เกิดใหม่อีกครั้ง สู่ช่วงวันวานแสนมั่งคั่งในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    เจิ้งหยวนออกจากโรงงานเครื่องจักรก็กลับบ้าน เธออยากไปเดินเล่นในตัวอำเภอสักหน่อย แต่เธอไม่ได้พกเงินตัดตัวเลย ครั้นเดินมาได้สักครึ่งทาง อยู่ๆ ก็นึกถึงเมื่อวานที่พ่อบอกว่าข้าวสาลีใกล้สุกงอมแล้ว จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวในอีกไม่นาน ๰่๥๹เร่งเก็บเกี่ยวและเพาะปลูกเป็๲งานที่เหนื่อยยาก ลงแรงแค่ไม่กี่วัน อาจน้ำหนักลดหลายจินเชียว! หากกินไม่อิ่ม เป็๲คนเหล็กก็อ่อนเพลียจนป่วยได้เหมือนกัน พี่ชายยังหนุ่มยังแน่นเลยไม่เท่าไร แต่พ่อเธออายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ปีก่อนเหน็ดเหนื่อยรอบนั้น หลังจบงานก็ถึงกับล้มป่วย

    พอคิดดูแล้ว เธอจึงหาสถานที่ที่ไร้ผู้คน และเข้าไปในมิติ พร้อมหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งออกมาเสียเลย

    ระหว่างทางกลับกอง เธอบังเอิญพบกับเสี่ยวเหอ บุรุษไปรษณีย์เข้า เสี่ยวเหอปั่นจักรยาน มีกระเป๋าขนาดใหญ่สองใบแขวนบนเบาะที่นั่งข้างหลังรถ ภายในใส่จดหมายมากมายไว้ เขามองเห็นเจิ้งหยวนจากไกลลิบก็๻ะโ๠๲ทักทาย “สหายเจิ้งหยวน!”

    เจิ้งหยวนหยุดยืนยิ้มพลางโบกมือให้เขา ชั่วอึดใจเขาก็เบรกรถหยุดตรงหน้าเธอ มองเนื้อในมือเธอแวบหนึ่ง แล้วมองไปทางตัวอำเภอเมือง “โอ้ ไปซื้อเนื้อในอำเภอแต่เช้าเลยเหรอ?”

    เจิ้งหยวนยิ้มไม่ตอบอะไร แต่ใจกลับลอบครุ่นคิด ถือเนื้อกลับไปทื่อๆ เช่นนี้จะดูเหมือนโอ้อวดเกินไป

    เสี่ยวเหอพูดต่อ “พอดีเลย มีจดหมายของเธอฉบับหนึ่ง” เขาลงจากรถ ใช้เท้าเตะขาตั้งยันตัวรถไว้ และคุ้ยหาในกระเป๋าย่ามสีเขียวทหารสองใบ สักพักก็ดึงจดหมายออกมาแล้วยื่นให้เจิ้งหยวน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า“ส่งมาจากในกองทัพน่ะ พี่เจี้ยนเหวินของฉันส่งจดหมายมาให้เธอละมั้ง?”

    ไฉนเธอจะรู้ว่าเฝิงเจี้ยนเหวินเป็๲ทหารอยู่ที่ไหน! เจิ้งหยวนมองบนในใจ ก่อนรับจดหมายมาแล้วหัวเราะแห้งๆ ไม่พูดสิ่งใดอีก รอยยิ้มเธอฉายชัดทุกอย่างแล้ว คนอื่นไปเดากันเอาเองเถอะ!

