เด็กทั้งสองเอ่ยชมช่างแกะสลักไม่หยุดปาก
กลับกันกับป๋ายจี หลังจากจ้องมองอย่างละเอียดแล้วนางพบว่านายหญิงกำลังมีท่าทีไม่สบอารมณ์
นางเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนจะยกชาเต็มแก้วให้กับนายหญิง
“นายหญิงท่านไม่ชอบพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมที่ฮองเฮาส่งมาให้หรือเ้าคะ?” หลินเมิ้งหยาเงยหน้ามองดูป๋ายจีก่อนจะยิ้มพลางส่ายหน้า
“ไม่ชอบ?ของที่ฮองเฮาส่งมาให้จะมีใครไม่ชอบบ้างเล่า?”
สาวใช้ทั้งสองยังมิใช่คนสนิทของนาง ดังนั้นเื่บางเื่ยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งปลอดภัย
“นั่นสิเ้าคะ หนู่ปี้1เองก็เพิ่งจะเคยเห็นพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมที่สวยงามขนาดนี้เป็ครั้งแรก”สุดท้ายป๋ายจีก็เป็เพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น นางรู้สึกว่าเ้าแม่กวนอิมองค์นั้นเปรียบเสมือนของรักที่ส่งมาจาก์
หลินเมิ้งหยาหัวเราะนางยังคงเดาไม่ออกว่าตกลงแล้วเ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่กันแน่
หลังจากเอะอะอยู่ครึ่งคืน สุดท้ายหลินจงอวี้ก็เดินเข้ามาดูด้วยเช่นกันเ้าแม่กวนอิมถูกล็อกเอาไว้ในกล่องไม้ จากนั้นวางไว้ภายในห้องของหลินเมิ้งหยา
หลินเมิ้งหยาครุ่นคิดทั้งคืนแต่คิดไม่ออก เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้านางอยากมองดูเ้าแม่กวนอิมอีกครั้ง
“เอ๋?” เมื่อเปิดกล่องออกนางกลับพบว่าเ้าแม่กวนอิมที่อยู่ภายในแหลกละเอียดเป็ผุยผงแล้ว!
แต่เมื่อคืนนางไม่ได้ยินแม้แต่เสียงการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น!
“พระชายา จิ่นเยว่ขอเข้าเฝ้า”
อยู่ๆ เสียงของน้าจิ่นเยว่ก็ดังขึ้น หลินเมิ้งหยารีบเชิญนางเข้ามา
“พระชายา หนู่ปี้เพิ่งนึกออกเื่หนึ่งเพคะเ้าแม่กวนอิมองค์นั้นไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้!”
เมื่อเข้ามาในห้อง จิ่นเยว่มองหน้าหลินเมิ้งหยาด้วยแววตาร้อนรนทว่ากลับได้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มแทน
“หากท่านน้าพูดเร็วกว่านี้ ข้าคงไม่มีทางรับเอาไว้ ตอนนี้...”
นางชี้ไปทางกล่องที่เต็มไปด้วยเศษเล็กเศษน้อย ยิ้มแหยๆ
“ไอ้หยา! คือเ้านี่จริงๆด้วย! หนู่ปี้ผิดเองเ้าค่ะ หนู่ปี้ประมาทมากเกิน!”
จิ่นเยว่เอ่ยออกมาด้วยความเสียใจ
“ท่านน้า ของสิ่งนี้มีที่ไปที่มาอย่างไร? เมื่อคืนแม้แต่เสียงขยับเพียงเล็กน้อยข้าก็ไม่ได้ยิน”
แปลกจริงเชียว ของชิ้นนี้แหลกละเอียดเป็ผุยผงถึงขนาดนี้แต่เพราะเหตุใดนางจึงไม่รู้สึกอะไรเลยเล่า?
