บทที่ 37 เหตุไม่คาดฝันในชีวิตของอิ๋งปิง
เมื่อประตูหินเปิดออกเข้าสู่ถ้ำ ต้นไม้ ก้อนหิน และแมลงต่างกลายเป็ผลึกสีแดงระยิบระยับดุจอัญมณี งดงามทว่าไร้ชีวิตชีวา
ที่แห่งนี้ไม่มีใครย่างกรายเข้ามานานแล้ว ทุกสิ่งในถ้ำหินปูนถูกห่อหุ้มด้วยผลึกสีแดง เสมือนถูกหยุดนิ่งไว้ชั่วนิรันดร์ในห้วงเวลาหนึ่ง แสงออร่าเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนก่อตัวเป็รูปร่างที่จับต้องได้ และ ณ จุดกำเนิดของแสงออร่านั้น ปรากฏต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็กที่ดูมีชีวิตชีวาตั้งตระหง่านอยู่
ห่างออกไปไม่ไกลนัก มีบ่อน้ำขนาดเท่าอ่างอาบน้ำ บรรจุน้ำสีชมพูกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมแปลกประหลาด ชวนให้รูขุมขนเปิดกว้าง นี่คือมรดกที่สืบไว้ทั้งหมดของหงส์ะเก้าสี ทุกอย่างไม่แตกต่างไปจากที่อิ๋งปิงเคยเห็นในชาติก่อนเลย นางถอนหายใจยาว
หงส์ะเก้าสีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนาง หากปราศจากแก่นแท้ทั้งเก้า คัมภีร์หงส์โลหิตที่นางพึ่งพาอาศัยอยู่ก็จะไร้รากฐาน ไม่ต่างอะไรกับวิชาธรรมดา เหตุผลที่นางสามารถเกิดใหม่ได้ก็เพราะในวินาทีสุดท้าย นางได้ใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามขั้นสูงสุดในคัมภีร์หงส์โลหิต นั่นคือ ‘ขั้นนิพพาน’
บัดนี้นางได้แก่นแท้แห่งแสงเร็วกว่าที่คิด! และโดยไม่จำเป็ต้องสำรวจ นางก็ล่วงรู้ถึงความลี้ลับทั้งหมด! ในชาตินี้นางจะโบยบินได้สูงขึ้น เร็วขึ้น และไกลขึ้น…
อิ๋งปิงรวบรวมจิตใจที่พลุ่งพล่านกลับคืนมา แล้วกล่าวเบา ๆ ว่า
“น้ำในบ่อนี้มีโลหิตบริสุทธิ์ของสัตว์มงคลเจือปนอยู่เล็กน้อย เ้าสามารถลงไปแช่ได้ ประโยชน์ในอนาคตของเ้าจะประเมินค่ามิได้ อย่างน้อยวิชาบำเพ็ญกายของเ้าก็จะก้าวหน้าไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”
โลหิตบริสุทธิ์เพียงหนึ่งหยาดของหงส์ะเก้าสี ในชาติก่อน นางสามารถเปิดเส้นชีพจรได้ก็เพราะแช่ในบ่อนี้ และนับั้แ่นั้นมา นางก็ไม่กลัวพิษใด ๆ ราวกับมีเทพช่วย ทว่าตอนนี้กลับไม่จำเป็สำหรับนางอีกแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมาก”
“เ้าก็รีบไปรับมรดกของเ้าเถอะ”
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อยด้วยอารมณ์ดี แม้ ‘ยัยก้อนน้ำแข็ง’ จะไม่ได้พูดชัดเจน แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘โลหิตบริสุทธิ์ของสัตว์มงคล’ นี้ ส่วนใหญ่ก็คือโลหิตบริสุทธิ์ของหงส์ะเก้าสีนั่นเอง การเดินทางครั้งนี้ แม้ไม่มีสิ่งใดตอบแทน เขาก็ถือว่าได้รับผลตอบแทนมหาศาลแล้ว รางวัลที่ระบบมอบให้นั้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับบ่อน้ำพุแห่งนี้ เขามองว่ายัยก้อนน้ำแข็งภายนอกดูห่างเหินเ็า แต่ในใจก็ยังคงคิดถึงเราอยู่ดีสินะ…
