เมื่อคิดขึ้นได้ ซ่งอวี้จึงรีบจับชีพจรของหลี่เฉิง
ครั้งนี้มีข้อสันนิษฐานสำคัญ นางจึงตรวจพบอย่างรวดเร็ว เป็เพราะในร่างกายของหลี่เฉิงมีพิษอ่อนๆ ดังนั้นเขาจึงมีไข้ต่ำเป็ๆ หายๆ พิษนี้น่าจะเคลือบอยู่บนอาวุธที่ทำร้ายหลี่เฉิง
คนที่วางยาพิษจิตใจอำมหิตยิ่งนัก เหตุเพราะพิษนี้ไม่รุนแรง จึงถูกมองข้ามได้ง่ายๆ แต่เมื่ออยู่ในร่างกายเป็เวลานาน สุดท้ายจะทำให้คนอิดโรยและตายในที่สุด
หลังจากดูแลหลี่เฉิงจนแล้วเสร็จ ซ่งอวี้ก็รีบลงเขาแล้วไปซื้อยาถอนพิษทันที
นางซื้อยาถอนพิษที่ร้านขายยาในตลาดด้วยความราบรื่น จากนั้นก็รวดซื้อไก่หนึ่งตัวเพื่อบำรุงร่างกายให้กับหลี่เฉิง ขณะเดินผ่านร้านเสื้อผ้า เห็นเสื้อผ้าในร้าน ซ่งอวี้พลันหยุดฝีเท้า
เสื้อผ้าของร่างเดิมเต็มไปด้วยรอยปะ ทั้งยังเก่ายิ่งนัก ตอนนี้นางพอมีเงินเล็กน้อย ได้เวลาซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ให้กับตนเองแล้ว
นางเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป เลือกเสื้อผ้าสีสันงดงามมาหนึ่งตัว แล้วเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าตัวใหม่ทันที ทว่าคิดไม่ถึงว่าตอนที่นางเดินออกมาจะบังเอิญเจอกับเฉินต้าฮวาเข้า
ซ่งอวี้มีรูปโฉมงดงามเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว ระยะหลังมานี้ถือว่านางกินดีอยู่ดีขึ้นมาก ดังนั้นจึงเริ่มมีน้ำมีนวล บวกกับสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ทำให้นางสวยสะพรั่งราวกับเปลี่ยนไปเป็คนละคน
เฉินต้าฮวาไม่เจอซ่งอวี้มาหลายวัน วันนี้เห็นนางงดงามขึ้นเช่นนี้ เปลวไฟแห่งความริษยาก่อตัวขึ้นในใจ นางจงใจเดินชนซ่งอวี้
ซ่งอวี้โมโห จึงตวาดออกไปว่า “เ้าทำอะไรเนี่ย!”
“จิ๊ๆๆ ที่แท้ก็น้องสาวตระกูลซ่งนี่เอง ต้องขอโทษด้วย ข้าเห็นหญิงงามจากที่ไกลๆ ไม่ได้มองอย่างถี่ถ้วน คิดว่าสตรีจากหอนางโลมเดินออกมาเสียอีก!”
เฉินต้าฮวากำลังหลอกด่านาง!
ซ่งอวี้เดือดดาลแต่กลับหัวเราะออกมา แล้วตอบอย่างอ้อยอิ่งว่า “ข้าไม่รู้ว่าสตรีหอนางโลมแต่งกายเช่นนี้ พี่ต้าฮวาไม่ต้องมองอย่างถี่ถ้วนก็ดูออกแล้ว ดูท่าพี่ต้าฮวาคงจะคุ้นเคยกับหอนางโลมมากกระมัง? เพราะเหตุใดหรือ พี่ต้าฮวาเคยอยู่ในหอนางโลมหรือ?”
เดิมทีเฉินต้าฮวาอยากจะทำให้ซ่งอวี้อับอาย คิดไม่ถึงว่าจะถูกโต้กลับเสียเอง ดวงหน้านางแดงก่ำด้วยความโมโหทันที
ซ่งอวี้ไม่รอให้เฉินต้าฮวาได้พูดอะไร เจตนามองเฉินต้าฮวาั้แ่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา “แต่ว่าดูจากเรือนร่างของพี่ต้าฮวาแล้ว เกรงว่าหอนางโลมคงไม่รับพี่เข้าไปอยู่กระมัง? หรือว่าพี่หวังกุ้ยชอบเที่ยวหอนางโลมเช่นนั้นหรือ พี่ต้าฮวาจึงต้องไปลากเขากลับมาอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายจึงสนิทกับหญิงในหอนางโลมไปด้วย?”