“ของชิ้นนี้คือทรายชนิดหนึ่งที่มีไว้สำหรับเผาขึ้นรูปแต่กลับคงรูปลักษณ์ได้ไม่นาน ปกติหลังจากที่เผาขึ้นรูปเสร็จเรียบร้อยแล้วเวลาไม่เกินเจ็ดวันของชิ้นนี้จะแหลกสลายไปเองแต่ถึงกระนั้นมันกลับกลายเป็อาวุธในการทำร้ายผู้อื่นได้เป็อย่างดี”
ยิ่งพูด ฟันก็ยิ่งขบเข้าหากันแน่น
ตอนแรกเพ่ยเจี้ยที่ตามเข้าวังมีทั้งหมดสี่คนแต่เมื่อเข้ามาได้ไม่นานก็ถูกฮองเฮาวางแผนทำร้าย สุดท้ายก็จบลงด้วยการถูกส่งไปอยู่ในยมโลก
ตอนแรกพระสนมเต๋อเฟยยังคงงงงวยว่าเหตุใดสิ่งของที่เคยปกติดีทุกอย่างจึงเปลี่ยนเป็แหลกสลายเช่นนี้
ต่อมาจึงได้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าทรายิซา
มาวันนี้กลับกลายเป็พระชายาที่ถูกปองร้าย
“โลกใบนี้มีของพรรค์นี้ด้วยหรือ แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจเหตุใดฮองเฮาจึงนำของชิ้นนี้มาทำร้ายข้ากัน?”
จิ่นเยว่เหลือบมองหลินเมิ้งหยา ั์ตาสะท้อนความร้อนรนและเสียดาย
“อีกครึ่งเดือนจะเป็วันเกิดของพระสนมเต๋อเฟยหากอิงจากตามธรรมเนียม แม้เหนียงเหนียงจะอยู่อาศัยที่จวนแห่งนี้ทว่าฮองเฮาอาจเสแสร้งให้ความสำคัญและเสด็จมายังจวนแห่งนี้ เมื่อถึงเวลานั้น...”
เมื่อถึงเวลานั้น หากรู้ว่าเ้าแม่กวนอิมแหลกละเอียดไปแล้วสิ่งนี้ไม่ใช่เพียงการลบหลู่ฮองเฮา แต่ยังเป็การดูิ่พระโพธิสัตว์อีกด้วย
บางทีอาจทำให้หลงเทียนอวี้และพระสนมเต๋อเฟยต้องลำบาก
หลินเมิ้งหยาสูดลมหายใจเย็นะเืเข้าปอด กลอุบายอันแสนเลวทรามจิตใจหยาบช้าเกินคน!
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็เช่นนี้ หากท่านน้าไม่บอกข้าข้าก็คงยังไม่เข้าใจ”
หลินเมิ้งหยามิได้แสดงท่าทีกระวนกระวายแต่นางกลับสงบนิ่งและพยายามครุ่นคิดหาทางออก
เ้าแม่กวนอิมที่ฮองเฮาพระราชทานมาให้จะต้องมีลักษณะพิเศษโดดเด่นอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันมิให้นางนำของสิ่งอื่นมาแอบอ้างได้
โชคดีที่เมื่อคืนสาวใช้ทั้งสามของนางและหลินจงอวี้จ้องมองมันอยู่นานบางทีพวกเขาอาจจะจำอะไรขึ้นมาได้
“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นหรือเ้าคะ? เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?”
พาทั้งสี่เข้ามายังห้องชั้นในของหลินเมิ้งหยา นางปิดประตูคิ้วขมวดเข้าหากัน สายตาจับจ้องคนทั้งสี่
“มีปัญหาเกิดขึ้นกับพระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมแล้วข้า้าถามพวกเ้าว่าพวกเ้ายังจดจำกลักษณะของเ้าแม่กวนอิมองค์นั้นได้หรือไม่?”