ไม่รอช้า เขาก้าวลงไปในบ่อน้ำทันที พริบตา พลังชีวิตอันแข็งแกร่งก็ไหลทะลุผ่านรูขุมขนทุกส่วนของร่างกาย ราวกับปลาตัวเล็ก ๆ นับพันกำลังแหวกว่ายไปมาในเส้นชีพจรหลักทั่วร่าง สบายเสียจนรู้สึกราวกับได้ชำระล้างจิติญญา
“เช่นนี้ ข้าก็ถือว่าชดใช้บุญคุณครบถ้วนแล้ว”
อิ๋งปิงคิดว่าหลังจากชดใช้บุญคุณแล้ว จะรู้สึกโล่งใจราวกับยกูเาออกจากอก แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้กลับรู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การที่หลี่โม่มาถึงจุดนี้ได้ ถือเป็การเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตครั้งใหญ่ และในอนาคต เขาอาจจะมีที่ยืนในแดนบูรพาได้อย่างมั่นคง…
หลังระงับอารมณ์ลง อิ๋งปิงทอดสายตามองไปยังต้นไม้เล็ก ๆ ต้นไม้ต้นนั้นสูงไม่ถึงหนึ่งคน แต่กลับแผ่ซ่านความยิ่งใหญ่และสง่างามออกมาอย่างเลือนราง กิ่งก้านดูแห้งผาก จนไม่อาจบอกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
อิ๋งปิงกัดปลายนิ้ว
พลั่ก———
เมื่อเืหยดแรกร่วงลง ลำต้นที่เหี่ยวเฉาเริ่มเปล่งประกายชีวิตชีวา หยดที่สอง ลำต้นก็ผลิหน่ออ่อนปรากฏขึ้น หยดที่สาม หน่ออ่อนกลายเป็กิ่งก้านและเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว หยดที่สี่ กิ่งก้านแต่ละกิ่งเริ่มแตกสาขาและมีใบหนาแน่น ยอดต้นไม้มีตาดอกเล็ก ๆ ผุดขึ้นมา… จนกระทั่งเืหยดที่เก้าตกลงมา ตาดอกก็เบ่งบานเต็มที่ในที่สุด
เสียงร้องที่ใสกระจ่างราวกับหยกแตกสลาย
“แก่นแท้แห่งแสง”
อิ๋งปิงจับจ้องไปที่ตาดอก ตรงนั้นมีนกหงส์ตัวจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือยืนอยู่ นกหงส์ดูมีชีวิตชีวาและเปี่ยมด้วยพลัง จนหากไม่รู้ความลับที่อยู่เื้ั ก็คงคิดว่านี่คือสิ่งมีชีวิตจริง ๆ นางยื่นมือออกไป เพื่อให้นกหงส์ะโขึ้นมาบนฝ่ามือ แต่…
นกหงส์พลันกระพือปีก บินออกไปอย่างรวดเร็ว
อิ๋งปิง “?!”
เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน หัวใจของนางเต้นแรง รีบหันกลับไป สายตาไล่ตามนกหงส์ไป นี่มัน… หลี่โม่รึ?!
นกหงส์นั้นตกลงบนไหล่ของเด็กหนุ่ม ะโไปมาอย่างสนิทสนม แก่นแท้แห่งแสงที่นางรดน้ำด้วยเืของนางเอง กลับเลือกหลี่โม่หรือ? อิ๋งปิงแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า ถึงขั้นสงสัยว่าเป็ภาพลวงตาของตนเอง
กายาจันทราหงส์ไท่อินของนาง สามารถปลุกแก่นแท้แห่งแสงได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าร่างกายของนางมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับหงส์ะเก้าสี และควรจะเป็ผู้สืบทอดที่ถูกเลือก นี่เป็สิ่งที่นางมั่นใจอย่างที่สุดทั้งในชาติก่อนและชาตินี้! แต่หลี่โม่… ทำไมกัน? นกหงส์ที่เกิดจากแก่นแท้แห่งแสง กลับละทิ้งนางแล้วเลือกเขา? เป็เพราะในถุงผ้าไหมนั้นมีกลิ่นอายของหงส์ะอยู่กระนั้นหรือ?