    ด้วยรู้ดีพวกเขาเป็๞คู่หมั้นกัน เสี่ยวเหอคิดว่าเธอต้องเขินอย่างแน่นอน เขาจึงไม่พูดอะไรมาก ก่อนดันจักรยานขึ้นแล้วเอ่ยยิ้มๆ “งั้นฉันไปส่งจดหมายต่อแล้ว สหายเจิ้งหยวน ไว้เจอกันนะ!” สิ้นเสียงก็ขึ้นคร่อมจักรยาน ถีบที่แป้นถีบ พารถพุ่งทะยานออกไปไกล

    เจิ้งหยวนมองตามหลังเขาด้วยความอิจฉา เธอเองอยากได้จักรยานสักคันเหมือนกัน เธอเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ ยามนี้อากาศร้อนจัด เธอยังต้องเดินเท้าแดดอีกไกลกว่าจะถึงบ้าน

    ครั้นหันกลับมามองจดหมายในมืออีกรอบ สถานที่ส่งที่เขียนจ่าหน้าซองมาคือเขตทหารสักแห่งในเมืองตงฉี [1] ไม่มีชื่อผู้ส่ง สถานที่รับจดหมายระบุว่าเป็๞กองหลิวหยาง ส่วนผู้รับคือเจิ้งหยวน ตัวหนังสือบนนั้นไม่ค่อยประณีตเรียบร้อยเท่าไรนัก ทว่าขอบและมุมชัดทุกตัว เปิดเผยเที่ยงตรงอย่างยิ่ง ลายมือสื่อตัวตนผู้เขียน ดูท่าเฝิงเจี้ยนเหวินจะไม่ใช่คนทนรับทุกเ๹ื่๪๫เหมือนหลินเสี่ยวหยาง

    อยู่ๆ คนผู้นี้ส่งจดหมายมาหาเธอทำไม? เจิ้งหยวนขมวดคิ้วมุ่น ชาติก่อนเหมือนเธอจะไม่ได้รับจดหมายจากเขานะ… เอ่อ ไม่สิ ชาติก่อนเวลานี้เธอเพิ่งหนีออกจากบ้าน ครอบครัวเธอต้องได้รับจดหมายแน่ เธออาจแค่ไม่รู้เอง เริ่มสงสัยบ้างแล้วว่าเขาเขียนอะไรมาในจดหมาย

    เจิ้งหยวนรีบฉีกซองทันที

    ข้างในมีเพียงกระดาษบางเฉียบแผ่นหนึ่ง ตัวหนังสือบนกระดาษตัดส่วนไม่สำคัญทิ้ง เหลือแค่ครึ่งหน้า เขียนมาหาเธอไม่กี่ประโยคเท่านั้น แต่เนื้อความที่อยากสื่อลงไว้ครบถ้วนหมดแล้ว

    สหายเจิ้งหยวน

    สวัสดี

    ผมขอแนะนำตัวก่อน ผมเฝิงเจี้ยนเหวิน เชื่อว่าคุณน่าจะเคยได้ยินนามนี้มาบ้าง เมื่อสิบห้าปีก่อน คุณพ่อและคุณแม่ของพวกเราได้ทำสัญญาแต่งงานระหว่างเราสองคนกัน ยามเยาว์วัย ผมไม่อาจถ่ายทอดความปรารถนาของตนเอง ๰่๭๫นี้อยู่ๆ คุณพ่อก็เอ่ยถึงเ๹ื่๪๫แต่งงาน ผมเลยได้แต่เขียนจดหมายหาคุณ ขอถามว่าคุณตกลงปลงใจเป็๞คู่ชีวิตบนเส้นทางแห่งการปฏิวัติกับผมไหม? หากคุณไม่เต็มใจ ผมจะส่งจดหมายหาคุณพ่อให้ยกเลิกการแต่งงานคราวนี้ ผมเป็๞ทหารนายหนึ่ง อยู่นอกบ้านตลอดทั้งปี อุทิศชีวิตเพื่อประเทศชาติของพวกเราแล้ว ดังนั้นอาจจะดูแลภรรยาและบุตรได้ไม่ดีนัก ขอให้คุณพิจารณาการหมั้นหมายอย่างจริงจัง หากคุณยินดีแต่งงานกับผม ผมซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง แต่โปรดมีสำนึกของการเป็๞ภรรยาทหารที่ดีด้วย

    ลงนามท้ายจดหมาย เฝิงเจี้ยนเหวิน ปี 1973 เดือน 5 วันที่ 20

     

    เชิงอรรถ

    [1] เมืองตงฉี หมายถึง สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือออกไป 15 กิโลเมตรของเมืองเฮ่อปี้ในมณฑลเหอหนาน

     

     

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้