คำพูดของหลินเมิ้งหยาทำให้ทั้งสี่คนชะงักงัน
์โปรดนั่นคือพระพุทธรูปแกะสลักเ้าแม่กวนอิมที่ฮองเฮาพระราชทานให้!
“หนู่ปี้จำได้เ้าค่ะ พระพุทธรูปเ้าแม่กวนอิมองค์นั้นสวยงามมากสีของลำตัวใหม่เอี่ยม มิเหมือนกับพระพุทธรูปของพระโพธิสัตว์ในวิหารเลยเ้าค่ะ!”
คำพูดของป๋ายจื่อยิ่งทำให้หลินเมิ้งหยาแทบทรุด
นี่มัน...น่าจะไม่ใช่รายละเอียดมิใช่หรือ?
ทั้งสี่เริ่มถกเถียงกันถึงลักษณะของพระพุทธรูปแกะสลักเ้าแม่กวนอิมทว่าคิ้วของหลินเมิ้งหยากลับขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้ายิ่งไม่น่ามอง
เพราะเหตุนี้กงกงคนนั้นจึงพยายามให้นางตรวจสอบเ้าแม่กวนอิมก่อนจะรับมา
เมื่อวันนั้นมาถึง หากฮองเฮาเค้นถามขึ้นมา นางเองก็ยากที่ปฏิเสธ
แล้วทีนี้จะทำเช่นไร?
“นายหญิง ตกลงเกิดเื่อันใดขึ้นหรือเ้าคะ?” ป๋ายจีเอ่ยถามอย่างระมัดระวังนับั้แ่ตอนที่ได้รับเ้าแม่กวนอิมมาจนกระทั่งตอนนี้ คิ้วของนายหญิงยังมิคลายออกจากกันเลย
ตอนนี้ยังเรียกพวกนางมาอีกแสดงว่าจะต้องเกิดเื่มิชอบมาพากลขึ้นอย่างแน่นอน
เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หลินเมิ้งหยาจะส่งเสียงอ่อน
“พวกเ้าไปดูสิ ตอนนี้เ้าแม่กวนอิมองค์นั้นแหลกละเอียดไปแล้ว”
ทั้งสี่ตกตะลึง ก่อนจะรีบเปิดกล่องออกดูผลปรากฏว่าเ้าแม่กวนอิมที่เคยสวยงามกลับกลายเป็ผุยผงภายในกล่องที่ถูกวางอยู่นิ่งๆ
แววตาของหลินเมิ้งหยาสะท้อนความมุ่งมั่นในการตามหาความจริงเื่ในคราวนี้นับเป็บททดสอบหนึ่งของนาง
หากภายในตำหนักของตนเองมีคนของฮองเฮาแฝงตัวอยู่แล้วละก็คราวนี้คงสามารถลากตัวออกมาได้อย่างแน่นอน
“เหตุใดจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ พี่สาวพระชายานี่เป็ฝีมือใครทำกันขอรับ?”
หลินจงอวี้จ้องมองเศษผงเ่าั้อย่างละเอียดใบหน้าเรียวเล็กชะงักค้าง
แม้เขาจะเข้ามาอยู่ที่จวนแห่งนี้ได้ไม่นานแต่เขามักเห็นพี่สาวของตนเองทำอะไรด้วยความระมัดระวังเสมอแต่ถึงกระนั้นก็ยังถูกทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน
มาวันนี้ต้องเจอเข้ากับปัญหาใหญ่ที่ยากจะแก้ไขตกลงว่าใครเป็คนทำเื่นี้กันแน่?
“ข้าเองก็ไม่รู้ แต่จากนี้อีกครึ่งเดือนฮองเฮาเหนียงเหนียงอาจจะเสด็จมาที่นี่ข้าเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงไม่อาจเอาตัวรอดได้อีกแล้ว”
หลินเมิ้งหยาตอบคำถามอย่างอ่อนแรง
ทั้งสี่คนตกตะลึงจนแทบสิ้นสติ
หลินจงอวี้ครุ่นคิด อยู่ๆ ก็วิ่งไปตรงหน้าโต๊ะของหลินเมิ้งหยาก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาวาดภาพ
“เสี่ยวอวี้ เ้า...”
