ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ตกกลางคืน ในขณะที่อวี้ฉู่จาวกับหลินหร่านกำลังเตรียมตัวอาบน้ำ มีเสียงคนเคาะประตูดังขึ้น
อวี้ฉู่จาวหยุดมือที่กำลังถอดเสื้อผ้าให้หลินหร่าน หลังจากนั้นเอ่ยกับหลินหร่านที่รอให้เขาขยับตัว “เ้าถอดเสื้อผ้าลงไปรอข้าก่อน”
ไม่รู้ว่าทำไมหลินหร่านถึงได้รู้สึกว่าประโยคนี้ทำให้ตนเองเขินอายได้เช่นนี้
หลินหร่านพยักหน้ารับ จากนั้นถอดเสื้อผ้าด้วยตนเอง
อวี้ฉู่จาวเดินออกจากห้องอาบน้ำมาที่หน้าประตู “เข้ามา”
แม้จะมืดค่ำแล้ว อวี้ฉู่จาวก็รู้ว่าจะต้องมีข่าวมาแจ้งอย่างแน่นอน
หลังจากอวี้ฉู่จาวมาเกิดใหม่ ได้รับบทเรียนจากชาติที่แล้ว เขาจึงเริ่มที่จะให้คนใกล้ตัวเขาทำการเขียนขอบตาดำเพื่อระบุตัวตน
ในชาติที่แล้ว อวี้ฉู่จาวดูแคลนที่จะต้องมาเจรจากับคนเหล่านี้ ดังนั้นจึงไม่สนใจพวกเขาเท่าไรนัก ยิ่งไปกว่านั้น เขามีความสามารถมากพอที่จะดูแลความปลอดภัยของตนเอง เหล่าองครักษ์ในยามค่ำคืนจึงไม่มีความจำเป็ต่อเขา
แต่ใน่ที่การทำศึกของเขาพ่ายแพ้ สิ่งที่ไม่ชอบมาพากลรอบตัวเขายิ่งชัดเจนมากขึ้น
แล้วตอนนี้อวี้ฉู่จาวมีหลินหร่านอยู่ด้วย มีคนที่ตนเองอยากปกป้อง อีกทั้งยังมีศัตรูที่ชัดเจน เขาจึงไม่อยากนิ่งเฉยให้อีกฝ่ายโจมตีอีกต่อไป
ฉะนั้น เขาต้องเป็คนคุมทุกอย่างไว้ในมือ
นอกจากนี้ อวี้ฉู่จาวอยู่ในกองทัพมาหลายปี ไปมาแล้วทั่วทุกสารทิศ รอบตัวมีคนแปลกหน้าและคนมีความสามารถมากมาย ผู้ที่ทำให้เขาเห็นความสามารถและเลือกมาเป็องครักษ์เงานั้นถือได้ว่าเป็หนึ่งในหมื่นคน
คุณสมบัติหลายๆ ด้านนับว่าในเมืองหลวงนี้ไม่มีใครเทียบเทียมกับคนรอบตัวเขาได้ ต่อให้เป็องครักษ์ของฮ่องเต้ก็ยังด้อยกว่า
หลังประตูเปิดออก บุคคลชุดดำที่สวมหน้ากากนกคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เงียบจนไม่มีเสียง
อวี้ฉู่จาวรอจนชายผู้นั้นเดินเข้ามาด้านในก่อนเอียงหู
คนผู้นั้นเอ่ยบางสิ่งข้างหู เมื่อเขาพยักหน้ารับถึงรีบจากไป
ใบหน้าของอวี้ฉู่จาวไร้ซึ่งความรู้สึก ดูเหมือนว่าจะไม่มีเื่ร้ายแรงเกิดขึ้น
ภายหลังเขาเดินกลับมาในห้องอาบน้ำ ใบหน้ากับท่าทางเขาพลันเปลี่ยนเป็ท่าทีอ่อนโยน
อวี้ฉู่จาวถอดเสื้อผ้าออกก่อนลงไปในสระน้ำ หลินหร่านเอนหลังพิงสระน้ำมองสัดส่วนที่แข็งแรงและสันทัดของท่านอ๋อง
ร่างกายสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ทำให้หลินหร่านอดรู้สึกประหม่าไม่ได้
รอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของอวี้ฉู่จาว ดูอบอุ่นเหมือน่เวลากลางวัน งดงามราวกับภาพวาด