ตอนที่ซ่งอวี้พูด บรรดาสตรีที่อยู่รอบตัวต่างยกมือขึ้นป้องปากแล้วหัวเราะ
สีหน้าของเฉินต้าฮวาแดงก่ำราวกับตับหมู อยากจะโต้กลับแต่ก็ไม่รู้จะโต้กลับอย่างไร ทำได้เพียงกระทืบเท้าแล้วเดินจากไปด้วยความขุ่นเคือง
ทว่าเดินไปไม่ไกล นางก็ย้อนกลับมา แล้วลอบเดินตามหลังซ่งอวี้
นางครุ่นคิด หลายวันมานี้ซ่งอวี้เงียบหายไป เมื่อพบเจอกันอีกครั้ง ก็ซื้อทั้งเสื้อผ้าใหม่และยา ต้องมีเงื่อนงำบางอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้นางจึงสะกดรอยตามซ่งอวี้ อยากจะรู้ว่านางหาเงินอย่างไร
เหตุเพราะซ่งอวี้เอาชนะเฉินต้าฮวาได้ นางจึงอารมณ์ดียิ่งนัก ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าด้านหลังมีคนสะกดรอยตามมา ในมือถือของที่จับจ่ายในวันนี้เดินมุ่งหน้าขึ้นไปบนหุบเขา
เมื่อไปถึงกระท่อม ซ่งอวี้ก็วางยาไว้บนโต๊ะ แล้วพูดกับหลี่เฉิง “ในร่างกายของท่านมีพิษ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการอาบน้ำสมุนไพร ข้าซื้อยากลับมาแล้ว ประเดี๋ยวจะต้มมาให้ท่านอาบ”
หลี่เฉิงพยักหน้า หลายวันมานี้ เขาเชื่อวิชาการแพทย์ของนางแล้ว เมื่อเห็นนางเปลี่ยนชุดสวมเสื้อผ้าผืนใหม่ แววตาของเขาก็เผยรอยยิ้มกว้าง งดงามยิ่งนัก
ซ่งอวี้ก่อไฟและต้มน้ำ เพียงครู่หนึ่งนางก็เทน้ำลงในอ่างอาบน้ำจนเต็ม โปรยยาสมุนไพรลงไป และเหตุเพราะหลี่เฉิงเดินเหินไม่สะดวก นางจึงอยากพยุงเขาเข้าไปในอ่างอาบน้ำ แต่กลับถูกปฏิเสธ จึงทำได้เพียงรออยู่ด้านนอก
หลี่เฉิงแช่น้ำประมาณชั่วเวลาทานอาหารหนึ่งมื้อ ซ่งอวี้คิดว่าเขาน่าจะแช่เสร็จแล้ว ขณะกำลังจะยื่นหน้าเข้าไปถามเขา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง ‘ตู้ม’ ดังขึ้น
ซ่งอวี้ใยิ่งนัก ไม่อาจคิดถึงเื่ชายหญิงห้ามใกล้กัน นางผลักประตูแล้ววิ่งเข้าไป เมื่อเข้าไปนางเห็นหลี่เฉิงล้มลงบนพื้น ร่างเปลือยเปล่า
นางเป็หมอ เมื่อชาติก่อนนางเห็นบุรุษเปลือยกายมานักต่อนัก ไม่ได้รู้สึกอันใดร รีบเข้าไปพยุงเขาแล้วพาไปนั่งข้างเตียงทันที
สีหน้าของหลี่เฉิงกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขาหยิบเสื้อขึ้นมาแล้วสวมใส่ ส่วนซ่งอวี้ยืนหันหลังอยู่ข้างเตียง
ในเวลานี้เอง เสียง ‘ปั้ง’ ดังขึ้น ประตูถูกเตะ เฉินต้าฮวาพุ่งตัวเข้ามา ร้องะโด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียมว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่านางแพศยาเช่นเ้าไม่มีวันทำเื่ดีๆ ได้!”
นางเพิ่งพูดจบ ด้านหลังก็มีคนกลุ่มใหญ่กรูกันเข้ามา พวกเขาล้วนเป็คนในหมู่บ้าน ชี้หน้าซ่งอวี้และหลี่เฉิงจากนั้นก็เริ่มพิพากษ์วิจารณ์
“จิ๊ๆๆ ถึงว่าหลายวันมานี้ไม่เห็นนาง ที่แท้ก็มาขลุกอยู่กับบุรุษบนหุบเขานี่เอง!”
“แค่ยั่วยวนชายในหมู่บ้านยังไม่พอ ยังจะทำตัวเหลวไหลกับชายอื่น ไร้ยางอายจริงๆ !”
“ผู้ใหญ่บ้าน สตรีเช่นนี้ทำให้หมู่บ้านของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง ควรจับใส่กรงหมูแล้วถ่วงน้ำ ไม่ก็ไล่ออกจากหมู่บ้านเสีย!”
สตรีในหมู่บ้านพยายามป้ายสีซ่งอวี้อย่างสุดความสามารถ กัดฟันแน่นแล้วสาปแช่งนาง แทบอยากจะจับนางใส่กรงหมูแล้วถ่วงน้ำทันทีจะได้คลายความแค้นในใจ
ผู้ใหญ่บ้านมองซ่งอวี้ แล้วมองหลี่เฉิง สีหน้าฉายชัดถึงความลำบากใจ
ซ่งอวี้มองสีหน้าอัปลักษณ์ของพวกคนในหมู่บ้านแล้วก็หัวเราะเยือกเย็น เป็จริงตามคำกล่าวที่ว่าภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน [1] ดีเสียอีกที่ขับไล่นางออกจากหมู่บ้าน นางไม่อยากอยู่หมู่บ้านนี้พอดี!
เวลานี้เอง หลี่เฉิงก็บอกกับผู้ใหญ่บ้าน “ผู้ใหญ่บ้าน พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว”
เชิงอรรถ
[1] ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน หมายถึง เปรียบเปรยว่าสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีส่งผลต่อนิสัยใจคอของผู้ที่อยู่อาศัย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้