“พี่สาวอย่าเพิ่งตื่นตระหนก แม้เสี่ยวอวี้จะไร้ความสามารถแต่ข้าจดจำเ้าของสิ่งนี้ได้มิมีทางลืม หากข้าวาดมันออกมาเสร็จแล้วพี่สาวหาช่างมาแกะสลักมันก็พอ”
คิดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวอวี้จะมีความสามารถเช่นนี้หลินเมิ้งหยาอึ้งไปเล็กน้อย
เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!
“นายหญิง แม้หนู่ปี้จะไม่มีความสามารถดั่งเช่นนายน้อยอวี้แต่หนู่ปี้มีความสามารถในการแกะสลักั้แ่เด็กเมื่อวานหนู่ปี้เองก็ได้มองพระพุทธรูปองค์นั้นอย่างละเอียดแล้วหากให้เวลาหนู่ปี้สักสามวัน หนู่ปี้จะทำมันขึ้นมาได้อย่างแน่นอนเ้าค่ะ”
ป๋ายจีเองก็เสนอตัวเข้าช่วยหลินเมิ้งหยาคิดไม่ถึงเลยว่าตำหนักของนางจะมีคนมากความสามารถเช่นนี้
นางพยักหน้าลง ออกคำสั่ง
“ป๋ายจื่อ ป๋ายซ่าว สองสามวันต่อจากนี้พวกเ้าทั้งสองต้องให้ความช่วยเหลือป๋ายจีอย่างสุดความสามารถห้ามมิให้ผู้ใดรบกวนนางและห้ามมิให้ผู้ใดล่วงรู้ว่านางกำลังทำอะไรอยู่ ป๋ายซ่าว ข้ามอบหน้าที่นี้ให้เ้าแล้ว”
ป๋ายซ่าวรีบรับคำด้วยความจงรักภักดี
“นายหญิงได้โปรดวางใจไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะมิได้ย่ำกรายเข้าไปในห้องของป๋ายจีเ้าค่ะ”
นางพยักหน้าเื่นี้จะสำเร็จหรือไม่คงต้องฝากความหวังไว้ที่พวกเขาแล้ว
ขณะเดียวกัน จิ่นเยว่และพระสนมเต๋อเฟยที่อยู่ภายในพระตำหนักหยาเสวียนเองก็ไม่อาจทำอะไรเช่นกัน
“เฮ้อ เ้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงไม่รู้จักระมัดระวังตัวกันนะคิดหรือว่าจะรับมือกับแผนร้ายของฮองเฮาเหนียงเหนียงได้ง่ายๆ?”
สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเผยให้เห็นความโศกเศร้าเล็กน้อย
นางถูกบีบออกจากวัง แต่ฮองเฮากลับไม่คิดจะปล่อยนางไปตอนนี้จึงพุ่งเป้ามาปองร้ายหยาเอ๋อร์แทน
แม้เด็กคนนั้นจะเก่งมากสักเพียงไหน แต่ก็คงมิวายตกหลุมพราง
แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดี?
“พระชายายังเด็กเพคะ ไม่มีทางล่วงรู้ถึงแผนการร้ายเ่าั้พระสนมลองให้คำชี้แนะแก่พระชายาสักครั้งเถิดเพคะหนู่ปี้คิดว่าการลงมือของฮองเฮาในคราวนี้จุดประสงค์คงมิใช่เพียงพระชายาพระองค์เดียวแน่นอน!”