เขาเดินลงน้ำมาอยู่ข้างหลินหร่านแล้วดึงอีกคนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“อย่าตื่นตูมไป แค่อาบน้ำเท่านั้น เ้ากำลังคิดอะไรอยู่ หน้าแดงหมดแล้ว” อวี้ฉู่จาวใช้มือโอบกอดเอวบางของหลินหร่านก่อนกระซิบชิดริมหูแ่เบา
“ไม่...ก็แค่ร้อนพ่ะย่ะค่ะ”
หลินหร่านรู้ดีว่าในตอนนี้ตัวของอวี้ฉู่จาวไม่มีทางทำอะไรเขาแน่ แต่ว่า…
มือที่ลูบไปมาตามร่างกายของเขามันอะไรกัน ่หลังมานี้ตอนอาบน้ำกับนอน หลินหร่านมักรู้สึกถึงมือที่ััเบาๆ กับเสียงหอบหายใจหนักๆ
หลินหร่านไม่กล้าขยับตัว คิดว่าพวกเขากินนอนร่วมกันมาเป็เดือนแล้ว ท่านอ๋องอยู่ใน่วัยหนุ่มจึงกระปรี้กระเปร่า ทำตัวราวกับหมาป่าคอยหลอกล่อเหยื่อ
“อวิ๋นซี” อวี้ฉู่จาวเรียกเสียงแ่
“อื้อ” หลินหร่านตอบรับ
“เ้าออกไปก่อนข้าเถิด”
หลินหร่านไม่ได้ตอบกลับหรือเอ่ยถาม เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย
การที่ได้อยู่กับท่านอ๋องใน่เวลานี้ถือเป็ของขวัญจาก์ เขายังจะกล้าเรียกร้องอะไรอีกล่ะ
ระยะเวลาที่รู้จักกันมากว่าหนึ่งเดือน อวี้ฉู่จาวรู้จักอุปนิสัยของหลินหร่านแล้ว
นอกจากความอ่อนโยน ยังเข้าใจอะไรง่ายและเชื่อฟัง ไม่เคยเรียกร้อง เพียงอวี้ฉู่จาวพูดก็เชื่อฟังหมด ไม่พูดเยอะไม่ถามมาก มีมารยาท เชื่อฟังมากจริงๆ
แต่อวี้ฉู่จาวก็มองออก หลินหร่านเป็คนที่แปลกและระวังโลกภายนอกเป็อย่างมาก นี่คือจิตใต้สำนึกในการปกป้องตนเอง
“อีกไม่นานเสด็จพ่อจะให้เราแต่งงานกันแล้ว เ้าต้องกลับไปที่จวนแม่ทัพ ข้าจะได้ไปสู่ขอเ้า หากให้พวกเขารู้ว่าข้ายินยอมที่จะสู่ขอเ้าคงมีปัญญามากขึ้นแน่” อวี้ฉู่จาวอธิบายเหตุผล “อีกไม่นานเราจะแต่งงานกันแล้ว”
หลินหร่านไม่คิดว่าจะเป็เช่นนี้ เขายังคงรู้สึกเศร้าใจพร้อมกับให้กำลังใจตนเอง
‘ข้ามีความสุขมากพอแล้ว ไม่มีทางไม่พอใจกับสิ่งที่ได้รับ’ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้
“แต่ง...งาน?” หลินหร่านหมุนตัวไปหาอวี้ฉู่จาว
“ใช่ เสด็จพ่อกำหนดแล้ว อีกไม่นานพระราชโองการจากฮ่องเต้ก็จะไปถึงจวนแม่ทัพฮวาเวย”
ใบหน้าของอวี้ฉู่จาวเต็มไปด้วยความปีติยินดี แต่หลินหร่านก็ไม่ใช่คนโง่เขลา
หลินหร่านก้มหน้าลง “แต่...กระหม่อมเป็ชาย เช่นนี้อาจผิดต่อท่านอ๋อง ในเมืองไม่เคยมีความเชื่อที่จะให้ชายมาเป็ภรรยา นี่นับว่ากำลังดูถูกท่านอ๋องอยู่ไม่ใช่หรือ...อีกทั้งเื่ทายาทจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?”
