางเหลือแค่ผ้าพันหน้าอกชิ้นเดียว นางก็รู้สึกไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาเลย ...
“จะเรียกแบบนั้นก็ได้”
ในเวลานี้ิอวี่ดีใจมาก เขาปาดเหงื่อที่ไหลออกมาแล้วอธิบายว่า “แต่ว่า ร่างแยกดวงจิตแห่งไฟมันน่าจะมีหลายแบบ เขาเป็ร่างแยกเฉพาะตัวของข้า ข้าจะเรียกมันว่า ทาสเพลิง”
“ไม่เลวเลยนะ อือ ... ิอวี่ ข้ามีเื่อยากจะคุยกับเ้าหน่อย”
เิหยูเยียนตื่นมาเห็นหน้าิอวี่ ที่จริงในใจก็เหมือนคิดจะตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมา หลังจากที่ครุ่นคิดมาได้ครึ่งชั่วยาม นางก็ได้ทำการตัดสินใจที่ค่อนข้างเป็ผู้ใหญ่
“ว่ามาเลย เื่อะไร”
ิอวี่รู้สึกว่าเิหยูเยียนดูน่ารักขึ้นมาก เหมือนลูกกระต่ายเลย
“เื่ที่เ้าทำกับข้าไปก่อนหน้านี้ มันทำให้ข้าเสียใจมาก แต่ต่อมาข้ารู้แล้วว่าข้าเข้าใจเ้าผิดไป ... สิ่งที่เ้าทำไปก่อนหน้านี้มันได้แสดงท่าทีของเ้า ดังนั้นเรา ... ”
เิหยูเยียนกัดฟันล่าง หน้าของนางแดงจนเหมือนจะมีน้ำไหลออกมาแล้ว