จิ่นเยว่จ้องพระสนมเต๋อเฟยเขม็ง ต้องโทษนางที่อายุมากแล้วความจำจึงไม่ดี
ทรายิซาทำร้ายคนมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วนแต่ถึงกระนั้นก็หาได้ยากยิ่ง
คิดไม่ถึงเลยว่าฮองเฮาจะนำมันมาทำร้ายหลินเมิ้งหยา
ดูท่าเื่ที่เกิดขึ้นในวังวันนั้นจะทำให้ฮองเฮาโกรธมากจริงๆ
“ข้าจะมีคำแนะนำอะไรให้เล่า เฮ้อตอนแรกข้าคิดว่านางจะถูกกำจัดได้ยาก แต่ดูท่าแล้วนางกลับเป็เพียงผู้นำภัยเข้าบ้านเท่านั้น หากพระชายาของอวี้เอ๋อร์ยังคงเป็นางเกรงว่าพระตำหนักแห่งนี้จะไม่สงบสุขอีกต่อไป”
จิ่นเยว่ตกตะลึงตอนแรกพระสนมเต๋อเฟยยังพึงพอใจในตัวพระชายาอยู่เลยมิใช่หรือ
แต่ใครจะรู้เล่าว่าเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันความคิดของพระนางจะเปลี่ยนไปเช่นนี้ อยู่ๆ นางก็เริ่มไม่พึงพระทัยในพระชายาขึ้นมา
ตกลงว่าเกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่?
หรือพระชายาไปทำอะไรไม่ดีให้พระสนมขุ่นเคืองเข้า?
“เ้าจงไปถามไถ่คนในจวนว่า ใครสามารถแกะสลักพระพุทธรูปกวนอิมเลียนแบบของฮองเฮาได้บ้างจากนั้นสั่งให้แกะสลักให้เหมือนที่สุดแล้วส่งมาส่วนนางจะผ่านเื่นี้ไปได้หรือไม่ ก็คงแล้วแต่บุญวาสนาของนาง”
แน่นอนว่าจวนของพวกนางมีคนที่สามารถแกะสลักได้
ทว่าคนเ่าั้กลับมิใช่ช่างมืออาชีพอีกทั้งของสิ่งนั้นยังถูกพระราชทานมาจากฮองเฮา แล้วพวกเขาจะเคยเห็นได้อย่างไร
ดูท่า เหนียงเหนียงคงไม่คิดช่วยเหลือพระชายาแล้ว
จะทำเช่นไรดี?
ทางด้านหลินเมิ้งหยากำลังแอบแกะสลักขึ้นใหม่เงียบๆจิ่นเยว่ครุ่นคิด สุดท้ายจึงแอบไปหาหลงเทียนอวี้
ขณะนี้เขากำลังฝึกฝนวิทยายุทธ์อยู่ในลานประลองสวมใส่ชุดสีดำถมึงทึง ร่างกายกำยำแข็งแรง ทุกสัดส่วนล้วนดูงดงาม
ดาบสีเงินด้ามยาวกวัดแกว่งเหนืออากาศทุกการตวัดฟาดมักมีเสียงดังประหนึ่งเสียงฟ้าร้อง
จิ่นเยว่มองหลงเทียนอวี้ด้วยความภาคภูมิใจนางดูแลเขามาั้แ่เด็กจนโต ตัวนางเองก็อาจถือได้ว่าเป็แม่นมของเขาเช่นกันเพราะเหตุนี้หลงเทียนอวี้จึงปฏิบัติกับนางแตกต่างจากผู้อื่น
“ท่านน้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
เขาเก็บดาบ จิ่นเยว่ถือผ้าเช็ดหน้าเข้ามาแล้วซับเหงื่อบนหน้าผากของหลงเทียนอวี้
ั์ตาแฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนแต่ถึงกระนั้นก็ยังเผยความกังวลออกมาให้เห็น
“หรือหมู่เฟย...”
คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากัน เขาคิดว่าเกิดเื่ขึ้นกับหมู่เฟยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจิ่นเยว่จะส่ายหน้า
************************
1 หนู่ปี้สรรพนามแทนตัวข้าทาส สาวใช้