“เอ๊ะ? นกมาจากไหนเนี่ย?”
หลี่โม่ซึ่งกำลังแช่น้ำพุร้อนอยู่ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นนกตัวเล็กน่ารักะโอยู่บนหน้าอก เขาอยากจะถามอิ๋งปิงว่าเกิดอะไรขึ้น มีอันตรายหรือไม่ แต่กลับพบว่าสีหน้าของนางซับซ้อนอย่างยิ่ง หัวใจของหลี่โม่กระตุกเล็กน้อย นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็น ‘ยัยก้อนน้ำแข็ง’ ทำสีหน้าเช่นนี้
“นี่… คือ… ของเ้าหรือ?” หลี่โม่ถาม
“อืม…”
อิ๋งปิงพยักหน้าอย่างเงียบงัน
หลี่โม่ “…”
ในถ้ำหินปูนพลันเงียบลง ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งสอง สถานการณ์ดูอึดอัดอย่างยิ่ง
“นี่… ยัยก้อนน้ำแข็ง เ้าคงไม่ได้คิดจะ…ฆ่าคนชิงสมบัติหรอกนะ?” หลี่โม่ลุกขึ้นจากบ่อน้ำ ถามหยั่งเชิง
“พวกเราเป็เหมือนพี่น้อง… เป็เพื่อนสมัยเด็กกันนะ…”
อารมณ์ของอิ๋งปิงเดิมทีก็บรรยายไม่ถูกอยู่แล้ว แต่สีหน้าตื่นตระหนกของเด็กหนุ่มกลับทำให้นางรู้สึกตลกอย่างบอกไม่ถูก นางเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
เมื่อนางพูดเช่นนั้น หลี่โม่กลับผ่อนคลายลง
“เ้าอย่ามาหลอกข้าเลย เ้าไม่ใช่คนแบบนั้น”
อิ๋งปิงเงยหน้ามองเขา ไม่พูดอะไร ใช่แล้ว หากเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เชื่อใจนางอย่างเต็มที่ ก็คงไม่ะโตามลงมาหรอก
หลี่โม่พลันถามว่า
“สิ่งนี้สำคัญต่อเ้ามากใช่หรือไม่”
“ใช่”
อิ๋งปิงพยักหน้า อดไม่ได้ที่จะหวนรำลึกความหลัง เพราะแก่นแท้ทั้งเก้าของหงส์ะ ช่วยให้นางผ่านพ้นความยากลำบากมามากมาย จะเรียกว่าเป็วาสนา ก็ยิ่งเหมือนกับว่าเป็ส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต และในบรรดาสิ่งเ่าั้ แก่นแท้แห่งแสงอยู่เคียงข้างนางมานานที่สุด แต่บัดนี้ ส่วนหนึ่งในชีวิตของนางกลับเลือกคนอื่นไปเสียแล้ว อารมณ์ของจักรพรรดินีหงส์์จึงซับซ้อนอย่างยิ่ง
“ถ้างั้น นี่คงเป็ของที่วิเศษมากสินะ”
หลี่โม่พินิจมองนกตัวเล็ก ๆ ที่ะโไปมาในฝ่ามือ ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ก็น่ารักดี
อิ๋งปิงขมวดคิ้วแน่นอยู่นาน ในที่สุดก็คลายออก
“แต่ในเมื่อมันเลือกเ้า มันก็ย่อมเป็ของเ้า”
“อืม…” หลี่โม่กะพริบตาแล้วถามต่อ
“อุตส่าห์ทุ่มเทขนาดนี้ ไม่เสียดายหรือ?”