หลินหร่านยกอวี้ฉู่จาวให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงส่ง ความชื่นชมและความปรารถนาในตัวอวี้ฉู่จาวจึงลืมสิ้น
“ผิดต่อข้าอย่างไร ข้า้าเ้า ไม่มีทางเปลี่ยนเป็ผู้อื่นได้ แม้แต่หญิงสาวมากมายที่อยู่ในประเทศนี้ข้าก็ไม่สนใจ” อวี้ฉู่จาวดึงหลินหร่านเข้ามาในอ้อมกอดจนแนบชิด
หลินหร่านรับรู้ได้ว่า บางอย่างที่อยู่ด้านล่างของท่านอ๋องมันกำลังตั้งตระหง่าน
บนร่างกายั้แ่ใบหน้าทอดยาวลงมาถึงลำคอของเขาจึงเริ่มแดงก่ำ
“แต่...เื่ทายาทจะทำเช่นไร ท่านเป็ถึงท่านอ๋อง” หลินหร่านยังคงดึงดันพูดเื่นี้
“เื่นั้นแน่นอนว่า ถ้าเ้าเป็ผู้ให้กำเนิดจะดีที่สุด”
ซ่า~
อวี้ฉู่จาวอุ้มหลินหร่านออกมาจากสระน้ำ หลินหร่านรีบใช้มือโอบรอบลำคอของเขาไว้
“ท่านอ๋องพูดเื่ตลกอะไรกัน ข้าเป็ชาย มิอาจให้กำเนิดได้”
อวี้ฉู่จาวยกยิ้มมุมปากก่อนวางหลินหร่านลง หยิบผ้าขนหนูที่พาดไว้บนฉากกั้นห่อตัวของหลินหร่านไว้ ส่วนตนเองหยิบเสื้อสำหรับสวมชั้นในมาสวมค่อยอุ้มหลินหร่านขึ้นมา
พออุ้มหลินหร่านเข้ามาถึงในห้องแล้วถึงเอ่ยปากพูด “ตัวของเ้ามีเืของเผ่าจือเม่ย”
“เผ่าจือเม่ย?”
“เผ่าจือเม่ยเป็ชนเผ่าโบราณ อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ชนเผ่านี้บนร่างกายของพวกเขาจะมีปานสีชมพูอ่อนรูปดอกปี่อั้นฮวา อีกทั้งชายในเผ่าที่มีหลอดเืดำคู่ถูกค้นพบว่าสามารถกระตุ้นให้กำเนิดทายาทได้เช่นเดียวกับผู้หญิง”
“ข้า...มีหรือ” หลินหร่านเอ่ยถาม
เขาเกิดเป็ชายมาแล้วทั้งสองชาติ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าร่างกายของตนเองไม่เหมือนกับชายทั่วไป
“ไหล่ข้างขวาของเ้ามีปานดอกปี่อั้นฮวา ข้าเคยถามหมอซูแล้ว เ้ามีหลอดเืดำคู่ ดังนั้น…” อวี้ฉู่จาวโถมตัวเข้าไปหา
หลินหร่านเบิกตาแล้วเอนนอนลงไป หัวใจดวงน้อยเต้นแรง
อวี้ฉู่จาวเอ่ยต่อ “...เมื่อถึงคืนวันส่งตัวเขาห้องหอของเรา ข้าจะช่วยกระตุ้นให้ เ้ารออุ้มลูกของพวกเราได้เลย”
อวี้ฉู่จาวเอ่ยจบก็จูบบนริมฝีปากของหลินหร่าน
ผ่านมาเนิ่นนาน นี่เป็ครั้งแรกที่อวี้ฉู่จาวใกล้ชิดกับหลินหร่านเช่นนี้ ปกติจะทำเพียงััเล็กน้อย จูบอย่างแ่เบา อ่อนโยนและผ่อนคลาย
--------------------------------------