“เสียดายสิ แต่ในเมื่อมันเลือกเ้าไปแล้วก็…”
อิ๋งปิงกลับมาสงบ
“ต่อให้ไม่มีมัน… ข้าก็ยังเป็ข้า”
ช่างเป็คำพูดที่ทรงพลังเสียจริง หลี่โม่ยอมรับว่าโดนความเท่นั้นสะกดไปเล็กน้อย อุตส่าห์อยากจะหยอกเสียหน่อย กลายเป็ว่าตัวเองโดนโชว์เหนือเสียเอง พลันหัวเราะออกมาอย่างขื่นขม
หลี่โม่กันนกหงส์ตัวน้อยที่อยากจะออดอ้อนและเข้ามาใกล้ นกน้อยดูราวกับเสียใจ สามารถมองเห็นความไม่เข้าใจที่เหมือนมนุษย์ได้เล็กน้อย
“ไปเถอะ ไปในที่ที่เ้าควรจะไป”
“แม้ตามนางไป ก็ยังได้พบข้าอยู่บ่อย ๆ”
หลี่โม่โยนนกหงส์ตัวน้อยขึ้นไปเบา ๆ มันดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของเขา กระพือปีกบินกลับไปหาอิ๋งปิง
อิ๋งปิงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าคล้ายหยกเย็นเยือก ในที่สุดก็ไม่สงบนิ่งอีกต่อไป นางมองเด็กหนุ่ม ดวงตามีแต่ความประหลาดใจและความมึนงง
อิ๋งปิงถามราวกับว่าเพิ่งรู้จักเขาเป็ครั้งแรก
“สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตเ้าได้ ทำให้เ้ามีโอกาสยืนอยู่บนจุดสูงสุดของ์ทั้งเก้าและพิภพทั้งสิบ หากเ้าเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทัน”
“ข้ารู้ดี”
หลี่โม่ยิ้มออกมาจากใจจริง ยิ่งมีค่าเท่าไร ผลตอบแทนจากการลงทุนของเขาก็ยิ่งดีเท่านั้น มรดกอันล้ำค่าที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของอิ๋งปิงได้ ระบบจะตอบแทนเขาด้วยอะไรกันนะ? หึหึหึ…
“และเป็ครั้งแรกที่เ้าบอกว่ามีสิ่งที่สำคัญยิ่ง เป็เื่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เลย”
“…”
ดวงตาใสกระจ่างของอิ๋งปิงจ้องมองเขาอย่างงุนงง ความหมายที่ซ่อนอยู่ในแววตาเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้ง ก่อนที่จะปรากฏความอ่อนโยนจาง ๆ ขึ้นมาในที่สุด
“ก็ได้…”
นกหงส์ตัวน้อยบินเข้าสู่หว่างคิ้วของนาง กลายเป็ลวดลายสีชมพูกุหลาบ แสงสีมงคลหลากสีพลันเปล่งประกายออกมา แสงออร่าพุ่งทะลุออกจากปากถ้ำ แผ่ความงดงามที่มิอาจบรรยายได้
ภายนอกถ้ำ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง แต่หุบเขาชิงเยวียนกลับสว่างจ้าขึ้นมา ราวกับทางช้างเผือกที่ก่อตัวขึ้นจากแสงออร่า เสียงร้องของนกหงส์ที่ใสกระจ่างดังก้องไม่หยุดหย่อน สะท้อนไปทั่วท้องฟ้า
สำนักชิงเยวียน แคว้นจื่อหยาง และกระทั่งทั่วทั้งแดนบูรพา ต่างก็ได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจน บนยอดวังจันทรา เหล่าผู้าุโมองภาพที่เกิดขึ้นอย่างตะลึงงัน ความตกตะลึงปรากฏชัดบนใบหน้า
“ในหุบเขาชิงเยวียนมีการเปลี่ยนแปลง”
“รีบไปแจ้งเ้าสำนักเดี๋ยวนี้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้